วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 180 อาเจี่ยนปลอบใจ


           อาเจี่ยนหันขวับมามองเหลียนฟางโจวโดยไม่รู้ตัว  ภายใต้แสงไฟสลัว   ชายหนุ่มเห็นใบหน้าหญิงสาวไม่ชัดนัก   ทว่าก็ยังปรากฏรอยขมวดคิ้วน้อยๆให้เห็น  ใบหน้านางดูราวกับมีผ้าโปร่งบางคลุมอยู่   บอกได้ไม่ชัดว่าหญิงสาวมีความขุ่นเคืองและหงุดหงิดใจหรือไม่
            อาเจี่ยนถึงกับอึ้งงันไป  ยามที่ชายหนุ่มทอดตามองไปอีกครั้ง  เหลียนฟางโจวก็เลิกคิ้วพร้อมรอยยิ้มบางแล้ว หญิงสาวตวัดสายตาอันอ่อนโยนให้เหลียนเซ่อ พลางเอ่ยแย้มยิ้ม “เจ้านี่น๊า จะวิตกอันใดกันนัก!  ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกมา  เราก็ต้องเต้นไปตามคำเขาด้วยรึ?”

            เหลียนเซ่อถึงกับชะงักไป
            เหลียนฟางโจวแค่นเสียงหัวเราะ “เขาบอกให้เราไปที่บ้านจางลี่เจิ้งกับเขาพรุ่งนี้ เราก็ต้องไปทันทีหรือไร?”
            ใช่แล้ว!” เหลียนเซ่อได้ฟังแล้วถูกใจนัก  เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยจิตใจฮึกเหิม “เช้าตรู่พรุ่งนี้ เรามีกิจธุระอันใดต้องทำ เราก็ทำกันไป เขาจะมาไม้ไหนก็ช่าง!”
            เฮ้อ ขณะที่พูดไป เหลียนเซ่อก็ครางออกมาด้วยความทดท้อเต็มเปี่ยม
            ใครใช้ให้เขายังไม่โตเสียทีเล่า?  คำพูดของเด็กที่ยังไม่โตจะสู้ผู้ใหญ่ได้รึ?  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลุงใหญ่ถึงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา!
            เหลียนเซ่อชูกำปั้นขึ้น เขากำลังเติบโตขึ้นทุกวันๆ เขาจะอดทนรอต่อไป ไม่รีบร้อน
            “วันนี้ดึกแล้ว ทุกคนๆไปนอนเถิดนะ!” เหลียนฟางโจวเอ่ยสำทับด้วยรอยยิ้ม
            ป้าสามเข้าใจความหมายที่เหลียนฟางโจวพูดเป็นอันดี  จึงเลิกวิตกโดยพลัน ครั้นแล้วจึงแย้มยิ้มเรียกเด็กน้อยทั้งสองไปล้างหน้าอาบน้ำชำระกาย
            “พวกเจ้าทั้งสองไปนอนเถิด!”  เหลียนฟางโจวเห็นฉินเฟิงและซูจื่อจี้ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ คล้ายมีความลังเลอยู่บ้าง หญิงสาวจึงเอ่ยเสียงอ่อน
            ฉินเฟิงและซูจื่อจี้ต่างขานรับคำอย่างสำรวม แล้วล่าถอยออกไปเงียบๆ
            ทั้งคู่หาใช่คนโง่งมไม่ วาจาที่เหลียนลี่ผู้มีศักดิ์เป็นลุงใหญ่ และเฉียวซื่อซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าใหญ่ เพิ่งพูดไปนั้น คนทั้งคู่เริ่มจับต้นชนปลายได้บ้างแล้ว
            ในขณะที่กำลังจะสาวเท้าออกไปนั้น ทั้งสองอดหันไปชำเลืองดูเหลียนฟางโจวไม่ได้ พลางแอบพึมพำในใจ แม่นางจริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่ง่ายเลยนะ!
            “เจ้า ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?” ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่โถงบ้านแล้ว อาเจี่ยนสาวเท้าเข้าไปถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง  เหลียนฟางโจวตอบกลับเสียงอ่อน “ข้าไม่มีปัญหาอันใด ท่านเองก็ไปนอนเถิด!”
            อืม ไม่มีอะไรก็ดี!” อาเจี่ยนพยักหน้า คำพูดที่ชายหนุ่มอยากจะเอ่ยพานสะดุดลง ลงท้ายก็ไม่ได้เอ่ยอันใดออกมาอีก ครั้นแล้วชายหนุ่มจึงตรงไปทำธุระส่วนตัวเพื่อเตรียมเข้านอน
       ในขณะที่คนอื่นๆล้วนกลับเข้าห้องไปแล้ว เหลียนฟางโจวที่บอกให้ทุกคนไปพักผ่อน  ยังคงนั่งอยู่ในห้องโถง มิได้ขยับไปไหน  เพราะต้องขบคิดวางแผนหาวิธีรับมือสองลุงป้า
            ถ่านแดงร้อนในเตาอุ่นค่อยๆมอดลงทุกที ขณะที่ผิวหน้าของมันถูกเผาไหม้จนกลายเป็นขี้เถ้าสีขาวคลุมอยู่ แม้ว่าห้องยังมีความอุ่นอยู่  ทว่าหญิงสาวก็รู้สึกได้ชัดเจนถึงความหนาวเย็นที่คืบคลานเข้ามาทีละน้อย  ในที่สุดเหลียนฟางโจวก็ทนไม่ไหว จึงยกมือกอดตัวเอง  พลางหยิบคีมคีบถ่าน เขี่ยถ่านไปมา  แล้วคีบถ่านมาเติมเข้าไปอีก
            ขณะที่หญิงสาวกำลังพยายามสงบใจ ให้ค่อยๆเยือกเย็นลง
            “ระวัง!” จู่ถ่านก็ประทุขึ้น เหลียนฟางโจวไม่ทันระวังตัว เมื่อเจอเหตุการณ์นี้เข้า หญิงสาวจึงรีบก้มหน้าร้องว้ายด้วยความตกใจ  ปรากฏว่ามีมือหนึ่งกระชากตัวหญิงสาวให้หลบไปด้านข้างได้ทันควัน
            ที่แท้เป็นอาเจี่ยนนั่นเอง
            “เจ้าเป็นอันใดหรือไม่?”
            “ท่านเหตุใดยังไม่ไปนอนอีก!”
คนทั้งสองเปิดปากพูดแทบจะพร้อมกัน  ขณะที่ชายหนุ่มหญิงสาวสบตากันและกัน  ทั้งสองต่างก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
อาเจี่ยนลงนั่งประจันหน้าเหลียนฟางโจว เอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “เจ้า...มิได้สบายใจจริงๆใช่หรือไม่?”
ดวงตาเหลียนฟางโจวหม่นแสงลงเล็กน้อย หญิงสาวก้มหน้าลงทอดถอนใจ “อาเจี่ยน  ข้าไม่อยากปิดท่าน  ลุงใหญ่กับป้าใหญ่ที่มาบ้านเราวันนี้ ท่านก็เห็นนี่! พวกเขาต่างไม่ยอมรามือ ข้าไม่รู้จริงๆว่าพวกเขาจะมาหาเรื่องอีกเมื่อไร! แล้วไหนจะเรื่องความสัมพันธ์ทางสายเลือดอีก  พวกเขาอย่างไรก็ได้ชื่อว่าเป็นญาติผู้ใหญ่แม้ตัวข้าไม่สนใจประเด็นนั้น ทว่าข้าก็ยังต้องคิดเผื่ออาเซ่อ เช่อเอ๋อร์ และฉิงเอ๋อร์ด้วย!”
เงียบงันไปสักพัก หญิงสาวก็เอ่ยขึ้นอีกครา “ข้าหาได้กลัวความหยาบคายและไร้เหตุผล รวมทั้งพฤติกรรมอันต่ำทรามน่าละอายของพวกเขา  สิ่งที่ข้ากลัวก็คือท่าทีจอมปลอมแสร้งทำเป็นเลิกตั้งแง่รังเกียจและอยากขอกลับมาปรองดองกัน! เหนืออื่นใด ข้าเป็นเพียงสตรี  แถมยังอีกตั้งสองสามปีกว่าที่อาเซ่อจะโตเป็นผู้ใหญ่! หากลุงใหญ่ลงทุนแสร้งยอมรับผิดและสำนึกผิดขึ้นมาจริงๆ ซ้ำยังยืนกรานจะดูแลพวกเราให้ได้  ข้าเชื่อว่าต่อให้เป็นพวกจางลี่เจิ้ง ก็คงเห็นด้วยเป็นแน่แท้! พวกเขาคงเชื่อแน่ว่า ท่าทีนั่นเป็นของจริง และเป็นผลดีต่อพวกเราด้วย!”
ส่วนหนึ่งคงเพราะรู้ดีในประเด็นนี้ ดังนั้นคืนนี้เหลียนลี่จึงพร่ำพูดออกมาเป็นวรรคเป็นเวร ไม่ต้องถามหรอก ทั้งเหลียนฟางโจวและเหลียนเซ่อต่างนึกแค้นใจและสะอิดสะเอียนพวกเขาพอๆกัน ทว่าสองพี่น้องก็หาได้โต้แย้งวาจาของเหลียนลี่แม้เพียงครึ่งคำ
พอเห็นเช่นนั้นเข้า เหลียนลี่จึงกำหนดแผนการเอาเองเสร็จสรรพ เป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะโต้แย้งเขาและทำให้เขาเปลี่ยนใจ ไยเธอต้องทำด้วยเล่า?
บางทีเขาคงตั้งตารอให้เรื่องราวมันบานปลายใหญ่โต ซ้ำยังอยากให้ทุกคนในหมู่บ้านมาล้อมวงดูกันเยอะๆจนแทบทนไม่ไหว!
“ยามนี้บ้านเราซื้อที่ดินทำไร่จำนวนมหาศาล ก่อสร้างหมูตึกใหญ่โตมโหฬารตรงปากทางเข้าหมู่บ้าน ซ้ำยังต้อนรับแขกผู้สูงศักดิ์อย่างท่านชายชุยอีก ไม่รู้ว่ามีคนแอบอิจฉาและหมั่นไส้บ้านเรามากมายเพียงใด! การที่เรายังดึงดันไม่ยอมให้ลุงใหญ่เข้ามาดูแล  คิดดูแล้วมันดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไร  หากเราเอาแต่ดื้อรั้นโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ตนเอง เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว  บรรดาผู้ที่อิจฉาและหมั่นไส้จะไม่ถือโอกาสนี้เหยียบย่ำซ้ำเติมได้อย่างไร?”
“เจ้าอย่าได้เศร้านักเลย”  อาเจี่ยนเอ่ยเสียงนุ่ม “พวกเรามาช่วยคิดหาทางกันดีกว่า  ข้าคิดว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออก!”
ทันใดนั้นเขาก็คลี่ยิ้มและเอ่ยว่า ไม่ได้หรือไร  ฟางโจว..เจ้าจะยอมแพ้และยอมจำนนต่อโชคชะตาเช่นนี้หรือ?”
เหลียนฟางโจวเงยหน้าขึ้น พลางคลี่ยิ้มให้ชายหนุ่มทันใด “ท่านพูดถูกแล้ว ทุกปัญหาย่อมมีทางออกของมัน! อย่างไรเสีย พรุ่งนี้พวกเราคงต้องหลบเลี่ยงไปก่อน จะได้ไม่ถูกลากไปตามแผนพวกเขาด้วย!  เหลียนฟางโจวแค่นเสียง “ต่อให้คราวนี้พวกเราเกิดไปขึ้นมาจริงๆ  พวกเขาคงจะแสดงท่าทีปรองดอง ต้องเอาประเด็นฐานะญาติผู้ใหญ่มาเล่นเต็มที่  ฮึ่ม...อยากแสดงตัวเป็นญาติผู้ใหญ่กันนักใช่ไหม หึหึ  ต้องการทำตัวเป็นผู้ใหญ่ใจดีเพื่อให้คนตายใจมิใช่รึ? ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะกล้าแสดงความก้าวร้าว!  จนยอมทิ้งความหวังที่เขาพยายามใช้กำลังบังคับเอามา!”
อาเจี่ยนครุ่นคิดสักครู่ แล้วเอ่ยขึ้น “ข้าคิดว่า คงไม่ต้องรอหลายวันหรอกนะ!”
พอเห็นดวงตาเหลียนฟางโจวทอประกายเจิดจ้าออกมา  เขาจึงอดเอ่ยแย้มยิ้มไม่ได้ “ฟางโจว...เจ้าลืมไปแล้วหรือ? ลุงใหญ่เจ้านั้นอาจจะฉลาดเป็นกรด  แต่ป้าใหญ่เจ้าอาจจะไม่นะ! ที่เปิดฉากพูดกันคืนนี้  เจ้าลองนึกดูท่าทางของนางสิ อีกทั้งวาจาที่นางเอ่ยออกมา!”
ดวงตาเหลียนฟางโจวแข็งกร้าว ปรากฏประกายเรืองวาบพาดผ่าน เจิดจ้าดุจดวงดารา มุมปากหญิงสาวกดลึกยิ่งขึ้น  พลางเอ่ยเสียงนุ่ม “ท่านว่า พรุ่งนี้สองสามีภรรยานั่นจะมาหา  หากพวกเราหายหน้าหายตากันไปหมด ป้าใหญ่ข้าจะมีปฏิกริยาอย่างไรน๊า?”
“หากมีใครมายั่วโมโหนางอีกครั้ง ต่อให้เป็นลุงใหญ่ ก็คงห้ามนางไม่ไหวหรอก!” อาเจี่ยนกล่าวเสริม
ในใจเหลียนฟางโจวกระเพื่อมไหว เธอชักคิดออกลางๆแล้ว
หญิงสาวปรบมือดีใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรามาช่วยกันคิดหาวิธีอย่างละเอียดครบถ้วนกัน!”
คนทั้งคู่ปรึกษาหารือกันอยู่ราวครึ่งชั่วยาม  ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เสร็จสมบูรณ์  โดยที่ถ่านในเตาอุ่นมอดจนเกือบดับแล้ว  แทบไม่หลงเหลือไออุ่นอีกต่อไปด้วย
แม้ร่างกายนี้ยังหนุ่มสาว แต่การนอนดึก ก็ทำให้เหลียนฟางโจวมีความรู้สึกอ่อนล้าอยู่บ้าง ในที่สุดหญิงสาวก็ทนฝืนไม่ไหว จึงหาวออกมาวอดใหญ่ ครั้นแล้วเธอก็ยิ้มขอบคุณอาเจี่ยน “อาเจี่ยน ขอบคุณท่านมากจริงๆ! ดึกมากแล้ว ท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด!”
อาเจี่ยนพยักหน้า พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้ากลับเข้าห้องไปก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าค่อยเข้าไปอีกครั้ง  เช่นนั้นราตรีสวัสดิ์ นอนหลับฝันดีนะ”
“อืม ท่านด้วย!”  เหลียนฟางโจวส่งยิ้ม และกล่าวขอตัว
เมื่อหญิงสาวสาวเท้าไปถึงหน้าประตูห้องนอน  จู่ๆก็ชะงักฝีเท้าลง หญิงสาวเหลียวหลังกลับมาทอดมองอาเจี่ยน พลางขยับริมฝีปากคล้ายอยากบอกอะไรสักอย่าง ทว่าสุดท้ายกลับแปรเปลี่ยนเป็นส่งยิ้ม ชายหนุ่มพยักหน้าให้เล็กน้อย ขณะที่สายตาหลุบต่ำ พลางหันหน้าไปอีกทาง
อาเจี่ยนกับเธอ ทั้งสองคนคอยเพียรจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างให้กับคนบ้านนี้  เพียงแค่เอ่ยคำง่ายๆว่าขอบคุณ  นับว่ายังไม่เพียงพอ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้  ไยเธอต้องพูดอะไรอีก?  หากพูดซ้ำขึ้นมาอีก ก็อาจดูเสแสร้งไม่จริงใจ!
การที่ชายหนุ่มให้ความช่วยเหลืออย่างสุดจิตสุดใจนี้  หญิงสาวได้แต่ระลึกไว้ในใจ  เช่นนั้นแล้ว ถึงคราวที่เขาต้องการความช่วยเหลือ เธอเองก็จะทุ่มเทช่วยเหลือเขาอย่างสุดกำลังเช่นกัน
 ------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ
ต้องขออภัยที่ลงช้านะคะ  มัวแต่ลุ้นกับภารกิจช่วยหมูป่าค่ะ และดีใจที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี เป็นเรื่องเหลือเชื่อและน่าประทับใจจริงๆค่ะ^_^

18 ความคิดเห็น:

  1. ช่วยกันวางแผน หัวใจคนอ่านค่อยได้รับการเยียวยาหน่อย

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณค่ะถึงช้าแต่ก็มาไม่ทิ้งกันแค่นี้ก็ดีใจแล้ว

    ตอบลบ
  3. ได้รับการฟื้นฟูเลยตอนนี้

    ตอบลบ
  4. ใกล้จะแต่งกันหรือยัง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ได้แต่งงานกัน ประมาณตอนที่ 564 ค่ะ

      ลบ
    2. โอ้มายกอด... อยากอ่านรวดเดียวจบอ่ะ

      ลบ
  5. ขอบคุณค่ะ...สนุกมากรอตอนต่อไปนะค่ะ

    ตอบลบ
  6. ลุ้นเหมือนกันคะ ในที่สุดก็ออกมาครบทุกคน
    และขอบคุณนะคะ ได้อ่านนิยายที่รอ ดีที่สุด

    ตอบลบ
  7. เป็นตอนที่อบอุ่นละมุนละไมจัง

    ตอบลบ
  8. มีความเป็นครอบครัวเดียวกัน น่ารัก

    ตอบลบ
  9. อยากให้มีบรรยากาศของคู่นี้เยอะๆจัง

    ตอบลบ
  10. เมื่อไหร่ปัญหาลุงใหญ่จะจบลงจริงๆ สักที ท่านชายชุยอะไรนี่มาทีไรฟางโจวซวยทุกที

    ตอบลบ
  11. พระเอกนี่พระเอกจริงๆ​ ขอบคุณนักแปลมากๆค่ะที่มาแปลให้อ่าน

    ตอบลบ
  12. อยากอ่านตอนที่พระ-นางเข้าไปผจญภัยในเมืองหลวงแล้วสิ ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  13. ชอบคู่นี้ พอจ้องตากันแล้วหัวเราะไม่ใช่จ้องตากันแล้วตกอยู่ในภวังค์10วิพร้อมกับดนตรีเล่นขึ้นมา 55555

    ตอบลบ