“น้าชูคำกล่าวนี้ท่านเอ่ยออกมาแล้ว ข้ารู้สึกละอายใจจริงๆ! ข้าไหนเลยจะเทียบเทียมเปี่ยวเจี่ยได้! เปี่ยวเจี่ยวนับเป็นยอดคนผู้หนึ่งแท้เทียว” เหลียนฟางโจวเอ่ยแย้มยิ้ม
จ้าวลิ่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แม่นางเหลียนอย่าได้ถ่อมตัวไป ตัวข้า..เจ้าลิ่วมองคนไม่เคยพลาด ในภายภาคหน้า
ท่านจะไม่มีทางต่ำต้อยกว่ามนุษย์หน้าไหนแล้ว!”
เหลียนฟางโจวหัวเราะอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
ทุกคนคุยกันเรื่อยเปื่อยเพียงไม่นาน หลิวเจี่ยก็ถอนหายใจเสียงดัง ล้วงโฉนดของทางการสองฉบับออกมาจากอกเสื้อส่งให้เหลียนฟางโจว แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นี่สำหรับที่ดินที่ลานหินที่นี่และนาข้าวเนื้อที่
60 หมู่ ทางการได้ออกโฉนดมาแล้ว ข้าจึงเอามามอบให้ท่านที่นี่เสียเลย! ส่วนที่ดินตรงปากทางเข้าหมู่บ้านเนื้อที่ 26 หมู่ ข้ายังมิได้ดำเนินเรื่องให้ ส่วนที่ดินตรงสามแยกโน่น รอให้ข้าบรรลุข้อตกลงหลังจากหารือกับเจ้าของที่ไปแล้วก่อน ก็จะเดินเรื่องออกโฉนดไปพร้อมกันเลย! อย่างไรเสีย ที่ดินตรงสามแยกโน่นพรุ่งนี้คงตกลงซื้อขายกันได้ ท่านลองดูสิว่าเมื่อใดมีพอเวลา จะได้เข้าเมืองเอาเงินไปชำระ และดำเนินการเรื่องโฉนดเสียแต่เนิ่นๆ!”
เหลียนฟางโจวปลื้มใจยิ่งนัก รีบเอ่ยแย้มยิ้ม “เช่นนั้นแล้ว..ข้าเองก็อยากเร่งเรื่องให้ไว้ขึ้นอีกนิด พรุ่งนี้ช่วงบ่ายข้าจะเข้าเมืองไปหาท่าน ท่านเห็นเป็นอย่างไร?”
“เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย!” หลิวเจี่ยพยักหน้าหัวเราะ
เหลียนฟางโจวหันไปมองจ้าวลิ่ว
เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “น้าจ้าว
ถึงตอนนั้นข้าก็ยังต้องการจ้างคนอยู่นะ
ข้าอาจจะไปพบท่านด้วย!”
จ้าวลิ่วโบกมือ เอ่ยแย้มยิ้ม
“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเช่นนั้น! คนงาน 30 คนที่นี่
เจ้าก็เดินไปคุยกับพวกเขาได้เลย
พอถึงเวลาก็ให้พวกเขาไปทำงานได้ทันที! ข้าไม่อาจรับเงินสองครั้งได้หรอก ยังไม่อยากโกงท่าน!”
พอกล่าวจบทุกคนต่างหัวเราะออกมา
จ้าวลิ่วโดยนิสัยมิใช่คนละโมบกระหายเงินทอง อย่างไรก็ตามเขามองเห็นว่านางเป็นคนที่มีความเคารพตัวเองสูงมาก ในใจเขาจึงรู้สึกดีต่อนางยิ่ง
เหลียนฟางโจวมิได้ดึงดันอีกต่อไป หญิงสาวพยักหน้ายอมรับตามนั้น เอ่ยแย้มยิ้ม
“ก็ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้! แต่ถึงอย่างไร ข้าก็ยังคงไปพบท่านเพื่อขอความช่วยเหลืออยู่ดี!”
พอกล่าวจบ หญิงสาวจึงเอางานที่อยากสร้างเรือนพักและโกดังบนที่ดิน
26 หมู่ตรงปากทางเข้าหมู่บ้านมาหารือ เรื่องจึงกลายเป็นว่าอยากหากลุ่มคนที่ทำหน้าที่สร้างอาคารเหล่านี้
จ้าวลิ่วผงกศีรษะ แล้วถามขึ้น
“ท่านมีอะไรที่ต้องการที่ยังมิได้บอกมาอีกหรือไม่?
ข้าจะได้ไปดำเนินการเรื่องหาคนมาให้
แล้วท่านจะให้เรียกคนไปทำงานที่ตรงนั้นเมื่อใด”
เหลียนฟางโจวจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าอยากได้คนที่มีฝีมือเหนือกว่าแรงงานธรรมดาสักหน่อย ทั้งยังมีหัวคิดพลิกแพลงบ้าง แน่นอน
ยังต้องขยันหนักเอาเบาสู้ หากเคยมีประวัติขโมยขโจรฉ้อฉล ต่อให้ฝีมือดีสักเพียงไหน ข้าก็ไม่ต้องการ! ส่วนเรื่องค่าจ้าง น้าจ้าว...ท่านดูแล้วหากเจอคนดีๆ ท่านก็รับสมัครเข้ามาได้เลย! รอให้ได้โฉนดที่ทางการออกให้ ก็สามารถเริ่มงานได้ทันที ข้าอยากรีบเร่งการก่อสร้างนี้ให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้!”
จ้าวลิ่วนิ่งคิดดูสักพัก จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง “ไม่รู้ว่าท่านอยากใช้วัสดุอะไรก่อสร้าง เช่นไม้
หิน กระเบื้อง อิฐ เป็นต้น ข้าจะได้หาดูคนที่เหมาะสมให้? หากคิดในกรณีราบรื่นไม่มีสะดุด ยามนี้ไม่นับเรื่องทำให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ก็ยังต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งเดือน เมื่องานเสร็จก็จะไม่พบปัญหาใดๆด้วย!”
เหลียนฟางโจวส่ายศีรษะ เอ่ยแย้มยิ้ม
“ข้าวางแผนไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว ว่าจะใช้อิฐธรรมชาติที่แข็งแรงทนทานในการก่อสร้าง ส่วนวัสดุพวกไม้และกระเบื้องมุงหลังคาก็ไม่เลว ข้าก็คิดดูอยู่ ท่านอยู่ที่โน่นรบกวนช่วยข้าหาคนที่หน่วยก้านดีให้ข้า และเป็นไปได้หรือไม่ หากให้หัวหน้าคนงานไปซื้อวัสดุอุปกรณ์ด้วยกันกับข้า? ส่วนแบบแปลนอาคารนั้น ข้าเองกำลังร่างอยู่ เมื่อถึงเวลาข้าจะมาขอความเห็นจากท่าน ว่าควรใช้วัสดุแบบใดกับส่วนไหนของอาคารดี....”
จ้าวลิ่วรู้สึกทึ่งจนคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อย เขาเผลอจับจ้องนางโดยไม่รู้ตัว เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แม่นางเหลียนสามารถวาดแบบแปลนได้ด้วย! ความคิดนี้ของท่านช่างไม่เลวเลย ข้ามองว่ามีประสิทธิภาพนัก มีเจ้านายแบบท่านนี่
นับว่าน่ายินดีแท้
งานก่อสร้างอาคารจะไม่สะดุดเพราะปัญหาวัสดุขาดแคลนและเหตุไม่คาดฝันอื่นๆเป็นแน่ !”
จ้าวลิ่วถามคำถามไม่ซับซ้อนนักกับหญิงสาวสองสามคำถาม ทั้งสองต่างตกลงกันได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เมื่อสนทนากันเรื่อยเปื่อยพอหอมปากหอมคอแล้ว หลิวเจี่ยจึงหันไปทางจ้าวลิ่วแต่ละฝ่ายต่างสบตากัน แล้วจึงหัวเราะเอ่ยขึ้น
“ยามนี้ก็ล่วงเลยเวลามามากแล้ว
พวกเราคงต้องขอตัวก่อน! แม่นางเหลียนท่านก็ไปจัดการธุระปะปังก่อนเถิด!”
เหลียนฟางโจวผงกศีรษะเห็นด้วย พลางคลี่ยิ้มเอ่ยว่า “ตรงกันข้ามข้ากลับทำให้ น้าชูและน้าจ้าวเสียเวลามาครึ่งวันเลย!” จากนั้นจึงเดินไปส่งแขกพร้อมเหลียนเซ่อและอาเจี่ยน
ก่อนจะแยกกัน หลิวเจี่ยพลันนึกถึงเรื่องขายถ่านขึ้นมาได้ เขาเกือบจะลืมบอกเหลียนฟางโจวเสียแล้ว จึงเอ่ยคุยทันที พลางส่งกระดาษรายการให้หญิงสาว บนกระดาษเขียนชื่อคนที่อยากสั่งซื้อ 6-7
สกุล มีทั้งคนสกุลใหญ่ในเมืองและเหลาอาหาร ร้านผ้าไหม
ร้านค้าทั่วไป และกิจการอื่นๆ แต่ละรายการก็คือรายชื่อแต่ละสกุล และจำนวนชั่งที่ต้องการ ทั้งแจงว่าให้สกุลไหนเร่งด่วนก่อน สกุลไหนไม่เร่งมากนัก หากพวกเขามีเวลาพรุ่งนี้ก็สามารถเอาไปส่งให้ก่อนได้เลย
เหลียนฟางโจวดีอกดีใจยิ่งนัก หญิงสาวขอบคุณแล้วขอบคุณอีก ต่อหน้าหลิวเจี่ยเธอหยิบกระดาษรายการสั่งซื้อมาอ่านดูอีกรอบ มีตัวอักษรส่วนน้อยที่นางอ่านไม่ออก หลิวเจี่ยจึงอธิบายให้ฟัง เพื่อนางจะได้รู้และจำเอาไว้ใช้ในภายหน้า
เมื่อส่งหลิวเจี่ยและจ้าวลิ่วแล้ว เหลียนฟางโจวจึงเอ่ยแย้มยิ้ม “อาเจี่ยน
พรุ่งนี้ท่านเข้าไปในเมือง
ไปขายถ่านกับน้าชูด้วยกัน
ข้ากับอาเซ่อจะดูแลความเรียบร้อยที่นี่เอง!”
“ตกลง!” อาเจี่ยนผงกศีรษะ แย้มยิ้มเป็นการรับปาก
“อาเซ่อ...เจ้าไปดูหน่อยสิว่างานเสร็จไปถึงไหนแล้ว ไปเถิด!” อาเจี่ยนพลันหันไปบอกเหลียนเซ่อ
เหลียนเซ่อชะงักไปเล็กน้อย เบนสายตาไปทางเหลียนฟางโจวทันที เห็นนางไม่คัดค้านอันใด จึงร้อง “อ้อ” ทีหนึ่งแล้วเดินจากไป
เหลียนฟางโจวอดตวัดสายตาไปทางอาเจี่ยนไม่ได้ เธอรู้ดีว่า อาเจี่ยนต้องมีเรื่องที่อยากคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวเป็นแน่
อาเจี่ยนหัวเราะ ดูราวมีความอึดอัดใจอยู่บ้าง ผ่านไปชั่วขณะ
จึงเอ่ยเสียงค่อย “เรื่องราวในวันนี้.....เดิมทีข้าไม่ควรไปเรียกท่านมา ทว่าพอคิดดูแล้ว นอกจากท่านแล้วก็ไม่มีใครเหมาะสมอีก ฟางโจว...ท่านจะคิดตำหนิข้าไหม?”
เหลียนฟางโจวกระพริบตาปริบๆ
ครุ่นคิดลึกๆ แล้วก็เริ่มเข้าใจความนัยของอาเจี่ยนในเวลาอันสั้น
เดิมทีเขาไม่ควรเรียกเธอมา ย่อมเป็นเพราะสาเหตุมาจากอันธพาลกลุ่มนั้น ไม่มีสตรีที่ยังไม่ออกเรือนดีๆคนไหนอยากไปทะเลาะกับคนประเภทนั้นหรอก
ทว่าเหลียนฟางโจวคือหัวหน้าครอบครัว อาเจี่ยนเป็นเพียงคนนอก จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะไปโต้แย้งกับเหลียนลี่ได้
เหลียนลี่เองก็มิได้เห็นชายหนุ่มอยู่ในสายตาด้วย!
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่มีทางเลือก ต้องขอให้เหลียนฟางโจวมา!
ทว่าเรื่องราวก็มิได้เป็นไปอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้จริงๆ ปากของเอ้อร์โก่วเจือนั่นมิได้กล่าวคำดีๆออกมาเลย! หากเหลียนฟางโจวไม่แข็งแกร่งและฉลาดเฉลียวพอ มิได้เยือกเย็นพอ หรือน่าเกรงขามพอ อาเจี่ยนเชื่อว่า ไม่เฉพาะเอ้อร์โก่วจือ ปากของพวกสมุนที่เหลือก็คงไม่มีคำดีๆหลุดออกมา!
ต่อหน้าผู้คนมากมาย
ชื่อเสียงของเหลียนฟางโจวแท้จริงได้ถูกทำลายลงไปหมดสิ้นแล้ว! สีหน้าของเอ้อร์โก่วจือและคนอื่นๆ
และคำพูดทั้งหลายแหล่ของเอ้อร์โก่วจือในยามนั้นทำให้อาเจี่ยนท่วมท้นด้วยความรู้สึกผิดพอๆกับความเสียใจ ด้วยเหตุนี้ภายหลังเขาจึงลงไม้ลงมือกับพวกมันอย่างไร้ความปราณีและไม่มีการผ่อนปรนใดๆทั้งสิ้น!
มิใช่จะมีเพียงแต่โทสะ ทว่าชายหนุ่มยังชิงชังท่าทางเกะกะระรานของนักเลงหัวไม้พวกนั้นด้วย เขายิ่งกระจ่างแจ้งแก่ใจว่า หากไม่กล้าลงมือเล่นงานพวกมันอย่างรุนแรงแบบสายฟ้าแลบปานนั้น พวกมันคงไม่หลาบจำ และคอยคิดแก้แค้นเอาคืน เช่นนั้น....จะต้องมีปัญหาตามมาภายหลังเป็นแน่
ทว่าเขายังคงรู้สึกอยากขอโทษเหลียนฟางโจว ชื่อเสียงของสตรีที่ยังไม่ออกเรือนแท้จริงแล้ว เป็นสิ่งสำคัญยิ่งจริงๆหรือไม่นะ? ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามผลักดันให้เหลียนเซ่อไป เพื่อเปิดโอกาสให้เขาได้ขอโทษเหลียนฟางโจวตรงๆ
เหลียนฟางโจวรู้ซึ้งถึงความคิดของชายหนุ่มจากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา แทนที่จะรู้สึกเสียใจ หญิงสาวกลับรีบเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาเจี่ยน
ท่านอย่าได้คิดและพูดเช่นนี้! ตามที่ท่านเอ่ยมา เอาจริงๆท่านมิได้เรียกข้ามาหรอก เรื่องนี้โดยพื้นฐานแล้ว มันไม่มีทางคลี่คลายลงได้! ตัวข้านั้นมีความสามารถ ในการเผชิญกับปัญหาด้วยเหตุผลอย่างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว จะมีอะไรน่ากลัวนักรึ?
ตั้งแต่ข้าตัดสินใจจะประคับประคองครอบครัวนี้ให้ตั้งตัวเป็นปึกแผ่นให้ได้ ข้าจึงต้องจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้! ฮะฮะ ไม่เป็นไรหรอก ข้าหน้าหนาเสียอย่าง ไม่มีอะไรสามารถล้มข้าได้ง่ายๆหรอก!”
อาเจี่ยนอดหัวเราะไม่ได้
พรูลมหายใจพลางเอ่ยว่า “เป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือนเช่นท่าน ไม่ง่ายดายเลยจริงๆ!”
เหลียนฟางโจวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ท่านมิต้องพูดอะไรให้มากความไป! ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าจะไม่รักชอบในสิ่งที่ลงมือทำเล่า?”
อาเจี่ยนชะงักไปคราหนึ่ง พอคิดถึงพฤติกรรมทั้งหลายทั้งแหล่ของเหลียนฟางโจวที่ผ่านในอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะทำสิ่งใด นางก็ล้วนทำด้วยความกระตือรือร้น อย่างทุ่มเทหมดทั้งหัวใจ นั่นมิใช่เพราะนางรักชอบในสิ่งที่ทำหรอกหรือ?
คนทั้งคู่มองหน้ากันแล้วอดหัวเราะออกมาไม่ได้
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ
มาลงตอนใหม่ชดเชยให้ตามสัญญาแล้วนะคะ แม้จะมา late ไปหน่อย... ขออภัยด้วยค่ะ ^-^
ขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ...สนุกมากรอตอนต่อไปนะค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ///คู่นี้เค้าคอยๆสนิทสนมกันขึ้นเรื่อยๆ
ตอบลบเมื่อไหร่จะรักกันซะที่นะ รอๆ ขอบคุณมากๆนะคะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ เข้าใจกันมากขึ้นนะเนี่ย มาแบบซึมทีละนิด
ตอบลบขอบคุณนะคะ
ตอบลบสนุกแบบไปเรือยๆทุกตอน ขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบอาเจี่ยนแต่งเข้าเลยสิ จะได้ไม่เป็นคนนอกอีก XD
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบอาเจี่ยนน่ารัก
ตอบลบเมื่อไหร่ท่านแม่ทัพจะจำความได้คะ
ตอบลบอีกนานค่ะ หลังแต่งงานไปแล้วสักพัก ราวๆตอนที่ 598 ตอนพบกับนางรองเพื่อนสมัยเด็กมาตามหา ความทรงจำเลยกลับคืนมา
ลบ