วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

จัพแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 36 ใครช่วยใครกันแน่

         วาจาของเหลียนฟางโจวทำให้เหลียนเซ่อยอมถอดใจในที่สุด  สิ่งดีๆที่พี่สาวสั่งสอน  เขาจะจดจำเอาไว้ไม่ลืม
          เขาหันไปสบตาพวกอันธพาลอย่างขมขื่น  บังเกิดความคิดในใจว่า สักวันหนึ่ง ขอให้เขาได้เจอเจอหน้าพวกมันอีก!

          “ลงไปเถิด!” เหลียนฟางโจวพยักหน้าพูดกับน้องชายเสียงอ่อน
          พี่สาวและน้องชายสายเลือดเดียวกันพึ่งจะลงมายืนที่พื้น  พลันมีเสียงแหบห้าวเล็กน้อยดังขึ้น “หยุดนะ!”
          ไม่พียงแต่สองพี่น้อง พวกอันธพาลหลายคนต่างสอดส่ายสายตาหาที่มาของเสียงนั้น      “นั่นเขา!” เหลียนเซ่อตะลึงงัน  เหลียนฟางโจวเห็นเหมือนกัน สองพี่น้องต่างหันขวับมาสบตากันโดยไม่รู้ตัว
          บุคคลนั้นคือผู้ชายคนที่เหลียนเซ่อเพิ่งให้ซาลาเปากิน
          “เฮ้ย! เจ้าขอทานตรงนั้นน่ะ  มาจากไหน  เดินโซเซตามหาบิดาเจ้ารึ! ”
          “ไอ้ขอทานตัวเหม็น  ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วหรือไร!”
          พวกนักเลงหัวไม้หลายคนเห็นบุรุษผู้นั้นชัดเต็มสองตา  อดตวาดใส่และหัวเราะเย้ยอย่างยโสโอหังไม่ได้
          คนผู้นั้นยืนอยู่ที่นั่น  ปรายตามองพวกโจรใจชั่วอย่างไม่สะทกสะท้าน  สายตาที่มองพวกมัน  ดูราบเรียบ สบายๆ
          ความเยือกเย็นของเขาทำให้พวกอันธพาลบันดาลโทสะ  เนื่องจากถูกขอทานหยามซึ่งหน้า แบบนี้วอนหาเรื่องเสียแล้ว!
          “ชะตาเจ้าขาดแน่ๆ! พี่น้องทั้งหลาย  พวกเราช่วยกันสั่งสอนไอ้เจ้าขอทานคนนี้ว่า  อย่ามาทำอวดเบ่งกับข้า  อย่ามายุ่งเรื่องผู้อื่น!” ว่าแล้วเจ้าตัวผู้นำก็โมโหโทโส ถ่มน้ำลายลงพื้น ซ้ำยังถลกแขนเสื้อขึ้น โบกมือ นำพรรคพวกวิ่งเข้ารุมชายผู้นั้นอย่างโกรธเกรี้ยว
          เหลียนเซ่อรีบหลับตาปี๋อย่างหวาดเสียว  ฝ่ายเหลียนฟางโจวหัวใจเต้นโลดถึงคอหอย
          พอเธอหลุดจากภวังค์  ก็ตะเบ็งเสียงร้องออกมา “เขาไม่เกี่ยว!” ด้วยความตระหนกตกใจ แต่สายไปเสียแล้ว
          พวกอันธพาลกู่ร้องพลางเงื้อมไม้ตีลงอย่างแรง  เหลียนฟางโจวไม่อาจทนดูภาพหวาดเสียวตรงหน้าได้  จึงเบือนหน้าหนีโดยไม่รู้ตัว
          เสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดอย่างน่าสงสารผ่านเข้าโสตประสาทครั้งแล้วครั้งเล่า  ไม่ใช่มาจากบุคคลนั้น   ทว่ามาจากคนหลายคน
          เธอและเหลียนเซ่อหันหน้ากลับมามอง   ภาพที่เห็นครั้งนี้ทำสองพี่น้องดีใจยิ่งนัก พวกนักเลงหัวไม้ล้มลงไปกองกับพื้น  หรือไม่ก็เอามือ กุมแขน กุมขา หรือกุมหัว  หน้าตาพวกมันบิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวด  ทว่าคนๆนั้นกลับยังยืนตัวตรงมั่นคงอยู่ที่เดิม  มีสีหน้าเยือกเย็นสงบนิ่ง
          “เกิดอะไรขึ้นน่ะ นี่มันเรื่องอันใดกัน?!” ป้าสามเอามือขยี้ตา  มองฉากปัจจุบันตรงหน้า ด้วยความหวาดกลัวจนกรีดร้องออกมา
          “หนีเร็ว!” คนหนึ่งในพวกมันส่งเสียงร้องออกมา
          เพียงเท่านั้น  บรรดาอันธพาลไหนเลยจะกล้าทำร้ายสิ่งที่พวกมันคิดว่าเป็นปีศาจจำแลงมา? พวกมันต่างลุกขึ้นนั่ง  พยายามฝืนความเจ็บปวดคลานขึ้นจากพื้น  วิ่งล้มลุกคลุกคลาน  หนีหายไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา
          “นี้มันเรื่องอันใด! “ ป้าสามรีบสวดมนต์ภาวนาถึงคุณพระคุณเจ้าเสียสองรอบ  นางอยากยืนขึ้น   แต่แข้งขาทั้งสองกลับอ่อนยวบ  จึงล้มลงไปนั่ง      
          “เขาช่วยพวกเราไว้! พี่ใหญ่  เป็นเขาที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้!” ดวงตาเหลียนเซ่อส่องประกายด้วยความตื่นเต้น  ตะโกนโห่ร้องด้วยความยินดี   วิ่งไปหาบุคคลผู้นั้น  อดดึงแขนชายผู้นั้นแกว่งไปมาไม่ได้  ครั้นแล้วพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ท่านช่างเก่งกล้าสามารถยิ่งนัก ขับพวกมันหนีหางจุกตูดไปเลย!
          “ขอบคุณมากๆเอ่อ...บุรุษท่านนี้ที่อุตสาห์ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ! “ เหลียนฟางโจวเดินเข้ามาสมทบ  พลางพูดกับบุคคลนี้ด้วยรอยยิ้ม
          จริงๆเธอต้องการพูดว่า “ขอบคุณสุภาพบุรุษท่านนี้มากๆ  ทว่าเมื่อเห็นผมเผ้าสกปรกรุงรังของบุคคลผู้นี้แล้ว  ไม่น่าจะใช่ 'สุภาพบุรุษนะ'?    ยามที่กล่าวออกมาเด็กสาวออกจะเก้อกระดากเล็กน้อย
          บุคคลผู้นั้นยิ้มยิงฟัน  ยามที่เขายิ้มออกมาดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า ทำให้บรรยากาศรอบตัวของคนผู้นี้เปลี่ยนไปทันใด    
          “ข้าเห็นพวกมันทำลับๆล่อๆแอบสะกดรอยตามพวกท่านมาครึ่งทางแล้ว  ภายหลังข้าเลยมาทางลัดคอยดักซุ่มเฝ้าดูอยู่รอบนอก...” บุคคลผู้นี้เอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม  หลังจากพูดไปหลายคำ จู่ๆ เสียงก็ขาดหายไป  ทันใดนั้นสีหน้าเขาพลันเปลี่ยน  มีอาการหอบหายใจลำบาก ล้มลงกับพื้นหมดสติไปทันที
          “ท่าน..เป็นอย่างไรบ้างเฮ้  ตื่นสิ!” เหลียนเซ่อเคร่งเครียดรีบนั่งลงเขย่าตัวชายผู้นั้นไปมา
          เหลียนฟางโจวรู้สึกตกใจกลัวไปด้วย
          “พี่ใหญ่ เขาได้รับบาดเจ็บ! มีเลือดออก! น่าจะมาจากที่โดนทำร้ายจากพวกอันธพาลเมื่อครู่ก่อนเป็นแน่!”  เหลียนเซ่อเรียกเธอด้วยเสียงตื่นตกใจ
          เหลียนฟางโจวรีบคิดทบทวนก่อนหน้า  เธอเห็นแขนของคนผู้นี้มีเลือดไหลซึมออกมาจริงๆ   เช่นนั้นแล้วเธอจึงร้องขึ้น “เจ้าต้องให้เขาได้พันแผลโดยด่วน  ห้ามเลือดให้เขาก่อนแล้วค่อยกว่ากัน!”
          เหลียนเซ่อรีบวางชายผู้นี้นอนลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง  รีบฉีกผ้าตรงบริเวณส่วนหน้า  ช่วยพันแผลให้เขา
          “ฟางโจว ฟางโจว!” ในที่สุดเหลียนเสี่ยวม่านยืนขึ้น  จิตใจพะว้าพะวัง   กระโดดลงมาจากเกวียนวิ่งตุปัดตุเป๋  หมายจะดึงเหลียนฟางโจวออกห่าง  ป้าสามจ้องหน้าหลานสาวพลางต่อว่า “เจ้าเป็นเด็กสาวที่ยังไม่ออกเรือน  ต้องทิ้งระยะให้ห่างจากเจ้าขอทานคนนี้มิฉะนั้นเจ้าจะไม่ได้แต่งงานนะ!”
          “ป้าสาม ท่านเรียกคนผู้นี้ คำก็ขอทาน  สองคำก็ขอทานอยู่ได้  เขาเพิ่งเสี่ยงชีวิตช่วยพวกเราเมื่อครู่ก่อน  ถ้าเขาไม่ช่วยพวกเราไว้. พวกเรานี่แหละจะกลายเป็นขอทานไปจริงๆ! เหลียนฟางมุ่นคิ้วขณะพูดขึ้น
          “อะไรนะ?” ป้าสามสะดุ้งเฮือก
          เหลียนฟางโจวชำเลืองมองหน้านางพลางเอ่ยขึ้น “มีพวกนักเลงหัวไม้หลายคนมาขวางทางเรา เพื่อดักปล้นเมื่อครู่นี้  ต้องให้พวกมันฉกข้าวของเงินทองไปให้หมดก่อนใช่ไหม  ทว่าไม่ใช่แค่ข้าวของหรอกนะ  แม้แต่ลาที่เช่าเขามาก็จะถูกฉกไปด้วย! หากให้พวกมันริบทุกอย่างไปหมด  เรามิต้องกลายเป็นขอทาน ..ที่ยากจนรึ!”
          “มีเรื่อง..มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ!” ป้าสามพยายามทบทวนความจำตอนที่เพิ่งตื่นขึ้นมาเห็นเหตุการณ์  อดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกไม่ได้  พลางเอามือตบอก  เอ่ยขึ้นด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง “โอ  โชคดีที่ข้าหลับไปเมื่อครู่ก่อน  เลยไม่ต้องประสบพบเจอเรื่องอันตรายร้ายแรง  ช่างโชคดีจริงๆเลย  โชคดี โชคดีจริงๆ!”
          “.....” เหลียนฟางโจวถึงกับอับจนถ้อยคำ  ค้อนสายตาส่งให้  ปัดมือนางออก  แล้วเดินไปถามเหลียนเซ่อ “ตรวจดูสิว่า เขามีบาดแผลบริเวณอื่นอีกไหม?  มีบาดแผลฉกรรจ์หรือไม่?”           
          หลังจากเหลียนเซ่อพันแผลเสร็จ เขาได้ตรวจตราทั่วทั้งร่างกายชายผู้นี้  แล้วรีบพูดขึ้น “มีบางแผลเป็นรอยแผลเก่าทิ้งไว้  แต่ไม่รุนแรงนัก”
          เหลียนฟางโจวใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย พยักหน้า แล้วคำนวณในใจดูว่าจะต้องทำอันใดต่อดี?
          เหลียนเซ่อที่อยู่ข้างๆ  พลันเปิดปากเอ่ยขึ้น “พี่ใหญ่ เขาได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยเราไว้  เราพาเขากลับไปกับเราก่อน ดีหรือไม่?”
          ที่นี่อยู่ห่างไกลผู้คน  บุคคลนี้ได้รับบาดเจ็บ  ซ้ำยังคงสลบสไลอยู่  ถ้างั้นก็เอาตามนี้!
          ไม่อาจคอยให้เหลียนฟางโจวพยักหน้าตอบตกลง  ป้าสามรีบส่ายหน้า โบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน  “ไม่ดี!  จะถูกมองว่าอย่างไร  เอาผู้ชายแปลกหน้าเข้าบ้านเราขอให้เขามาหาพวกเราหรือไร? ฟางโจว  เจ้าเป็นหญิงที่ยังไม่ออกเรือนนะ!”
          เหลียนฟางโจวรีบเอ่ยขึ้น “นี้ไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะมาบอกว่าผิดหรือถูก!  ใครจะพูดอันใดก็เรื่องของเขาเราทิ้งผู้ที่ช่วยชีวิตเราไว้ข้างทางให้เผชิญความเป็นความตายตามลำพัง  แล้วค่อยไปถามคนอื่นว่าควรทำอย่างไรงั้นรึ ป้าสาม..ท่านมาช่วยกันคนละไม้คนละมือเถิด!”
          ป้าสามขมวดคิ้วมุ่นด้วยความขยะแขยง พลางเอ่ยขึ้น “อี๋ สกปรก...”
          เหลียนฟางโจวโมโหเล็กน้อย  สีหน้าพลันมืดครึ้มพลางกล่าว “ท่านไม่เต็มใจช่วยใช่หรือไม่ข้าและน้องรองไม่มีเรี่ยวแรงมากพอมารอท่านทำใจอยู่นะ  หากอันธพาลพวกนั้นหวนกลับมา..”
          “เข้าใจ เข้าใจแล้ว!” ไม่ต้องคอยให้เหลียนฟางโจวพูดซ้ำ  ป้าสามก็เข้าใจสถานการณ์โดยพลัน  รีบลงมืออย่างเร่งรีบ
          เหลียนเซ่ออดหัวเราะในใจไม่ได้
          ผู้ชายคนนี้ที่แท้รูปร่างสูงใหญ่มาก  ซ้ำยังไม่รู้สึกตัวอีกด้วย  ตัวหนาหนักล้มลงไปวัดพื้นแบบนี้  ป้าสามจึงต้องออกแรงอย่างหนักเพื่อแบกเขาขึ้นบนเกวียน
          ป้าสามทุ่มเทแรงทั้งหมดที่มีขณะที่คิ้วขมวดจนตาแทบจะปิด  พยายามพูดให้เหลียนฟางโจวคล้อยตามนาง  “ปลุกให้เขาตื่นเถอะ  จะได้ให้เขาไปตายที่ไหนก็ไป!”
           เหลียนฟางโจวไม่พูดสักคำ  ทำเพียงว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น
          เหลียนฟางโจวขับเกวียนกลับบ้านอย่างเคร่งเครียด  คนผู้นี้ยังไม่ฟื้นเสียที
          ป้าสามไม่มีทางเลือก  ต้องแบ่งที่ให้เขานอนในห้องเหลียนเซ่อและเหลียนเช่อ
          เหลียนเช่อและเหลียนฟางฉิงเมื่อเห็น  คราแรกรู้สึกตกใจกลัว พอได้ยินว่าคนผู้นี้ช่วยชีวิตพี่สาวและพี่ชายเอาไว้  ทั้งสองคนเลยเลิกกลัวในบัดดล  ซ้ำยังช่วยไปหาน้ำกับผ้าเช็ดตัวมาให้ด้วย
          บุคคลผู้นี้เป็นชายฉกรรจ์  ทั้งเหลียนฟางโจว และป้าสามในด้านหนึ่งต่างรู้สึกไม่สบายใจ  จากนั้น พวกนางได้นำข้าวของที่ซื้อมา ออกมาจัดเก็บ   เหลียนฟางโจวยุ่งอยู่กับการเอาเกวียนเทียมลาไปคืนลุงหวาง  ขณะที่นำขนมงาแท่งห่อกระดาษเหลืองมาให้หลานสาวลุงหวางด้วย
          จนกระทั่งถึงเวลาจุดตะเกียง  ชายผู้นี้ก็ฟื้นคืนสติขึ้นมาในที่สุด
          ยามนี้เหลียนฟางโจวและสามพี่น้อง  รวมทั้งป้าจางกำลังจะลงมือกินอาหารมื้อเย็น  เขาลุกจากที่นอน เดินตามแสงไฟมา  เหลียนฟางโจวเมื่อเห็นเขาชัดๆ  ครั้นแล้วจึงวางถ้วยชามลง พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านตื่นแล้วรึ?  มีตรงไหนไม่สะดวกสบายหรือเปล่า?  รู้สึกเจ็บแผลหรือไม่?”
            ฝ่ายชายจ้องมองอย่างอึกอัก  รีบเอ่ย “ข้า...ตอนนี้ข้าอยุ่ที่ไหน?  ท่านช่วยชีวิตข้าไว้ใช่หรือไม่?”

          เหลียนฟางโจวหัวเราะออกมา พลางพูดขึ้น “วันนี้ท่านช่วยชีวิตพวกเราต่างหาก!  วันนี้หากไม่ได้ท่าน  พวกเราอาจโชคร้ายก็เป็นได้  ท่านคงยังไม่ลืมนะ!”
-------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์และการติดตามนะคะ
ตอบคำถามรีดบางท่าน  -พระเอกคืนความทรงจำหลังแต่งกับนางเอกไปพักใหญ่ค่ะ ^-^

26 ความคิดเห็น:

  1. พระเอกเรากว่าจะความจำคืนคงกลายเป็นเกษตรผู้ชำนาญเต็มตัว 555555555555555


    ทำไมรู้สึกว่าป้าสามเป็นคนตลก

    ตอบลบ
  2. พระเอกได้เข้าบ้านนางเอกแล้วจะเป็นไงต่อลุ้นอ่ะ

    ตอบลบ
  3. รวบหัวรวบหางเป็น.....แรงงานเถื่อน

    ตอบลบ
  4. รวบหัวรวบหางเป็น.....แรงงานเถื่อน

    ตอบลบ
  5. รวบหัวรวบหางเลยค่ะฟางโจวแต่งออกไม่ได้ก็แต่งเข้าซะเลย

    ตอบลบ
  6. รออีกเป็นอีก 400 กว่าตอน พระเอกนางเอกถึงแต่งงานกัน สู้ๆๆคะไรท์
    5555
    ขอบคุณที่แปลให้อ่านกันจร้าาา

    ตอบลบ
  7. สี่ร้อยกว่าตอน อีกราวๆ 1 ปีสินะ รอกันไปจ้า สู้ๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  8. ขอบคุณค่าไรท์....
    เราได้แรงงานชั้นยอดแล้ว555

    ตอบลบ
  9. ป้าสามตลกเนอะ ออกเพ้อนิดๆๆตลกล่ะ

    ตอบลบ
  10. เอ๋!? รึจากเมื่อก่อนความจำเสื่อมตอนนี้ความจำกับมา? แล้วแอบแฝงตัวเป็นแรงงานทาสให้นางเอก!?

    ตอบลบ
  11. ขอบคุณไรทเตอระนะค่ะมาส่องทุกวันรอทุกวัน

    ตอบลบ
  12. ขอบคุณมากค่ะ. มาส่องทุกวัน ป้าสามตลกดีอ่ะ อิอิ. มีผู้ชายในบ้านอะไรๆ ก็คงดีขึ้นนะ

    ตอบลบ
  13. พระเอกเท่มากๆ เลยค่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ รีบมาอัพไวๆ ด้วยค่ะ อยากอ่านต่อจะแย่แล้ว

    ตอบลบ
  14. ขอบคุณค่ะ ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่าน เริ่มอ่านใหม่ดีกว่า ^^

    ตอบลบ
  15. ขอบคุณค่ะ ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้ เงินทองไหลมาเทมาค่ะ

    ตอบลบ
  16. ท่านแม่ทัพอย่าลืมโกนหนวด!!!

    ตอบลบ
  17. ทำไมขำป้าสามนางหน้ามึนได้ใจเอ๊ะหรือหน้าทนดี

    ตอบลบ
  18. ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้มั่งมีศรีสุขสุขภาพแข็งแรง

    ตอบลบ
  19. ในที่สุดนางเอกก็ได้แรงงานเถื่อนมาไว้ในอุ้งมือ เหอๆๆๆ ขอบคุณคะ

    ตอบลบ
  20. ไม่ระบุชื่อ29 มกราคม 2560 เวลา 03:16

    รอพระสังข์ถอดรูปกันเมื่อไหร่ตะลึงกันเป็นแถว

    ตอบลบ
  21. ขอบคุณครับ

    ตอบลบ