เหลียนเซ่อโกรธจัด
ใบหน้าเขาราวก้อนเมฆมืดครึ้มดำทะมึนก่อนพายุจะมา
โดยไม่คอยให้น้องชายเธอระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา เหลียนฟางโจวแย้มยิ้มพลางกล่าวสบายๆว่า “ป้า...ไม่ใช่ว่าใบสัญญาแต่งงานอยู่ที่บ้านท่านหรอกหรือ? ท่านมาหาที่นี่ได้อย่างไร เห็นท่านกังวลกับการค้นหาเช่นนี้ เป็นเพราะท่านต้องการแต่งงานใหม่ใช่หรือไม่”
นางเฉียวและเหลียนเซ่อตัวแข็งค้าง เป็นนานกว่าเหลียนเซ่อจะสะกดตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมา ทว่าเขาพยายามกัดริมฝีปากอย่างยากเย็น ก้มหน้าลงพลางแสร้งทำเป็นไอ
นางเฉียวอับอายมากโกรธจนใบหน้าแทบลุกเป็นไฟ นางถ่มน้ำลายลงพื้นเสียงดัง
(ผู้แปล: กริยาถ่มน้ำลายนี้มักจะทำเมื่อมีใครกล่าวสิ่งไม่เป็นมงคลขึ้นมา คล้ายพยายามหลีกเลี่ยงโชคร้าย
บางท่านอาจเคยเห็นในละครจีนอาจมีฉากเพื่อนชายที่ดัดจริตพูดออกมา เช่น “เธอจะไม่ได้แต่งงานหรอก” หรือ “เธอจะป่วยได้” แล้วก็อาจมีเพื่อนคนอื่นในวงก็จะถุยน้ำลาย ราวกับว่าจะไล่ความซวยออกไป/คือปฏิเสธความคิดดังกล่าว)
พลันนางกล่าวพร้อมยิ้มเย็น
”ไม่ต้องสงสัยเลยว่าช่วงไม่กี่วันนี้มีเสียงลือว่าเจ้าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เห็นจะจริงอย่างที่ว่าแน่แล้ว
วาจาที่เจ้าบังอาจพ่นออกจากปากช่างเหลวไหลอะไรเช่นนี้!
นั่นคือสิ่งที่เจ้าพูดกับญาติผู้ใหญ่เช่นนี้รึ?! เจ้าไม่กลัวว่าลิ้นเจ้าจะเจ็บรึ?”
“ญาติผู้ใหญ่รึ?” เหลียนฟางโจวส่งยิ้มเย็นชาพลางกล่าว
“ข้าเกือบนึกว่าท่านมาที่นี่เพื่อปล้นเราซะอีก! เช่นนี้...ท่านยังเป็นญาติผู้ใหญ่จริงๆอยู่รึ! ข้าไม่กลัวว่าลิ้นตัวเองเจ็บหรอก ทว่า...ข้ากังวลว่าท่านจะเอวเคล็ดซะมากกว่า!
“เจ้า!” นางเฉียวไม่เคยประสบกับการประณามเช่นนี้มาก่อน ทำเอานางพูดไม่ออกไปชั่วครู่ พลันพูดเสียงต่ำ “หยุดเสแสร้งไร้เดียงสาต่อหน้าข้าได้แล้ว ใบสัญญาแต่งงานกับสกุลหยางของเจ้าอยู่ที่ไหน? นำมาให้ข้าไวๆเลย!”
เหลียนฟางโจวอดบังเกิดโทสะไม่ได้ “ทำไมข้าต้องฟังท่านด้วย!?”
“ทำไมรึ?” นางเฉียวยกมือเท้าสะเอว ก้าวเข้ามาใกล้พลางพูดอย่างเดือดดาลว่า “เพราะข้าเป็นป้าเจ้าอย่างไรเล่า!
ลุงเจ้าและข้าเป็นญาติผู้ใหญ่ของเจ้านะ! เห็นได้ชัดว่า...เจ้าควรมอบสิ่งสำคัญนี้ให้เราดูแลรักษาให้!”
“คงมิจำเป็น” เหลียนฟางโจวยิ้มอย่างเย็นชาพลางกล่าว
“พ่อแม่ข้าจากไปแล้ว
เช่นนั้น...ครานี้ในครอบครัวนี้
ข้าคือญาติผู้ใหญ่เท่านั้น!
เรื่องอันใดของครอบครัวเราไม่จำเป็นให้ท่านเข้ามาจัดการ!”
“สามหาวนัก! เจ้ากำลังกล่าวอะไรออกมา?! นางเฉียวโทสะพุ่งพล่านจนระเบิดออกมา
“ป้า
ท่านโปรดกลับไปเสียเถิด! พี่ใหญ่ข้ากล่าวถูกต้องแล้ว
ครานี้พี่ใหญ่เป็นหัวหน้าครอบครัวเรา
ธุระของเราคงไม่มีความจำเป็นให้ป้ามาเป็นห่วงเป็นใย!” เหลียนเซ่อกล่าวอย่างไม่แยแสไปด้วย
นางเฉียวหาของไม่พบ พยายามขโมยแล้วก็ไม่สำเร็จ จิตใจของนางมีแต่เพลิงโทสะเผาผลาญ เมื่อนางคิดว่าจะกล่าวสิ่งใดต่อไปดี พลันได้ยินเสียงหญิงชราคนหนึ่งตะโกนจากข้างนอก “มีใครอยู่ไหม?
เหลียนฟางโจวอยู่หรือเปล่า? เหลียนฟางโจวออกมาเดี๋ยวนี้! เรา...สกุลหยางมาเพื่อขอถอนหมั้น!”
เหลียนฟางโจวและเหลียนเซ่อสบตากันโดยไม่รู้ตัว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่นางเฉียวมาหาใบสัญญาแต่งงาน! แท้จริงแล้วมีเป้าหมายที่เงิน10เหลียงเงิน!
เหลียนฟางโจวคำรามเบาๆ
พลันเปล่งเสียงดังขึ้นว่า “เชิญเข้ามา” และออกจากห้องไป
เหลียนเซ่อสบตานางเฉียวครั้งหนึ่ง
พลางตามพี่สาวออกไปด้วย
เหลียนฟางโจวเห็นบุคคลร่างสูงบางเป็นหญิงชราแซ่หยางที่เจ้าระเบียบและทรงภูมิ เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า “ท่านนำเงินมาด้วยหรือไม่?”
หญิงชราแซ่หยางจ้องมองนางอย่างดูถูก
นางล้วงเงินออกมาจากเสื้อพลางเขย่าให้เห็น
“10 เหลียง ครบถ้วน!
อย่างไรก็ตาม...ข้าต้องการเห็นใบสัญญาแต่งงานก่อน”
“ย่อมได้!” เหลียนฟางโจวยิ้มอย่างเปิดเผยพลางกล่าวว่า
“ยื่นมือกำเงินมาข้างหนึ่งขณะเดียวกันก็ยื่นมืออีกข้างหนึ่งมารับของ นับว่ายุติธรรมกันทั้งสองฝ่าย!”
หญิงชราแค่นเสียงเบาๆอย่างเหยียดหยาม และไม่รับคำ
เหลียนฟางโจวหันหน้ามามองนางเฉียวที่เดินออกมาจากห้อง “ป้า ครานี้ที่นี่ไม่มีเรื่องให้เจ้าต้องมาคอยดูแลแล้ว เชิญท่านกลับไปเสียเถิด!”
“ช้าก่อน!” หญิงชราแซ่หยางกล่าวทันควัน “ป้าเจ้าต้องอยู่เป็นพยานที่นี่ เช่นนั้น...คนจะได้ไม่เอาไปพูดกันว่าเรา...สกุลหยางรังแกเด็กกำพร้า!” ใครได้ยินวาจาเช่นนี้ก็รู้สึกไม่ดีเอาซะเลย
หน้าเหลียนเซ่อพลันเปลี่ยนสีพลางเหลือบมองหญิงชราอย่างเย็นชา
ในเวลาเดียวกัน เหลียนฟางโจวอดเดือดดาลไม่ได้
ปากหญิงชราคนนี้ช่างเน่าเหม็นพอๆกับหญิงสกุลหัวเลย พวกเขาคงอยากเกี่ยวดองกันอย่างไม่ต้องสงสัย
.”พวกเจ้าได้ยินหรือไม่เล่า” ครานี้...ข้าคงยังไปไหนไม่ได้!” นางเฉียวกล่าวอย่างผู้ชนะ ว่าแล้ว
นางก็ลากเก้าอี้มานั่งท่าทางช่างยโสโอหังนัก นางจ้องมองสลับระหว่างเหลียนฟางโจวกับเงินในมือของหญิงชราแซ่หยางอย่างไม่วางตา นางอยากคว้าเงินไปเดี๋ยวนี้ยิ่งนัก
เหลียนฟางโจวชั่งน้ำหนักในใจ เธอไม่กล้ารับประกันว่าหลังจากเธอนำใบสัญญาแต่งงานออกมา นางเฉียวจะไม่ตระครุบเงินไป
อีกประการหนึ่ง
หญิงชราแซ่หยางตั้งป้อมรังเกียจเหลียนฟางโจวคนก่อนอย่างชัดเจน เพราะเรื่องที่ไม่ยินยอมถอนหมั้น ไม่แน่ว่านางอาจมีเจตนาร้ายซ่อนอยู่ หากเธอทำพลาดครานี้ เงินจะตกไปในกำมือของนางเฉียวเป็นแน่ ภายหลังเมื่อเธอต้องการเรียกร้อง ก็คงจะไปร้องแรกแหกกระเชอเอากับใครไม่ได้
“เป็นพยานรึ? โอ ใช่เลย หากมีพยาน
เช่นนี้แล้ว...คงไม่มีใครพูดว่าเราพี่น้องเล่นตุกติก!”
เหลียนฟางโจวเหลือบมองนางเฉียวครั้งหนึ่ง ผงกหัวแล้วเดินออกไปทันที
นางเฉียวพลันตะลึงนิ่งค้าง ทว่า...นางก็ไม่กล่าวแย้งสิ่งใดออกมา
หญิงชราแซ่หยางจ้องอย่างเย็นชาอดยิ้มเยาะในใจไม่ได้ แน่แล้ว
นางไม่แค่ยากจน
ทั้งยังเป็นเด็กสาวเจ้าเล่ห์อีกด้วย! ในเวลานั้น
หญิงชราตาบอดจริงๆที่ไปเจ้ากี้เจ้าการเรื่องการแต่งงานนี้
ไม่นานนัก ป้าจางก็เข้ามา เมื่อมองสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว
เธอลอบถอนหายใจ
นางเฉียวพุ่งสายตามาที่เธออย่างไม่เป็นมิตร ทว่า..ป้าจางแสร้งทำเป็นไม่เห็น
เหลียนฟางโจวแย้มยิ้มและเข้าไปเอาใบสัญญาแต่งงานในห้องนอน
นางเฉียวพลันยืนขึ้นเพื่อตามเข้าไป อย่างไรก็ดี
เหลียนเซ่อมายืนขวางนางทันควัน “ป้า เนื่องจากท่านประสงค์จะเป็นพยาน ควรคอยอยู่ข้างนอกจะดีกว่า”
เหลียนฟางโจวนำใบสัญญาแต่งงานออกมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเช่นนั้น ตาของนางเฉียวสว่างวาบ นางพุ่งตัวไปยังเหลียนฟางโจวอย่างมาดร้าย คอยจ้องคว้าใบสัญญาแต่งงานในมือนาง ทว่า..เหลียนฟางโจวเตรียมตัวอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงเบี่ยงตัวหลบหลีกนางทัน นางเฉียวเกือบจะล้มคะมำลงบนพื้น
“เอามาให้ข้านะ ข้าจะดูว่าเป็นของจริงหรือไม่!” นางเฉียวในใจโกรธมาก นางทำได้เพียงยื่นมืออกมาด้วยใบหน้าถมึงทึง
เหลียนฟางโจวทำหน้าเยาะเย้ยพลางกล่าวเย็นชาว่า “มันธุระกงการอะไรของเจ้าหรือ? คุณนายหยางเป็นคนยกเลิกการหมั้นหมายกับบ้านท่านหรือไงเล่า”
ป้าเฉียวเห็นเหลียนฟางโจวเดินตรงไปยังหญิงชราแซ่หยาง ทันทีที่ทั้งสองแลกเงินกับใบสัญญาแต่งงาน นางก็ไม่มีความจำเป็นอะไรอีกต่อไป ช่างเป็น เงิน10เหลียงที่ได้มาง่ายดายและเธอก็จะไม่ได้มีส่วนในเงินด้วยเลย
นางเฉียวอดอารมณ์เสียไม่ได้ นางตะโกนเสียงเข้ม “เหลียนฟางโจว! นางแพศยาเดนตาย! เจ้าต้องการสร้างความวุ่นวายหรืออย่างไร? เจ้าเป็นแค่เด็กสาว เจ้ามีความละอายบ้างหรือไม่” การยกเลิกการหมั้นหมายแท้จริงแล้ว เจ้าอาจไม่ต้องการรักษาหน้า ทว่า..สกุลเหลียนล่ะ เลิกทำตัวงี่เง่าซะและส่งใบสัญญาแต่งงานมาให้ข้าไวๆ! เรื่องนี้สมควรให้ญาติผู้ใหญ่เช่นข้าเป็นคนจัดการ!”
เหลียนฟางโจวจ้องมองนางอย่างเย็นชา
ใบหน้ามืดครึ้มลงหลายส่วนพลางกล่าวเยียบเย็นว่า “อย่ามาแสดงตัวเป็นญาติผู้ใหญ่ต่อหน้าข้า! ท้ายที่สุด เจ้าก็แค่อยากได้เงิน10เหลียงใช่หรือไม่? ฟังข้าพูดนะ
เจ้าควรเลิกหวังลมๆแล้งๆได้แล้ว
นี่คือการแต่งงานของตัวข้าเอง
ใยข้าจะไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองเล่า! หญิงชราแซ่หยาง ท่านอยากจะยกเลิกการหมั้นหมายจริงๆหรือไม่ หากไม่แล้วก็รีบออกไปเดี๋ยวนี้
ไปเตรียมเกี้ยว8คนหามแล้วมารับป้าข้าที่นี่เพื่อแต่งเข้าบ้านเจ้า”
“เจ้า..เจ้ามันไร้ยางอายยิ่งนัก! นี่คือสิ่งที่เด็กสาวควรกล่าวออกมารึ?” นางเฉียวโกรธจนตัวสั่น
ป้าจางเห็นสถานการณ์เช่นนั้น จึงพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างรวดเร็ว “นางเฉียว
เจ้าไม่จำเป็นต้องวิตกไป! เรามาที่นี่เพื่อเป็นพยาน
ทั้งหมดที่เราจำเป็นต้องทำคือมองดูอย่างเงียบๆ เรื่องนี้
ยิ่งจบแต่เนิ่นๆ มันก็ยิ่งดี
ใช่หรือไม่?”
“ท่านเห็นไหม
ป้าจาง ในหมู่บ้านี้ มีเด็กสาวไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร!” นางเฉียวต่อว่าอย่างฉุนจัด “ข้ากำลังทำเพื่อนาง! นางกลับไม่รู้จักละอายใจและยังถอนหมั้นด้วยตัวนางเอง นางยังจะมีเกียรติเหลืออยู่อีกหรือไม่? ในภายภาคหน้า จะมีใครกล้าแต่งกับนาง? ฟังข้านะ ปากนางไม่เคยกล่าวถ้อยคำดีๆออกมาแม้สักคำเลย”
“ท่านมิจำเป็นต้องมาห่วงใยข้าหรอก” เหลียนฟางโจวเหยียดยิ้มพลางกล่าวว่า
“หากในชีวิตนี้
ข้าไม่ได้แต่งงาน
แม้แต่ป้าที่อยู่ตรงนี้
ข้าก็จะไม่ไปพึ่งพิงครอบครัวท่านหรอก
อย่าได้บังอาจมาควบคุมข้า! หญิงชราแซ่หยาง
ตกลงท่านจะยกเลิกสัญญาหมั้นหรือไม่?”
หญิงชราแซ่หยางความจริงแล้วต้องเป็นคนโกรธเหลียงฟางโจวและควรจะให้เงินแก่นางเฉียวมากกว่านาง
ทว่า...เมื่อดูสถานการณ์ที่เป็นไปตรงหน้าแล้ว นางก็ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ นางจะคิดมากไปทำไมเล่า? นางแค่รีบจบเรื่องซะแต่เนิ่นๆเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องยุ่งยาก ดังนี้แล้ว
นางรีบพูดซ้ำๆว่า “ยกเลิก แน่นอน ยกเลิก! เอ้า..นี่เงิน10เหลียง มาเอาซะและก็เอาสัญญาแต่งงานมานี่!”
เมื่อมีป้าจางเป็นพยาน ทั้งสองฝ่ายก็รู้สึกโล่งใจขึ้น พลันที่ทั้งสองแลกเปลี่ยนของกัน
ครั้นแล้วก็ตรวจสอบสิ่งที่ได้และรู้สึกพึงพอใจทั้งสองฝ่าย นางเฉียวได้เพียงแต่มองอย่างหมดแรงจากอีกด้าน
“เนื่องจากไม่มีสิ่งใดอื่นอีกแล้ว เชิญท่านกลับไปได้แล้ว ข้าขอไม่ส่งละนะ “ เหลียงฟางโจวพออกพอใจและเก็บเงินเข้าพกอย่างระมัดระวัง
“นั่นคือสิ่งที่เจ้าอยากพูดหรือ!” หญิงชราแซ่หยางถลึงตาใส่เหลียนฟางโจวพลางกล่าว “ในภายภาคหน้า
อยู่ให้ไกลจากลูกหวายชานของข้า! อย่าได้บังอาจยั่วยวนเขาอีกต่อไป!”
เหลียนฟางโจวยิ้มพลางกล่าว
“ข้าสนใจเพียงเงินเท่านั้น ลูกชายท่านนั้นข้าไม่สนใจเลย! ท่านควรไปจัดการคนของท่านดีกว่า ข้าควรเป็นคนพูดว่า ‘อย่าให้ลูกชายท่านมารบกวนข้า’แทนซะมากกว่า!”
“เจ้า!” หญิงชราแซ่หยางได้ยินวาจาของนางพูดถึงลูกชายที่นางภูมิใจเช่นนี้ นางอดไม่ได้ที่จะเกิดโทสะ นางถลึงตาใส่ฟางโจว เก็บใบสัญญาแต่งงานกับตัวและหมุนตัวออกไป
โอ้ยยย จัดการให้หมดฟางโจว
ตอบลบฟางโจวสู้ๆ มีแต่คนทำให้ปวดตับ
ตอบลบดีๆๆๆถอนหมั้นไปเลย
ตอบลบเคยอ่านเรื่องนี้จากที่อื่น ที่สำคัญไม่ได้ชื่อนี้ด้วย เหมือนกันทุกตัวอักษรเลย แต่จำไม่ได้จริงๆว่าไปอ่านที่ไหนมา
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบสนุกดีค่ะ
ตอบลบ