วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

จับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 88 เค้นเอาคำตอบ (1)

                  “พวกเจ้าบ้าไปแล้ว! เจ้า...”
                  “บอกมานะ  เอาพี่สาวข้าไปไว้ที่ไหน!”  เหลียนเซ่อตะคอกเสียงดัง   ใบหน้าเย็นเยียบปานน้ำแข็ง  สายตาที่มองเหลียนลี่เย็นสุดขั้ว  คล้ายอยากจะสับเขาเป็นหมื่นๆชิ้นๆ
                  เหลียนลี่อึ้งงันไป  ถ้อยคำก่นด่าอีกครึ่งหนึ่งสะดุดหายไปทันที   รู้สึกฉงนฉงายเล็กน้อย
                  “พี่สาวเจ้าหรือแล้วเรื่องของพี่สาวเจ้าคือเรื่องอันใดเล่า เจ้าก็เห็น  นางไม่ได้อยู่ในบ้านข้าเลย“  เหลียนลี่ตอบเสียงฉะฉาน  น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย  เดิมทีเขาอยากด่าว่าอีกฝ่ายให้เจ็บแสบอีกสักหลายประโยค  แต่พอเห็นความคลั่งแค้นแทบบ้าของเหลียนเซ่อแล้ว  จึงระมัดระวังคำพูดมากขึ้น

                  “พวกท่านยังกล้าปฏิเสธอีกรึ!” เหลียนเซ่อโมโหแทบบ้า  “มีคนเห็นกับตา ว่าป้าใหญ่อ้อนวอนให้พี่สาวข้าไปบ้านท่าน!”
                  สีหน้าฮูหยินเฉียวเปลี่ยนไปนิดหนึ่ง รีบเอ่ยว่า “เจ้าพูดเรื่องเหลวไหลอันใดข้าจะบ้าไปเรียกนางมาบ้านข้าทำไมกันเล่า!   พอตกเย็นข้าหาได้ออกจากบ้านเลยไม่!  ใครจะรู้เล่า คนต้นเรื่องอาจแค่เป็นลมเป็นแล้ง แต่จงใจสร้างข่าวลือก็เป็นได้อยู่ดีๆก็มาถูกสวรรค์ลงโทษ  ช่างไม่ยุติธรรมกับอีแก่คนนี้เลย!”
                  พอเหลียนลี่ได้ยินภรรยาพูดเช่นนั้น   จึงเบนสายตาไปทางฮูหยินเฉียวด้วยความสงสัย   รู้สึกงุนงงในใจ   จากที่เขามอง  ฮูหยินเฉียวดูไม่ตื่นเต้นตกใจเท่าใดนัก  มิหนำซ้ำ คราที่เขากลับเข้าบ้านมา   เขาเห็นนางยืนอยู่ที่ลานบ้านอีกด้วย
                  หากไม่มีอะไรจริงๆ  นางจะยืนทำอะไรอยู่ที่ลานบ้านเล่า?
                  แม้จะคิดเช่นนั้น  แต่ตัวเขาคงไม่ช่วยหลานชายคาดคั้นถามภรรยาตนเองหรอกนะ  โดยเฉพาะยามที่เหลียนเซ่อบ้าเลือดอย่างนี้
                  “เจ้าเห็นกับตาตัวเองหรือไม่?  หากพี่สาวเจ้าอยู่ในบ้านข้าจริง แล้วยามนี้นางอยู่ตรงไหนเล่า?  หากเจ้าไม่เชื่อ ก็ลองตะโกนเรียกนางดูสิ!” เหลียนลี่แค่นเสียงออกมา
                  ฮูหยินเฉียวได้ยินสามีพูดเข้าข้าง  รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย จึงเชิดหน้า แค่นเสียง “หึ”
                  “ข้าไม่เชื่อพวกท่านหรอก  ข้าจะขอค้นดูก่อน !”  ความหงุดหงิด สับสนฉายชัดในดวงตาของเหลียนเซ่อ
                  “ฮ่าฮ่าฮ่า!  ช่างน่าหัวเราะนัก!” เหลียนลี่แผ่ไอเยียบเย็นรุนแรง  ชี้หน้าหลานชาย พลางเอ่ยว่า “เจ้าอยากทำอะไร  เมื่อไดก็ได้งั้นหรือ?  เจ้าไม่เคยเห็นผู้ใหญ่เช่นเราอยู่ในสายตาเลย ทั้งยังไม่มีสติยั้งคิด  กล้าบุกเข้าบ้านคนอื่นโดยพลการเหลียนเซ่อ เจ้าช่างไม่กลัวบาปกรรมเอาเสียเลย!”
                  “ไม่รู้ล่ะ..วันนี้.. ข้าจะขอค้นบ้านท่านให้ได้!”  ใจของเหลียนเซ่อพะวงถึงพี่สาวไม่หยุดหย่อน  ไหนเลยจะสนใจอะไรมากมายนักเล่าพอกล่าวจบก็จ้ำพรวดเข้าไปยังห้องด้านในทันที
                  “นี่...ข้ายังไม่อนุญาติเลยนะ!”
                  “กลับมา! กลับออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”
                  เหลียนลี่และฮูหยินเฉียวย่อมไม่ยอมให้เข้าไปอยู่แล้ว  จึงรีบก้าวเข้าไปดักหน้าแล้วผลักหลานชายกระเด็นออกมา
                  ฮูหยินเฉียวตวาดแว๊ด “บ้านเราไม่ใช่ที่ๆเจ้าอยากจะค้นก็ค้นได้นะ  หากเจ้าค้นแล้วไม่เจออันใด  เจ้าต้องชดใช้ความผิดให้เรา!”
                  “ข้าจะฆ่าท่าน ข้าจะสับท่านเป็นหมื่นๆชิ้น!”  คิ้วของเหลียนเซ่อไม่กระเพื่อมเลยแม้แต่นิด   เขาปักใจเชื่อแล้วว่าลุงกับป้าต้องเอาเหลียนฟางโจวไปซ่อนไว้แน่ๆ
                  ฮูหยินเฉียวถ่มน้ำลายรดพื้น เพ้ย !” ร้องออกมา “อยากจะฆ่า  อยากจะสับข้าเป็นหมื่นๆชิ้นเหรอ  พูดออกมาได้  ข้าไม่กลัวหรอกหากเจ้าหาไม่เจอ  เจ้าต้องขอโทษเรา ไปโขกศีรษะ 3 ครั้งต่อหน้าทุกๆคนในหมู่บ้าน  แล้วก็จ่ายเงินค่าเสียหายให้พวกเรามา 100 ตำลึงด้วย!”
                  หากไม่มีเงินล่ะก็  ก็เอาที่นามาจำนอง  แล้วก็ไปทำงานหาเงินมาผ่อนจ่ายให้หมด พวกเราถึงจะไม่เอาเรื่อง
                  เหลียนเซ่อย่อมไม่รับปากอยู่แล้ว   อาเจี่ยนเห็นว่าข้อเสนอนี้ช่างอุบาทว์สิ้นดี   ทันไดนั้นจึงเอ่ยเสียงเนิบ  “ช้าก่อน!”
                  “เรื่องนี้หาใช่เรื่องของเจ้าไม่ !  เจ้ามันแค่ผู้อาศัย!  เรื่องของคนสกุลเหลียนไม่ต้องให้คนนอกเยี่ยงเจ้าสอดมือเข้ามายุ่ง!”  ฮูหยินเฉียวชี้หน้าด่าทออาเจี่ยนอย่างหยาบๆคายๆ
                  สีหน้าของอาเจี่ยนสงบนิ่ง  ไม่ปรากฏร่องรอยความโกรธขึ้งให้เห็นเลยแม้สักกระผีกริ้น  นัยน์ตาสว่างใสที่อ่านไม่ออกของเขา  ช่างล้ำลึก  ล้ำลึกดุจบ่อน้ำไร้ก้น  จนใครๆไม่อาจเห็นพื้นข้างล่างได้  ฮูหยินเฉียวเห็นแล้วรู้สึกหวาดหวั่น   หุบปากฉับทันที  ทว่าพอคิดได้ว่านี้คือเรื่องของคนในสกุลตน  จึงกลับมาแข็งกร้าวพลางยืดอกขึ้น  ไม่ยี่หระกับท่าทางของอาเจี่ยน
                  อาเจี่ยนค่อยๆย่างสามขุมตรงมาหานางทีละก้าวๆ 
                  ทันใดนั้นฮูหยินเฉียวรู้สึกถึงรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากตัวบุรุษร่างสูงตรงหน้า  จนทำให้นางรู้สึกหายใจหายคอไม่ออก  นางก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว   เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก “แก...แกจะทำอะไร!  อย่า...อย่าเข้ามานะ!”
                  อาเจี่ยนหาได้สนใจไม่  เขามาหยุดยืนนิ่งตรงหน้าฮูหยินเฉียว  ทิ้งระยะห่างไว้ 2-3 ก้าว  ตัดสินใจคว้าแขนข้างหนึ่งของนางยึดไว้ไม่ให้หนี  ถามขึ้น “บอกมา  ฟางโจวอยู่ที่ไหน?”
                  “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรนางไม่ใช่คนของบ้านข้า!  ข้าเป็นผู้ปกครองนางรึ!”  ฮูหยินเฉียวตะเบ็งเสียงลั่น
                  เหลียนลี่วิ่งเข้ามาผลักแขนอาเจี่ยนดันตัวเองมายืนบังฮูหยินเฉียว  จ้องตาชายหนุ่มเขม็ง “แกจะทำอะไรแกจะทำอะไร?  แกมีสิทธิ์มาตั้งคำถามกับคนที่นี่รึ….”
                  อาเจี่ยนยกมือขึ้น  แล้วซัดฝ่ามือใส่เหลียนลี่ไปให้พ้นทาง  เหลียนลี่เห็นเขาลงมือเบาๆคล้ายไม่ได้ออกแรงเลย  แต่ตัวเหลียนลี่กลับถลาไปไกลทางด้านหลัง 5-6 ก้าว
                  เหลียนลี่ตะโกนลั่น “แก๊...” รีบวิ่งเข้ามาหวังจะสู้กับชายหนุ่ม  แต่พออาเจี่ยนปรายตาขึ้นมอง   ประกายเย็นเยียบจากดวงตาของชายหนุ่มก็พุ่งใส่เขาทันใด   จนใจของเหลียนลี่เย็นเฉียบจนเป็นน้ำแข็ง   เท้าคล้ายถูกตะปูตอกตรึงกับพื้น  จะขยับ ก็ขยับไม่ได้
                  ยามนี้เขาไม่กล้าวิ่งเข้าใส่ชายหนุ่มร่างยักษ์แล้ว   หวังเพียงแต่จะหนีไปให้ไกลเท่านั้น!
                  เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร   ทว่าเขารู้สึกถึงรังสีสังหารแผ่ซ่านออกจากตัวบุรุษหนุ่มผู้นี้  ราวกับฆาตรกรมือเปื้อนเลือด      
                  อาเจี่ยนหันหน้ากลับมา  จ้องตาฮูหยินเฉียวตรงหน้าต่อ  เอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า “ข้าขอถามท่านอีกครั้ง  ฟางโจวอยู่ที่ไหน?”
                  แรกเริ่มฮูหยินเฉียวตัวสั่นงันงก  มาภายหลังนางพยายามบังคับตัวเองให้นิ่งสงบ   เพื่อซ่อนความตื่นตระหนกจากสายตาของอาเจี่ยน  และแล้วเหลียนเซ่อก็ออกมาบอกว่าเขาได้ค้นหาตัวเหลียนฟางโจวในบ้านนี้จนทั่วแล้ว  และไม่พบทั้งในบ้านและบริเวณลานบ้าน  จึงอยากให้อาเจี่ยนซักเอากับฮูหยินเฉียวให้กระจ่างว่าเหลียนฟางโจวอยู่ที่ใด
                  “ข้า...ข้าไม่รู้!” ฮูหยินเฉียวทั้งตื่นตระหนกทั้งโกรธแค้น  แผดเสียงตะโกนลั่น
                  อาเจี่ยนบีบแขนนางแรงขึ้น  ฮูหยินเฉียวกรีดร้องเสียงโหยหวน  “แกจะทำอะไรข้าแกจะทำอะไรใครก็ได้ช่วยด้วยช่วยข้าด้วย!”
                  “ร้องให้ดังเลย  ร้องไปเรื่อยๆ  จะได้เรียกคนในหมู่บ้านให้แห่มาดูกัน!”  อาเจี่ยนไม่เพียงไม่ผงะถอยหนีแล้ว  ซ้ำยังสนับสนุนให้นางป่าวประกาศ  มือใหญ่ของชายหนุ่มลอบเพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อยๆ                
                  ฮูหยินเฉียวยิ่งเจ็บปวดรวดร้าวมากขึ้น  พลางส่งเสียงร้องตะโกนลั่นไปด้วย  กัดฟันแน่น  ดิ้นขลุกขลักอย่างน่าสงสาร  “โอ้ย...ปล่อยข้าไปนะ !”  แต่ตัวไม่เขยื้อนเลยสักนิด
                  ซวยจริงๆ  แม้ว่านางหาใช่คนรุ่นสาวอีกต่อไปแล้ว  ทว่านางก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งถูกอาเจี่ยนยึดแขนไว้แน่นเช่นนี้  หากให้ใครมาเห็น  ชื่อเสียงนางคงต้องเสื่อมเสียแน่  ถูกคนเหยียดหยามด่าว่าสาดเสียเทเสียว่านางเป็นฝ่ายไปยั่วยวนผู้ชาย !
                  อาเจี่ยนหาสนใจไม่  แต่นางสนใจ  เหลียนลี่ก็สนใจด้วย!
                  “เจ้าอย่าร้อง!”  เหลียนลี่เอ่ยเสียงต่ำในลำคอ พยายามสะกดกลั้นความขุ่นแค้น
                  ฮูหยินเฉียวเจ็บปวดรวดร้าวนัก  “โอ้ย!”  นางกรีดร้อง พยายามพลิกร่างเหวี่ยงสลัดตัวออกไป  “แกร๊ง!”  เสียงโลหะกระทบกันเกรียวกราวดังออกมา  ประกายสีเงินยวงร่วงออกมาจากอกเสื้อของฮูหยินเฉียว  หล่นลงบนพื้น  แล้วกลิ้งหลุนๆมานอนแอ้งแม้งส่องประกายแวววาวต่อหน้าทุกคน
                  เหลียนลี่เบิกตากว้างเมื่อเห็นเงินบนพื้น  พลางร้องครางออกมา   สีหน้าย่ำแย่ขณะถลึงตาใส่ฮูหยินเฉียว
                  “เงินของข้า!”  ฮูหยินเฉียวร้องออกมาอย่างตกใจ  รีบหมอบตระครุบโดยไม่รู้ตัว
                  อาเจี่ยนยกเท้าเหยียบเงินไว้  นางกำลังจะไปแย่งกลับคืน   พลันเสียงเย็นเยียบดังก้องขึ้น  “ท่านเอาเงินพวกนี้มาจากไหน?!”
                  “ของข้าเอง.. มันเป็นเงินของข้าเอง!”  ฮูหยินเฉียวสะดุ้งปนหวาดกลัว
                  “ใช่..เหรอ?” อาเจี่ยนเลิกคิ้วขึ้น  รอให้คนตรงหน้าสงบใจได้ จึงเอ่ยต่อไปว่า “ท่านยังไม่พูดความจริงอีกรึนี่เป็นเหรียญเงินตำลึงจำนวนมาก  ไม่มีใครนำเงินก้อนใหญ่พกติดตัวหรอกนะหากท่านไม่บอกข้ามาเสียดีๆ  อย่าหาว่าข้าไม่ปราณีก็แล้วกัน!”
                   แม้ว่านางจะกลัวแทบตาย  ตราบใดที่กัดฟันฝืนทน  ยืนยันกระต่ายขาเดียว  พวกเขาก็ได้แค่จับตัวนางไว้เฉยๆ  ทว่าก็ทำอะไรนางไม่ได้  !
                  นางกล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่าพวกนั้นไม่กล้าเอาชีวิตนางแน่นอน!
                  เหลียนเซ่อเห็นเงินตำลึงกองนั้น  ซ้ำได้ยินถ้อยคำที่อาเจี่ยนเอ่ยออกมา   พลันสีหน้าเปลี่ยนเป็นกระด้างดุดัน   จับตัวฮูหยินเฉียวแน่น  แล้วร้องตะคอกออกมา  “ท่าน...ท่านทำอะไรกับพี่สาวข้า!  ท่านทำอะไรกับพี่สาวข้า!”
                  “ข้าไม่มีเวลามาเล่นลิ้นกับท่านหรอกนะ  หากท่านไม่พูดออกมา  แล้วไม่คิดบ้างหรือว่า  ข้าคงไม่อาจปล่อยให้ท่านเปิดปากได้อีกต่อไป!”  อาเจี่ยนดูรูปการณ์แล้ว  ให้ค่อนข้างกังวลขึ้นมาไม่น้อย  ยิ่งพอเห็นเงินเข้า   เขามีลางสังหรณ์ว่าจะต้องเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นเป็นแน่
                  ตัวฮูหยินเฉียวเบือนหน้าหนี  ใบหน้าพลันปรากฏรอยยิ้มสาแก่ใจออกมา
            -------------------------------------------------------------------------------
     ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามนะคะ
     -เนื่องจากผู้ร้ายปากแข็งมากค่ะ  เลยต้องสอบสวนกันต่อในตอนหน้า  โปรดติดตามตอนต่อไป
     - มีรีดบางท่านถามว่า เรื่องนี้มีกี่ตอน  คือมีทั้งหมด 1,845 ตอนนะคะ  มีบอกไว้ในส่วนรายละเอียดของเรื่อง
       

       เมนต์ที่เฟซบุค
  

17 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณค่ะไรท์////ตอนหน้าอาเจี่ยนคงจัดหนักกว่านี้แค่นี้โดนน้อยไป

    ตอบลบ
  2. อ้อนวอนขอตอนต่อไปเร็วๆนี้เลยได้มั้ยคะ 5555

    ตอบลบ
  3. ไปช่วยทันไหมเนี่ย ค้างๆๆ

    ตอบลบ
  4. ไปช่วยทันไหมเนี่ย ค้างๆๆ

    ตอบลบ
  5. เกลียดโว้ย อีป้านี่ อาเจี่ยนเค้นคอให้อิป้ามันคายออกมาให้ได้เลยนะ! น้องเซ่อดีมากลูกถ้าโตกว่านี้แล้วใจเย็นขึ้นนี่เจ๋งเป้ง

    ตอบลบ
  6. โอ้ย ยังยิ้มได้อีก นั้งป้ามหาภัยนี่
    //ตอนหน้าคงได้หน้าแหกแล้วใช่มั้ย ลุงเลิกกับป้ามหาภัยนี่ซะจะสะใจมาก มาไวๆนะคะ

    ตอบลบ
  7. เลวมากๆ แค้นยัยป้านี่จริงๆ อินจัดหัวร้อนเลย

    ตอบลบ
  8. ทรมานจนกว่ามันจะพูด แล้วฆ่ามันทั้งผัวเมียนี่แหละ

    ตอบลบ
  9. เห็นด้วย ทรมานมันซะเลวจริง

    ตอบลบ
  10. อยากอ่านต่อมาก กำลงสนุก

    ตอบลบ
  11. จัดหนักๆไปเล๊ยยยยยย ตอนนี้ทั่นแม่ทัพเท่มากกกกก กรี๊ดดดดดด//โบกป้ายไฟรัวๆเจ้าค่ะ

    ตอบลบ
  12. อาเจี่ยนเอาให้หนักค่ะ

    ตอบลบ
  13. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  14. คนแบบนี้....น่าไม่น่ารอด เห็นแก่ตัวสุดๆ เลวไร้ที่ติ

    ตอบลบ
  15. ขอบคุณครับ

    ตอบลบ