วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 192 สิ่งล่อใจ


            “อ๋อ..อย่างนี้นี่เอง! แม่นางเหลียนวางใจเถิด  พวกเราจะเชื่อฟังคำสั่งท่านทั้งสองอย่างเคร่งครัด!” หลี่ฉิงรีบเอ่ยทันที  ในน้ำเสียงแฝงความยำเกรงอยู่หน่อยๆ
            เมื่อพิจารณาดูแล้ว คนทั้งสองคือคนที่ตระกูลซูผู้ยิ่งใหญ่ส่งมาเชียวนะ!  พวกเขาถึงกับมาปักหลักทำงานอยู่กับเหลียนฟางโจวที่นี่  ย่อมรู้จักมักจี่กับคนสกุลซูเป็นอย่างดี
ไม่เพียงเท่านั้น  สองคนนี้ดูคล้ายไม่แปลกใจเลยที่จะมาควบคุมดูแลงานในไร่ พวกเขาไม่พูดไม่จาอันใด  นอกจากเดินดุ่มๆไปหยุดยืนประจำที่เพื่อเตรียมลงมือทำงาน บุคลิกลักษณะตั้งแต่หัวจรดเท้านั้นเล่า ก็ช่างแตกต่างไปจากชาวไร่ชาวนาสามัญทั่วไป!

จะยังหวังให้คนทั้งสองพูดจาอันใดกันเล่า?  ในเมื่อ พวกเขาเคยแต่นั่งทำงานเป็นขุนนางในหน่วยงานของหลวงเท่านั้น
เหลียนฟางโจวพยักหน้ายิ้มๆ  เป็นสัญญาณให้ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงาน
เธอสั่งงานเพียงฉินเฟิงและซูจื่อจี้ แล้วจึงให้คนทั้งสองไปวางแผนตระเตรียมงาน
ขณะที่ตนเองนั่งมอง ฉินเฟิงและซูจื่อจี้ไปกระจายงานให้คนงานแต่ละคน  แม้ช่วงเริ่มต้นยังมีความขลุกขลักให้เห็นอยู่บ้าง ทว่าพอมองแวบแรก ก็รู้ชัดว่าคนทั้งสองเคยจับต้องงานจำพวกนี้มาก่อน
เหลียนฟางโจวรู้สึกทึ่งหน่อยๆ  แถมยังลอบดีใจเสียด้วยซ้ำ
“จากนี้ไปเจ้าก็ไม่ต้องเหนื่อยหนักอีกแล้ว   เท่าที่ข้าเห็น พวกเขาล้วนมีฝีมือฉกาจฉกรรจ์ทีเดียว!” อาเจี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“อื้ม ดีกว่าที่ข้าคิดเอาไว้มากเชียวล่ะ!”  เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้มเอื้อนเอ่ย
เปลวไฟกองใหญ่ที่ถูกจุด พวยพุ่งขึ้น ควันหนาสีขาวม้วนตลบขึ้นไปบนท้องฟ้า  ขี้เถ้าจากการเผาหญ้าปลิวว่อนไปมาในอากาศ
อาเจี่ยนเอ่ยขึ้น “หรือว่า...เจ้ากับอาเซ่อกลับไปก่อนดีไหม! ข้าจะอยู่ดูงานที่นี่ให้เอง!”
เหลียนฟางโจวระบายยิ้ม พลางสั่นศีรษะ  “ตัวข้าบอบบางปานนั้นเชียวรึ?  นี่คือพื้นที่เพาะต้นกล้านะ  เราจะทำเล่นๆไม่ได้ ซ้ำไม่รู้ว่าพวกคนงานจะทำได้ถูกวิธีไหม ข้าจึงต้องตามไปตรวจดูเสียหน่อย!”
พอคิดตามอีกที อาเจี่ยนจึงคลี่ยิ้ม ไม่เอื้อนเอ่ยอันใด  ชายหนุ่มทำเพียงเดินนำหญิงสาวและเหลียนเซ่อไปยังพื้นที่ใต้ลม
สำหรับการผสมโคลนก้นบ่อปลากับขี้เถ้านั้น ทุกคนไม่รู้อัตราส่วนที่ถูกต้อง ซูจื่อจี้จึงเข้ามาถามเหลียนฟางโจวว่าควรทำประการใดดี?
เหลียนฟางโจวใจพลันฉุกคิด  แล้วจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้น...งานนี้เรามาทำกันห้าคนดีไหม!  อืม...แล้วก็เรียกคนอื่นมาเพิ่มอีกสักสองคน  จะได้มีกลุ่มละเจ็ดคนเท่ากัน! พวกท่านไปจัดคนให้เสร็จ  แล้วไปเรียกฉินเฟิงมาด้วยล่ะ!”
ซูจื่อจี้เมื่อได้ยินเข้าก็พยักหน้าแล้วเอ่ยแย้มยิ้ม “ที่แม่นางแนะนำมานี่ ดีกว่าทางฝั่งพวกข้าทำเสียอีก!”
เหลียนฟางโจวส่งยิ้ม  คนทั้งหลายพากันคว้าจอบและพลั่วขึ้นมาตักมือเป็นระวิง
โดยเอาโคลนจากก้นบ่อปลาและขี้เถ้ามาผสมกันตามส่วน คลุกเคล้ากันให้ทั่ว แล้วตักใส่ตระกร้าไม้ไผ่สานแต่ละใบอีกทีหนึ่ง คนทั้งหลายต่างส่งตระกร้าต่อกันเป็นทอดๆไปจนถึงพื้นที่เพาะต้นกล้า จากนั้นจะมีคนงานอีกกลุ่มคอยเอาโคลนผสมขี้เถ้าในตระกร้าที่ส่งมา โรยใส่พื้นดิน และเกลี่ยให้เสมอ คลุกเคล้ากับหน้าดินบนพื้นที่เพาะต้นกล้าให้ทั่ว
เหลียนฟางโจวคอยสังเกตุการทำงานจากจุดเริ่มต้น จนถึงจุดเพาะต้นกล้า แล้ววนกลับไปสู่จุดเดิมใหม่ เป็นอย่างนี้สองสามรอบ เมื่อเห็นว่าไม่มีปัญหาอันใดแล้ว หญิงสาวจึงคอยดูว่า หากหน้าดินบริเวณไหนมีส่วนผสม หนาไป หรือบางไป ก็จะคอยชี้บอกคนงานให้แก้ไข คนงานทุกคนล้วนคุ้นเคย มีความชำนาญในการทำไร่อยู่แล้ว จึงจับทางได้ในเวลาอันรวดเร็ว
หลังขะมักขะเม้นกับการทำงานไปจนกระทั่งสิ้นวัน  อาณาบริเวณที่ใส่ธาตุอาหารเรียบร้อยกินพื้นที่ 90 หมู่ด้วยกัน ยังเหลือพื้นที่อีก 50 หมู่ที่ยังไม่ได้แตะ
เหลียนฟางโจวจึงให้ฉินเฟิงและซูจื่อจี้ไปจ่ายเงินค่าจ้างให้คนงาน  เพราะพรุ่งนี้ไม่จำเป็นต้องว่าจ้างคนงานมาอีก
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หญิงสาวจึงวางแผนไปซื้อคน  โดยปกติไม่มีใครซื้อคนในช่วงฤดูหนาวกัน เพราะเดี๋ยวจะเป็นการเอาคนมานั่งเล่นนอนเล่นไม่มีอะไรให้ทำเสียมากกว่า ดังนั้นเธอจึงต้องพยายามหางานให้พวกเขาทำ ไม่เช่นนั้นการเลี้ยงคนให้อยู่เฉยๆเอ้อระเหยไปอย่างนี้ จะนำมาซึ่งปัญหาให้
สำหรับพื้นที่ 50 หมู่ที่เตรียมไว้เป็นแปลงเพาะ  ยังมิได้ถูกแตะต้องและยังคาราคาซังอยู่นี้ เหลียนฟางโจวและอาเจี่ยนได้ปรึกษาหารือกันแล้ว  จึงวางแผนให้บรรดาบ่าวรับใช้ที่จะซื้อเข้ามา เป็นฝ่ายจัดการเสียให้เสร็จ
เหตุผลประการแรก พวกบ่าวเหล่านั้นจะได้ทำความคุ้นเคยกับงานในไร่  ประการที่สองจะได้ถือโอกาสสังเกตบุคลิกลักษณะ และความประพฤติของบ่าวแต่ละคนไปด้วย  และเมื่องานเสร็จ  ก็จะได้เห็นกันละว่า ผลงานที่ออกมาเป็นเช่นไร
 “พรุ่งนี้ช่างไม้จะมาแล้ว!  พรุ่งนี้เราทุกคนไปโกดังและหมู่ตึกนั่นดีไหม ไปดูว่ามีอะไรที่พอจะช่วยเร่งงานให้เสร็จเร็วขึ้นได้บ้าง ก่อนอื่นต้องติดตั้งบานประตูและหน้าต่างให้เสร็จก่อนเป็นอันดับแรก! อืม...ติดตั้งเสร็จแล้ว ค่อยเข้าเมืองไปหานายหน้าที่นั่น ดูว่าพอจะมีคนหน่วยก้านดีบ้างหรือไม่!” เหลียนฟางโจวพูดคุยหารือด้วยรอยยิ้ม ระหว่างเดินกลับ
หลายคนขานรับ อาเจี่ยนเหลือบมองซูจื่อจี้แวบหนึ่ง แล้วคลี่ยิ้มเอ่ยขึ้น “งานนี้คงไม่ยากไปใช่หรือไม่? ดูท่าแล้วคงไม่คณามือท่าน!”
พอสิ้นเสียงชายหนุ่ม ฉินเฟิงและซูจื่อจี้ต่างพากันหัวเราะ
“ท่านเจี่ยนไม่รู้อะไร “ ฉินเฟิงหัวเราะ “งานช่างไม้ยากๆนี่ ของถนัดนักล่ะ! เมื่อก่อนนะ...ถ้าได้มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรชำรุดเสียหายล่ะก็ เขาเป็นต้องเอามาซ่อมแซมจนหมด”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องในอดีต  คนเล่าเจือความเป็นกันเองในน้ำเสียงแฝงมาด้วย
ซูจื่อจี้รีบยิ้มแย้มเอ่ยบ้าง “ข้าจะดูตอนติดตั้งให้ละเอียดยิบเลย เมื่อถึงเวลาจะได้ทำเองได้ ภายภาคหน้าหากมีอะไรต้องซ่อมแซม  ก็จะสะดวกขึ้น  ทีนี้ก็ไม่ต้องไปเรียกหาใครแล้ว!”
เหลียนฟางโจวแย้มยิ้มเอ่ยขึ้นมาบ้าง “ที่อาเจี่ยนถามมา ถูกต้องแล้ว ในเมื่อท่านเป็นคนมีหัวคิดพลิกแพลง ซ้ำยังมีความฝักไฝ่สนใจ ก็จงเรียนรู้ให้เต็มที่  ไปทำให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมาเสีย  และหากเมื่อใดเกิดอยากคิดสร้างประดิษฐ์อะไรขึ้นมา ก็ให้มาบอกกับข้าได้ทุกเวลา หรืออยากได้เครื่องมือเครื่องไม้อันใด ก็บอกข้ามาได้เลยนะ!”
ซูจื่อจี้ได้ยินแล้ว รู้สึกหัวใจพองโตขึ้นมา ไม่อาจสะกดกั้นอารมณ์ความรู้สึกวูบไหวที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาบ้างแล้ว เขาแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเสียด้วยซ้ำ จึงหัวเราะเปล่งเสียงออกมา “แม่นาง...นี่ท่านพูดจริงหรือ? นี่..นี่มันกระทบกับงานในไร่เอาเลยนะ”
เหลียนฟางโจวได้ยินถ้อยวาจาแล้ว ก็พยักหน้าจริงจัง พลางเอ่ยขึ้น “จริงแท้แน่นอน!  งานในไร่นั้นท่านก็ทำตามที่ท่านอยากทำ ความจริงแล้ว งานช่างน่ะ มิใช่ว่าใครๆก็สามารถทำได้นะ สร้างของขึ้นมาใหม่ชิ้นหนึ่ง  ไม่เพียงจะต้องมีฝีมือทางช่างแล้ว ยังต้องใช้หัวคิดมากมายอีกด้วย! ท่านลืมที่ข้าเคยพูดไปแล้วรึ?”
ซูจื่อจี้บังเกิดความปิติยินดีท่วมท้นในหัวใจ รีบเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่เคยลืมเลย! ขอบคุณแม่นางมาก!”  เขาเป็นคนมีหัวคิดสร้างสรรค์ ทักษะการใช้มือเป็นเลิศ  งานช่างฝีมือไม่ใช่เป็นแค่งานน่าทำเท่านั้น แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาชมชอบด้วย เมื่อได้ยินเหลียนฟางโจวพูดมาเสียขนาดนี้ เขาจะไม่ดีอกดีใจได้อย่างไร?
เหลียนฟางโจวระบายยิ้ม แล้วเอ่ยอีกว่า “ความจริงแล้ว ข้าหาได้วางแผนเอาท่านทั้งสองคนมาใช้งานในฐานะชาวนาชาวไร่ธรรมดาๆนะ ขืนทำเช่นนั้นจริง  มันจะไม่เป็นการทำผิดต่อพวกท่านหรอกหรือ? แถมยังทำให้ข้าขาดทุนเสียด้วยซ้ำ!”
ทุกคนในที่นั่นหัวเราะกันครืน  ฉินเฟิงและซูจื่อจี่รู้สึกหัวใจพองโตขึ้นไปอีก
จากถ้อยวาจานี้ เป็นที่ชัดแจ้งแล้วว่า พวกเขาสองคน จะได้ทำงานระดับหัวหน้าที่คอยวางแผนคุมคน
ถึงแม้ว่าวันนี้เหลียนฟางโจวได้ให้เขาไปวางแผนกำลังคน และสั่งงานคนงานเหล่านั้น  ทั้งสองก็นับตนเองเป็นแรงงานคนหนึ่งด้วย ลำพังแค่สถานะภาพต้อยต่ำที่ตนเองเป็นอยู่ในตอนนี้  ก็มิกล้าอาจเอื้อมไฝ่สูงเกินศักดิ์แล้ว ดังคำที่ว่า หวังมาก ก็ผิดหวังมาก มิหนำซ้ำพวกเขาไม่ปรารถนาพบเจอประสบการณ์อันแสนเจ็บปวดเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว
ยามนี้พอได้ยินถ้อยคำที่หลุดจากปากเหลียนฟางโจวเช่นนี้ ดวงตาของคนทั้งสองลุกวาบ ใจทั้งดวงเต็มตื้นด้วยความปิติยินดี
            ทำงานเป็นนายคน มันย่อมดีกว่าทำงานเป็นทาสต่ำช้าที่มีแต่โดนตีโดนด่าอย่างเทียบกันไม่ได้
            “พวกเราจะไม่ยอมทรยศต่อใจที่เมตตาหวังดีของแม่นางเป็นเด็ดขาด!” ทั้งสองคนเอ่ยเสียงหนักแน่น  ขณะที่เตรียมจะค้อมตัวคารวะ
เหลียนฟางโจวรีบเข้าไปห้ามพวกเขาเป็นพัลวัน “ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้  ทุกอย่างว่าไปตามหลักการ  คนอย่างข้านี่  เน้นการกระทำมากกว่าคำพูด ขอให้พวกท่านตั้งใจทำงานให้ดี ข้าก็พอใจแล้ว!”
คนทั้งสองรับคำพร้อมกันอย่างแข็งขัน สีหน้าเปี่ยมด้วยความซาบซึ้งตื้นตันใจ  เจือความเคารพสำรวมตนด้วยความยำเกรง
เหลียนเซ่อทอดมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าแล้ว  ถึงกับอึ้ง  ระคนสับสนงุนงงเล็กน้อย
เพียงคำพูดธรรมดาๆไม่กี่ประโยค  จู่ๆดูคล้ายชายสองคนนั้นมีท่าทีกับพี่สาวของเขาเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เด็กหนุ่มบอกไม่ได้ว่า อะไรที่มันเปลี่ยนไป แต่เขารู้สึกถึงมันได้  ชายทั้งคู่ดูมีกำลังใจฮึกเหิม แต่ก็ทำตัวลีบเล็กลงด้วยความยำเกรง....
พี่ใหญ่นี่ช่าง....ฝีมือร้ายกาจสุดๆ!
อาเจี่ยนเหลือบมองเหลียนเซ่อที่ทำหน้าอึ้งทึ่งระคนงุนงงสงสัย จึงแอบหัวเราะขำ แล้วเลื่อนสายตาไปมองเหลียนฟางโจว ด้วยความทึ่งและชื่นชม นางอายุน้อยเพียงเท่านี้ แต่มีท่าทางทรงภูมิ ประดุจขุนนางอาวุโสฝีมือฉกาจ  ที่รู้จักรุกรู้จักถอยลื่นไหลอย่างไม่น่าเชื่อ !
วันนี้มีงานติดตั้งบานประตูน้อยใหญ่ และหน้าต่าง จำนวนนับไม่ถ้วน ในหมู่เรือนบริเวณเขตพักอาศัย ช่างไม้จางและบุตรชายสองคน ต้องใช้รถเกวียนเทียมลาของครอบครัว บรรทุกวัสดุมาเต็มเอี้ยด ขนมาลงที่หน้างาน ถึง 4 เที่ยว
-------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ ^_^

15 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ17 กันยายน 2561 เวลา 16:52

    รักเรื่องนี้จริงๆเลย ตอนนี้เหลียนเซ่อน่ารักจังลูก 555

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ17 กันยายน 2561 เวลา 21:20

    ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  3. ได้หัวหน้างานฝีมือเยี่ยมมาแสดงฝีมือแล้ว รวยๆๆๆ
    สองคนได้เป็นอิสระตอนไหนคะ?? แล้วยังทำงานกับฟางโจวไหมคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอนนี้ไม่ทราบค่ะ เพราะอ่านแบบ เจาะสุ่มเป็นบางบท ถ้าเจอแล้ว จะแจ้งอีกทีนะคะ

      ลบ
  4. ดีจริงๆ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  5. ชอบมากกกกก เห็นภาพบรรยากาศเลย

    ตอบลบ
  6. ดีจังเลย ขอให้งานผ่านพ้รไปด้วยดีอย่าเจออุปสรรคเลย!!

    ตอบลบ
  7. ตื่นเต้นไปด้วยเลยค่ะ งานก้าวหน้าไปเรื่อยๆแล้ว

    ตอบลบ
  8. ขอบคุณค่ะ สนุกทุกตอนเลยค่ะ

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณค่ะ ชอบนางเอกจริงๆ

    ตอบลบ
  10. ขอบคุณค่ะชอบบรรยากาศสบายๆของเจ้านายลูกน้องนี่จัง

    ตอบลบ