วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2560

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่่ 30 ไม่ยอมให้ป้าสามเข้าบ้าน

         “ป้าสามรึ?”  เหลียนฟางโจวตกใจ  ในหัวใจเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
          เธอไม่ค่อยสนใจเรื่องราวหนหลังของครอบครัวที่นางมาอยู่นี้นัก  เลยไม่รู้ว่ายังมีป้าสามเป็นญาติอีกคนหนึ่งด้วย  และไม่รู้ว่าป้าสามคนนี้ที่ออกเรือนไปแล้ว  มีนิสัยใจคอเป็นเช่นใด ลุงลี่จะรับนางกลับบ้านเดิมหรือไม่?

          ป้าจางช่างเป็นคนดีจริงๆ  นางรีบถามหลี่จวน ผู้เป็นบุตรสาว “เสี่ยวม่านกลับมารึ? ยามนี้นางสามารถกลับมาได้อย่างไร?”
          ป้าจางมองเห็นลางร้ายมาเยือนไม่ไกลแล้ว
          “ลูกไม่รู้”หลี่จวนครุ่นคิดพลางเอ่ยขึ้น “ลูกคิดว่าคราวนี้คงเกิดปัญหาร้ายแรงแน่แล้วทั้งลุงลี่และป้าเฉียว  คงไม่ยอมให้ป้าผู้อ่อนแอผู้นี้เข้าบ้านเป็นแน่  ป้าผู้บอบบางอ่อนแอเลยนั่งขวางทางเข้าบ้าน  ร้องห่มร้องให้ พร้อมทั้งก่นด่าไม่หยุดชาวบ้านแถวนั้นพากันมามุงดูวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ที่นั่นด้วยป้าเฉียวพยายามขับไล่ป้าสามของฟางโจวไป  ทั้งยังกล่าวอีกด้วยว่าจะไม่ให้ที่พักพิงกับนางอย่างเด็ดขาด!”
          เหลียนฟางโจวได้ยิน ใจของเธออดรู้สึกมืดครึ้มไม่ได้  เห็นได้ชัดว่า ป้าสามผู้นี้ไม่ใช่คนบอบบางอ่อนแอเสียแล้ว  คงจะเป็นคนประเภทเดียวกับป้าเฉียว  ที่ไม่เคยกล่าวถ้อยคำดีๆเลยหากป้าสามยืนกรานไม่ยอม  แล้วจะทำอย่างไรดี!
          เช่นนั้นแล้วเหลียนฟางโจวไม่อาจอยู่เฉยได้  เธอต้องรีบกลับบ้านไปดูสักหน่อยเธอจึงรีบกล่าวคำอำลา และกลับบ้านไปอย่างรีบเร่ง
          ป้าจางถามหลี่จวนอีกหลายคำถามด้วย  ทว่าหลี่จวนเองไม่รู้รายละเอียดมากนัก 
          ป้าจางครั้นแล้วถอนหายใจออกมา “เสี่ยวม่านเป็นคนหยาบคาย  กับคู่สามีภรรยาเหลียนก็คงเหมือนกันเฮ้อ หากป้าสามเกิดจับพลัดจับผลูไปอยู่บ้านเหลียนฟางโจวแทน  โอ จะเป็นโชคร้ายของเด็กๆพวกนั้นเป็นแน่!”
        ฮูหยินจ้าวที่ยืนอยู่ไม่ไกลอดบิดมุมปากขึ้นไม่ได้ เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้ามองว่าท่านแม่ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่กว่านี้เหลียนฟางโจวคนปัจจุบันไม่ใช่คนที่จะโดนใครรังแกง่ายๆท่านลองคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า  ตอนที่นางมีเรื่องกับฮูหยินสกุลหัวดูสิ  ตราบใดที่เหลียนฟางโจวไม่เห็นด้วย  ข้ากล้าพนันได้เลยว่า  ป้าสามผู้บอบบางอ่อนแอผู้นั้นซึ่งออกเรือนไปแล้ว  คงไม่สามารถฝ่าเข้าประตูบ้านของฟางโจวได้ ถึงอย่างไร ข้าก็คิดว่าเหลียนฟางโจวคนปัจจุบันดูเก่งกว่าเมื่อก่อนอีก ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
          “เจ้าดูท่า..เข้าใจดีนักนะ!” ป้าจางปรายตามองลูกสะใภ้  ในใจพูดว่าเจ้าคิดว่าเหลียนฟางโจวคนปัจจุบันเก่ง  ไม่ใช่เพราะว่านางเพิ่งเอาของกำนัลมาให้หรอกรึ?  ช่างคิดได้สั้นนัก!
          ที่ไหนเจ้าจะเข้าใจดีเล่า? เหลียนเสี่ยวม่านไม่ใช่ฮูหยินสกุลหัว  หากแต่เป็นญาติร่วมสายโลหิตกับสี่พี่น้องนี้  ป้าสามผู้นี้จึงถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ถึงแม้ฟางโจวอาจไม่ยอม  แต่ฝ่ายนั้นคือญาติผู้ใหญ่นะ!
          ตะเพิดญาติผู้ใหญ่ให้ออกไป  ย่อมหนีไม่พ้นคำวิพากษ์วิจารณ์แน่  คนในหมู่บ้านนี้บางพวกก็เอาแน่เอานอนไม่ได้  หากนางหลุดถ้อยคำหยาบคายออกไป! จะกลายเป็นโอกาสดีให้คนโจมตี โดยเฉพาะคนสกุลหัว มิใช่รึ?
          หากเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นมาจริงๆ  ชื่อเสียงของเหลียนฟางโจวย่อมเสียหาย  ไม่ใช่เพียงนางเท่านั้น  ยังลามไปถึงชื่อเสียงของน้องๆที่เหลืออีกด้วย  ในภายภาคหน้าอาจกระทบกับน้องชายที่จะแต่งงานภรรยาเข้าบ้านก็เป็นได้!
          ทว่าเสี่ยวม่านนั้นก็ไม่ใช่คนดีนัก  หากพวกเด็กสกุลเหลียนให้นางเข้ามาในบ้าน  จะรอดพ้นจากการถูกกดขี่รึ?  อีกทั้งการอาจทำให้หาเงินได้ยากลำบากขึ้น  และยังถูกนางยักยอกเอาไปใช้อีกด้วย
          โอ เรื่องนี้ช่าง...
          “ไม่ดีแน่ ข้าต้องไปดูเองแล้ว!”  ในใจป้าจางเป็นห่วงพวกสี่พี่น้องสกุลเหลียนมาก  จนต้องวางมือจากงานที่ทำอยู่แล้ว แล้วรีบผลุนผลันออกไป
          แม้ว่าเรื่องนี้จะวิกฤติ  ทว่านางมองต่อในขั้นถัดไป  หากเลือกจังหวะที่เหมาะสม  อาจสามารถช่วยพูดปกป้องพวกเด็กๆ  ให้รอดพ้นจากป้าสามผู้นี้ได้
          ป้าจางรีบเร่งตรงไปบ้านเหลียนฟางโจว  แต่กลับพบเพียงเหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อ  โดยที่เด็กชายกำลังดูไฟฟืนในเตาอยู่ในครัว เพี่อเตรียมทำอาหาร
          นางนิ่งงัน  รีบถามถึงเหลียนฟางโจวตรงห้องโถง  “เด็กน้อย  พี่สาวและพี่ชายพวกเจ้าเล่า?”
          เหลียนฟางฉิงร้องเรียกเสียงดัง “ป้าจาง” และเมื่อทราบว่าป้าจางถามหาพี่ๆอย่างรีบเร่ง  จึงแจ้งว่า “พี่ใหญ่ และพี่รองไปบ้านป้าใหญ่ แล้วให้ข้าอยู่เฝ้าบ้านกับพี่สามค่ะ!”
          “ว่าไงนะ!” ป้าจางตกใจ หน้าเปลี่ยนสี
          เหลียนฟางฉิง ทำหน้าตาแปลกใจพลางเอ่ยขึ้น “พวกเข้าไปนานแล้วค่ะ
          “โอ!” ป้าจางกระทืบเท้า ไม่สนใจถามเด็กน้อยอีก  รีบผลุนผันออกไปอย่างรวดเร็ว
          นางอดเป็นห่วงในใจเงียบๆไม่ได้   เด็กสาวคนนี้คิดอันใดอยู่ยามนี้นางต้องควรหลีกหนีและหลบเลี่ยงสิ  แล้วไฉนนางถึงได้ทำสิ่งตรงกันข้ามเล่าจริงๆเลย!
          ป้าจางไม่รู้ว่าเหลียนฟางโจวนั้นมีแผนการจริงๆอันใดอยู่ในใจ
          เหลียนฟางโจวรีบกลับออกมาจากบ้านป้าจาง  ไม่สนใจสิ่งอื่นใด  นอกจากถามเหลียนเซ่อเกี่ยวกับป้าสาม
          เหลียนเซ่อประหลาดใจ ครั้นแล้วจึงเล่าให้นางฟังอย่างระมัดระวัง  ทั้งยังรู้สึกแปลกๆที่พี่สาวไม่น่าจะลืมเหตุการณ์หนหลัง ถึงต้องมาถามเอากับเขา
          เหลียนฟางโจวยิ่งฟัง คิ้วก็ขมวดขึ้นเรื่อยๆ  ไม่คาดคิดว่าป้าสามคนนี้เป็นคนที่จัดการยากคนหนึ่ง
          นางมีนิสัยเห็นแก่ตัว ใจแคบ และปากร้าย....
          โดยเฉพาะเมื่อได้ยินเหลียนเซ่อพูดว่าสามีนางได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว  นางกับแม่สามีทั้งคู่ต่างไม่ลงรอยกัน  เหลียนฟางโจวให้ขมวดคิ้วมุ่น....
          กล่าวได้ว่า ป้าเฉียวใจแข็งจริงๆ ไม่ยอมให้ป้าสามผ่านเข้าประตูบ้านได้  ทั้งๆที่นางมาหาที่บ้านมาเป็นสิบๆ ครั้งแล้ว
          สำหรับตัวเธอเองนั้น  ป้าสามถือเป็นญาติผู้ใหญ่!
          หากทอดทิ้งนาง  นั่นคืออกตัญญูในยุคนี้ ไม่มีใครกล้าทำตัว “อกตัญญู” แม้ว่าเหลียนฟางโจวเป็นผู้ไม่เกรงกลัวสิ่งใด  เธอก็ยังไม่กล้าทำ
          หากทำตัวอกตัญญูสักครั้ง  นั่นก็จบเห่แล้ว!
          ไม่เพียงแต่เธอ  น้องๆอีกสามคนจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย หากฝ่าฝืน  แสดงด้านร้ายออกมา  บางทีอาจกระทบกับการส่งเหลียนเช่อไปเรียนด้วย
          ทว่า ยามนี้นางยังยืนรีรออยู่  เพื่อตรึกตรองในใจว่าจะคุ้มไหมกับการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ?  อย่างน้อยที่สุดเธอก็น่าจะได้คำยกย่องสรรเสริญไม่น้อย  ทั้งยังซื้อใจป้าสามได้อีก
          ด้วยแนวทางนี้   เธอจะสามารถควบคุมป้าสามได้ไหมไม่เช่นนั้น ก็ต้องปล่อยให้นางตัดสินใจตามชอบ
          สุดท้ายเหลียนฟางโจวสรุปได้ว่า  เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ป้าสามมาอยู่ในบ้านของเธอและน้องๆ แล้วมาเป็นใหญ่ในบ้าน
          ผู้นำของครอบครัวนี้คือเธอ  มีเพียงเธอเท่านั้นที่จะสามารถปกป้องดูแลน้องๆได้
          หลังจากใคร่ครวญจนถ้วนถี่แล้ว  เธอจึงรีบลากเหลียนเซ่อออกไปด้วยกันโดยไม่ลังเล  และตรงแน่วไปบ้านลุงลี่ทันที
          ป้าจางมาบ้านเหลียนฟางโจว พร้อมกับคว้าน้ำเหลว  นางหันไปมองรอบๆสักครู่ จากนั้นรีบรุดไปยังบ้านเหลียนลี่โดยพลัน  นางเกรงว่าสองพี่น้องจะเป็นฝ่ายเพรี่ยงพล้ำ
          เหลียนฟางโจวและเหลียนเซ่อมาถึงใน คราที่คู่ฮูหยินเฉียวและเหลียนเสี่ยวม่าน กำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรง
          เห็นภาพฮูหยินเฉียวที่สองมือถือคราดระดับเอวเพื่อกั้นทางเข้ารั้วบ้าน  เหลียนลี่ยืนพยุงหลังภรรยาอย่างแข็งขัน  ส่วนเหลียนเสี่ยวม่านล้มลงกับพื้น  ร้องให้โฮออกมา  ล้อมรอบไปด้วยเพื่อนบ้านที่มายืนมุงดูเหตุการณ์ประมาณ 10-12 คน
          เหลียนฟางโจวได้ยินฮูหยินเฉียวพูดเสียงลั่น “ผู้หญิงที่ออกเรือนไปก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป  ถึงสามีเจ้าตายแล้ว  เจ้าก็ควรดูแลตัวเอง  ไปรับใช้พ่อแม่สามีให้ดีซะ  นี่คือสิ่งที่เจ้าควรกระทำเรื่องอันใดกัน ถึงได้วิ่งกลับมาบ้านเกิดเช่นนี้หากเราให้ที่พักเจ้า นั่นจะเป็นการทำร้ายเจ้านะ? และอีกอย่างลูกข้ายังคงเรียนหนังสืออยู่ในเมือง เขาต้องสอบชิงทุนและภายหน้าก็ต้องสอบเข้ารับราชการอีก!  เจ้าไม่เอาใจใส่เรื่องหน้าตาชื่อเสียง  และการรักษาธรรมเนียมครอบครัวเราหรือไร ?  พวกเราควรทำสิ่งที่ถูกต้องใช่หรือไม่? อะแฮ่ม! วันนี้ข้าขอบอกว่าหญิงแก่คนนี้จะไม่ยอมให้เจ้าผ่านประตูบ้านเข้ามาเด็ดขาด  เจ้าเลิกคิดหวังไปได้เลย!”
          เหลียนเสี่ยวม่านไม่ได้ทำอันใด  นอกจากเอามือปัดป่ายพื้นดินร้องให้ถึงบิดามารดาที่ตายไปแล้ว  ร้องว่าตัวเองประสบเคราะห์กรรม  ร้องอีกด้วยว่าพี่ชายแท้ๆก็ไม่ให้เวลานางได้เจรจาด้วย  ยอมให้ภรรยาตัวเองบีบบังคับ “พี่ชาย ท่านพูดอะไรบ้างสิข้าเป็นน้องสาวร่วมสายเลือดกับท่านนะท่านใจร้ายกับข้าได้เยี่ยงไรหลังจากสามีข้าเสียไปแล้ว  แม่สามีมองว่าข้าขัดหูขัดตานาง  พี่สะใภ้ และพี่ชายสามีก็กลั่นแกล้งข้าข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่ยอมออกไป ข้าแค่ขอกลับมาอยู่ด้วยชั่วคราวสักหลายวันหน่อยเท่านั้น   ก็เพื่อขอให้ท่านช่วยข้าไปเจรจากับทางนั้นเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้  ท่านช่างแย่ยิ่งนัก! แล้งน้ำใจกับน้องสาวร่วมสายเลือด  เป็นคนที่ไม่ยอมยื่นมือจัดการอันใดเลย  แถมยังรู้สึกเห็นด้วยกับธรรมเนียมตระกูลบ้าบอนั่นอีก  นั่นไม่ใช่ธรรมเนียมตระกูลของสกุลเรานะนี่คือวิธีการของคนอ่อนแอที่มีแต่ความไม่จริงใจ!”
          ชาวบ้านที่ยืนมุงดูรอบๆต่าง ซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์กัน   พูดกันว่าเหลียนลี่ทำไม่ถูก  แต่ก็มีบางส่วนพูดว่าเหลียนเสี่ยวม่านก็ทำไม่ถูกด้วยเช่นกัน
          เหลียนฟางโจวและเหลียนเซ่อพยายามตั้งสติ  หยุดเท้ายืนฟังอยู่วงนอก
          จากคำพูดไม่กี่ประโยค  เหลียนฟางโจวจึงได้ข้อมูลจริงๆหลายอย่าง  แต่เดิมตอนที่สามีป้าสามยังมีชีวิตอยู่  นางเป็นคนเย่อหยิ่งมาก  ทั้งดูถูกดูแคลนเหลียนลี่และฮูหยินเฉียว  ครานี้ถึงคราวอาภัพอับโชค  จึงไม่มีใครใยดีด้วย
          เหลียนฟางโจวอดรู้สึกหนักใจไม่ได้  จะเอาอย่างไรดี  จะช่วยหรือไม่ช่วย!
          หรือเลียนแบบลุงลี่  คือแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน  ไม่รับรู้
          ฮูหยินเฉียวได้ฟังวาจาที่พรั่งพรูไม่หยุดของป้าสาม  ไม่อาจทนได้หันมาใช้เรื่องฤกษ์ยาม  โหราศาสตร์เข้าช่วย โดยอ้างว่ายังไม่ใช่เวลาเหมาะให้กลับมา  ทว่าเหลียนเสี่ยวม่านไม่คล้อยตามด้วย  ได้แต่ก่นด่าต่อไป

          ทั้งสองคนยิ่งเสียงดังฉะโมงโฉงเฉง  ยิ่งเกรี้ยวโกรธมากขึ้น  เหลียนเสี่ยวม่านคับแค้นใจ กรีดร้องออกมาว่า “ผู้หญิงชั้นต่ำของท่าน  ช่างเก่งเรื่องยุแยงนัก  ร่ายคาถาครอบงำท่านไปหมดแล้ว! “  นางพุ่งความเกรี้ยวกราดทั้งหมดมาที่ฮูหยินเฉียวตรงๆ
---------------------
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์และการติดตามนะคะ
และต้องขออภัยผู้อ่านด้วยนะคะ ที่อัพช้า พอดีช่วงนี้มีงานเร่งด่วนเข้ามาค่ะ
และเสียใจที่จะบอกว่าคงต้องขออนุญาตงดอัพนิยายไปอีกหกวันค่ะ เพื่อเคลียร์งาน
พระเอกออกมาตอนที่ 34 มีบรรยายอยู่ 2 บรรทัด เลยกะว่าเมื่อถึงตอนที่ 34  จะลงควบตอนที่ 35 ไปด้วย

ตามที่เคยแจ้งไว้ ครั้งที่ลงเว็บเด็กดี คือ นิยายเรื่องนี้ มีพันกว่าตอนค่ะ  กว่านางเอกกับพระเอกจะเข้าหอกัน ก็ปาไปตอนที่ห้าร้อยกว่าๆแล้วค่ะ  เนื้อเรื่องจะดำเนินไปแบบละเอียดมาก ออกแนวกึ่งสารคดี แสดงวิถีชีวิต การแก้ปัญหา การพัฒนาตนเองของนางเอก และตัวละครที่เกี่ยวข้อง  
หากผู้อ่านท่านใด อยากรู้เรื่องโดยเร็ว จะลองอ่านฆ่าเวลาล่วงหน้าไปก่อน  ก็ไปที่เว็บจีนตามลิ้งค์นี้นะคะ  http://www.69shu.com/18433/  (ส่วนเว็บอังกฤษล่าช้ากว่าเรา  ยังอยู่ตอนที่ 16 อยู่เลยค่ะ)
ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

24 ความคิดเห็น:

  1. แต่งสามีเข้าบ้านเพื่อมิไห้ป้าสามเข้าบ้านใช่ไหม
    ขอบคุณคะ ขอให้เคลียร์งานเสร็จไวๆคะ

    ตอบลบ
  2. แต่งสามีเข้าบ้านเพื่อมิไห้ป้าสามเข้าบ้านใช่ไหม
    ขอบคุณคะ ขอให้เคลียร์งานเสร็จไวๆคะ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณค่ะไรท์ เสร็จธุระแล้วค่อยเจอกัน
    ป้าสามอย่านะ อย่ามาอยู่บ้านฟางโจว โอ้ยเท่านี้ก็ลำบากกันมากแล้ว เชิญเลยมาทางไหนไปทางนั้น

    ตอบลบ
  4. จะนับวันรอไรท์เลยภาษาอื่นรีดคงไม่สามารถอ่านได้ขอให้ไรท์ทำธุระเสร็จเร็วๆนะค่ะชอบเรื่องนี้มากๆป้าสามนึกว่าจะเป็นคนดีอ่ะเหมือนจะเป็นนางมารร้ายอีกคน

    ตอบลบ
  5. แสดงส่าต้องแต่งสมาทีท่านแม่ทัพเข้าบ้านใช่ไหมคะ พันกว่าเราก็สู้ ขอเพียงไร้ท์แปลให้อ่าน

    ขอบคุณมากค่ะ ทำงานให้เสร็จก่อนค่อยมาต่อค่ะ^^

    รอไร้ท์เสมอ สุขสันต์วันเด็กค่ะ

    ตอบลบ
  6. แสดงว่าต้องแต่งแม่ทัพเข้าบ้านใช่ไหมคะ พันกว่าตอนเราก็สู้ ขอเพียงไร้ท์แปลให้อ่าน

    ขอบคุณมากค่ะ ทำงานให้เสร็จก่อนค่อยมาต่อค่ะ^^

    รอไร้ท์เสมอ สุขสันต์วันเด็กค่ะ

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณท่านผู้แปลมากที่แปลนิยายดี ๆ ให้ได้อ่าน เรื่องนี้เป็นที่หนึ่งในดวงใจตอนนี้เลยค่ะ เพราะแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่น ๆ ตรงที่เป็นสารคดีชีวิตความเป็นอยู่ของตัวละครกลาย ๆ แบบนี้แหละ ชอบมาก ๆ ขอบคุณอีกครั้ง

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ14 มกราคม 2560 เวลา 10:33

    ไม่เป็นไรค่ะ ช้านิดหน่อยรอได้

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณคะ...เรื่องราวสไตล์นี้ก็สนุกไปอีกแบบคะ

    ตอบลบ
  10. ขอบคุณค่ะ ถึงพันตอนก็ยินดีติดตามค่ะ ถ้าผู้แปลยังคงแปลอยู่ ^^

    ตอบลบ
  11. รอได้เสมอ ชอบแนวนี้มากอ่ะ เรื่อยๆดี เราชอบดูสารคดีการใช้ชีวิตด้วย ใครว่ายืดเราไม่สน เราฟินมาก 55555

    ตอบลบ
  12. รอได้ค่า ขอบคุณนะคะ

    ตอบลบ
  13. ขอบคุณค่ะ เราอยากเสนอว่าคำชี้แจงท้ายเรื่องอยากให้มีแปะไว้ในส่วนของบทแรกๆ เผื่อคนตามมาอ่านทีหลังจะได้เข้าใจ

    ตอบลบ
  14. ทั้งลุงป้า ป้าสะไภ้ หาดีไม่ไดสักคนเลยนะมีแต่พวกเบียดเบียน สงสารสี่พี่น้อง

    ตอบลบ
  15. สนุกคะ รอต่อไปนะคะ

    ตอบลบ
  16. สงสัยต้องพึ่งพาอากู๋ทรานสเลทที่รักอีกแล้ว แต่เราก็ยังติดตามอ่านของคุณต่อไปเผื่อไปอ่านจีนมาแล้วไม่เข้าใจ

    ตอบลบ
  17. ขอบคุณค่ะ...สนุกมากรอตอนต่อไปนะค่ะ

    ตอบลบ
  18. ขอบคุณมากๆค่ะไรมท์..
    รอติดตามนะค่ะ

    ตอบลบ
  19. มิได้ มิได้ แค่นี้ก็ถือว่าเร็วแล้ว ดูแสงสุขภาพด้วยแม่นาง

    ตอบลบ
  20. สู้ๆค่า ยังรอต่อปายยยย

    ตอบลบ
  21. รีดไปดำน้ำที่เว็บจีนมาแล้วทำให้รู้ว่าไรท์เก่งมากๆที่แปลมาให้อ่านได้สนุกแบบนี้ รอไรท์อยู่นะค่ะสู้ๆค่ะ

    ตอบลบ
  22. ตกลงป้าสามนี่ดีหรือไม่ดีนะ ใจหนึ่บก็น่าสงสาร แต่สี่พี่น้องนี่ก็ลำบากมากอยู่แล้วนะ จะไม่เป็นการชักศึกเข้าบ้านใช่ไหม?

    พันกว่าตอน... แล้วจบหรือยังคะ?
    จริงๆไอชอบนะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป เก็บรายละเอียดดี แต่กว่าจะเข้าหอก็ปาเข้าไปที่ตอนห้าร้อยกว่า.... ช้าไปไหมน้ออออ 555+

    ขอบคุณค่ะ รอจ๊ะ ไม่สามารถจริงๆ ใช้กูเกิลแปลยังอ่านไม่รู้เรื่องเลย 555+

    ตอบลบ
  23. ขอบคุณครับ

    ตอบลบ