วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 181 วางแผนการณ์

            เหลียนฟางโจวไม่รู้เลยว่า ความทรงจำของเขาจะกลับคืนมาเมื่อใด
            เหลียนฟางโจวพรูลมหายใจเบาๆ  เธอไม่อยากนึกถึงเรื่องนี้อีก
แต่แล้วจู่ๆหญิงสาวก็รู้สึกตกใจกับความคิดของตนเอง เธอไม่รู้ว่าลึกๆในใจแล้วเธอหวังอยากให้ความทรงจำของเขากลับคืนมาโดยเร็วหรือไม่
รุ่งสางวันถัดมา  แสงเงินแสงทองเพิ่งจับท้องฟ้า สมาชิกส่วนใหญ่ในบ้านยังไม่ตื่นขึ้นมา เว้นแต่หลิวฟางโจว

ยามนี้วิธีรับมือลุงและป้าใหญ่  ก็คือเธอต้องเข้าใจนิสัยใจคอของคนทั้งสองให้ทะลุปรุโปร่ง
เนื่องจากเมื่อวานลุงใหญ่ได้ทิ้งท้ายคำพูดไว้ เช่นนั้นแล้ว วันนี้หญิงสาวมั่นใจว่าเขาจะมาเรียกพวกเธอตั้งแต่ไก่โห่เป็นแน่
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงต้องทำอาหารเช้าก่อนจะสายเกินไป  แล้วรีบออกจากบ้านแต่เช้า เธอภาวนาขอให้เขามาเสียแรงเปล่า!
            เหลียนฟางโจวค่อยๆย่องลงจากเตียง เพื่อแต่งตัว แล้วค่อยๆผลักประตูห้องนอนเปิดออก มิคาดว่าอาเจี่ยนก็กำลังย่องออกมาจากห้องนอนอีกห้องด้วยเช่นกัน
            ทั้งสองสบตากันพอดี ต่างคนต่างมองหน้าแล้วหัวเราะให้กัน
            บางทีอาจเป็นเพราะทั้งสองต่างมีเป้าหมายลับๆร่วมกัน   หนุ่มสาวทั้งคู่ต่างทอดมองซึ่งกันและกัน  ความรู้สึกอบอุ่นท่วมท้นในใจคนทั้งสอง คล้ายว่าทั้งสองคนบังเกิดความสนิทชิดเชื้อมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
            “ไฉนท่านถึงตื่นเช้าขนาดนี้!” เหลียนฟางโจวเอ่ยกระซิบด้วยรอยยิ้ม
            อาเจี่ยนเอ่ยบ้างว่า “แล้วไยตัวเจ้ารีบเร่งอะไรเช่นนี้เล่า?  เช่นนั้นข้าขออาสาเป็นลูกมือให้เจ้าเอง! ข้างนอกอากาศหนาวหนัก ข้าจะไปดูไฟเพื่อต้มน้ำก่อน บางทีถ่านในกระถางไฟเมื่อวานคงยังไม่ดับ เจ้าไปเติมถ่านและอังไฟให้อบอุ่นก่อนเถิด!”
            เหลียนฟางโจวรู้สึกอบอุ่นหัวใจ หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง เมื่อเห็นความปรารถนาดีของชายหนุ่ม ครั้นแล้วจึงเอ่ยขึ้น “ได้ ข้าจะรอก่อน”
            อาเจี่ยนแย้มยิ้ม แล้วจึงสาวเท้าออกไป
            ถ่านไฟในกระถางไฟตอนที่คนทั้งสองเข้านอนเมื่อวาน ฝังอยู่ในขี้เถ้าร้อน ขี้เถ้าอันร้อนระอุ ทำให้ถ่านไฟที่ถูกขี้เถ้าคลุมหนายังไม่ดับ ซ้ำยังทำให้ถ่านเผาไหม้ตัวเองช้าลง
            หากเขี่ยขี้เถ้าดูตอนรุ่งเช้า มักจะเห็นถ่านขนาดหัวแม่มือที่ยังไม่ดับเหลืออยู่สามสี่ก้อน เพียงแค่เติมถ่านไปอีกไม่กี่ก้อน แล้วใช้พัดใบลานอันใหญ่คอยพัด เพียงไม่นานก็ได้กระถางไฟอันร้อนระอุพร้อมใช้แล้ว 
พัดใบลาน
            ในช่วงฤดูหนาว บรรดาครอบครัวแถบชนบทเกือบทั้งหมดล้วนทำเช่นนี้กันทั้งนั้น 
อาเจี่ยนกำลังติดไฟต้มน้ำอยู่ในครัว เหลียนฟางโจวจะได้มีน้ำร้อนไว้ล้างหน้าบ้วนปาก หลังจากนั้นหญิงสาวจะได้เริ่มลงมือทำอาหารเสียที
เช้านี้จะปิ้งจีต้านปิ่ง (แป้งปิ่งผสมไข่) และตุ๋นน้ำแกงหนึ่งหม้อ เหลียนฟางโจวกำลังวุ่นกับการนวดแป้งมือเป็นระวิงอยู่หลังเตา ส่วนอาเจี่ยนนั่งอยู่หน้าเตากำลังช่วยเติมฟืนโหมไฟให้หญิงสาวทำอาหาร
จีต้านปิ่ง
หนุ่มสาวทั้งสองต่างคุยกันหงุงหงิง ภายในครัวเล็กๆอันแสนคับแคบ ไฟในเตาทำให้ทั้งสองคนรู้สึกอบอุ่นสบาย
เมื่อป้าสามและบางคนตื่นขึ้น เหลียนฟางโจวก็ปิ้งจีต้านปิ่งเสร็จไปมากกว่าครึ่งแล้ว
ป้าสามทำตาโตอย่างคาดไม่ถึงเมื่อพบหนุ่มสาวทั้งสองในครัว นางเอามือทาบอกแล้วอุทานออกมาว่า “พวกเจ้าทำข้าตกใจแทบตาย ข้าว่าจะไปจุดเตาไฟในครัวอยู่พอดี!”
ปกติที่บ้านนี้ ป้าสามเป็นคนตื่นมาเติมฟืนเร่งไฟเพื่อหุงหาอาหารทั้งสิ้น
“ป้าสาม “ อาเจี่ยนได้ยินแล้วจึงลุกขึ้นยืนแย้มยิ้ม พลางเอ่ยขึ้น “ไฟในเตายังไม่ดับตั้งแต่เมื่อคืน ไหนเลยข้าจะรอมาจุดเตาไฟเอาตอนนี้เล่า!”
ปกติอาเจี่ยนมักไม่ค่อยพูดจาหยอกเล่นแรงเช่นนี้  แต่พอเอ่ยวาจาเฉียบแหลมเพียงไม่กี่คำ ก็ทำให้ผู้ฟังอึกอักไปต่อไม่เป็นแล้ว
เห็นป้าสามทำหน้าโง่งมตกตะลึงไปเล็กน้อย เหลียนฟางโจวจึงทนไม่ไหวหลุดหัวเราะกิ๊กออกมาทันที
ป้าสามยิ้มหน้ามึน พลางเอ่ยว่าแหมข้าก็สับสนไปหน่อยเอง! ดีๆ  เจ้าก็ทำอาหารเช้าเสียให้เสร็จ ส่วนข้าก็เอ้อระเหยสบายไปเลย! อาเจี่ยน เจ้าช่วยเอาน้ำร้อนมาให้ข้าสักอ่างหนึ่งด้วยนะ! เจ้าตัวน้อยทั้งสองนั่นใกล้จะตื่นแล้ว!”
“ได้!  ข้าต้มน้ำหม้อใหญ่เตรียมไว้แล้ว!”  อาเจี่ยนได้ยินแล้วก็พยักหน้า แล้วจึงออกไปเอาน้ำมาหนึ่งอ่าง
ในขณะเดียวกันฉินเฟิง ซูจื่อจี้ พร้อมทั้งเหลียนเซ่อทั้งหมดตื่นแล้ว ยามนี้ในลานบ้าน และในเรือนเต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจ
ฉินเฟิงและซูจื่อจี้ต่างขยันขันแข็งกันมาก ทั้งสองคนตื่นแล้วก็กวาดลานบ้าน เอามีดสับฟางไปเติมในคอกวัวเพิ่ม ซ้ำยังไปตักน้ำมาให้วัวและลากิน พอเห็นฟืนและแกลบถูกเอาไปก่อไฟจนเกือบเกลี้ยงแล้ว จึงคว้าขวานไปผ่าฟืนต่อ
ตรงกันข้ามกับเหลียนเซ่อที่ได้แต่หันรีหันขวางเพราะไม่มีอะไรจะทำ สุดท้ายจึงเดินออกไปปล่อยแม่ไก่แก่สองตัวให้ออกไปหาอาหารกิน
เหลียนฟางฉิง เหลียนเช่อตื่นนอนมาได้สักพัก เหลียนฟางโจวเพิ่งทำอาหารเสร็จได้ไม่นาน คนทั้งบ้านต่างนั่งล้อมวงกินอาหารกัน
หลังกินมื้อเช้าเสร็จ สีหน้าของเหลียนฟางโจวพลันฉายแววเด็ดเดี่ยว แล้วเอ่ยขึ้น “ทุกคนอย่าเพิ่งลุกจากโต๊ะ ข้ามีเรื่องสำคัญจะบอก”
ทุกๆคนยกเว้นอาเจี่ยนต่างค่อนข้างตกใจ จึงรีบนั่งนิ่งหลังตรง แม้แต่เหลียนฟางฉิงเองยังเม้มปากแน่น พลางชะโงกในหน้าน้อยๆเข้าไปใกล้เพื่อฟังอย่างตั้งใจอีกด้วย
เหลียนฟางโจวเอาเรื่องที่เธอได้หารือกับอาเจี่ยนเมื่อวานมาเล่าอธิบายอย่างละเอียด ขณะที่ฟัง สีหน้าอันเคร่งเครียดของทุกๆคนค่อยๆคลายลงทีละน้อย สีหน้าแต่ละคนล้วนปรากฏความมุ่งมั่น กระหายอยากใคร่ลองเต็มที่ ทั้งหมดต่างพยักหน้าหงึกหงักแล้วเอ่ยแย้มยิ้ม “เข้าใจแล้ว!”
อาเจี่ยนเอ่ยขึ้น “นี่หาใช่เรื่องสนุกไม่ ฉิงเอ๋อร์ เช่อเอ๋อร์ พวกเจ้าต้องจดจำแผนการณ์ไว้ในใจให้ดี รู้หรือไม่?”
“อื้ม! ข้ารู้แล้ว!”
ข้าจะคอยเตือนฉิงเอ๋อร์ให้เอง!
เหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อต่างเอ่ยออกมาตามลำดับ
“อื้ม พี่ใหญ่ไว้ใจได้ พวกข้าต้องทำได้ดีแน่!” เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้มบาง  เอ่ยชมเชย พลางลูบศีรษะเหลียนฟางฉิง
“พี่ใหญ่ พี่เจี่ยน ตอนนี้พวกเราออกไปได้แล้วกระมัง!”  เหลียนเซ่อรู้สึกกังวล ขณะพูดไป ก็อดชำเลืองมองไปยังประตูทางเข้าไม่ได้ คล้ายกลัวเหลียนลี่และภรรยาจะเดินเข้ามาได้ทุกเมื่อ
เหลียนฟางโจวกลั้นยิ้มพลางเอ่ยว่า “ไม่ต้องตื่นตระหนกไป พวกลุงใหญ่ไหนเลยจะมาแต่เช้าขนาดนี้? หน้าหนาวอย่างนี้ คนอย่างป้าใหญ่ ต่อให้ลุงใหญ่พยายามพูดชักแม่น้ำทั้งห้าเพียงใด ก็ไม่มีทางตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ได้หรอก! เช่นนั้นแล้ว พวกเรากินมื้อเช้ากันให้อิ่มหนำก่อนเถิด แล้วจึงค่อยออกเดินทาง!”
“ข้าจะไปเตรียมเกวียน!”  เหลียนเซ่อที่อดกลั้นมาได้สักพักแล้ว ทันใดนั้นก็ลุกพรวดขึ้น พลางวิ่งแนบออกไปทันที
“ข้าจะไปช่วยดูสักหน่อย!” อาเจี่ยนเอ่ยแย้มยิ้ม แล้วสาวเท้าตามออกไปอีกคน
ไม่ทันไร เหลียนฟางโจวและอาเจี่ยน  เหลียนเช่อ ฉินเฟิงและซูจื่อจี้ก็ขึ้นนั่งเกวียน เพื่อรีบรุดไปขุดต้นชุ่ยปาเจียวป่า
“อยู่เฝ้าบ้านดีๆนะ!” เหลียนฟางโจวอดเหลือบมองเหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อไม่ได้ พลางกำชับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อต่างพยักหน้าแข็งขัน “พี่ใหญ่วางใจเถิด!”
เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้มขึ้นคราหนึ่ง  และหันไปสบตาอาเจี่ยน อาเจี่ยนพยักหน้าน้อยๆให้หญิงสาว พลางเอ่ยขึ้น “พวกเราไปกันเถิด!”
กล่าวจบก็ยกแส้สะบัดเบาๆ  พลางคว้าสายบังเหียนไว้มั่น แล้วบังคับรถเกวียนเทียมลาวิ่งออกจากประตูรั้วบ้านไป
วันนี้ขุดต้นชุ่ยปาเจียว  นำไปปลูกแถวบริเวณตาน้ำที่ไร่ตรงลานหิน ผืนดินที่โน่นทั้งหมดเดิมทีเป็นที่รกร้าง ย่อมไม่ปรากฏคูคลองส่งน้ำเล็กๆที่มีคนเคยขุดไว้ ถึงกระนั้น ยามที่มีการหักร้างถางพง ปรับเตรียมหน้าดิน เหลียนฟางโจวก็ให้เหล่าคนงานที่จ้างมา ขุดคูเป็นทางยาวในแนวตั้งและแนวนอนหลายสาย ตามที่เธอสั่ง
โชคดีที่บริเวณใกล้แนวเขตที่ดินมีตาน้ำผุดด้วย ยามที่นางซื้อที่ดินในเวลานั้น ข้อนี้มีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้นางตัดสินใจยอมควักเงินซื้อที่ดินผืนนี้
ไม่มีแหล่งน้ำ แล้วจะปลูกพืชไร่อันใดได้ ย่อมต้องพึ่งฟ้าพึ่งฝนถ่ายเดียว ต่อให้ปลูกพืช บนที่ดินเพียง 8-10 หมู่  ปีใดฟ้าฝนเป็นใจน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตที่ได้ก็หาได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ปีใดฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ผลผลิตที่ได้ก็ย่อมน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
ทว่า ไม่ต้องพูดถึงผืนดินเนื้อที่เป็นพันหมู่เลย ที่ต้องมีแหล่งน้ำเพื่อเป็นเครื่องรับประกัน หากพึ่งพาเพียงท้องฟ้า  มีโอกาสที่พืชพรรณจะล้มตายได้ทุกเมื่อ เงินทองที่ลงทุนไปแล้วย่อมละลายสูญเปล่า เอากลับคืนมามิได้  ได้ขาดทุนป่นปี้กันละคราวนี้!
หลังจากพวกเหลียนฟางโจวคล้อยหลังไปได้ครึ่งชั่วยาม ป้าสาม เหลียนฟางฉิง เหลียนเช่อต่างได้ยินเสียงคนตบประตูรั้วดังลั่นปานฟ้าผ่า พร้อมทั้งเฉียวซื่อที่ตะโกนเสียงดังอยู่หน้าประตู
ป้าสามและเด็กทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน มากันแล้ว!
“รอสักพัก แล้วพวกเจ้าค่อยไปเปิดประตู ข้าออกไปก่อน! พวกเจ้าทั้งสองระวังตัวด้วย! ป้าสามเหลือบมองไปที่ห้องนอน อดเอ่ยออกมาไม่ได้ “อย่าปล่อยให้เฉียวซื่อมาขโมยของได้อีกล่ะ!”
            แม้ตู้เก็บของจะลั่นดานไว้แน่นหนาแล้ว นางก็ยังรู้สึกไม่วางใจอยู่ดี
            “ไว้ใจพวกเราเถิดป้าสาม  มีลุงใหญ่ตามประกบไม่ห่างมาด้วย  นางคงไม่กล้าทำอะไรแน่!” เหลียนเช่อเอ่ยขึ้น
  ----------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์และการติดตามค่ะ
ต้องขออภัยผู้อ่านอีกครั้งที่อัพช้า พอดีมีงานด่วนเข้ามาค่ะ -_-


19 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2561 เวลา 15:46

    ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณค่ะ ติดตามตลอด

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณค่ะ รอเรื่องสนุกค่ะดูลุงใหญ่ป้าใหญ่จะอาละวาดอย่างไร

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณค่ะเมื่อไรลุงกับป้าสะใภ้จะหายตัวไปจากชีวิตเหลียนฟางโจวเสียทีคนหน้าหนาหน้าทนแบบนี้ชีวิตนี้ของรีดไม่เคยเจอ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. น่าจะประมาณตอนที่ห้าร้อยกว่าๆค่ะ

      ลบ
  5. ขอบคุณค่ะ ชีวิตมีให้ลุ้นตลอดเลย ^^

    ตอบลบ
  6. ตอนที่เท่าไหร่ลุงป้าคู่นี้จึงจะหายไปคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ประมาณตอนที่ห้าร้อยกว่าๆ นางเอกกับพระเอกใกล้จะแต่งงานกันค่ะ

      ลบ
  7. สนุกมากค่ะ ขอบคุณนะคะ

    ตอบลบ
  8. อิลุงป้าคู่นี้ถ่วงความเจริญคนอื่นจริงๆ

    ตอบลบ
  9. เบื่อลุงป้า มหาภัยนี้จริงๆ

    ตอบลบ
  10. ตื่นเต้นๆอยากรู้ว่าจะรับมือลุงป้ามหาภัยยังไง

    ตอบลบ