วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 86 แผนลวง

                  เมื่อเหลียนฟางโจวกลับไปแล้ว หนิวชี่อดพูดขึ้นมาไม่ได้ “ข้าว่าเด็กสาวผู้นี้ไม่ใช่คนโง่หรอกนะ นางต้องมีของดีอุบไว้แน่  ไหนเลยจะเป็นฝ่ายจ่ายเงินจูงใจให้ชาวบ้านพวกนี้   ไม่รู้ว่าใครจะหลอกใครกันแน่   นี่หาใช่เรื่องเล็กๆไม่!  นางไม่กลัวว่าจะขาดทุนป่นปี้เอาเสียเลยถึงอย่างไร เรื่องนี้ย่อมดีกับเราแน่ ฮ่าฮ่าฮ่า ครอบครัวเราจะได้ผลักเมล็ดฝ้าย 40-50 ชั่งที่เป็นภาระอยู่ขายให้นางเสียเลย  ไม่เพียงปลดภาระที่ค้ำคอออก  ทั้งยังได้เงินจูงใจในส่วนของเราอีกหลายร้อยเฉียนด้วย!”
                  นัยน์ตาของจางลี่เจิ้งดิ่งลึก  ครุ่นคิดหนัก  “พวกเราแบ่งเมล็ดพันธุ์ขายไปเพียงครึ่งเดียวดีกว่า  แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งเก็บไว้  อืม..แล้วคอยดูเหตุการณ์ต่อไป!”

                  “จะดีหรือ?!” ท่านสามารถปลูกพืชที่ไร้อนาคตให้ดีได้หรือ!”  หนิวชี่ถลึงตาใส่สามี  ไม่เห็นด้วยทันใด 
                  คนทั้งคู่ล้งเล้งกันสักพัก   ลงท้ายสรุปว่าสองสามีภรรยาจะเก็บเมล็ดฝ้ายไว้ทดลองปลูกเพียง 2 ชั่ง  หลังจากต้นกล้าโตมากแล้ว  หนิวชี่จะไม่ยอมให้มันอยู่เป็นเสนียดสายตาอีกต่อไป  นางจะไปเรียกบุตรชายให้มากำจัดต้นกล้าพวกนี้ทิ้งเสีย   แล้วลงถั่วเหลืองทับไปใหม่                                            เมื่อออกมาจากบ้านจ้างลี่เจิ้ง  เหลียนฟางโจวรู้สึกตื่นเต้นดีใจนัก  สาวเท้าเดินอย่างกระฉับกระเฉง   ลมหนาวเอื่อยๆยามค่ำคืนพัดมาต้องกายให้รู้สึกหนาวลึกถึงขั้วกระดูก  แต่เธอหารู้สึกรู้สาอันใดไม่!
                 แค่เพียงคิดสารตะว่าจะวางแผนทำอะไรต่อไปบ้าง    ก็ไม่อาจสะกดกลั้นความอิ่มเอิบใจที่ล้นขึ้นมาได้แล้ว
                  โดยพื้นฐานแล้วเมล็ดพันธุ์น่าจะตกอยู่ในกำมือของเธอทั้งหมด   แต่ถึงอย่างไรคราแรกก็ต้องรอดูสถานการณ์ให้รอบเสียก่อน   ประเมินดูว่าจะมีโอกาสที่เมล็ดพันธุ์ไม่พอหรือไม่...สำหรับช่วงแรก..ก็จ้างคนงานสัก 2-3 คนไปก่อน   รอให้ถึงช่วงฉลองปีใหม่หลังเริ่มฤดูใบไม้ผลิ   แล้วค่อยซื้อข้าทาสที่ขยันขันแข็งและซื่อสัตย์มาช่วยงานตอนนั้น!
                  มิหนำซ้ำวงล้อที่ใช้สำหรับปั่นเส้นใยในยุคโบราณนี้   ไม่รู้ว่าจะแตกต่างจากวงล้อปั่นเส้นใยในยุคสมัยใหม่มากมายหรือไม่  ทั้งยังเครื่องมือแยกเมล็ดออกจากใยฝ้ายอีก     
                  เครื่องมือโบราณเหล่านี้เธอเคยเห็นมาในชาติภพที่แล้ว   เธอมักสงสัยใคร่รู้เสมอว่ามันใช้งานอย่างไร   ซ้ำเธอยังต้องมองหาช่างผู้ชำนาญ  ที่จะสามารถทำเครื่องมือพวกนี้ออกมาตามแบบที่เธอวาดให้ได้ !
                  เหลียนฟางโจวอดขอบคุณในความโชคดีไม่ได้   ขอบคุณชีวิตในชาติภพสมัยใหม่ที่เธอมักตระเวณไปในเขตชนบท เพื่อเก็บตัวอย่างพืชหลากหลายสายพันธุ์   พร้อมกับลุยงานวิจัยไปด้วย  โดยนิสัยเธอแล้ว...มักสนอกสนใจในเครื่องมือเกษตรโบราณหายากที่แทบจะสาบสูญไปแล้ว  รวมไปถึงกรรมวิธีที่คนโบราณเขาใช้ด้วย  เมื่อใดได้พบเห็น  เป็นต้องซักถามล้วงลึกไม่หยุด   ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า  ในยามนี้เธอจะได้ใช้ความรู้เหล่านี้ให้เป็นประโยชน์แล้ว!
                  หลังจากวาดฝันว่าในปีหน้า  ฝ้ายจะชนพืชผลอื่นๆให้กระเด็นกระดอนไปไกล  และนำกำไรมหาศาลมาให้  ความอิ่มเอิบปลาบปลื้มใจฉาบฉายชัดบนใบหน้าเหลียนฟางโจวขึ้นเรื่อยๆ
                  “ฟางโจว นั่นเจ้ารึ!”  จู่ๆก็มีเสียงของสตรีวัยกลางคนโพล่งขึ้นทันใด  เหลียนฟางโจวถึงกับสะดุ้งตกใจ   ส่งผลให้อารมณ์อันชื่นมื่นของเธอมลายหายวับไปสิ้น
                  เพราะว่าคนที่เรียกให้เธอหยุดคือฮูหยินเฉียวนั่นเอง
                  “ป้าใหญ่หรือ  มีเรื่องอันใดรึ?”  เหลียนฟางโจวถามเสียงเบา
                  ถ้าให้เธอเดา  นางคงจะรู้แล้วว่าว่าเธอเพิ่งไปยืมเงินมาใช่ไหมเลยคิดแผนการอะไรหรือเปล่าโอ หากหนิวชี่รู้เรื่องแล้ว  จะพ้นหูพ้นตาป้าใหญ่ไปได้หรือ?  ป้าสามนั่นก็อีกคนปากไวนัก   แถมชอบขี้โม้เกินจริงด้วย !
                  “เอ่อ..คือว่า..ข้ามีเรื่องขอคุยด้วยนิดหน่อย!”  ป้าเฉียวส่งยิ้ม “ที่นี่อากาศหนาวเกินไป  ไปเถิด ไปที่บ้านลุงเจ้ากันข้าและลุงมีอะไรจะคุยกับเจ้าสักสองสามประโยค!”
                  “ป้าใหญ่มีอะไรก็คุยกับข้าตรงนี้แหละยามนี้ดึกมากแล้ว  ข้าต้องรีบกลับบ้าน!”  เหลียนฟางโจวเอ่ย
                 “โถหลานรัก...ไยเจ้าถึงทำตัวหมางเมินกับป้าใหญ่นักเล่าแค่เดินไปบ้านลุงเจ้า  จะสักเดินกี่ก้าวกันเชียววางใจเถิดน่า  มีแค่ไม่กี่เรื่องเอง   เช่นนั้น..พวกเราก็คุยกันไป เดินกันไปก็แล้วกัน   ไม่เสียเวลาเท่าไรหรอกน่ามีอะไรหรือเปล่าหรือกลัวว่าป้าใหญ่จะกินเจ้าหรือไร? ฮูหยินเฉียวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
                  เหลียนฟางโจวปรายตามองฮูหยินเฉียว  คิดว่าวันนี้ท่าทางของนางดูใจดีแปลกๆ!
                  เธอไม่อาจหลบเลี่ยงได้  จึงโดนฮูหยินเฉียวดึงตัวไป  หญิงสาวตั้งใจไว้แล้วว่า  ไม่ว่าอย่างไร หากนางต้องการต้อนเธอเพื่อขอเงิน  หัวเด็ดตีนขาด...เธอก็จะไม่ยอมหยิบยื่นให้!
                  “ฟางโจว  เจ้าระวังเท้าด้วยตรงนี้มันมืดมาก  ประเดี๋ยวจะสะดุดหกล้มเอา....”
                  เมื่อเข้าไปในลานบ้านของลุงแล้ว  ฮูหยินเฉียวเดินมาทางด้านหลังเด็กสาวแล้วทักเธอ ให้ระวังสะดุดพื้น
                  เหลียนฟางโจวย่อมก้มลงมองพื้นโดยไม่รู้ตัว  เพียงเท่านั้นท้ายทอยเธอก็โดนของแข็งฟาดหนักๆทันที   ร่างเด็กสาวสะดุ้งเฮือก  ในเสี้ยวนาทีสุดท้ายเธอเห็นภาพฮูหยินเฉียวมองมาด้วยสายตามุ่งร้าย  หญิงสาวตัวอ่อนยวบ  สติทั้งหมดดับวูบล้มพับลงไปทันที
                  “นังเด็กน่าตาย  หากจะโทษอะไร  ก็โทษปากอันสามหาวของเจ้า!  โทษที่เจ้าร้ายกาจเถิด!  แล้วลองลิ้มรสชาติความร้ายกาจของอีแก่ผู้นี้มั่ง ฮึ่ม!”  ฮูหยินเฉียวเหวี่ยงท่อนไม้ในมือทิ้งไป  ลูบมือลูบไม้เพื่อรอสงบจิตสงบใจให้เย็นลงก่อน  แล้วจึงคลี่ยิ้มเย็นชา
                  ยามนี้ มีคนสองคนก้าวช้าๆออกมาทางด้านข้างกองฟืน  มองดูจากรูปร่างแล้วเป็นหญิงสาวที่ออกเรือนแล้ว และสาวรับใช้ที่ติดตามมาด้วย
                  “คนนี้น่ะหรือจะไม่มีปัญหาภายหลังแน่นะ?” หญิงสาวที่แต่งงานแล้วเอ่ยออกมาด้วยเสียงต่ำเบา
                  “วางใจเถิด!” ฮูหยินเฉียวหัวเราะเบาๆ  พูดเสียงฉะฉาน “ข้าเป็นป้าแท้ๆของนาง  เรื่องนี้ข้าย่อมมีสิทธิ์ทำได้อะแฮ่ม  หากจะพูดอีกครั้ง  เรื่องนี้นับว่าเป็นความสุขในชีวิตของนาง  นางจะได้มีกินมีใช้   มีทองหยองใส่ไม่ดีหรือไรนางผู้นี้ดีเกินพอเลยล่ะ  ขลุกอยู่กับท้องไร่ท้องนาแข็งแรงกว่าหญิงทั่วไปหากนางฟื้นขึ้นมา แล้วรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว  นางต้องขอบใจข้าแน่!”
                  พอกล่าวจบคนทั้งสองต่างมองหน้ากัน  ค้อมศีรษะให้กันเล็กน้อยพลางแย้มยิ้ม
                  แล้วนางจะยิ่งพูดง่ายขึ้น  เมื่อนางฟื้นขึ้นมาแล้ว พบว่าท่อนไม้ได้กลายเป็นเรือ  และข้าวสารได้กลายเป็นข้าวสุกไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า !
                  หญิงสาวผู้นี้คืออนุภรรยาของลี่หวางจี้เจ้าของร้านขายผ้าไหมในเมือง  มีชื่อว่าหัวจินเต๋า
                  หัวจินเต๋าผู้นี้มาร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของหยางวายชานและหัวเสี่ยวฮวาในฐานะญาติผู้พี่ฝ่ายหญิง
                  ฮูหยินเฉียวเห็นว่าหัวจินเต๋าแต่งกายงดงาม  สวมใส่เครื่องประดับทองและเงิน  แต่งหน้าทาชาดแลดูมีอำนาจวาสนา  กำไลทองที่สวมใส่ทั้งวงใหญ่และหนาส่องประกายแวววาว  แถมมีสาวใช้คอยรับใช้อยู่ข้างกาย   เมื่อนางได้มีโอกาสพบปะกับอีกฝ่ายในสถานที่จัดงานในวันนั้น  จึงเกิดความปรารถนาอยากมีของแต่งตัวอย่างหัวจินเต๋าบ้าง
                  ใจนางพลันวูบไหว  ปีศาจในจิตใจสั่งให้นางกล้ากระทำชั่ว   นางจึงไปหาหัวจินเต๋าโดยแสร้งทำทีว่าเดินไปเจออีกฝ่ายเข้าโดยบังเอิญ   จึงแสร้งทำทีหลุดปากถามหัวจินเต๋าโดยไม่ได้ตั้งใจว่า  มีคุณชายในเมืองสนใจจะรับอนุภรรยาอายุน้อยเพิ่มหรือไม่?  ซ้ำยังบอกว่าจะได้แนะนำให้เหลียนฟางโจว               
                  หัวจินเต๋าพลันฉุกคิด  ที่บ้านสามีนางคบหากับสหายคู่ค้าผู้ทรงเกียรติท่านหนึ่ง   เมื่อสองวันก่อน ตอนค่ำทั้งสองได้นั่งดื่มสุราสังสรรค์กัน  นายท่านผู้นั้นเปรยว่าช่วงนี้ชีวิตช่างน่าเบื่อนัก   อยากสรรหาอะไรมาทำให้กระปรี้กระเปร่าหายเซื่องซึม  แถมหยอดเพิ่มอีกว่า...หากได้เด็กสาวชาวนาแท้ๆที่น่ารักบอบบางมาเชยชม   คงกระชุ่มกระชวยดังได้ดื่มน้ำทิพย์   ที่นางช่วยทำเรื่องหยอกเย้าในวงสุราให้เป็นจริงนี้  ก็ไม่ใช่เพื่ออะไรนอกจากช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้าของสามีให้แน่นแฟ้นขึ้นเท่านั้น ?
                  เหลียนฟางโจวสาวน้อยผู้นี้ หากโตขึ้นคงงามน่าดู  ใบหน้าเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม เครื่องหน้าโดดเด่น  มีใบหน้าผุดผาดงดงาม  ผิวพรรณรึก็ขาวกระจ่างใสนัก  และที่สำคัญคือนางจะให้รสชาติของสาวชาวนาขนานแท้แน่นอน !
                  มิหนำซ้ำ นางยังกำพร้าบิดามารดา   ถูกคนสกุลของสามีของญาติสาวผู้นั้นถอนหมั้น   ชื่อเสียงย่อมเสียไปแล้ว  สำหรับเรื่องนี้..ป้าใหญ่คือญาติผู้ใหญ่ของเด็กสาวที่มีสิทธิ์เลือกคู่ครองให้นางได้   เรื่องช่างลงตัวยิ่งนัก  แม้ว่าภายภาคหน้า  หากเรื่องเกิดแดงขึ้นมา  ก็คงไม่สามารถสาวมาถึงตัวนางได้แน่!
                  เด็กสาวอยู่คนเดียวตามลำพังแบบนี้   ไหนเลยจะมีใครเข้ามาช่วยเหลือนางได้!
                  เรื่องช่างง่ายดาย  ราวปอกกล้วยเข้าปากนัก หัวจินเต๋าลอบยินดีเงียบๆ
                  อย่างไรก็ดี  นางอาศัยอยู่ในเมืองมามากกว่าปีหนึ่ง  ได้เรียนรู้ดูสีหน้าคนมามากมาย  หลายพันแบบ  สามารถดูสีหน้าคนเป็น  นางปั้นหน้าแนบเนียน  ไม่เผยร่องรอยความรู้สึกที่แท้จริงใดๆออกมา  ทำเป็นไม่กระตือรือร้นนัก   ปลุกปั่นให้ฮูหยินเฉียวกระสับกระส่าย  เกิดความละโมบอยากได้เงินขนาดหนัก
                  ในที่สุด พวกเขาทั้งสองย่อมตกลงกันได้เป็นธรรมดา  มิหนำซ้ำหัวจินเต๋ายังเป็นฝ่ายกดราคาต่ำไปเรื่อยๆ  จนเหลือเพียง 5 ตำลึง!
                  หัวจินเต๋าลอบยินดีเงียบๆ  เงินเพียงแค่ 5 ตำลึง  สามารถซื้อสาวน้อยที่งดงามได้ปานนี้   นายท่านสามีนางจะต้องชื่นชมนาง ส่วนนังแก่ไฉฝางผู้นั้นคงได้หน้าซีดเป็นไก่ต้มเป็นแน่!
                  สำหรับเหลียนฟางโจวนั้น  ถึงเด็กสาวจะไม่เต็มใจ  นางกับฮูหยินเฉียวเห็นตรงกันว่า  เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาใดๆ!
                  ผู้หญิงเรานั้น ต่อให้เก่งกาจเพียงใด  หากร่างกายถูกบุรุษย่ำยี่ไปแล้ว  ก็ย่อมต้องยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี!   ใต้หล้านี้ไหนเลยจะมีสตรีที่บริสุทธิ์ไร้มลทิลอยู่มากมายนักเล่า ?
      -----------------------------------------------------------------------------
    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามนะคะ  และขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องภาษาด้วยค่ะ  รีดจะเอาไปปรับปรุงให้นะคะ
     เอาล่ะสิ  นางเอกนักวิจัยของเรา ผู้คิดโครงการยิ่งใหญ่สะท้านฟ้า  ช่างโชคร้าย ดันมาเจอพวกผู้หญิงเห็นแก่เงิน  คิดแต่เรื่องบัดซบเสียแล้ว !

     เห็นมีรีดบางท่านบ่นมาว่า นิยายตอนเยอะมาก เป็นพันเกือบสองพันตอน  ผู้แปลจะแปลไหวไหม ก็บอกได้เพียงว่า ถ้ายังมีผู้แปล และมีผู้อ่านอยู่ ก็จะแปลต่อไปเรื่อยๆ  อย่างน้อยจะพยายามให้ถึงตอนนางเอกแต่งงานกับพระเอกค่ะ  ^-^


24 ความคิดเห็น:

  1. เกลียดยัยป้านี่จริง นางเอกรอดครั้งนี้ เสให้ตายเลย

    ตอบลบ
  2. เกลียดยัยป้านี่จริง นางเอกรอดครั้งนี้ เสให้ตายเลย

    ตอบลบ
  3. เลวอ่านไปแล้วโมโหอ่ะมีญาติเลวแบบนี้ต้องจัดการให้ตายเอาให้โผล่มาทำความชั่วไม่ได้อีก

    ตอบลบ
  4. เกลียดสองคนนี้อ่ะ โดยเฉพาะยายป้านั่น ฮึ่ย เกลียดๆๆๆๆ
    ผู้แปลรีบพาพระเอกมาช่วยเร็วค่า ไวๆ เลยนะคะ

    ตอบลบ
  5. โอ๊ยยยยยยยยยอิป้าทำไมเป็นคนแบบนี้ อ่านตอนที่ผ่านๆมาก็ว่าเลวแล้วนะ มาเจอตอนนี้นี่เลวมากกก

    ตอบลบ
  6. พระเอกก็มีเดี๋ยวได้โดนผ่ามือ แหง่มๆ

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ9 พฤษภาคม 2560 เวลา 19:44

    ไรท์จ๋า รบกวนแปลจริงจังได้ไหมค่ะ วันละ5-10ได้ไหม(โลภมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก)
    คือมันมีเป็นพันเกือนสองพันตอนงี้ กว่าจะอ่านจบรีดกลัวจะตายซะก่อน ขี้เกียจเป็นภาระลูกหลาน
    ได้โปรดเถอะ ขอร้องงงงงงงงงงงงงงง ไปดำน้ำจีนไม่ไหวจริงๆ ถ้ามีเว็บอิงจะดีมากกกกกกกกกกกกกกกก
    พลีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส มันมีเป็นพันกว่าตอนรอไม่ไหวจริงๆกว่าจะได้เอากันก็ตอนที่ห้าร้อยกว่าอีกโอ้วววววววววววววววววววววววววววแม่สาวน้อยอะไรจะขนาดนี้มันช่างยาวววนานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ9 พฤษภาคม 2560 เวลา 19:55

    เราจะอยู่เคียงข้างกัน(ผู้อ่านและผู้แปล)

    ตอบลบ
  9. นั่งมนุษย์ป้าาาาา

    ตอบลบ
  10. พระเอกอยู่ไหนรีบมาช่วยให้ไวๆเลย

    ตอบลบ
  11. พระเอกอยู่ไหนรีบมาช่วยให้ไวๆเลย

    ตอบลบ
  12. เฮ้ย แล้วคนที่ไปด้วยกันไปไหนแล้ว
    ป้านี่ น่ารังเกียจจริง ตัวเองก็เป็นคนเหมือนกันแท้ๆ ไม่คิดกลับบ้างเลย เกลียดป้า

    ตอบลบ
  13. ขออนุญาตนิดนึงนะคะ โกรธมาก อินมาก..
    อะไรวะเนี่ยยย อีป้า!! ทำไมทำงี้อ่ะ นี่หลานป่ะ ถึงไม่มองว่าเป็นหลานก็ไม่ควรมาขายคนแบบนี้ป่ะจ๊ะ ไม่คิดบ้างเลยว่าถ้าตัวเองโดนหลอกขายบ้างจะเป็นยังไง โลภมาแต่ต้นย้งไงก็โลภอย่างนั้น น่ารังเกียจที่สุด ขอทีเถ้อออ ป้าเนี่ย ญาติก็ญาติเถอะค่ะ มาทำกับเราแบบนี้ ไม่ยอมอ่ะ ไม่มีทาง55555 ขอให้นางได้รับผลที่ทำไว้กับคนอื่น ทำคนอื่นลำบากทุกข์ยากไม่คิดถึงจิตใจเขาเท่าไหร่ก็รับผลไปสามเท่าสี่เท่าเลย! (พยายามซอฟท์มากๆเลยค่ะ อยากบ่นมากกว่านี้แต่เกรงใจ ฮาา)
    >>รีดจะอยู่กับผู้แปลตลอดแน่นอนค่ะ รออ่านหลายๆอย่างเลยทั้งชีวิตนางเอกกับครอบครัว(สนใจน้องฉิงมากก อยากรู้เหตุการณ์ตอนที่เจอกับฮ่องเต้จังง) ชีวิตคนอื่น(ป้าเป็นต้น) แล้วก็พัฒนาการของตัวละครด้วยค่ะ จะอ่านไปนานๆเลย ขอบคุณผู้แปลมากนะคะที่อุตส่าห์แปลมาให้อ่านกัน ^^ อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ

    ตอบลบ
  14. อยากจะด่าป้าเป็นภาษา dgjkuffcnmf ถ้ารอดเมื่อไร จะทำให้อยู่หมู่บ้านนี้ไม่ได้เลย จะให้ดีจะหักแข้งหักขาให้ตากลมหนาวหน้าบ้าน คิดแล้วแค้นจริงๆ
    ขอบคุณผู้แปล เราจะอยู่ไปด้วยกันค่ะ

    ตอบลบ
  15. อ้ายย๊ะน้องฟางโจว แล้วใครจะมาช่วยละนี่ มาต่อเร็วๆน่ะคะ มีลุ้นแบบเป็นตายด้วยเรอะ สงสารน้องโจวมีญาติแบบนี้

    ตอบลบ
  16. ยัยป้านี่เลวมาก!!!!!!

    ตอบลบ
  17. อยากชาบูคำด่าให้อิป้านี่จริงๆ แม่มเห็นแก้ตัวชิบ

    ตอบลบ
  18. อยากให้อิป้าตายไวไว '0'//ทำหน้าใสไร้เดียวสา :-)

    ตอบลบ
  19. เลวมาก น่าโมโห ตัดญาติกันไปเลยดีกว่า

    ตอบลบ
  20. ขอบคุณผู้แปลค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้แปลจนจบเรื่องนะค่ะถ้าเป็นไปได้

    ตอบลบ
  21. กรี๊ดดดดด นังป้าใหญ่ ให้แม่ทัพฟันหัวขาดเลยดีมั๊ย

    ตอบลบ
  22. หืม อิป้าาาา ชั่วไม่เลิก

    ตอบลบ