ป้าสามเห็นอาเจี่ยนเดินจากไปแล้ว
อดบ่นออกมาไม่ได้ นางต่อว่าเหลียนฟางโจวที่ไปพูดให้อาเจี่ยนเดินทางเข้าเมืองไป หากจับพลัดจับผลูแล้วชายหนุ่มเกิดไม่กลับมาจะทำเยี่ยงไร?
เหลียนฟางฉิงไม่คอยให้พี่สาวโต้กลับ
นางรีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่ชายเจี่ยนไม่ใช่คนเช่นนั้น! เขาจะต้องกลับมา!”
ป้าสามเอ่ยขึ้น
“อ้อ แล้วที่ข้าพูดนี่เป็นไปไม่ได้หรือไร?
ที่นี่หาใช่ครอบครัวของเขาไม่!
และทางสกุลจ้าวเองย่อมตามตื้อเขาไม่จบแน่ บางทีให้ค่าจ้างมากกว่าที่ฝ่ายเราให้เสียด้วยซ้ำ!”
ครั้นแล้วเหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเบา
“เช่นนั้น..หากเขาต้องการไปก็ให้เขาไป พวกเราสามารถรั้งเขาไว้ได้รึ?”
ป้าสามพลันอับจนถ้อยคำทันที
ได้แต่พึมพำเสียงเบา “หากเป็นเช่นนั้น ต่อไปอย่าให้ลูกชายเขามาขายถ่านแข่งกับพวกเราก็แล้วกัน!”
เหลียนฟางโจหันไปค้อนป้าสามเงียบๆ แล้วไม่พูดอะไรต่อ
เหลียนเช่อโพล่งขึ้นมาบ้าง “เราจะไม่มีปัญหาได้อย่างไร
เพราะจริงๆแล้ว พี่รองกำลังฝึกยุทธ์กับพี่ชายเจี่ยนอยู่นะ!”
เหลียนเซ่อเอ่ยขึ้น “ทว่าข้าคิดเหมือนฉิงเอ๋อร์ ข้าเชื่อว่าพี่เจี่ยนจะกลับมาหาเราแน่นอน! ทว่า...หากเขาไม่กลับมา ที่พี่ใหญ่พูดก็เป็นความจริง....”
ครั้นแล้วเหลียนฟางโจวกล่าวด้วยรอยยิ้มกับเขา
“น้องรอง หากยังคงอยากฝึกยุทธ์อยู่ละก็
เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาอันใด เราหาเวลาพูดยกยอเขาเสียหน่อย เช่นนี้แล้ว...เขาน่าจะยังสอนเจ้าต่อไป ข้าเชื่อว่าเขาคงจะไม่ปฏิเสธ!
เหลียนเซ่อขมวดคิ้วมุ่น
เอ่ยว่า “หากเป็นเช่นนั้นจริง ข้าขอไม่เรียนกับเขาดีกว่า!”
เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเข้ม
“เพราะเหตุใด?”
เหลียนเซ่อนิ่งเงียบ ไม่ยอมกล่าวสิ่งใดต่อ
เหลียนฟางโจวจึงพูดตรงๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าหมายถึงสิ่งใด ทว่า..ขอให้เจ้าระลึกไว้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาสามัญอย่างเราๆแน่นอน
ดังนั้น..เจ้าไม่อยากร่ำเรียนกับเขาแล้วรึ?”
เหลียนเซ่อชะงักไป
ครั้นแล้วจึงพยักหน้าเบาๆ
เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเรียบ “เราควรมองคนให้ลึก ไม่ใช่มองเพียงเปลือกนอก ใครจะได้ตัวอาเจี่ยนไป เราจะรู้กันในไม่ช้านี้ หากเขาต้องการอยู่กับสกุลจ้าว เขาย่อมต้องมีเหตุผลของเขา ในเรื่องนี้...เราไม่อาจตัดสินเขามองเป็นแค่ขาวและดำได้! เจ้าว่าไม่ใช่เช่นนั้นรึ?”
เรื่องราวในใต้หล้านี้ ไม่ใช่มีเพียงแค่ขาวหรือดำ เหลียนเซ่อเป็นคนที่ตรงเกินไป เหลียนฟางโจวจึงคอยมองหาโอกาสอบรมสั่งสอนเขา
เมื่อเห็นน้องชายไม่เอ่ยอะไรต่อ จึงพูดขึ้น "อาเจี่ยนคงอยู่ในเมืองเป็นระยะเวลาสั้นๆ รอให้เขาสะดวกกว่านี้ ค่อยรอสอบถามข่าวเอากับเขาก็แล้วกัน" เหลียนเซ่อรู้สึกตกใจ เอ่ยว่า
“หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็คงไม่ต้องสัยอะไรในตัวเขาแล้วล่ะ!”
“เจ้าเข้าใจได้ดีนัก!” เหลียนฟางโจวยิ้ม
เมื่อกินมื้อเช้าเสร็จ สี่พี่น้องต่างเดินทางขึ้นเขา
เหลียนฟางโจวสับไม้ที่จะนำมาเผาเป็นถ่าน เหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อ น้องน้อยทั้งสองไม่ได้เอาแต่เอ้อระเหย ต่างเข้ามาช่วยงานขนของให้กับคนโต จริงๆแล้วเหลียนฟางโจวไม่อยากให้พวกเขามาเลย ทว่าทั้งสองต้องการขึ้นเขาเพื่อมาหาที่เล่นสนุก
เหลียนฟางโจวเลยต้องพามาด้วย
จะช่วยหรือจะเล่นย่อมขึ้นอยู่กับน้องน้อยทั้งสองแล้ว
เพียงผ่านช่วงเที่ยงวันไปไม่นาน อาเจี่ยนก็กลับมาในที่สุด
เหลียนเซ่อและน้องเล็กทั้งสองต่างโล่งอกกันเป็นทิวแถว
เหลียนฟางฉิงถลาไปจูงมืออาเจี่ยน อย่างเอาอกเอาใจ
“พี่ชายเจี่ยน ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!”
อาเจี่ยนลูบศีรษะเล็กๆส่งยิ้มให้ พลางชำเลืองมองมาทางเหลียนฟางโจว
หญิงสาวให้รู้สึกโล่งใจโดยไม่รู้ตัว พยักหน้ายิ้มให้เขา “เรื่องนี้คลี่คลายแล้วรึ?”
“อืม” อาเจี่ยนเอ่ยออกมาคำเดียว
และไม่เอื้อนเอ่ยคำใดออกมาอีก
เหลียนฟางโจวก็ไม่ได้ซักถามอะไรมากมายนัก เพียงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการไปข้องเกี่ยวกับเรื่องที่คลุมเครือ เพราะในที่สุดมันจะนำปัญหามาให้!”
การเผาถ่านครั้งที่สองมาถึงอย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์จากครั้งก่อน ครานี้ต้องใส่ใจกับความร้อนและช่วงเวลาให้แม่นยำถูกต้อง
ไม่เพียงจะได้ผลผลิตสูงขึ้นเท่านั้น หากยังประหยัดเวลาได้ถึงสองวันอีกด้วย
สมาชิกทั้งสองครอบครัว สับไม้ที่นำมาเผาถ่านและทำเป็นไม้ฟืนโดยไม่หยุดหย่อน
จนมีกองท่อนไม้สูงเป็นภูเขาย่อมๆ อยู่ข้างๆหลุมเตาเผา หลังจากเผาจนได้ถ่านในหลุมเตาเผาเรียบร้อยแล้ว จึงนำถ่านที่ได้ในหลุมเตาเผาออกมาตากแดด
ครั้นแล้วหลุมเตาเผาเหล่านั้นก็ว่างลง
พร้อมสำหรับการบรรจุท่อนไม้เพื่อเผาในรอบต่อไปในช่วงเช้า ช่างเป็นวิธีที่สะดวกสบายอะไรเช่นนี้
หลุมเตาเผาสี่หลุมให้ผลผลิตถ่านไม้หนักมากว่า
5,000 ชั่ง คิดเป็นเงิน 11-12 ตำลึงเงิน และแบ่งเงินกันได้บ้านละ 5-6 ตำลึงเงิน
พวกเขาคัดเลือกถ่านไม้ที่มีลักษณะสีดำเงางามขนย้ายไปเก็บไว้ที่บ้าน ใบหน้าของทุกคนเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
ฮูหยินจ้าวฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี
ในใจนางคิดคำนวณว่าจะนำเงินมาซื้อเสื้อผ้าดีๆ
2 ชุด ซื้อปิ่นเงิน ต่างหูเงิน เพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่...
ในวันนี้พวกเหลียนฟางโจวเพิ่งเดินทางลงจากภูเขากลับมาถึงบ้าน
ก็เห็นฮูหยินเฉียวและเหลียนลี่มายืนเรียก “ขอเข้าไปในบ้านหน่อยนะ!” พูดจบทั้งคู่รีบผลุนผลันเข้ามาในบ้านหลานๆอย่างรวดเร็ว
เหลียนฟางโจวเหลือบมองทีท่าของคนที่เตรียมตัวมาอย่างดี ก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ในใจรู้ว่าสามีภรรยาคู่นี้คงวางแผนมายืนดักคอยอยู่ตรงประตูรั้วบ้าน
และยืนรอจนพวกนางกลับมา
หญิงสาวยกมือสางผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงลวกๆ แล้วเดินออกไปต้อนรับแขก พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ลุงและป้าใหญ่อุตส่าห์มีเวลามาเยี่ยมทั้งที! เชิญนั่งก่อน!”
เหลียนฟางโจวเดาได้อย่างถูกต้องว่าพวกเขามีพฤติกรรมเช่นนี้ มาเพื่อจุดประสงค์อันใด ทั้งหมดทั้งมวล ก็คือเรื่องของครอบครัวเธอและครอบครัวป้าจางที่เข้าหุ้นเผาถ่านร่วมกัน เรื่องนี้ย่อมไม่อาจแอบซ่อนความจริงจากผู้ที่มีความหิวกระหายผลประโยชน์ได้
เหลียนลี่กระแอมไอ แล้วนั่งลง ฮูหยินเฉียวส่งค้อนให้หญิงสาว แล้วจึงนั่งลง
“ในสายตาของพวกเจ้า พวกเจ้ายังมีญาติผู้ใหญ่อยู่หรือไม่? พวกเราอุตส่าห์มาถึงแล้ว
กลับไม่มีใครยกน้ำชามาให้ดื่มเลย!
“ ฮูหยินเฉียวเอ่ยด้วย ความไม่พอใจ
สิ้นเสียงพูด ก็เห็นเหลียนเช่อและเหลียนฟางฉิงยกน้ำชา
2 ถ้วยเข้ามา
เหลียนฟางโจวจุ๊ปาก เอ่ยว่า “ป้าใหญ่
ชงน้ำชาย่อมต้องใช้เวลามิใช่รึ?” พวกเราไม่อาจคาดเดาได้ถูกต้องหรอก
ว่าพวกท่านจะมาเมื่อใด มิเช่นนั้นจะได้เตรียมชงชาไว้เสียแต่เนิ่นๆ!
เช่นนั้น..พวกท่านจะฉุนเฉียวไปไย!”
ฮูหยินเฉียวเบะปากขึ้นทันได ไม่พูดอันใดต่อ
ไหนเลยนางจะอยากให้เด็กสองคนนี้มาเป็นฝ่ายรินน้ำชาให้พวกเขา? นางพ่นลมออกจากจมูกอย่างอดรนทนไม่ได้ นางอยากให้พวกหลานๆอับอาย จะได้ถือโอกาสสั่งสอนพวกเขา
ใครจะรู้ว่านางจะเป็นฝ่ายล้มเหลวในเวลาอันสั้นแทน
“เจ้าอย่าได้ทำตัวเรื่องมากไป!” เหลียนลี่ก็ตระหนักถึงความเรื่องมากของภรรยาด้วย ฮูหยินเฉียวส่งค้อนมาให้อย่างมาดร้าย เหลียนลี่หันกลับมาพูดกับเหลียนฟางโจวเปี่ยมด้วยเมตตา
“ป้าใหญ่เจ้าเป็นคนโผงผางเช่นนี้แหละ
อย่าได้ถือสานางเลยนะ!”
เหลียนฟางโจวอมยิ้ม เหลือบมองฮูหยินเฉียว
ท่าทางไม่อินังขังขอบ
ฮูหยินเฉียวให้ขุ่นเคืองนัก ค้อนใส่หลานสาวด้วยอีกทีหนึ่ง
เหลียนลี่ยกถ้วยชาขึ้นดื่มคล้ายกับไม่คิดอะไร กะว่าพอเหลียนฟางโจวถามว่าพวกเขามาหามีธุระเรื่องใด เขาจะฉวยโอกาสนี้เพื่อเปิดปากเรื่องที่อยากเจรจา
ทว่าเหลียนฟางโจวกลับหลุบตาลงต่ำซ่อนสายตาไว้ จนใครๆไม่อาจรู้ได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ทำท่าทีคล้ายไม่อยากเปิดปากสนทนา
อาเจี่ยน
เหลียนเซ่อและน้องเล็กๆอีกสองคนต่างพากันหลบลี้หนีหายไป ส่วนป้าสามก็ไม่ออกจากครัว
นั่งกันไปสักพักก็ไม่ได้เรื่องได้ราวอันใด จนถึงบัดนี้เหลียนลี่ยังไม่สามารถเข้าเรื่องได้ ครั้นแล้วเขาจึงกระแอมขึ้นเบาๆ เอ่ยว่า “ฟางโจว
ได้ยินว่าเจ้ากับสกุลลี่กำลังเข้าหุ้นกันเผาถ่านรึ?”
เหลียนฟางโจว เงยหน้าขึ้น
แล้วจึงพยักหน้าให้เลียนลี่ “อืม”
ครั้นแล้วก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก
เหลียนลี่พยายามรวบรวมพลังใจ กล่าวด้วยท่าทางไม่รีบร้อนนัก
“สกุลลี่ไม่เคยเผาถ่านมาก่อน ไม่รู้ว่าไปเรียนรู้มาจากที่ไหนกันนี่?”
“เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน!”
เหลียนฟางโจวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม บ้านเธอไม่มีผู้ใหญ่ อาเจี่ยนเป็นคนนอก ที่ยังไม่อาจยืนได้มั่นคง พูดได้เต็มปากว่าการเรียนรู้วิธีเผาถ่าน
ต้องเป็นลุงลี่ที่น่าจะไปเรียนมาจากที่ใดสักแห่ง
แล้วเอาความสะดวกเข้าว่า คือเรียกพี่น้องสกุลเหลียนมาช่วย แล้วแบ่งผลกำไรกัน แน่นอน พวกเขาย่อมต้องแบ่งเงินตำลึงที่หามาได้ด้วยเป็นธรรมดา
แต่ก็ไม่น่ามากมายอะไร
ป้าจางช่วยเหลือพวกเหลียนฟางโจวบ่อยๆ เรื่องเช่นนี้นับว่าไม่น่าแปลกใจเลย
ฝ่ายฮูหยินเฉียวเห็นสามีเคยเพรี่ยงพร้ำมาก่อนแล้วถึงสองครั้ง ใจจึงไม่เร่งร้อน ครั้นแล้ว จึงเอ่ยว่า “พวกสกุลลี่ให้ค่าจ้างกับพวกเจ้าเท่าไดกัน? ข้าบอกได้เลยว่าครอบครัวพวกเขามีแรงงานมากเกินพออยู่แล้ว แต่ดันกลับมาชักชวนพวกเจ้ามาช่วยงาน! ข้าเกรงว่าพวกคนสกุลลี่คงแบ่งเงินให้พวกเจ้าเล็กน้อย
ทั้งๆที่ได้เงินมาจริงๆมากมายนัก! อย่างนี้เท่ากับเป็นการรังแกพวกเจ้าที่ยังเยาว์ เพราะเห็นว่าพวกเจ้าไม่ได้ทำงานกันอย่างจริงจัง อย่างผู้ใหญ่เช่นพวกเราที่เป็นลุงและป้าของพวกเจ้า!”
เช่นนี้..สมควรต้องตั้งใครสักคนขึ้นมาเป็นหัวหน้ารับผิดชอบ คนที่มีทีท่าว่าจะทำเพื่อพวกเขา ลุงและป้าเริ่มแผนการสร้างความปั่นป่วนให้คนทั้งหมดแล้ว
-------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมมเมนต์
และการติดตามนะคะ
ขอโทษที่อัพช้าอีกแล้วค่ะ
สำหรับใครๆที่
กำลังลุ้นเรื่องอาเจี่ยนอยู่ คงค้างนะคะ เพราะหักมุมหายไปเสียอย่างนั้น
แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ นายหญิงน้อยสกุลจ้าวกับสาวใช้ซีเชวี่ย
ยังไม่เลิกรังควานครอบครัวนางเอกอย่างแน่นอนค่ะ
ช่วงนี้ขอคั่นเวลาให้ลุงเหลียนลี่กับป้าเฉียวมาทำความเดือดร้อนให้บ้านนางเอกไปพลางๆก่อนค่ะ
สำหรับที่ผู้อ่านบางท่านถามมาเรื่อง
ฉากเข้าหอ จะอยู่ช่วงตอนที่ 54x
ขึ้นไปส่วนเรื่องความจำท่านแม่ทัพกลับมาหลังจากนั้นสักพักใหญ่ค่ะ
ซึ่งมีผลให้นางเอกเราต้องจากบ้านเกิด
ไปตกระกำลำบากต่อสู้ฟาดฟันกับเหล่าผู้หญิงที่หมายปองสามีตัวเองในเมืองหลวง ค่ะ
(คงสปอยแค่นี้ค่ะ เดี๋ยวจะไม่สนุก ^-^)
ยิ่งสปอยยิ่งอยากรู้ง่าาาา ขอบคุณมากค่าาา
ตอบลบลุงป้ามหาภัยมาอีกแล้ว
ตอบลบเย้ มาแล้ว ฮืออ..อ่านสปอยละสงสารนางเอก มีแต่มารพจญ แค่นีัก็มากเกินกว่าที่หญิงสาวธรรมดาจะพบเจอแล้วนะเนี่ย ฮือออ
ตอบลบไร้ท์คะ ขอบอกว่าไร้ท์คิดผิดคะ ยิ่งสปอยยิ่งสนุกต่างหาก เพราะทำให้คนอ่านได้ลุ้น ว่าแต่นางเอกคงจะต้องสู้รบปรบมืออีกนานเลยสิท่า
ตอบลบอยากถามสักนิดค่ะ ว่าอีกนานไหมกว่าที่นางเอกจะได้อยู่สบาย ๆ
ขอบคุณค่ะที่แปลให้อ่าน
54x มีเยอะขนาดนั้นหรือคะ
ตอบลบขอบคุณคะ รอลุ้นต่อคะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบเบื่อลุงกับป้าหน้าเงินสองคนนี้มากๆ นี่กะจะผลาญหลานให้หมดตัวเลยล่ะซิ!! เห็นแก่ตัวจริงๆ
ตอบลบขอบคุณคะ...ลุ้นว่านางเอกจะจัดการอย่างไร
ตอบลบมีความหน้าด้านตลอด โอ้ยไม่ไหวจะเครียร อินหนัก
ตอบลบบ้านป่าเมืองเถื่อนแท้ๆ
ตอบลบขอบคุณคะ สนุกมากๆ
ตอบลบเบื่อลุงป้าคู่นี้จริงๆ มั่นหน้าตลอด เซ็งๆๆๆๆ
ตอบลบรออ่านตอนต่อไปค่ะ ไรท์ขาอย่าสปอยล์เลย ยิ่งสปอยล์ยิ่งอยากอ่าน 5555
คุณลุงคุณป้าลำไยมากกกกกกก
ตอบลบขอบคุณนะคะ :)
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบผมขอขอบคุณมากๆ
ตอบลบโดยเฉพาะพื้นหลังคนตาบอดสีอย่างผม
จะได้ไม่สนใจในขณะอ่านนิยายฮ่าๆ
ขอบคุณค่ะไรท์//ตัวปัญหามาหาถึงบ้านเลย
ตอบลบขนาดสปอยมานิดหน่อย ยังลุ้นหนักมาก ขอบคุณค่ะ
ตอบลบกรีสสสสสส เข้าถึงไวๆ
ตอบลบกรีสสสสสส เข้าถึงไวๆ
ตอบลบขอบคุณมาก ๆ ค่ะ เรื่องนี้อีกนานเลยกว่านางเอกพระเอกจะแต่งกัน
ตอบลบ