หลินเฟิงชูส่ายหน้าน้อยๆ ในใจรู้สึกเสียดายแทน จึงอดเอ่ยออกมาไม่ได้ “แม่นางเหลียนไฉนถึงได้ซื้อแต่หน่อพันธุ์ต้นพลับเล่า? ผลไม้ประเภทอื่นก็มีออกมากมาย! หากอยากได้ชนิดอื่น ป่านนี้คงจะได้จำนวนเพียงพออย่างที่ต้องการแล้ว!”
เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้ม
“ชนิดอื่นข้าก็ต้องการด้วย เพียงแต่ไม่ต้องการมากนัก ข้าเพียงตั้งใจปลูกผลไม้อื่นแซมไปกับต้นพลับเพียงเท่านั้น! ข้าจึงอยากได้หน่อพันธุต้นพลับเป็นหลัก ภายหน้าคิดว่าจะทำลูกพลับแห้งน่ะ!”
หลินเฟิงชูพลันเข้าใจ จึงพยักหน้าแย้มยิ้ม “เหตุผลเช่นนี้นี่เอง! แม่นางเหลียน เป็นสตรียังไม่ออกเรือน คงสามารถทำลูกพลับแห้งเองกินกันเองในครอบครัวได้ล่ะนะ การทำลูกพลับแห้งดูเหมือนทำง่าย ทว่าแท้จริงแล้วมันก็มีวิธีทำหลากหลาย! ผู้คนมากมายทำแล้วมีรสชาติไม่เหมือนกันสักคน อีกทั้งยังไม่อาจเก็บไว้ได้นาน ดูแล้วไม่เหมาะจะทำเลย!”
วาจาของหลินเฟิงชูนี้ฟังดูเผินๆเป็นการเสนอะแนะ แท้จริงแล้วแฝงความตั้งใจไว้หนึ่งส่วน
ที่เหลียนฟางโจวอยากได้หน่อพันธุ์ต้นพลับไปปลูกเป็นอันมากเพื่อทำลูกพลับแห้งนั้น แน่นอนว่าเพื่อทำไว้ขายเท่านั้น หาได้ต้องการทำไว้กินกันเองไม่!
เขาจึงพูดไปเพื่อเตือนหญิงสาว อยากทำลูกพลับแห้งดีๆไว้ขาย ย่อมมิใช่เรื่องง่าย! คิดจมปลักอยู่กับผลไม้ชนิดเดียว มิสู้ปลูกให้หลากหลายประเภท ซ้ำยังขายผลผลิตได้มิดีกว่าหรือ!
เหลียนฟางโจวย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าการทำพลับแห้งนั้นไม่ง่าย วิธีการดูว่าผลพลับไหนสุกได้ที่พร้อมเก็บแล้วนั้น ต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษ
ก็อย่างที่หลินเฟิงชูว่าไว้จริงๆ คิดทำเช่นนั้นมิใช่ความคิดที่ดีนัก ไม่เพียงอาจได้สีสันของลูกพลับแห้งที่หม่นคล้ำแล้ว
ซ้ำยังดูน่าเกลียดอีกด้วย แถมยังฝาดเวลากิน ส่วนการจะทำลูกพลับแห้งให้ออกมาดีนั้น จะต้องทำให้เป็นสีส้มอำพันใสทั้งลูก บนผิวหน้าเคลือบด้วยผงละเอียดสีขาวเล็กๆ เวลากินแล้วให้รสสัมผัสนุ่มหยุ่น มีกลิ่นหอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังต้องทิ้งรสชาติละมุนไว้ในปากอีกด้วย!
ทว่าใครจะคาดคิดเล่า เธอ...เหลียนฟางโจวสามารถทำลูกพลับออกมาดีแบบนั้นได้นะสิ!
หญิงสาวหัวเราะแย้มยิ้ม มิได้เอ่ยโต้แย้งถ้อยคำที่หลินเฟิงชูกล่าวมา ที่ผู้อื่นพูดนั้น
ก็เพื่อเตือนสติด้วยความหวังดี หากเธอขัดแย้ง อาจทำให้ผู้อื่นผูกใจเจ็บเอาได้
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ข้าตกลงซื้อทั้งหมด
1,700 ต้น รอให้ถึงต้นฤดูใบไม้ผลิก่อน ข้าจะมาขนกลับไปอีกที! อ้อ...ส่วนหน่อพันธุ์ผลไม้อื่น แต่ละชนิดเอาอย่างละเท่าๆกัน ท่านให้ข้ามาชนิดละ 20 ต้นก็แล้วกัน! สำหรับหน่อพันธุ์ต้นท้อและต้นทับทิม ขอเป็นต้นท้อ 20 ต้น ต้นทับทิม 10 ต้น พอถึงฤดูใบไม้ผลิข้าจะมาขนอีกที!” เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมรอยยิ้ม
ผลไม้สองชนิดนี้
เธอต้องการรวมกัน 30 ต้น
เหลียนฟางโจววางแผนจะปลูกไว้รอบๆกระท่อมไม้ตากอากาศชั้นดีที่กำลังจะสร้างขึ้น
พอถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยามผลักบานหน้าต่างเปิดออกมา ย่อมสามารถชื่นชมดอกท้อที่กำลังเบ่งบานเต็มไปหมด
รวมทั้งเห็นกลีบดอกมากมายของมันกำลังปลิดปลิวลอยละล่องไปมาในอากาศ
อีก 5-6
เดือนจะมีดอกท้อสีแดงบานสะพรั่งดูคล้ายเปลวเพลิงร้อนแรง เป็นที่ถูกใจนางยิ่งนัก
หลินเฟิงจูผงกศีรษะ จึงยิมแย้มเอ่ยว่า “ได้สิ หน่อพันธุ์ต้นพลับอายุ 3 ปี คิดต้นละ 15
อีแปะ หากอายุ 4 ปีคิดต้นละ 20 อีแปะ ส่วนหน่อพันธุ์ของผลไม้ชนิดอื่นๆ ข้าให้ท่านเป็นหน่อพันธุ์ชั้นเยี่ยมอายุ
5 ปีทั้งหมด หากคำนวณแล้วมีเศษจะปัดเศษทิ้ง ข้าให้ราคาเพียงต้นละ 20 อีแปะ เนื่องจากท่านซื้อหน่อพันธุ์ต้นพลับเป็นอันมาก ข้าจะให้ส่วนลดแก่ท่าน ! อยากให้ท่านรู้ว่าหน่อพันธุ์ต้นท้อชั้นเยี่ยม
อายุ 5 ปี ปกติราคาอยู่ที่ต้นละ 30 อีแปะนะ!”
“ตกลง!” เหลียนฟางโจวไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พยักหน้าแย้มยิ้มด้วยความพอใจ “ท่านก็คิดเงินตามนี้ได้เลย! ว่าเป็นเงินทั้งสิ้นเท่าใด ข้าจะจ่ายให้ท่านเต็มจำนวน! ปีหน้าตอนมาถึงเพียงขอให้หน่อพันธุ์ยังสมบูรณ์ดีอยู่! เอ้อ...กุหลาบเกี๋ยงเวยข้างๆสวนผลไม้ของท่าน ไม่ทราบว่าข้าขอแบ่งสักหน่อยจะได้หรือไม่?”
หลินเฟิงชูคาดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวจะยินดีจ่ายเงินเต็มจำนวนเช่นนี้ จึงแย้มยิ้มเอ่ยว่า “โอ ได้สิ! แม่นางเหลียนท่านช่างกระตือรือร้นเสียจริง เชิญตามสบายเลย สำหรับหน่อพันธุ์ผลไม้ ข้าจะให้ของชั้นเยี่ยมแก่ท่านแน่นอน! ส่วนกุหลาบเกี๋ยงเวย ยามฤดูใบไม้ผลิท่านก็มาเอาตอนที่มาขนหน่อพันธุ์ผลไม้ได้เลย เอากรรไกรมาตัดกิ่งบางส่วน แล้วเอากลับไปปักลงดินก็ขึ้นแล้ว! หากท่านชอบมาก ก็เอาไปให้มากเท่าที่ต้องการเลย!”
หลินเฟิงชูยินดีปรีดานัก แย้มยิ้มรีบขอบคุณยกใหญ่
หลินเฟิงชูจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว
ขอเชิญแม่นางเหลียนตามข้าไปที่บ้านเพื่อคิดเงินกันดีไหม!”
เหลียนฟางโจวพยักหน้าน้อมรับ
หลินเฟิงชูตรงเข้าไปร้องบอกผู้เฒ่าหลิน
กับหวางซื่อก่อน
แล้วจึงกลับไปพร้อมเหลียนฟางโจวและคนอื่นๆ
เหลียนฟางโจวกวาดตาสำรวจไปรอบๆเพื่อมองหาคน เพราะเหลียนฟางฉิงกับหลินเซ่าเอ๋อร์
รวมทั้งเหลียนเช่อ หายตัวไปนานแล้วไม่เห็นแม้เพียงเงา หญิงสาวนิ่วหน้าโดยไม่รู้ตัว แล้วจึงหันมายิ้มให้หลินเฟิงชู “น้าหลิน
น้องสาวข้ากับเซ่าเอ๋อร์ของท่าน ไม่รู้ว่าพากันไปเล่นแถวไหนกันนะ....”
หลินเฟิงชูหัวเราะ
“ท่านเบาใจเถิด เซ่าเอ๋อร์
เด็กน้อยคนนั้น
เติบโตในสวนผลไม้ตั้งแต่ยังเล็กๆ พื้นที่สวนผลไม้ที่นี่ก็ราบเรียบด้วย จะเกิดเหตุอันใดได้! ข้าจะเรียกพวกเขาให้เอง!”
พอกล่าวจบ พลันมีเสียงร้องตะโกนของเด็กน้อยเซ่าเอ๋อร์ดังแหวกอากาศออกมา! "ต้องกลับแล้วหรือ!”
ไม่ทันไร
ก็เห็นหลินเซ่าเอ๋อร์จูงมือเหลียนฟางฉิงออกมาจากดงต้นไม้ โบกมือส่งให้คนที่ยืนทางฝั่งนี้ พลางร้องเรียก
“เฮ้” โดยมีเหลียนเช่อเดินติดตามมาเบื้องหลังเด็กหญิงทั้งสอง
ครั้นแล้วหลินเซ่าเอ๋อร์กับเด็กอีกสองคนก็รีบเดินเข้ามาสมทบอย่างไว ทุกคนในที่นั้นจึงพากันเดินกลับไปพร้อมกัน
เหลียนฟางฉิงเห็นได้ชัดว่ายังเล่นไม่จุใจ
อาจเป็นเพราะการเดินเที่ยวไปทั่วในสวนผลไม้ทำให้เหนื่อยอยู่บ้าง แก้มทั้งสองของเด็กน้อยจึงขึ้นสีแดงระเรื่อ ดวงตากลมโตคู่สวยปรากฏหยาดน้ำหล่อเป็นประกายประดุจบ่อน้ำใสกระจ่าง
“พี่ใหญ่” เด็กหญิงกอดเอวเหลียนฟางโจวยิ้มแป้นอย่างมีความสุข
“พี่เซ่าเอ๋อร์บอกข้าว่า พอถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า
จะพาข้าไปดูดอกไม้บานสะพรั่งในสวนผลไม้บ้านนาง
พอถึงฤดูใบไม้ร่วงจะพาข้าไปเก็บผลไม้อีกด้วย!”
เหลียนฟางโจวเหลือบมองหลินเฟิงชูแวบหนึ่ง เห็นเขาหัวเราะหึหึ หากไม่โต้แย้งอันใด จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าอยากเล่นกับเซ่าเอ๋อร์นัก ก็มาได้
แต่ห้ามซนเด็ดขาดล่ะ!”
“อื้ม
! ข้าจะไม่ซนเด็ดขาด!” เหลียนฟางฉิงพยักหน้ารับคำทันที ซ้ำยังยิ้มแป้น “รอให้ปลูกต้นผลไม้บนเขาฮวากั่วซานน้อยๆของบ้านเราก่อน ข้าจะชวนเซ่าเอ๋อร์ไปเล่นที่บ้านเราด้วยนะ!”
“ได้สิ!”
เหลียนฟางโจวผงกศีรษะด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เด็กหญิงเล็กทั้งสองคนต่างโห่ร้องดีอกดีใจ ส่งเสียงคุยจ้อหัวเราะกันอย่างตื่นเต้น
“ปกติเซ่าเอ๋อร์ไม่ชอบไปเล่นกับเด็กผู้หญิงในหมู่บ้านเลย ใครจะคิดว่านางจะมาสนิทสนมถูกคอกับเด็กหญิงตัวน้อยจากสกุลเหลียนได้!” หลินเฟิงชูเห็นแล้วก็แย้มยิ้มออกปาก
เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้ม
“น้องสาวของข้าคนนี้ นางก็แก่นแก้วไม่เบา!”
ในที่สุดคนทั้งหมดก็มาถึงตัวบ้าน หลินเฟิงชูเชิญให้พวกเขาเข้าไปนั่งในเรือน ซ้ำยังเรียกเซ่าเอ๋อร์ไปชงชา
และนำผลไม้ของครอบครัวมาต้อนรับแขก ส่วนหลินเฟิงชูไปล้างมือล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นจึงถือสมุดบันทึกออกมา
เจ้าของสวนลงมือจดบันทึกรายการอย่างว่องไว
ทั้งคิดเงินค่าสินค้าโดยละเอียดถี่ถ้วน หน่อพันธุ์ต้นพลับทั้งหมดที่ซื้อเป็นเงิน 31
ตำลึง 5 เฉียน ยังมีหน่อพันธุ์ ต้นท้อ
ต้นหลี่(พลัม) ต้นหลี(แพร์) ต้นซิ่ง(แอปปริคอท) ต้นทับทิม ต้นปี๋ปา(เบอร์รี่ชนิดหนึ่ง) ต้นหยางเหมย(เบอร์รี่ชนิดหนึ่ง) ต้นอิง(เชอร์รี่) ต้นส้ม
ต้นเหอเถา (วอลนัท) รวมทั้งหมด 300 ต้น
คิดเป็นเงิน 6 ตำลึง
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 37 ตำลึง 5 เฉียน
ระหว่างคำนวณตรวจสอบอีกครั้ง ยามเหลียนฟางโจวดูรายการเหล่านั้นแล้ว
แอบรู้สึกอิจฉาในใจไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยว่ากิจการสวนผลไม้ของสกุลหลินนี้ ทำเงินได้มากกว่าการทำนาทำไร่ยิ่งนัก
มิต้องพูดถึงผลไม้ที่นำออกขายในแต่ละปีด้วย นี่แค่ขายหน่อพันธุ์อย่างเดียว ปีหนึ่งๆก็สามารถทำเงินได้มหาศาลแล้ว!
มิต้องสงสัยเลยว่า ดูเหมือนนางอาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ของปีนี้ไปแล้ว ทว่าส่วนที่ขายให้รายเล็กรายน้อย ก็น่าจะทำเงินได้ไม่น้อย
หลินเฟิงชูแห่งสกุลหลินเจรจาไปพลาง หัวเราะฮาฮาไปพลาง ว่าจะสามารถส่งหน่อพันธุ์อายุ 3
ปีให้อีกครั้งได้เมื่อไร
ให้เหลียนฟางโจวเลือกวิธีการส่งอย่างไรก็ได้ตามชอบ นอกจากนี้หน่อพันธุ์ที่ซื้อไปตายลงภายในเวลาหนึ่งเดือน
และมีจำนวนไม่เกิน 50 ต้น จะลดราคาหน่อพันธุ์ให้ครึ่งหนึ่งยามที่พวกเขามาซื้ออีกครั้ง
ซ้ำยังบอกชัดเจนว่าที่ให้ราคาพิเศษเช่นนี้ เป็นเพราะยอดที่นางสั่งซื้อมีจำนวนมหาศาล แถมยังจ่ายเงินล่วงหน้าเต็มจำนวนอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงสามารถให้เงื่อนไขพิเศษขนาดนี้ได้ ลูกค้าอื่นๆล้วนมิเคยได้รับ
ไม่ว่าที่กล่าวมาจะใช่หรือไม่ใช่ อย่างน้อยพอได้ฟังแล้ว ในใจย่อมรู้สึกพึงพอใจไม่น้อย อารมณ์ก็ดีขึ้นโดยพลัน
เหลียนฟางโจวจ่ายเงินด้วยตั๋วเงิน
และเงินเหรียญสำหรับส่วนที่เป็นเศษด้วยความพออกพอใจ อดเอ่ยพร้อมรอยยิ้มไม่ได้ “น้าชู เหมาะทำการค้าจริงๆ! แค่มองดูก็พูดได้ลื่นไหลไม่มีติดขัดสักนิด!”
-------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ และการติดตามค่ะ ^-^
ขอบคุณมากๆค่ะ
ตอบลบดีใจแทนนาง อยากให้ทุกอย่างลงตัวไวๆ ทำเงินมากๆ😊😊😊 ขอบคุณผู้แปลนะคะ แปลภาษาได้งดงามเหมือนเดิม
ตอบลบเด็กน้อยได้เพื่อนใหม่ การค้ารุ่งเรือง
ตอบลบนี่อาจจะเป็นพันธมิตรทางการค้าในอนาคตก็ได้นะคะ ><
ตอบลบขอบคุณมากๆ ค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ สนุกมาก
ตอบลบเย้ๆมีพันธ์ไม้แล้วจะได้เริ่มปลูก
ตอบลบหวังว่าจะไม่มีอุปสรรคอีก
ตอบลบไม่อยากให้มัมารเลย กะลังสนุกเชียว
ตอบลบสนุกมากๆ^ ^
ตอบลบฟางโจวเลือกผลไม้มาปลูกน่ากินทั้งนั้นเลย///ขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณสำหรับการแปลให้อ่านนะคะ
ตอบลบนี่น่าจะเรียกได้ว่าได้เจอคนดีดี เพิ่มขึ้นใช่มั้ย ย้ายบ้านเมื่อไหร่ คงได้ห่างไกลจาก ญาติผู้ใหญ่มหาภัยนั่นได้ละเนอะ
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ คิดถึงเรื่องติดตาม มาเรื่อยๆค่ะ
สวนผลไม้ใหญ่มากกกกกก....แต่ชอบบังกะโลในป่าท้อ คงงามมาก
ตอบลบ