“โอ๊ย!” ฮูหยินเฉียวไม่คาดคิดว่าจะถูกเสี่ยวม่านทุบเข้าที่ท้องน้อย
รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา จนหงายหลังลงไปไม่รู้ตัว
โชคดีที่เหลียนลี่ยืนอยู่ด้านหลังนาง ช่วยพยุงนางไม่ให้สะดุดล้มลง
ฮูหยินเหลียวเรื่องอันใดจะยอมแพ้? ความคลั่งแค้นพุ่งปรี๊ด ผลักสามีให้หลีกทาง กรีดร้องเสียงดัง “เจ้ากล้าตีข้ารึ? กล้าดีอันใดมาทำตัวเกะกะระรานที่หน้าบ้านข้า!”
ผลักเหลียนเสี่ยวม่านล้มลง
ป้าสองคนเริ่มเข้าตะลุมบอนกัน ทั้งสองฝ่ายต่างตบตีและตะโกนสาปแช่งซึ่งกันและกัน
คนทั้งคู่ตบตีกันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงตาค้างไปตามๆกัน รอสักครู่จึงรีบกรูไปห้ามคนทั้งสอง
คนหนึ่งก็ทึ้งผมฝ่ายตรงข้าม อีกคนก็ดึงสาบคอเสื้อ ผู้คนรีบไปดึงทั้งสองฝ่ายให้แยกจากกันอย่างวุ่นวายโกลาหล
หญิงวัยดึกสองคนต่างจ้องมองฝ่ายตรงข้ามด้วยดวงตาแดงกล่ำอาฆาตมาดร้าย
เปล่งเสียงตะโกนด่าทอกันไม่หยุด
เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตาดุร้ายเหมือนสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ
เหลียนฟางโจวเหลือบมองคนทั้งสอง เกือบจะหลุดยิ้มออกมาพลางโพล่งเสียงดัง
“หมาบ้า!” คำสองพยางค์ง่ายๆ แต่ทำให้เห็นภาพชัดเจนนัก เหมาะกับสภาพคนตรงหน้าจริงๆ
ฝ่ายเหลียนเสี่ยวม่านที่ทั้งกรีดร้องและร้องไห้คร่ำครวญถึงบิดามารดาบนสวรรค์ ฮูหยินเฉียวที่ยังคงแช่งชักไม่หยุด ต่างรู้สึกตัวขึ้นมาทันใด!
“ข้ายังไม่ได้พูดอันใดเลย เจ้าพูดคำนี้ออกมาหรือเปล่า? ดูสิ พวกนางดูเหมือนหยุดส่งเสียงแสบแก้วหูกันแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครในกลุ่มคนตะโกนออกมา
“จริงด้วย!”
ผู้คนต่างขานรับพร้อมๆกัน
รอยย่นลึกตรงหัวคิ้วของเหลียนลี่จางลง ค่อนข้างไม่พอใจ กวาดตามองไปยังทิศทางที่คำพูดนั้นส่งออกมา
ต่อให้ปีศาจมาเอาชีวิต เด็กสาวก็ไม่ตั้งใจทิ้งเหลียนเสี่ยวม่านที่ไม่มีทางไปอย่างแน่นอน
เพราะว่าหลังจากสามีของเหลียนเสี่ยวม่านถึงแก่กรรม นางไม่ได้เพิ่งกลับมาบ้านเกิดเป็นครั้งแรก เมื่อนางกลับมาแต่ละครั้งก็ไม่เต็มใจจะกลับไปเลย เพียงไม่นานในวันนี้นางก็กลับมาอีก ตั้งใจกลับมาตายรังที่บ้านเกิด ถ้าให้เดาคร่าวๆ นางคงเดือดเนื้อร้อนใจกับเรื่องทะเลาะเบาะแว้งที่เกิดขึ้นที่บ้านสามี และเรื่องร้ายอื่นๆยังคงดาหน้าเข้ามาหานางไม่หยุด นางจึงไม่อยากกลับไป!
ส่วนเหลียนลี่เองนั้นคงไม่เต็มใจให้น้องสาวอยู่ด้วยเป็นแน่แท้
แม้น้องสาวจะร้องให้คร่ำครวญขอความเห็นใจให้สงสารในชะตากรรมที่ต้องเผชิญมากแค่ไหน
เหลียนลี่กลับแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ทั้งยังไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ด้วยเหตุนั้นคิ้วของเขาจึงไม่ค่อยขมวดเท่าใดนัก
เขาค่อยๆเดินอืดอาดยืดยาดมาที่หน้าบ้าน จึงเห็นเหลียนฟางโจวดึงมือเหลียนเซ่อฝ่าฝูงชนเดินเข้ามาถึงหน้าประตูรั้ว
สองพี่น้องเดินมาถึงตรงหน้าเหลียนเสี่ยวม่าน เหลียนฟางโจวยื่นมืออกมาพยุงหญิงวัยกลางคน พลางเรียก “ป้าสาม!”
ผู้คนตกตะลึงทันใด รวมถึงเหลียนเสี่ยวม่าน
เหลียนลี่แอบโล่งอกในใจเงียบๆ ย่องถอยเท้ากลับไป
ป้าจางที่เพิ่งรีบเร่งมาถึงยามนี้ เมื่อเห็นภาพนั้นถึงกับสะดุ้งตกใจ
“ป้าสาม
เนื่องจากลุงลี่และป้าใหญ่ไม่เต็มใจให้ที่พักพิงแก่ท่าน! ทว่าข้าเต็มใจให้ท่านพักกับข้าได้” เหลียนฟางโจวเขย่ามือเหลียนเสี่ยวม่านเบาๆ กล่าวมาอีกสองสามคำด้วยน้ำเสียงอ่อนลงสิบส่วน เจือด้วยความเมตตา
ยิ่งไปกว่านั้น คำซึ่งเธอใช้คือ ‘ ให้ที่พักพิง
‘ หมายความว่าเหลียนฟางโจววางตัวเองเป็นเจ้าบ้าน
ป้าจางเมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น ภายในใจจึงเข้าใจเจตนาเบื้องลึกของเด็กสาวทันที
นางจึงตัดสินใจอยู่ช่วยเด็กสาวสักพัก
ชาวบ้านไม่คิดว่าเหลียนฟางโจวจะมีจิตใจโอบอ้อมอารีเช่นนี้ ต่างอดยกย่องชื่นชมนางไม่ได้
เหลียนฟางโจวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ใจเย็นๆเถิด!” จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก ฮูหยินเฉียวเห็นแล้วรู้สึกไม่ชอบใจนัก
นางคิดว่าเหลียนฟางโจวจงใจเย้ยนาง และตั้งใจทำให้นางดูเป็นคนชั่วช้าน่ารังเกียจ ไม่เช่นนั้น..ไยนางจึงอยากวิ่งออกมาช่วยเหลือเหลียนเสี่ยวม่านในครานี้เล่า? ไม่ได้การแล้ว หากผู้คนแยกย้ายกันกลับไปด้วยความเชื่อเช่นนี้เล่า?
ฮูหยินเฉียวแม้ว่าจะไม่เชื่อตามที่หลานสาวพูด ทว่าก็ไม่สามารถเอ่ยขัดออกไปได้ จึงเปลี่ยนกลยุทธ์มาพูดคุยกับเหลียนเสี่ยวม่านแข่งกับเหลียนฟางโจวแทน ราวกับนางไม่เคยทะเลาะกับน้องสาวสามีเมื่อครู่ก่อน
เหลียนลี่มายืนข้างภรรยาด้วยความโล่งใจ ร้องออกมา “ดี ดี เจ้าไปบ้านเหลียนฟางโจวเถิด! เราทำเพื่อเห็นแก่เจ้าด้วย! เหลียนฟางโจวมีข้าวมากมาย เยอะจนสี่พี่น้องไม่อาจกินเองได้หมด มีให้เจ้ากินเท่าใดก็ได้!
เทียบกับเรา แม้แต่ข้าวสารยังไม่พอกรอกหม้อไปวันหนึ่งๆเลย โอ แถมเรายังหาเงินไม่พอส่งลูกเรียนอีก! ไฉนเจ้าจะมาทนลำบากกับพวกข้าเล่า”
ด้วยการอธิบายอย่างมีเหตุผล แสดงถึงเจตนาดีที่ไม่อยากให้เหลียนเสี่ยวม่านต้องมาพลอยลำบากกับพวกตน จึงจำใจต้องแสดงออกกับน้องสาวเช่นนั้น ปรากฏว่าการที่ไม่ให้ที่พักพิงแก่เหลียนเสี่ยวม่านนั้น ก็เพื่อไม่ให้นางลำบาก ทำให้ผู้คนฟังแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นทันใด
นี่คือสาเหตุเบื้องลึกของสองสามีภรรยาคู่นี้ มีครอบครัวไหนกันที่ไม่สนใจแต่ลูกของตัวเองที่สุดเล่า? หัวใจพ่อแม่ในโลกนี้ช่างน่าเวทนานัก!
เหลียนเสี่ยวม่านแสดงสีหน้าเย้ยหยันหลายต่อหลายรอบ ถ่มน้ำลายลงพื้นหนึ่งครั้งอย่างขมขื่นใจ จ้องหน้าเหลียนลี่พลางเอ่ยขึ้น “ท่าน..หากคิดเช่นนั้นจริงๆ ข้าจะไม่ต่อว่าท่านเลย ตั้งแต่แรกท่านควรเปิดอกพูดคุยกับข้าให้ชัดแจ้งก่อน!
ไยจึงไม่บอกสาเหตุมาเสียตั้งแต่ต้นเล่า ทว่าพอเหลียนฟางโจวเดินเข้ามา และนางเอ่ยช่วยข้าขึ้นมาก่อน ท่านถึงได้แจงเจตนาออกมารึ? ท่านหวังดีกับข้าเพื่อการอันใดรึ? พอเห็นฟางโจวพูดขึ้น ท่านจึงยินดีกล่าวถ้อยคำอันโอบอ้อมอารีออกมา! ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วใจท่านหมายความตามที่พูดหรือเปล่า! ฮึ่ม ท่านก็ไม่ต่างอันใดกับหญิงคณิกา ที่เอาแต่ปั้นเรื่องหลอกลวง เพื่อสร้างภาพพจน์ว่าตนเองเป็นคนดีน่ารัก!”
“เจ้า...” เหลียนลี่ไม่คิดว่าเหลียนเสี่ยวม่านจะไม่ไว้หน้าตนเช่นนั้น กล่าวถ้อยคำอันหยาบคายใส่หน้าเขา ใบหน้าเหลียนลี่ขึ้นสีแดงโดยฉับพลัน
หลายคนที่มุงดูอยู่อดหัวเราะคิกคักไม่ได้
แม้ว่าวาจาของเหลียนเสี่ยวม่านออกจะหยาบคาย ผู้คนต่างก็ตรึกตรองดูแล้วว่า ความคิดเช่นนั้นก็มีเหตุผลอยู่มาก
กลัวแต่ว่าก่อนหน้าเหลียนฟางโจวมา สองสามีภรรยาเอาแต่หาวิธีขัดขวางไม่ให้เหลียนเสี่ยวม่านผ่านประตูรั้วเข้ามา และไม่ให้โอกาสให้นางได้อธิบายแม้สักนิด ที่ไหนพวกเขาจะคิดเพื่อเห็นแก่นางจริงๆ? หากเห็นแก่นางจริงๆ ก่อนหน้าที่เหลียนฟางโจวจะมาถึงที่นี่
อย่างน้อยสองสามีภรรยาคู่นี้ควรให้นางเข้ามาในบ้านในช่องก่อน เพื่อนั่งลงปรึกษาหารือกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป!
ไม่ใช่มาขวางกั้นคนไม่เข้าบ้านอย่างไร้ความรู้สึก เมินหน้าหนีและหยิบคำพูดร้ายๆที่เตรียมไว้มาสาดใส่หน้า แล้วบอกว่าเพื่อเห็นแก่ผู้คน!
ชาวบ้านพูดกันขึ้นเซ็งแซ่ อดอับอายแทนสองสามีภรรยาสกุลเหลียนคู่นี้ไม่ได้จริงๆ เมื่อฟังลุงลี่กล่าววาจาเช่นนั้น สองพี่น้องอดหันมามองหน้ากันไม่ได้ ต่างคิดขึ้นมาในใจเงียบๆว่า ‘ น่าสะอิดสะเอียน ‘ อีกทั้งไม่คาดคิดว่าเหลียนเสี่ยวม่านจะกล่าวถ้อยคำบ่อนทำลายลุงกับป้าได้อย่างแสบสันต์เช่นนั้น เหลียนฟางโจวอดนึกสนุกเงียบๆในใจไม่ได้ พลันคิดว่าการให้ที่พักแก่ป้าสามคนนี้นับว่าตัดสินใจไม่ผิด อย่างน้อยที่สุดจากนี้ไปจะเพิ่มคนออกหน้ามาช่วยจัดการลุงลี่และป้าใหญ่แล้ว
ฮูหยินเฉียวฟังสามีพูดเช่นนั้นในใจรู้สึกแช่มชื่นขึ้น สามีช่างคิดได้เหมือนตนนัก ทว่าความกระอักกระอ่วนใจยังไม่หมดลง ด้วยว่าเหลียนเสี่ยวม่านมีจิตใจมุ่งร้ายกับพวกตนแล้ว
ฮูหยินเฉียวอดรู้สึกโมโหไม่ได้ พลางแก้ต่างเสียงดัง “เอาล่ะ จริงๆแล้วพวกเราอยากจะพูดคุยกับเจ้าให้กระจ่างชัดตั้งแต่แรก ทว่าเจ้าเอาแต่เรียกร้องคร่ำครวญไม่หยุดหย่อน แล้วจะให้ข้าพูดอย่างไรได้เล่า? เจ้าไม่เห็นอยากแก้ปัญหาอันใดเลย เอาแต่พูดว่าสามีที่ตายไปแล้วไม่เคยดีกับเจ้าเลย เอาแต่คุ้มคลั่งด่าทอเป็นอย่างเดียวหรือไร? แล้วใครเล่าจะเชื่อสิ่งที่เจ้าพ่นออกมา! เจ้ามันหญิงแพศยา แพศยาที่จิตใจไม่เคยสงบสักนิด!”
“นังหญิงชั้นต่ำ ข้าอยากฉีกปากเจ้าเป็นชิ้นๆนัก!” เหลียนเสี่ยวม่านโกรธเกรี้ยวจ้องฮูหยินเฉียวเขม็ง ทุ่มตัวทั้งหมดพุ่งเข้าใส่นาง
ฮูหยินเฉียวดวงตาแดงก่ำ ตะโกนออกมา “นังสารเลว!”
ทั้งสองคนต่างสู้กันเพื่อเข่นฆ่าอีกคน ลงมือตบตีกันไม่หยุด ผู้คนต้องรีบเข้ามากดสองคนไว้ แล้วจับแยกตัวกันออกมา
เหลียนฟางโจวขมวดคิ้วมุ่น เหลือบมองสีหน้าเหลียนเสี่ยวม่านที่ทุกข์ระทมและโกรธแค้นเกือบต้องร้องไห้ออกมา แต่พยายามฝืนทนกลั้นไว้ อดเห็นใจป้าสามเพิ่มขึ้นอีกสองส่วนไม่ได้ และยิ่งเกลียดชังฮูหยินเฉียวมากขึ้น
ขณะที่นางด่าทอไปก็ประจานปมด้อยน้องสามีไปด้วย เหลียนเสี่ยวม่านเป็นหม้าย จึงถูกยั่วให้โกรธได้ง่าย ในยุคนี้ หญิงหม้ายนับว่าเป็นพวกที่น่าสงสารยิ่งนัก
ถูกคนเหยียดหยามประณามไม่หยุดหย่อน วาจาที่ฮูหยินเฉียวพรั่งพรูออกมา แสดงให้เห็นธาตุแท้ของจิตใจที่มุ่งร้ายทำลาย และต่ำช้าเลวทรามยิ่งนัก
“ป้าใหญ่!
ป้าสาม!” เหลียนฟางโจวตะคอกเสียงดังออกมาก
ฮูหยินเฉียว เหลียนเสี่ยวม่าน รวมทั้งคนอื่นๆสะดุกกึก แข็งค้างขึ้นทันที
ความเงียบปรากฏขึ้นโดยพลัน เงียบสนิทจริงๆ ไม่มีแม้แต่เสียงใดๆเล็ดรอดออกมาเลย----------------
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์และการติดตามนะคะ
ต้องขออภัยที่หายไปนาน เนื่องด้วย ไปเคลียร์งาน ตามที่แจ้งไปแล้วค่ะ
เรื่องนี้ บอกได้เพียงว่า ญาติผู้ใหญ่บางคนก็ร้ายเสมอต้นเสมอปลาย ส่วนบางคนอาจร้ายช่วงแรกแต่ดีในภายหลัง คงต้องติดตามดูกันต่อไปนะคะ
เดี๋ยวจะแจ้งเรื่อง จำนวนตอนนิยาย ในช่วงรายละเอียด เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาอ่านภายหลัง ใด้เข้าใจสถานการณ์ของนิยายเรื่องนี้ ตามที่ผู้อ่านบางท่านแนะนำมาค่ะ
และคืนนี้จะมาลงตอนที่ 32 เพิ่มให้อีกตอนนะคะ ^-^
รอค่ะรอ แว๊บเข้ามาเช็คบ่อยมากกกก ชอบเรื่องนี้นะคะไรท์ ขอบคุณที่มาแปลให้อ่านค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากๆค่า
ตอบลบว้าวจะได้อ่านอีกตอน...ขอบคุณคะ
ตอบลบขอบคุณค่ะไรท์ดีใจอ่ะไรท์จะลงให้อ่านอีกตอน
ตอบลบรอค่ะรอ....ขอบคุณค่า
ตอบลบป้าใหญ่แย่มากจริงๆ
ตอบลบป้ารองนี่ถ้าคุยทำความเข้าใจกันดีๆอาจใช้เป็นปากเป็นเสียงได้นะเอาไว้ต่อกรกับป้าสะไภ้และลุง ฟางโจวเป็นเด็กบางทีจะด่าผู้ใหญ่มันจะดูเป็นผู้หญิงไม่ดีไป
ตอบลบขอบคุณค่
ตอบลบเย้ จะรอนะคะ รีบมาไวๆ นะคะ อยากอ่านต่อแล้ว อยากเจอพระเอก 5555
ตอบลบหืมมมม คำทิ้งท้ายนี่คืออะไรคะ? ป้าสามนางร้ายตอนแรกต่อไปดีใช่ไหมคะ? เพราะจะพานางเข้าบ้าน คงไม่กลายเป็นชักศึกใช่ไหมมมม?
ตอบลบปูเสื่อรอค่า ^^
ตอบลบขอบคุณคะ คืนนี้มีตอนแถม รอๆๆๆ
ตอบลบรอค่ะ ชอบเรื่องราวแบบนี้มาก พยายามไปดำน้ำใน web จีนก็พอจะรู้เรื่อง แต่ไม่ได้อรรถรสเหมือนที่ไรต์แปลให้อ่าน ขอบคุณมากนะคะที่สละเวลามาแปล
ตอบลบเหมือนหายไปนาน คิดถึงไรต์แทบแย่
ตอบลบขอบคุณค่ะไรท์...ติดตามต่อ
ตอบลบ