วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

จับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 92 ช่วยคน(3)

                  หัวจินเต๋ารู้สึกเจ็บแปล๊บที่คอ    ทั้งรู้สึกถึงความเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง   ความคมทำให้นางรู้สึกราวกับมีอะไรซึมออกมาทางผิวหนัง   พาให้ร่างกายสั่นสะท้านอย่างช่วยไม่ได้
                  แข้งขานางอ่อนยวบ  ใบหน้าซีดขาว  ร้องเรียกให้หวางจี้ช่วยมิได้หยุด  “นายท่าน  ช่วยข้าน้อยด้วย  ช่วยข้าด้วย!”
                  “หุบปากเดี๋ยวนี้!” เหลียนฟางโจวถลึงตาใส่นาง  แล้วตวาดเสียงเฉียบขาด  “ทางที่ดีอย่าได้เล่นตุกติกเป็นอันขาดหากไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ตาย  ก็รีบถอยออกไปเสียดีๆ!”

                  หัวจินเต๋าปากคอสั่น  สีหน้าตื่นกลัวมากขึ้น   ไม่กล้าร้องออกมาซักแอะ
                  หวางจี้หรี่ตาลง   มองประเมินเหลียนฟางโจวด้วยความสนใจ   ยาโถวผู้นี้ช่างดุดันไม่เลว!   มิหนำซ้ำพอตื่นขึ้นมาแล้ว   ยิ่งดูงามจับตา   โดยเฉพาะดวงตาวาววับคู่นั้น  ช่างดูเย้ายวนใจนัก 
                  เหลียนฟางโจวเห็นนายท่านหวาง  นิ่งเฉยไม่ตื่นตกใจแม้นิด   พาให้ใจเธอหนักอึ้ง   คล้ายว่าเขาไม่สนความเป็นความตายของอนุภรรยาผู้นี้เลย!  ช่างน่ารังเกียจแท้ !
                  หากจริงอย่างที่คาด  แม้ว่าหญิงสาวจะมีตัวประกันอยู่ในกำมือ  บางทีเธออาจไม่สามารถหนีออกจากประตูคฤหาสน์ได้  ลำพังยามนี้ฟ้ายังไม่สาง  ตัวเธอเองจะถ่วงเวลาขู่คนร้ายกาจผู้นี้ไปได้อีกนานเท่าใด?
                  ยิ่งปล่อยเวลาให้ทอดนานไปเท่าใด   เธอคงไม่มีเวลาได้พักหายใจเป็นแน่  มีแต่จะตกเป็นรองฝ่ายตรงข้ามเพียงนั้น   หากพลาดท่าคราวนี้   เธอคงหมดโอกาสยืนหยัดอีกครา
                  แม้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใด   ทว่าเหลียนฟางโจวยังอยากจะลองเสี่ยงดูสักตั้ง ฉวยโอกาสยามนี้ทุ่มเทแรงใจและกาย  เอาชีวิตเป็นเดิมพัน!
                  “ไม่กลัวว่าข้าจะสังหารนางหรือไร   หลีกทางให้ข้าเดี๋ยวนี้!”  เหลียนฟางโจวจ้องหน้าหวางจี้เขม็ง  ตวาดเสียงลั่น   
                  นายท่านหวางจี้จู่จู่ก็หัวเราะ “ฮ่าฮ่า”  ออกมา  ซ้ำยังยืนนิ่งไม่ขยับตัวใดๆ
                  มือของเหลียนฟางโจวที่กำปิ่นทองจึงออกแรงกดมากขึ้น  จนหัวจินเต๋าเจ็บแปลบที่คอ   รู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆไหลรินออกมาจากผิวหนังช้าๆ  เลือดอุ่นๆนั่นเอง
                  หัวจินเต๋ากรีดร้องเสียงหลง  “กรี๊ด...นายท่านช่วยข้าด้วยนายท่านโปรดช่วยข้าน้อยด้วย!”
                  บ่าวเด็กชายและบ่าวหญิงชราล้วนหน้าซีดเป็นไก่ต้ม   ยืนบื้อใบ้อยู่กับที่   แล้วค่อยๆทรุดลงไปกองกับพื้น
                  หวางจี้เหลือบไปเห็นหัวจินเต๋า  อนุภรรยาที่เขาโปรดปราน  ได้รับบาดเจ็บ  ก็มิอาจเยือกเย็นได้อีกต่อไป   จำต้องปล่อยให้หญิงทั้งสองฝ่าออกไปทางด้านข้าง   ทั้งยังสั่งบ่าวทั้งสองให้หลีกทางด้วย   แต่ก็มิวายเอ่ยกับเหลียนฟางโจวด้วยสีหน้าแย้มยิ้ม  “แม่นาง  จะฝ่าออกไปโจ่งแจ้งอย่างนี้หรือ!  เจ้าคิดว่าจะมีปัญญาหนีออกไปทางประตูหน้าคฤหาสน์ของข้าหวางจี้ได้หรือไรเชื่อข้าเถิด  วางปิ่นลงเสีย  เรื่องที่แล้วมา ข้านายท่านจะไม่เอาเรื่องเจ้า มาหาความสุขให้ชีวิตกันดีกว่า  จากนี้ไปเจ้าจะมีชื่อเสียง  เงินทองไหลมาเทมา  จะมีบ่าวไพร่คอยรับใช้ไม่ขาด   ช่างเป็นชีวิตที่สุขสบาย  เทียบไม่ได้กับชีวิตบ้านนอกที่แร้นแค้นเลยใช่ไหมเล่า?”
                  หวางจี้รู้สึกคันยุบยิบในหัวใจเล็กน้อย  ยามนี้เขาชักสงสัยแล้วว่าจะส่งตัวยาโถวผู้นี้ให้ท่านเสี่ยว  หรือว่าเขาจะเก็บเอาไว้เองดีพอคิดดูแล้ว   เขาตัดใจจากสมบัติชิ้นนี้เสียดีกว่า  ถึงอย่างไรผู้หญิงคนเดียวก็มิอาจสู้เงินทองจากผลกำไรก้อนใหญ่ได้!
                  เหลียนฟางโจวแค่นเสียงออกมา   ยังคงเดินหน้าจับตัวหัวจินเต๋าเป็นตัวประกันต่อไป   ค่อยๆพาตัวประกันก้าวเดินไปยังทิศของประตูห้อง  อย่างระแวดระวังทีละก้าวๆ  พอเห็นทุกคนเริ่มคลายความตื่นเต้นลงบ้างแล้ว  จึงเอ่ยว่า “ถ้าจะให้ดีนะ   อย่าได้เล่นตุกติกกับข้ามิฉะนั้น  หากมือข้าสั่นขึ้นมา   ไม่รู้ว่าจะพลาดพลั้งไปโดนอะไรเข้า !”
                  “ไม่ได้นะไม่ได้นะเจ้าอย่าให้มือสั่นนะอย่านะ!”  ใบหน้าของหัวจินเต๋าซีดขาวราวกระดาษ  รีบละล่ำละลักออกมา
                  เรื่องช่วยเหลือนายท่านเอาอกเอาใจแขกผู้ทรงเกียรตินั้น  นับเป็นสิ่งสำคัญ   แต่ถึงอย่างไรชีวิตของตนเองนั้น  ย่อมสำคัญยิ่งกว่า!
                  เหลียนฟางโจวลากตัวหัวจินเต๋า   ผ่านประตูห้องทีละก้าวๆ  แค่ชั่วระยะเดินเพียง 20-30 ก้าว  ก็แทบจะสูบเอาเรี่ยวแรงเธอไปหมด  เส้นประสาทเครียดเขม็ง  แผ่นหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ  ส่วนแขนก็เกร็งจนร้าวไปทั้งแขน
                  นี่คือการจับคนเป็นตัวประกัน   ซ้ำยังมาก่อการในถิ่นของศัตรู   เอาเข้าจริงช่างไม่ง่ายเลย!
                  “ประตูหน้าไปทางไหน?  นำทางข้าเร็ว !”   เหลียนฟางโจวกำปิ่นทองกดลงไปมากขึ้น  ตะคอกเสียงเฉียบขาด  “ห้ามโกหก   ห้ามเล่นลูกไม้กับข้า!”
                  “ไม่กล้าไม่กล้า!” หัวจินเต๋าเสียงสั่น  แล้วพาเหลียนฟางโจวเดินออกมาทีละก้าวๆ 
                  หวางจี้ตามออกมาด้วย  พร้อมกับบ่าวรับใช้ชายและหญิง  เดินตามเหลียนฟางโจวมาห่างๆ
                  เหลียนฟางโจวขมวดคิ้วมุ่น  ร้องตะโกนเสียงดังก้อง  “หยุดนะห้ามตามข้ามา!”
                  หวางจี้ผู้นี้หาได้ฟังคำของหญิงสาวไม่  ยังคงเยือกเย็น  ท่าทางเรียบเรื่อยสบายๆ  แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้ามิทำอันใดแน่   หากเจ้าไม่ทำให้อนุภรรยาข้าบาดเจ็บขึ้นมา  แม่นาง  เจ้าจะดิ้นรนไปไย   ข้าไม่บังคับเจ้าหรอกน่า   เจ้าปล่อยอนุภรรยาข้าก่อนสิ   แล้วข้าจะพาเจ้าออกไปเอง !”
                  เหลียนฟางโจวหาได้เชื่อถ้อยคำที่เขาพ่นออกมาไม่   ได้แต่ปรายตามอง  ไม่เอื้อนเอ่ยอะไรออกมา    เขายืนกรานจะตามมาเสียอย่าง   เธอจะทำอะไรได้
                  เริ่มมีหลายคนจากด้านนอกล้อมกรอบเข้ามาทีละนิดๆ   ทั้งหลังพุ่มไม้  หลังต้นไม้  และหลังก้อนหิน   นัยน์ตาหัวจินเต๋ากวาดไปมารอบๆ   แล้วจู่ๆก็กรีดร้องออกมาเสียงหลง  “หนู! มีหนูอยู่ที่นี่ !”
                  จิตใจของเหลียนฟางโจวนั้นเครียดขมึงมาตลอด   เหลือเรี่ยวแรงเพียงน้อยนิด  จู่ๆหัวจินเต๋าก็ส่งเสียงร้องแสบแก้วหู   เหลียนฟางโจวถึงกับสะดุ้งโหยง   เผลอปล่อยหัวจินเต๋าหลุดมือไป   อนุภรรยาคนงามรีบวิ่งหนีออกไปอีกด้าน  วิ่งไปพลางก็กรีดร้องไปพลาง  “จับนางไว้จับนางปีศาจเอาไว้!” 
                  บ่าวเด็กชายและบ่าวหญิงชราวิ่งเข้าไปหมายตะครุบตัวเหลียนฟางโจวทันใด  พร้อมกับร้องตะโกนออกมาด้วย “ทุกคนรีบมาเร็ว  รีบมาเร็วเข้ามาจับขโมย  ช่วยกันจับขโมยเร็วเข้า!”
                  นายท่านหวางยืนหัวร่อร่าอย่างชอบใจ
                  เหลียนฟางโจวกระทืบเท้า  ตัดสินใจฉับพลัน  จำต้องเลือกแล้ว  เธอเล็งช่องทางที่หมายตาเอาไว้  แล้วพุ่งฝ่าไปทันที
                  บ่าวเด็กชายและบ่าวหญิงชราต่างวิ่งไล่ตามโดยไม่ลดละ  เพียงไม่นาน   ก็มีบ่าวหญิงวัยดึกอีก  2-3 คนที่มีเวรกลางคืน  เข้ามาร่วมวงด้วย  รวมไปถึงนายท่านหวางและหัวจินเต๋าที่วิ่งตามหลัง
                  ดีที่ว่านี่คือสวนด้านหลังคฤหาสน์    จึงไม่มีบ่าวรับใช้ชายล่วงล้ำเข้ามา  มิเช่นนั้น เหลียนฟางโจวคงไม่อาจวิ่งได้ไกลมาก  แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังไม่อาจวางใจได้อยู่ดี
                  แต่พอวิ่งมาเรื่อยๆ  เหลียนฟางโจวจึงเพิ่งสังเกตุทิวทัศน์รอบตัว  ถึงกับลอบโอดครวญในใจ  ตายละวา...เธอวิ่งมาจนถึงบริเวณท้ายสวนแล้ว!
                  เบื้องหน้าคือสระน้ำ ขนาดเนื้อที่2มู่(333 ตรว.)  ริมฝั่งมีสะพานไม้ทอดยาวคดเคี้ยวยื่นไปในน้ำเชื่อมกับศาลาริมน้ำเล็กๆ

                  ในไม่ช้าหญิงสาวก็เห็นคนด้านหลังวิ่งไล่ตามมาติดๆ   ส่วนด้านหน้าก็มีบางคนเข้ามาดักหน้าแล้ว   คนเหล่านั้นจวนจะล้อมเธอเอาไว้หมดแล้ว  ยกเว้นทางไปศาลาริมน้ำ  เธอไม่เหลือเส้นทางหนีอีกแล้ว  จำต้องวิ่งไปที่นั่น !
                  เหลียนฟางโจวจิตใจเย็นยะเยือก  ไม่ต้องบอกก็รู้   วันนี้คงถึงคราวตายของเธอเสียแล้ว!
                  สัญชาติญาณเอาชีวิตรอด  สั่งให้เธอรีบวิ่งไปยังศาลาริมน้ำนั้น   หากยังไม่ถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต  เธอจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
                  จนถึงบัดนี้  เหลียนฟางโจวรู้ดีว่าเรี่ยวแรงตน  เหลือน้อยเต็มทีแล้วจำต้องยอมรับชะตากรรมแล้วว่า ทั้งพรสวรรค์  ทั้งประสบการณ์ในชาติภพที่ผ่านมา  ไม่ว่าใครจะเรียกว่าอะไรก็ตาม  เธอคงไม่ได้มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์เสียแล้ว   ฟ้าดินช่างไม่เมตตาเธอเลย!
                  สระน้ำนี้ไม่ลึกนัก  ถึงเธอจะกระโดดลงไป  พวกเขาก็คงลากตัวเธอขึ้นมาได้อยู่ดี!  หากตกลงไปในกำมือคนพวกนั้นอีก  พรุ่งนี้เธอคงต้องออกจากเมืองยู่เหอ!  หลังจากออกไปแล้ว  เด็กสาวตัวเล็กๆอย่างเธอ  ที่พลัดหลงมาในยุคสมัยโบราณนี้   คงยากจะกลับมาอีก  คงจะลำบากยากเข็ญ   พอๆกับการหาทางขึ้นไปบนสวรรค์นั่นเทียว!
                  เหลียนฟางโจวทั้งหดหู่สิ้นหวัง  ทั้งโกรธแค้นนัก  นังเฉียว!
                  หญิงสาวสาบานกับตนเอง  หากวันนี้เธอรอดไปได้  เธอจะไม่ปล่อยฮูหยินเฉียวเอาไว้แน่ ไม่เด็ดขาด!
                  “ทุกคนอยู่เฉยๆ”  นายท่านหวางเห็นเหลียงฟางโจววิ่งไปยังศาลานั้น   พลันยินดีปรีดายิ่ง  นี่มันเท่ากับจับเต่าลงตุ่มเลยนะ  ถึงนางมีปีกก็หนีไม่พ้นดังนั้น เขาจึงเปิดปากช้าๆ  ตะโกนสั่งให้สาวใช้ทั้งหลายๆที่กำลังวิ่งไล่ตามหยุดเท้า
                  หัวจินเต๋ายามนี้ปวดแสบบริเวณคอดังไฟลน  เอ่ยด้วยความคลั่งแค้น “นายท่าน  จะคอยอะไรอยู่เล่า !  .ให้ใครจับนางหญิงชั้นต่ำนี่เร็วเข้า ! ข้าอยากจะดูนักว่า  นางยังจะสามารถแผลงฤทธิ์เดชอันใดได้อีก !”
  ---------------------------------------------------------------------------------------
  ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ และการติดตามค่ะ

  -ต้องขออภัยที่อัพช้า  และไรท์แจ้งผิดไปด้วยค่ะ พระเอกยังไม่โผล่ตอนนี้  แต่ตอนหน้าโผล่แน่นอน  ให้นางเอกวิ่งออกกำลังไปก่อนนะคะ
  -มีรีดบางท่านสอบถามมา เรื่องความทรงจำท่านแม่ทัพ  ,ความทรงจำท่านแม่ทัพจะกลับคืนมาหลังแต่งงานไปแล้วพักใหญ่ค่ะ
  




21 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากนะคะ ที่แปลให้อ่าน

    ตอบลบ
  2. ชีวิตนางเอก "วิ่ง สู้ ฟัด"

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณค่ะไรท์///พระเอกเราไปหลบอยู่ตรงไหนฟางโจวแย่แล้วนะ

    ตอบลบ
  4. เกลียดอีพวกนี้จริง

    ตอบลบ
  5. โอ้ย ลุ้นมาก ท่านแม่ทัพเมื่อไหร่จะมาอ่ะ

    ตอบลบ
  6. เกลียดอ่ะ จิตใจต่ำทั้งบ้าน เกลียดๆๆๆๆ โมโหแทนฟางโจวเลยค่ะ รอดไปได้นี่อย่าปล่อยให้เหลือรอดนะคะ จัดการคิดบัญชีให้หมด

    ตอบลบ
  7. คนชั่วครองเมือง
    รอดไปได้ไปเอาเลือดอีลุงกับป้าสะไภ้มาล้างซวยเถอะ

    ตอบลบ
  8. ส่งเสริมให้นางแก้แค้นฮูหยินเฉียวให้ต้องทุกข์ทรมานกับการกระทำของคน เรื่องดีๆคิดไม่เป็น

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณค่ะ ตามมมเอาใจช่วยนางเอกต่อไว ๆ นะคะ

    ตอบลบ
  10. กดดันมากกกกกกก สู้ ๆๆๆๆ นะนางเอก
    ขอบคุณผู้แปลมากนะคะ

    ตอบลบ
  11. น่าจะแทงอนุนั่นซักสองรูจริงๆ

    ตอบลบ
  12. ท่านแม่ทัพพพ มาเร็วๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  13. สงสัยอาเจี่ยนแต่งกะนางเอกลบข่าวฉาวแน่เลย

    ตอบลบ
  14. ขอบคุณมั๊กมากค่ะ

    ตอบลบ
  15. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  16. เจ้าชายขี่ม้าขาวอยู่ไหนนนน...อาเจี่ยนไปวิ่งเล่นอยู่บริเวณไหนกันมาช่วยเร็วๆ ลุ้นค่ะ...รอติดตามต่อค่ะ

    ตอบลบ
  17. ไม่ระบุชื่อ19 พฤษภาคม 2560 เวลา 14:32

    ลุ้นค่าาาาา

    ตอบลบ
  18. อาเจี่ยนมาช้าอ่า รอนานแล้วนะ

    ตอบลบ
  19. อาเจี่ยนมาช้าอ่า รอนานแล้วนะ

    ตอบลบ
  20. ใครเข้ามาแทงให้มิด กระซวกๆๆๆๆ แล้วหัวเราะแบบโรคจิต

    ตอบลบ