วันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 154 สวนผลไม้สกลุหลิน 3

                       หลินเฟิงชูส่ายหน้าน้อยๆ   ในใจรู้สึกเสียดายแทน  จึงอดเอ่ยออกมาไม่ได้ “แม่นางเหลียนไฉนถึงได้ซื้อแต่หน่อพันธุ์ต้นพลับเล่าผลไม้ประเภทอื่นก็มีออกมากมาย!   หากอยากได้ชนิดอื่น   ป่านนี้คงจะได้จำนวนเพียงพออย่างที่ต้องการแล้ว!”
            เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้ม “ชนิดอื่นข้าก็ต้องการด้วย   เพียงแต่ไม่ต้องการมากนัก  ข้าเพียงตั้งใจปลูกผลไม้อื่นแซมไปกับต้นพลับเพียงเท่านั้น!  ข้าจึงอยากได้หน่อพันธุต้นพลับเป็นหลัก  ภายหน้าคิดว่าจะทำลูกพลับแห้งน่ะ!”

            หลินเฟิงชูพลันเข้าใจ  จึงพยักหน้าแย้มยิ้ม “เหตุผลเช่นนี้นี่เอง!  แม่นางเหลียน เป็นสตรียังไม่ออกเรือน   คงสามารถทำลูกพลับแห้งเองกินกันเองในครอบครัวได้ล่ะนะ  การทำลูกพลับแห้งดูเหมือนทำง่าย  ทว่าแท้จริงแล้วมันก็มีวิธีทำหลากหลาย!  ผู้คนมากมายทำแล้วมีรสชาติไม่เหมือนกันสักคน  อีกทั้งยังไม่อาจเก็บไว้ได้นาน  ดูแล้วไม่เหมาะจะทำเลย!”
            วาจาของหลินเฟิงชูนี้ฟังดูเผินๆเป็นการเสนอะแนะ  แท้จริงแล้วแฝงความตั้งใจไว้หนึ่งส่วน
            ที่เหลียนฟางโจวอยากได้หน่อพันธุ์ต้นพลับไปปลูกเป็นอันมากเพื่อทำลูกพลับแห้งนั้น   แน่นอนว่าเพื่อทำไว้ขายเท่านั้น   หาได้ต้องการทำไว้กินกันเองไม่!
            เขาจึงพูดไปเพื่อเตือนหญิงสาว  อยากทำลูกพลับแห้งดีๆไว้ขาย  ย่อมมิใช่เรื่องง่าย!  คิดจมปลักอยู่กับผลไม้ชนิดเดียว  มิสู้ปลูกให้หลากหลายประเภท  ซ้ำยังขายผลผลิตได้มิดีกว่าหรือ!
            เหลียนฟางโจวย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าการทำพลับแห้งนั้นไม่ง่าย  วิธีการดูว่าผลพลับไหนสุกได้ที่พร้อมเก็บแล้วนั้น   ต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษ
            ก็อย่างที่หลินเฟิงชูว่าไว้จริงๆ  คิดทำเช่นนั้นมิใช่ความคิดที่ดีนัก  ไม่เพียงอาจได้สีสันของลูกพลับแห้งที่หม่นคล้ำแล้ว  ซ้ำยังดูน่าเกลียดอีกด้วย  แถมยังฝาดเวลากิน  ส่วนการจะทำลูกพลับแห้งให้ออกมาดีนั้น  จะต้องทำให้เป็นสีส้มอำพันใสทั้งลูก  บนผิวหน้าเคลือบด้วยผงละเอียดสีขาวเล็กๆ  เวลากินแล้วให้รสสัมผัสนุ่มหยุ่น  มีกลิ่นหอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์   อีกทั้งยังต้องทิ้งรสชาติละมุนไว้ในปากอีกด้วย!



            ทว่าใครจะคาดคิดเล่า   เธอ...เหลียนฟางโจวสามารถทำลูกพลับออกมาดีแบบนั้นได้นะสิ!
            หญิงสาวหัวเราะแย้มยิ้ม  มิได้เอ่ยโต้แย้งถ้อยคำที่หลินเฟิงชูกล่าวมา   ที่ผู้อื่นพูดนั้น ก็เพื่อเตือนสติด้วยความหวังดี   หากเธอขัดแย้ง   อาจทำให้ผู้อื่นผูกใจเจ็บเอาได้ 
            “ในเมื่อเป็นแบบนี้ข้าตกลงซื้อทั้งหมด 1,700 ต้น  รอให้ถึงต้นฤดูใบไม้ผลิก่อน ข้าจะมาขนกลับไปอีกที!   อ้อ...ส่วนหน่อพันธุ์ผลไม้อื่น  แต่ละชนิดเอาอย่างละเท่าๆกัน  ท่านให้ข้ามาชนิดละ 20 ต้นก็แล้วกัน!  สำหรับหน่อพันธุ์ต้นท้อและต้นทับทิม   ขอเป็นต้นท้อ 20 ต้น  ต้นทับทิม 10 ต้น  พอถึงฤดูใบไม้ผลิข้าจะมาขนอีกที!”  เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมรอยยิ้ม
            ผลไม้สองชนิดนี้ เธอต้องการรวมกัน 30 ต้น   เหลียนฟางโจววางแผนจะปลูกไว้รอบๆกระท่อมไม้ตากอากาศชั้นดีที่กำลังจะสร้างขึ้น
            พอถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ  ยามผลักบานหน้าต่างเปิดออกมา  ย่อมสามารถชื่นชมดอกท้อที่กำลังเบ่งบานเต็มไปหมด  รวมทั้งเห็นกลีบดอกมากมายของมันกำลังปลิดปลิวลอยละล่องไปมาในอากาศ   อีก 5-6 เดือนจะมีดอกท้อสีแดงบานสะพรั่งดูคล้ายเปลวเพลิงร้อนแรง  เป็นที่ถูกใจนางยิ่งนัก


            หลินเฟิงจูผงกศีรษะ  จึงยิมแย้มเอ่ยว่า “ได้สิ  หน่อพันธุ์ต้นพลับอายุ 3 ปี คิดต้นละ 15 อีแปะ  หากอายุ 4 ปีคิดต้นละ 20 อีแปะ  ส่วนหน่อพันธุ์ของผลไม้ชนิดอื่นๆ ข้าให้ท่านเป็นหน่อพันธุ์ชั้นเยี่ยมอายุ 5 ปีทั้งหมด  หากคำนวณแล้วมีเศษจะปัดเศษทิ้ง  ข้าให้ราคาเพียงต้นละ 20 อีแปะ   เนื่องจากท่านซื้อหน่อพันธุ์ต้นพลับเป็นอันมาก   ข้าจะให้ส่วนลดแก่ท่าน !   อยากให้ท่านรู้ว่าหน่อพันธุ์ต้นท้อชั้นเยี่ยม อายุ 5 ปี ปกติราคาอยู่ที่ต้นละ 30 อีแปะนะ!”
            “ตกลง!”  เหลียนฟางโจวไม่มีปัญหาอยู่แล้ว  พยักหน้าแย้มยิ้มด้วยความพอใจ  “ท่านก็คิดเงินตามนี้ได้เลย!  ว่าเป็นเงินทั้งสิ้นเท่าใด  ข้าจะจ่ายให้ท่านเต็มจำนวน!  ปีหน้าตอนมาถึงเพียงขอให้หน่อพันธุ์ยังสมบูรณ์ดีอยู่!  เอ้อ...กุหลาบเกี๋ยงเวยข้างๆสวนผลไม้ของท่าน  ไม่ทราบว่าข้าขอแบ่งสักหน่อยจะได้หรือไม่?
            หลินเฟิงชูคาดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวจะยินดีจ่ายเงินเต็มจำนวนเช่นนี้  จึงแย้มยิ้มเอ่ยว่า “โอ ได้สิ!  แม่นางเหลียนท่านช่างกระตือรือร้นเสียจริง   เชิญตามสบายเลย  สำหรับหน่อพันธุ์ผลไม้  ข้าจะให้ของชั้นเยี่ยมแก่ท่านแน่นอน!   ส่วนกุหลาบเกี๋ยงเวย ยามฤดูใบไม้ผลิท่านก็มาเอาตอนที่มาขนหน่อพันธุ์ผลไม้ได้เลย  เอากรรไกรมาตัดกิ่งบางส่วน  แล้วเอากลับไปปักลงดินก็ขึ้นแล้ว!  หากท่านชอบมาก  ก็เอาไปให้มากเท่าที่ต้องการเลย!”
            หลินเฟิงชูยินดีปรีดานัก  แย้มยิ้มรีบขอบคุณยกใหญ่ 
            หลินเฟิงชูจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม  “เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว  ขอเชิญแม่นางเหลียนตามข้าไปที่บ้านเพื่อคิดเงินกันดีไหม!”
            เหลียนฟางโจวพยักหน้าน้อมรับ
            หลินเฟิงชูตรงเข้าไปร้องบอกผู้เฒ่าหลิน กับหวางซื่อก่อน  แล้วจึงกลับไปพร้อมเหลียนฟางโจวและคนอื่นๆ
            เหลียนฟางโจวกวาดตาสำรวจไปรอบๆเพื่อมองหาคน  เพราะเหลียนฟางฉิงกับหลินเซ่าเอ๋อร์ รวมทั้งเหลียนเช่อ หายตัวไปนานแล้วไม่เห็นแม้เพียงเงา  หญิงสาวนิ่วหน้าโดยไม่รู้ตัว  แล้วจึงหันมายิ้มให้หลินเฟิงชู  “น้าหลิน   น้องสาวข้ากับเซ่าเอ๋อร์ของท่าน ไม่รู้ว่าพากันไปเล่นแถวไหนกันนะ....”
            หลินเฟิงชูหัวเราะ “ท่านเบาใจเถิด  เซ่าเอ๋อร์ เด็กน้อยคนนั้น  เติบโตในสวนผลไม้ตั้งแต่ยังเล็กๆ  พื้นที่สวนผลไม้ที่นี่ก็ราบเรียบด้วย  จะเกิดเหตุอันใดได้!   ข้าจะเรียกพวกเขาให้เอง!”
            พอกล่าวจบ พลันมีเสียงร้องตะโกนของเด็กน้อยเซ่าเอ๋อร์ดังแหวกอากาศออกมา!  "ต้องกลับแล้วหรือ!”
            ไม่ทันไร  ก็เห็นหลินเซ่าเอ๋อร์จูงมือเหลียนฟางฉิงออกมาจากดงต้นไม้  โบกมือส่งให้คนที่ยืนทางฝั่งนี้ พลางร้องเรียก “เฮ้”  โดยมีเหลียนเช่อเดินติดตามมาเบื้องหลังเด็กหญิงทั้งสอง
            ครั้นแล้วหลินเซ่าเอ๋อร์กับเด็กอีกสองคนก็รีบเดินเข้ามาสมทบอย่างไว   ทุกคนในที่นั้นจึงพากันเดินกลับไปพร้อมกัน
            เหลียนฟางฉิงเห็นได้ชัดว่ายังเล่นไม่จุใจ  อาจเป็นเพราะการเดินเที่ยวไปทั่วในสวนผลไม้ทำให้เหนื่อยอยู่บ้าง  แก้มทั้งสองของเด็กน้อยจึงขึ้นสีแดงระเรื่อ  ดวงตากลมโตคู่สวยปรากฏหยาดน้ำหล่อเป็นประกายประดุจบ่อน้ำใสกระจ่าง
            “พี่ใหญ่”  เด็กหญิงกอดเอวเหลียนฟางโจวยิ้มแป้นอย่างมีความสุข “พี่เซ่าเอ๋อร์บอกข้าว่า  พอถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า จะพาข้าไปดูดอกไม้บานสะพรั่งในสวนผลไม้บ้านนาง  พอถึงฤดูใบไม้ร่วงจะพาข้าไปเก็บผลไม้อีกด้วย!”
            เหลียนฟางโจวเหลือบมองหลินเฟิงชูแวบหนึ่ง  เห็นเขาหัวเราะหึหึ หากไม่โต้แย้งอันใด  จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม  “หากเจ้าอยากเล่นกับเซ่าเอ๋อร์นัก  ก็มาได้  แต่ห้ามซนเด็ดขาดล่ะ!”
            “อื้ม !  ข้าจะไม่ซนเด็ดขาด!”  เหลียนฟางฉิงพยักหน้ารับคำทันที  ซ้ำยังยิ้มแป้น “รอให้ปลูกต้นผลไม้บนเขาฮวากั่วซานน้อยๆของบ้านเราก่อน   ข้าจะชวนเซ่าเอ๋อร์ไปเล่นที่บ้านเราด้วยนะ!”
            “ได้สิ!” เหลียนฟางโจวผงกศีรษะด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
            เด็กหญิงเล็กทั้งสองคนต่างโห่ร้องดีอกดีใจ   ส่งเสียงคุยจ้อหัวเราะกันอย่างตื่นเต้น
            “ปกติเซ่าเอ๋อร์ไม่ชอบไปเล่นกับเด็กผู้หญิงในหมู่บ้านเลย  ใครจะคิดว่านางจะมาสนิทสนมถูกคอกับเด็กหญิงตัวน้อยจากสกุลเหลียนได้!”  หลินเฟิงชูเห็นแล้วก็แย้มยิ้มออกปาก
            เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้ม “น้องสาวของข้าคนนี้  นางก็แก่นแก้วไม่เบา!”
            ในที่สุดคนทั้งหมดก็มาถึงตัวบ้าน  หลินเฟิงชูเชิญให้พวกเขาเข้าไปนั่งในเรือน  ซ้ำยังเรียกเซ่าเอ๋อร์ไปชงชา และนำผลไม้ของครอบครัวมาต้อนรับแขก  ส่วนหลินเฟิงชูไปล้างมือล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้า  จากนั้นจึงถือสมุดบันทึกออกมา
            เจ้าของสวนลงมือจดบันทึกรายการอย่างว่องไว  ทั้งคิดเงินค่าสินค้าโดยละเอียดถี่ถ้วน  หน่อพันธุ์ต้นพลับทั้งหมดที่ซื้อเป็นเงิน 31 ตำลึง 5 เฉียน  ยังมีหน่อพันธุ์ ต้นท้อ ต้นหลี่(พลัม)  ต้นหลี(แพร์)  ต้นซิ่ง(แอปปริคอท) ต้นทับทิม  ต้นปี๋ปา(เบอร์รี่ชนิดหนึ่ง)   ต้นหยางเหมย(เบอร์รี่ชนิดหนึ่ง)  ต้นอิง(เชอร์รี่)  ต้นส้ม  ต้นเหอเถา (วอลนัท) รวมทั้งหมด 300 ต้น  คิดเป็นเงิน 6 ตำลึง  รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 37 ตำลึง 5 เฉียน
            ระหว่างคำนวณตรวจสอบอีกครั้ง  ยามเหลียนฟางโจวดูรายการเหล่านั้นแล้ว แอบรู้สึกอิจฉาในใจไม่ได้   ไม่แปลกใจเลยว่ากิจการสวนผลไม้ของสกุลหลินนี้  ทำเงินได้มากกว่าการทำนาทำไร่ยิ่งนัก  มิต้องพูดถึงผลไม้ที่นำออกขายในแต่ละปีด้วย  นี่แค่ขายหน่อพันธุ์อย่างเดียว  ปีหนึ่งๆก็สามารถทำเงินได้มหาศาลแล้ว!
            มิต้องสงสัยเลยว่า  ดูเหมือนนางอาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ของปีนี้ไปแล้ว  ทว่าส่วนที่ขายให้รายเล็กรายน้อย  ก็น่าจะทำเงินได้ไม่น้อย
            หลินเฟิงชูแห่งสกุลหลินเจรจาไปพลาง หัวเราะฮาฮาไปพลาง  ว่าจะสามารถส่งหน่อพันธุ์อายุ 3 ปีให้อีกครั้งได้เมื่อไร  ให้เหลียนฟางโจวเลือกวิธีการส่งอย่างไรก็ได้ตามชอบ  นอกจากนี้หน่อพันธุ์ที่ซื้อไปตายลงภายในเวลาหนึ่งเดือน และมีจำนวนไม่เกิน 50 ต้น  จะลดราคาหน่อพันธุ์ให้ครึ่งหนึ่งยามที่พวกเขามาซื้ออีกครั้ง
            ซ้ำยังบอกชัดเจนว่าที่ให้ราคาพิเศษเช่นนี้  เป็นเพราะยอดที่นางสั่งซื้อมีจำนวนมหาศาล  แถมยังจ่ายเงินล่วงหน้าเต็มจำนวนอีกด้วย  ดังนั้นเขาจึงสามารถให้เงื่อนไขพิเศษขนาดนี้ได้  ลูกค้าอื่นๆล้วนมิเคยได้รับ
            ไม่ว่าที่กล่าวมาจะใช่หรือไม่ใช่  อย่างน้อยพอได้ฟังแล้ว  ในใจย่อมรู้สึกพึงพอใจไม่น้อย  อารมณ์ก็ดีขึ้นโดยพลัน 
            เหลียนฟางโจวจ่ายเงินด้วยตั๋วเงิน และเงินเหรียญสำหรับส่วนที่เป็นเศษด้วยความพออกพอใจ  อดเอ่ยพร้อมรอยยิ้มไม่ได้ “น้าชู  เหมาะทำการค้าจริงๆ!   แค่มองดูก็พูดได้ลื่นไหลไม่มีติดขัดสักนิด!”
-------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ และการติดตามค่ะ ^-^
  


14 ความคิดเห็น:

  1. ดีใจแทนนาง อยากให้ทุกอย่างลงตัวไวๆ ทำเงินมากๆ😊😊😊 ขอบคุณผู้แปลนะคะ แปลภาษาได้งดงามเหมือนเดิม

    ตอบลบ
  2. เด็กน้อยได้เพื่อนใหม่ การค้ารุ่งเรือง

    ตอบลบ
  3. นี่อาจจะเป็นพันธมิตรทางการค้าในอนาคตก็ได้นะคะ ><

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณค่ะ สนุกมาก

    ตอบลบ
  5. เย้ๆมีพันธ์ไม้แล้วจะได้เริ่มปลูก

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ11 มกราคม 2561 เวลา 19:06

    หวังว่าจะไม่มีอุปสรรคอีก

    ตอบลบ
  7. ไม่อยากให้มัมารเลย กะลังสนุกเชียว

    ตอบลบ
  8. ฟางโจวเลือกผลไม้มาปลูกน่ากินทั้งนั้นเลย///ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณสำหรับการแปลให้อ่านนะคะ

    ตอบลบ
  10. นี่น่าจะเรียกได้ว่าได้เจอคนดีดี เพิ่มขึ้นใช่มั้ย ย้ายบ้านเมื่อไหร่ คงได้ห่างไกลจาก ญาติผู้ใหญ่มหาภัยนั่นได้ละเนอะ
    ขอบคุณมากค่ะ คิดถึงเรื่องติดตาม มาเรื่อยๆค่ะ

    ตอบลบ
  11. สวนผลไม้ใหญ่มากกกกกก....แต่ชอบบังกะโลในป่าท้อ คงงามมาก

    ตอบลบ