วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 190 ตรวจงานก่อสร้างหมู่ตึกและบริเวณโดยรอบ


            พอเหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อได้ยินเท่านั้น ก็เฮลั่นทันที  พลอยทำให้เหลียนเซ่อและคนอื่นๆหัวเราะขำ  ซ้ำต่างพากันโล่งใจอีกด้วย
            เด็กน้อยทั้งสองคนเพิ่งถูกผู้อื่นทารุณกรรมมา ผู้อื่นจะรู้สึกอย่างไรไม่รู้  ทว่าเขาและเหลียนฟางโจวในฐานะพี่ชายและพี่สาว ย่อมเสียใจกว่าใคร พอเห็นว่าน้องทั้งสองไม่มีวี่แววจะกระทบกระเทือนใจสักนิด เด็กหนุ่มจึงพลันยิ้มออก ใจค่อยๆคลายความกังวลลง
            คนทั้งหลายพากันรีบเร่งจับรถเกวียนเทียมลาออกไป เมื่อถึงบริเวณโกดังและหมู่ตึก เหลียนฟางโจว อาเจี่ยน เหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อจึงลงจากรถ

            วันนี้เกิดเรื่อง จึงไม่มีเวลาทำอาหารกลางวัน เหลียนฟางโจวได้ให้ป้าสามไปเจรจาต่อรองกับกู้สือตั้งแต่เช้าตรู่ วันนี้จึงให้คนงานทุกคนหาอาหารกลางวันกินเอง โดยมอบเงินให้ไปคนละ 10 อีแปะ
  ทุกคนล้วนเต็มอกเต็มใจ
  แต่ละคนจึงมิได้คาดหวังถึงอาหารมื้อกลางวัน เดิมทีเหล่าคนงานต้องใช้เวลาเก็บงานเล็กๆน้อยๆมากกว่าครึ่งวันจึงจะเสร็จ ทว่าเพียงไม่ถึงครึ่งวันงานทั้งหมดก็เสร็จเรียบร้อย หลังเสร็จงาน คนงานทั้งหมดแต่ละคนต่างมากล่าวลาเพื่อกลับบ้าน
  ยามนี้จึงเหลือเพียงกู้สือและผู้ช่วยอีกสองคนที่ยังรั้งรออยู่ เนื่องจากต้องสะสางบัญชีค่าก่อสร้างที่เหลือ
เดิมที กู้สือได้เข้าไปในหมู่บ้านเพื่อไปบ้านสกุลเหลียนล่วงหน้าแล้ว คิดว่าหากเหลียนฟางโจวยังคงกินมื้อเช้าอยู่ ก็จะสะสางบัญชี รับเงินแล้วขอตัวกลับไปเลย  ครั้นพอเห็นเหตุการณ์วุ่นวายโกลาหลที่หน้าประตูรั้วบ้านสกุลเหลียน เขาจึงกลับไปก่อนอย่างรู้กาลเทศะ
ทันทีที่เขาเห็นเหลียนฟางโจวเดินเข้ามาด้านใน กู้สือกับผู้ช่วย ทั้งสามคนจึงบังเกิดความโล่งอกพร้อมกันโดยมิได้นัดกันไว้  ขณะที่กู้สือผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้มสาวเท้าตรงเข้าไปต้อนรับ พลางเอื้อนเอ่ย “แม่นางเหลียน คุณชายเจี่ยน  ในที่สุดพวกท่านก็มา!”
“ให้พวกท่านคอยเสียนานเชียว!” อาเจี่ยนโค้งศีรษะยิ้มแย้ม
เหลียนฟางโจวยื่นตระกร้าใบน้อยในมือที่มีฝาปิดส่งให้ แล้วระบายยิ้ม “เกรงว่าท่านจะยุ่งฉุกละหุก จนไม่มีเวลาพอ  ข้าจึงเอาเล่าปิ่งมาฝาก ท่านกินรองท้องก่อนเถิดนะ!”
  “ขอบใจมาก แม่นางเหลียน!  แม่นางเหลียนช่างเกรงใจยิ่งนัก!”  กู่ซื่อคลี่ยิ้ม แล้วรีบกุลีกุจอยื่นมือรับมา ความร้อนใจกรุ่นๆในอกที่มีอยู่เดิม พลันอันตรธานหายไปสิ้น  
“แม่นางเหลียน  คุณชายเจี่ยน ระหว่างนี้เชิญพวกท่านไปตรวจงานเถิด  ส่วนพวกเราจะขอกินมื้อกลางวันอยู่ที่นี่ก่อน! อ้อ..พวกวัสดุก่อสร้างที่เหลือ ทั้งหมดล้วนกองอยู่ในห้องที่แม่นางเหลียนกำหนดไว้แล้ว!”  กู้สือยิ้มแย้มเอื้อนเอ่ย
“อื้ม” เหลียนฟางโจวผงกศีรษะเล็กน้อย แล้วเดินไปทางฟากทิศตะวันออกพร้อมด้วยอาเจี่ยน  และน้องๆทั้งสอง เพื่อเริ่มวางแผนการตรวจ โดยเริ่มจากบริเวณโกดังนั่นเป็นต้นไป
“พวกเจ้าทั้งสองคน ตรวจดูดีๆให้ละเอียดนะ หากใครสามารถพบจุดที่แตกหักเสียหาย หรือมีพื้นที่บริเวณใดไม่สะอาดเรียบร้อย  ไว้กลับมาแล้ว พี่สาวพวกเจ้าจะมีรางวัลให้!” อาเจี่ยนเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“จริงรึ? จริงๆรึ?” ข้อเสนอนี้เย้ายวนใจเหลียนฟางฉิงกับเหลียนเช่อมาก
“ใช่แล้ว !” เหลียนฟางโจวเหลือบมองอาเจี่ยน พลางเอ่ยแย้มยิ้ม “รออีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่เทศกาลเสี่ยวเหนียนแล้ว (เทศกาลเสี่ยวเหนียน =ตรุษจีนเล็ก ตรงกับวันแรม 8 ค่ำเดือน 12  และอีกหนึ่งสัปดาห์ ก็คือวันไหว้ หรือ วันสุดท้ายของปี  หลังจากเที่ยงคืนไปแล้วก็จะล่วงเข้าสู่ปีใหม่ คือตรุษจีนปีใหม่อย่างแท้จริง) และพอพ้นเทศกาลเสี่ยวเหนียนปุ๊ป  พวกเราทั้งหมดจะเข้าไปเดินเที่ยวในเมืองกันปั๊ป ไปหาซื้อของกินของใช้สำหรับเทศกาลตรุษจีนกัน หากพวกเจ้าสามารถหาจุดบกพร่องพบได้จริงๆ พอถึงตอนนั้น  พวกเจ้าอยากได้ของขวัญปีใหม่อันใด  พี่ใหญ่จะเป็นคนซื้อให้!”
“พี่ใหญ่จะพาพวกเราไปเดินเที่ยวในเมืองจริงๆหรือ? เยี่ยมที่สุดเลย! ข้ายังไม่เคยเข้าเมืองมาก่อนเลยนะ!” เหลียนฟางฉิงปรบมือหัวเราะดีใจ
ทว่าเหลียนเช่อกลับถามขึ้นอย่างเป็นกังวล “พี่ใหญ่ พี่ใหญ่  แล้วหากพวกข้าหาจุดบกพร่องไม่เจอเล่า แล้วยังจะมีของขวัญให้อีกหรือไม่?”
นี่แหละปัญหาใหญ่ เหลียนฟางฉิงเปลี่ยนจากที่กำลังลิงโลดมาตัวแข็งทื่อทันใด  สองตาของเด็กน้อยจับจ้องที่เหลียนฟางโจวเขม็ง
เหลียนฟางโจวและอาเจี่ยนเห็นเด็กทั้งสองต่างพากันแข็งค้างเป็นรูปปั้น  ก็หัวเราะขำ เจ้าเด็กพวกนี้นี่  ตัวเล็กแค่นี้ ยังอุตส่าห์คิดเสียละเอียดถี่ถ้วนอีกนะ
เหลียนฟางโจวคิดตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อื้ม มีสิ มีให้อยู่แล้ว! ของรางวัลนี้อยู่นอกเหนือของขวัญปีใหม่จ้ะ!”
  เหลียนฟางฉิงกับเหลียนเช่อถึงกับโล่งอก แล้วพากันไชโยโห่ร้องด้วยความดีใจ ต่างคนต่างวิ่งถลาออกไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา !
“นี่..ระวังหน่อยนะ!”  เหลียนฟางโจวหัวเราะตามหลัง พลางสั่นศีรษะเบาๆ
“พวกเราก็ไปตรวจงานด้วยเถิด!” เหลียนฟางโจวหันไปส่งยิ้มเอ่ยกับอาเจี่ยน
อาเจี่ยนผงกศีรษะนิดหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “ย่อมต้องไปดูอยู่แล้ว แม้เถ้าแก่กู้จะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและจริงเอาจังมากผู้หนึ่ง แต่งานย่อมต้องเป็นงาน พวกเราก็ต้องรับผิดชอบดูแลทรัพย์สินของเราด้วย
“กล่าวได้ถูกต้อง!” เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้มคราหนึ่ง คนทั้งสองจึงไปเดินตระเวณตรวจดูทั่วทุกบริเวณ
ทั่วทั้งหมู่ตึกและบริเวณโดยรอบล้วนสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย ภาพวัสดุสิ่งของที่เคยวางเรี่ยราด กองระเกะระกะ ความอึกทึกครึกโครม ความชุลมุนวุ่นวายที่เห็นจนเจนตา ล้วนไม่ปรากฏให้เห็นอีกต่อไป
ทั่วทั้งบริเวณเงียบกริบ  เมื่อกวาดตาดูผ่านๆ  เหลียนฟางโจวก็รู้สึกได้ทันทีถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานของกู้สือ
หญิงสาวสามารถจินตนาการจนเห็นภาพว่า เมื่อถึงปีหน้า ที่นี่จะอึกทึกวุ่นวาย น่าตื่นตาตื่นใจสักเพียงใด!
โกดังคือบริเวณที่เหลียนฟางโจวให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในช่วงระหว่างก่อสร้างนั้น เธอให้ความใส่ใจที่นี่มากที่สุด หญิงสาวหมั่นมาคอยแวะดูที่นี่ไม่ว่างเว้น เมื่อถึงเวลาตรวจงาน จึงให้ความใส่ใจทุกรายละเอียด
โกดังที่ถูกสร้างขึ้น เป็นอาคารขนาดใหญ่โตมโหฬาร โครงสร้างก่อด้วยอิฐและกระเบื้อง สูงเกือบสามชั้น นอกจากบานประตูเหล็กใหญ่ยักษ์แล้ว ก็ไม่พบว่ามีหน้าต่างบานใดเลย  จะมีก็แต่เพียงช่องแสงเล็กๆไม่กี่ช่องบนผนังตึกตรงตำแหน่งที่สูงเกือบติดเพดานเท่านั้น
สาเหตุที่ออกแบบมาเช่นนี้  เป็นเพราะแผนการที่เธอวางไว้อย่างดีมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากที่นี่ในภายหน้าจะเป็นที่เก็บกองดอกฝ้าย  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้ จึงต้องก่อสร้างอย่างรอบคอบ กำจัดความเสี่ยงทุกทางที่อาจเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
หากยังมีหน้าต่างอยู่ ก็อาจเป็นช่องให้โดนคนคิดไม่ดีขว้างเชื้อไฟผ่านเข้ามาได้  หากเป็นเช่นนั้นจริง ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ย่อมถูกทำลายพินาศย่อยยับ
ดังนั้น หญิงสาวจึงต้องตรวจตราอย่างรอบคอบเป็นพิเศษ
ในที่สุดคนทั้งสี่ก็เดินตรวจตรามาถึงบริเวณพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งประกอบด้วยเรือนใหญ่น้อยหลากหลายขนาด ปลูกเรียงรายกันไป ทั้งหมู่เรือนรวมทั้งบริเวณโดยรอบ ล้วนสะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบเรียบร้อย เหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อคราแรกมองดูด้วยความสงสัยใคร่รู้ เด็กทั้งสองต่างถามว่าเรือนเหล่านี้ สร้างไว้เพื่อการอันใด?  จะให้ผู้ใดมาอยู่หรือ?
พอได้ยินว่าภายภาคหน้าจะให้เหล่าหัวหน้าและคนงานเข้ามาอยู่ ความอิจฉาพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กน้อยทั้งสองพร้อมกันโดยมิได้นัดกันไว้
“โห...ดีกว่าบ้านเราเสียอีก!”
“จริงด้วย ทีบ้านเราไม่เห็นสร้างดีๆแบบนี้บ้างเลย!”
“อื้ม ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน!”
เมื่อได้ฟังบทสนทนาของน้องน้อยทั้งสอง เหลียนฟางโจวก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
อาเจี่ยนหัวเราะพลางเอ่ยขึ้น “พี่สาวพวกเจ้าออกจะขยันหาเงินไม่ได้หยุดเช่นนี้  ปีหน้ามีหวังได้ปลูกบ้านหลังใหม่แน่นอน! เมื่อถึงตอนนั้น มันย่อมดีกว่าที่นี่แน่ !”
เด็กทั้งสองหันกลับมาจ้องหน้าเหลียนฟางโจวด้วยสายตาคาดคั้นทันใด
“พี่เจี่ยนของพวกเจ้ากล่าวถูกแล้ว” เหลียนฟางโจวยิ้มเอื้อนเอ่ย “ปีหน้า หากพวกเราทุ่มเทกำลังหาเงินให้มาก ต้องได้ปลูกบ้านหลังใหม่แน่นอน! และจะต้องหรูเลิศดีกว่าเรือนที่นี่อย่างมิต้องสงสัย !  เพราะฉะนั้น พวกเจ้าทั้งสองต้องเป็นเด็กดี รู้จักเชื่อฟัง เข้าใจไหม?”
“พวกเราทั้งหมดจะเป็นเด็กดี เชื่อฟังพี่ใหญ่อย่างเคร่งครัด! “ เหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อขานรับอย่างเริงร่า ขณะฝันหวานถึงบ้านหลังใหม่อันหรูหรากว่าที่นี่ ถ้อยคำที่เด็กน้อยไร้เดียงสาใช้สนทนาหารือกัน พาให้เหลียนฟางโจวและอาเจี่ยนหัวเราะกันครืน
เมื่อตรวจสถานที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว คนทั้งสี่ก็เดินออกมา เหลียนฟางโจวพร่ำเตือนน้องๆไม่ให้ออกไปนอกรั้ว ให้วิ่งเล่นอยู่ในหมู่ตึกได้เท่านั้น ส่วนเธอและอาเจี่ยนตรงไปสะสางบัญชีค่าก่อสร้างงวดสุดท้ายกับกู้สือ
“แม่นางเหลียน คุณชายเจี่ยน ตรวจดูทั้งหมดเสร็จแล้วใช่หรือไม่? งานทุกชิ้นที่พวกเราทำ พวกท่านวางใจได้ ไม่มีข้อบกพร่องแน่นอน!”  ขณะนั้นกู้สือและผู้ช่วยอีกสองคนกำลังนั่งคุยกันอย่างเอ้อระเหยบนพื้น พอเห็นพวกเหลียนฟางโจวมาถึง ก็ส่งยิ้ม จัดแจงลุกขึ้นเอามือปัดฝุ่นที่ติดบนเสื้อผ้า
“ทุกอย่างทำได้ดีไม่มีที่ติ  ได้ตามที่ข้าต้องการทั้งหมดเลย!  ส่วนวัสดุก่อสร้างที่เหลือ ข้าได้ไปตรวจนับมาเรียบร้อยแล้ว ล้วนไม่มีปัญหาอันใด !” เหลียนฟางโจวระบายยิ้ม ซ้ำยังเอ่ยขอบคุณอีกสองสามประโยค ครั้นแล้วจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม  “พวกเรามาสะสางบัญชีค่าใช้จ่ายกันเถิด!  ตอนที่เดินตรวจงานที่นี่ ข้าได้สอบทานรายการบัญชีไปด้วย หากไม่มีอันใดผิดพลาด ข้าจะคิดเงินยอดค่าใช้จ่ายคงค้างให้พวกท่านที่นี่เลย !”
เนื่องจากที่บ้านไม่สะดวกต้อนรับแขก เหลียนฟางโจวจึงมักไม่พาใครไป
       “ตกลง!” กู้สือรอประโยคนี้อยู่แล้ว พอได้ฟังที่หญิงสาวเล่ามาจึงเข้าใจดี พลางล้วงกระดาษกลางเก่ากลางใหม่ที่พับทบไว้สองใบ ออกมาจากอกเสื้อ เมื่อคลี่กระดาษที่พับไว้ออกมา เขาจึงเอ่ยยิ้มแย้ม “ยอดทั้งหมดที่คำนวณได้นี่ เขียนไว้ท้ายกระดาษนี้ แม่นางเหลียนและคุณชายเจี่ยนตรวจดูสิว่าคิดเงินถูกต้องหรือไม่ ?”
            อาเจี่ยนรับกระดาษดังกล่าวมา  แล้วกวาดตาดูเงียบๆหนึ่งรอบ
            นี่คือโครงการก่อสร้างที่ไม่ซับซ้อน  ใช้แรงงานคนไม่มาก ใช้วัสดุไม่หลากหลาย จึงมีรายการค่าใช้จ่ายไม่กี่รายการ  ทำให้คิดคำนวณง่ายมาก
            อาเจี่ยนส่งกระดาษ 2 แผ่นให้เหลียนฟางโจว แล้วพยักหน้า พลางเอ่ยแย้มยิ้ม “เถ้าแก่กู้คิดเงินมาถูกต้องทั้งหมด  ควรเป็นยอดเงินเท่านี้แหละ!”
 -----------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามนะคะ ^_^
  






12 ความคิดเห็น:

  1. ชอบในการพัฒนาการของนางเอก

    ตอบลบ
  2. ตื่นเต้นๆอ่านทีไรก็ได้ยิ้ม

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ9 กันยายน 2561 เวลา 14:24

    มีความสุขกับทุกตอนที่ได้อ่านค่ะ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณมากค่ะ รออ่านทุกวันเลย

    ตอบลบ
  5. มีความสุขที่ได้อ่านทุกตอนที่อัพ ขอบคุณมากนะคะ

    ตอบลบ
  6. ตอนนี้ดีจังเลย ไม่อยากให้เรื่องนี้ต้องมีเรื่องร้ายๆ

    ตอบลบ