วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 220 ไปล่าสัตว์ (2)


เหลียนฟางโจวเหลือบมองเหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อ  น้องน้อยสองคนนี้ต่างสนุกกันพอแล้ว เธอจึงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม  “ได้สิ เช่นนั้น...พวกท่านไปกันเถิด !  พวกเราจะหาฟืนมาก่อกองไฟ รอพวกท่านอยู่ที่นี่  แล้วรีบไปรีบกลับล่ะ  ใช้เวลาเต็มที่ไม่ควรเกินสองชั่วยาม  เพราะถึงตอนนั้น ก็ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว !”
“ตกลง !”  อาเจี่ยนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม  ครั้นแล้วจึงผละจากไปพร้อมเหลียนเซ่อ
จากนั้นเหลียนฟางโจว เหลียนฟางฉิง พร้อมด้วยเหลียนเช่อไปหากิ่งไม้ และใบไม้แห้งมาเป็นอันมาก  โชคดีที่ที่นี่เป็นผืนป่ามหึมา  บนพื้นเต็มไปด้วยกิ่งไม้ และใบไม้แห้งมากมายกองทับถมกันหลายชั้น  เพียงแค่ถูกหิมะชื้นๆคลุมไว้เท่านั้น  เมื่อหิมะยังไม่ละลายกลายเป็นน้ำ สิ่งต่างๆที่อยู่ใต้หิมะจึงยังคงแห้งอยู่

เมื่อหาตำแหน่งใต้ลมได้แล้ว  พี่สาวและน้องเล็กทั้งสามคน ช่วยกันก่อกองไฟเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว
ยามทั้งสามต่างทอดมองควันไฟพวยพุ่งขึ้นสูง  โดยเฉพาะเปลวไฟอันสว่างสไวงดงามท่ามกลางพื้นหิมะขาวโพลนนี่   ช่างชวนให้เคลิบเคลิ้มไหลหลง แถมยังทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นเป็นพิเศษด้วย
พี่น้องทั้งสามต่างนั่งล้อมวงรอบกองไฟ  พลางหัวเราะพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลิน  และพอได้สัมผัสความอบอุ่น  จึงทำให้ทุกคนล้วนผ่อนคลายสบายตัวตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า  บังเกิดความรู้สึกพึงพอใจอย่างหาไดเปรียบ
 “พี่ใหญ่ๆ พี่เจี่ยนกับพี่รองช่างเก่งกาจแท้ ล่าสัตว์มาได้ตั้งมากมายก่ายกอง รอพวกเรากลับไปเมื่อไร อาสามจะไม่ต่อว่าพวกเราอีกแล้วเป็นแน่เนอะ ! “ เหลียนฟางฉิงเติมกิ่งไม้กิ่งหนึ่งลงไปในกองไฟ  ขณะเอ่ยด้วยดวงตาเป็นประกายสดใส
“พี่ใหญ่ การไปล่าสัตว์นี่ ช่างสนุกจริงๆเลย  ข้าเองก็นึกอยากเรียนวิทยายุทธ์กับเขาบ้างจัง !”  เหลียนเช่ออดรู้สึกเคลิบเคลิ้มหลงสเน่ห์ไม่ได้  เด็กน้อยนึกอิจฉาเหลียนเซ่อขึ้นมารำไร
เหลียนฟางโจวเอ่ยกับน้องชายคนเล็กด้วยรอยยิ้ม “เจ้าจะต้องเข้าไปเรียนในสำนักศึกษา  การเรียนวรยุทธ์หรืออะไรต่อมิอะไรน่ะ เจ้าเลิกคิดเสียเถิด!  เพียงแต่ หากอยากจะเริ่มตามพี่รองของเจ้าไปฝึกฝนวิทยายุทธ์ ก็นับว่าไม่เลว  หากทำไปเพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ก็นับว่าดี เพราะข้าเองก็ไม่ปรารถนาจะเห็นเจ้ากลายเป็นหนอนตำราคร่ำครึหรอกนะ !
เหลียนเช่อไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่  จึงเงยหน้าขึ้นมา พร้อมเอ่ยแย้มยิ้ม  “ดี พรุ่งนี้ข้าจะตื่นแต่เช้าตรู่ ตามพี่รองไปฝึกวรยุทธ์ด้วยกันขอรับ !”
“ข้าไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนในสำนักศึกษา พี่ใหญ่ ข้าเองก็คิดอยากเรียนยิงธนูด้วยล่ะ !”  เหลียนฟางฉิงรีบโพล่งขึ้นมาอย่างร้อนรน  คล้ายว่าการที่นางมาทำเรื่องแบบนี้อีก ดูท่าจะเหมาะสมกว่า
 “ก็ดี “ เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้มบาง แล้วเอ่ยเนิบนาบ  “เช่นนั้น..เจ้าต้องตามพี่รองของเจ้าไปฝึกวรยุทธ์ด้วยล่ะ  ทุกวันจะต้องตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง  กลางคืนเราทุกคนเข้านอน ขณะที่เขากับเจ้ายังต้องฝึกหมัดมวยอยู่ที่ลานหลังบ้านให้เสร็จครบกระบวนท่าก่อน จึงสามารถเอนหลังนอนได้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าหนาวหรือหน้าร้อน บางคราวเจอฝนก็ต้องไม่เลิกฝึกฝน....”
เหลียนฟางโจวยังพูดไม่ทันจบ เหลียนฟางฉิงก็รีบโบกมือน้อยๆ พลางสั่นหัวเอ่ยว่า “ไม่เอา ไม่เอาแล้ว !”
เหลียนฟางโจวกับเหลียนเช่อต่างหัวเราะขำพรืด
เหลียนเช่อพูดเสริมอีกคน “พี่รองทุ่มเทอย่างหนัก”  น้องชายครุ่นคิดดูแล้วก็เอ่ยเพิ่มอีกหนึ่งประโยค “พี่ใหญ่ก็ทุ่มเทอย่างหนักด้วย”
เหลียนฟางโจวตบไหล่น้องชายเบาๆ  แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ปีหน้ารอเจ้าเข้าเรียนก่อน  เจ้าจะได้ทุ่มเทอย่างหนักด้วยอีกคน “
“ข้าไม่กลัวความลำบาก “  เหลียนเช่อพลันเงยหน้าขึ้นมาจ้องเหลียนฟางโจวแล้วโพล่งขึ้น “พี่ใหญ่  แน่นอนข้าย่อมทุ่มเทศึกษาอย่างหนัก อืม  พอๆกับถางสยง ไม่สิ  ต้องทุ่มเทหนักกว่าถางสยงด้วย !”
“ดี  พี่ใหญ่เชื่อแน่ว่า เจ้าต้องเก่งกาจกว่าถางสยงเป็นแน่ !” เหลียนฟางโจวระบายยิ้ม  หญิงสาวกลัวว่าหากเขาเกิดเรียนไม่ดีขึ้นมา คิดเลิกเรียนกลางครัน แล้วคิดไปทำอย่างอื่น  เธอจึงรีบเสริมว่า “ตราบใดที่เราพยายามอย่างเต็มที่ ไม่ย่อท้อ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร  ก็ให้ปล่อยตามที่เป็น !”
 “อื้ม” เหลียนเช่อเข้าใจความหมายเพียงครึ่งเดียว แต่ก็ยังพยักหน้าขานรับ
เหลียนฟางฉิงเหลือบเห็นภาพนี้แล้ว  ดวงใจน้อยๆที่ว่างเปล่า พลันลุกโลด เด็กน้อยจึงเขย่าแขนเหลียนฟางโจว แล้วเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ “พี่ใหญ่ พี่ใหญ่  ใครๆล้วนมีเรื่องที่ต้องทำกันทั้งนั้น พี่ใหญ่ ท่านบอกมาสิ ว่าข้าควรทำอะไรบ้าง?”
เหลียนฟางโจวกับเหลียนเช่อพากันขำพรืด  เหลียนเช่ออดหยอกเย้าไม่ได้ “เจ้ามีอะไรที่ใคร่อยากเรียนรู้กับเขาด้วยรึ?  เต็มที่ก็คงแค่เย็บปักถักร้อย ตัดเสื้อผ้ากระมัง !”
“ไม่เอา !” เหลียนฟางฉิงไม่เห็นด้วย จึงเชิดหน้ายู่ปากไปทางหนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างแง่งอน “พี่ใหญ่ไม่เห็นจะทำเรื่องพวกนี้เสียหน่อย ข้าก็จะไม่ทำด้วยเหมือนกัน ! พี่ใหญ่ หรือว่า ภายหน้าไม่ว่าท่านจะทำอะไร ก็ให้ข้าเข้าไปช่วยด้วยดีไหม !”
เหลียนฟางโจวรู้สึกหัวใจวูบไหวโดยไม่คาดคิด หญิงสาวจึงเอ่ยแย้มยิ้ม “ดี ย่อมดีแน่ !” แต่เจ้าต้องเล่าเรียนก่อน ต้องสามารถเขียนเป็น คำนวณได้ ยามนี้เจ้ายังเล็กอยู่ รอให้โตกว่านี้อีกสักสองปี ค่อยมาช่วยพี่ใหญ่ก็แล้วกันนะ !”
ยามนี้เหลียนฟางฉิงยังไม่นึกถึงเรื่องช่วยทำอะไรเลยด้วยซ้ำ  นางคอยคิดแต่จะหาอะไรเล่นสนุกๆไปวันๆ พอได้ยินประโยคที่ตนต้องการแล้ว  จิตใจเด็กน้อยพลันเบิกบาน  เข้าไปกอดเหลียนฟางโจว ด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก “จะยังไง พี่ใหญ่ต้องรักข้าที่สุดนะ !”
เหลียนเช่อที่นั่งอยู่ใกล้ๆ  แกล้งทำหน้าเบะใส่น้องสาวที่ไม่รู้จักอาย  ตัวโตขนาดนี้แล้ว ยังนัวเนียออดอ้อนพี่สาวไม่เลิก
เหลียนฟางฉิงแยกเขี้ยวยิงฟัน ย่นจมูกใส่พี่ชายตน  แต่ไม่ถึงกับจริงจังนัก
เมื่อทอดมองดูบรรดานกต่างๆที่ล่ามาได้  เหลียนฟางโจวจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกเจ้าหิวกันหรือยัง?  อย่างไร พวกเราก็ไม่มีอะไรจะทำ  ปิ้งนกบางส่วนมาเป็นอาหารใส่ท้องกันเถิด !”
พอประโยคนี้หลุดออกมา เหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อย่อมเริงร่าเห็นดีด้วย  เหลียนฟางโจวพลันรีบลุกขึ้นอย่างกระวีกระวาด
เหลียนเช่อยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเพื่อคอยดูไฟ  เหลียนฟางโจวหยิบไก่ฟ้าตัวอ้วนสองตัว  พร้อมพาเหลียนฟางฉิงไปที่ลำธารข้างๆ โดยอีกฝ่ายนำมีดตัดไม้มาชำแหละพวกมันด้วย พอกลับมาถึงกองไฟ เหลียนเช่อจึงหักกิ่งไม้มาเหลา ปักพื้นตั้งขึ้น  แล้วเสียบไก่ไว้ด้านบนเพื่อปิ้งย่าง
เพียงไม่นาน  รอบข้างก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของเนื้อย่างตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ น้ำมันจากไก่หยดลงบนเปลวไฟ หยดแล้วหยดเล่า เกิดเป็นเสียงดังฉี่ฉ่ากระทบโสตประสาท และยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ
พี่ใหญ่กับน้องๆรวมสามคนต่างแบ่งกันกินคำแล้วคำเล่าอย่างสุขี  ไก่ส่วนที่เหลือ ก็ปักไว้ข้างๆปล่อยให้ย่างไปอย่างช้าๆ  เพื่อเก็บไว้ให้เหลียนเซ่อกับอาเจี่ยน
“ไม่รู้ว่าพวกพี่เจี่ยนกับพี่รองจะล่าอะไรมาได้ไหมนะ !” เหลียนฟางฉิงเงยหน้า มองแสงอาทิตย์บนท้องฟ้าแล้วเอ่ยขึ้น
“เห็นเขาเซียนเถิงซานดูเงียบๆอย่างนี้  พวกไก่ฟ้า กระต่ายยังมากันตั้งมากมาย  พวกเขาย่อมไม่มามือเปล่าเป็นแน่ !”  เหลียนเช่อพูดขึ้น
เหลียนฟางโจวเอ่ยด้วยใบหน้าระบายยิ้ม “อีกไม่นาน พวกเขาก็น่าจะกลับกันมาแล้วล่ะ !”
ทั้งยังถามน้องทั้งสองคนว่าหนาวหรือไม่?
ทั้งสองคนต่างสั่นศีรษะ  แต่ในที่สุดทั้งสองก็ไปเก็บไม้ฟืนมาเพิ่มมากมาย รออาเจี่ยนและเหลียนเซ่อกลับมาผิงไฟ
“พี่ใหญ่! พี่ใหญ่ !”  ขณะที่พี่น้องสามคนกำลังนั่งล้อมวงผิงไฟกันอยู่  มีเสียงเรียกจากอีกด้านหนึ่งดังขึ้น เหลียนเซ่อโผล่พรวดออกมา พร้อมกับส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้นดีใจ เหลียนฟางโจวกับน้องอีกสองคนทอดมองไป  จึงเห็นเหลียนเซ่อยิ้มแย้มตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น “พี่ใหญ่!  พี่ใหญ่ !  พวกเราเจอฝูงหวงหยางด้วยล่ะ  ล่ามาได้แค่สามตัวเอง  มีแต่ตัวอายุ 1 ปีตัวใหญ่ทั้งนั้นเลย !”
หวงหยาง หรือ ละมั่่งมองโกเลีย
 “จริงๆรึ!”  พี่สาวและน้องๆรวมสามคนต่างผุดลุกยืนขึ้นด้วยความประหลาดใจเกินคาด แล้วรีบสาวเท้าเข้าไปหา
เหลียนฟางโจวมองเลยไปด้านหลังเหลียนเซ่อ ก็ไม่มีเห็นวี่แววอาเจี่ยน จึงรีบเอ่ยถาม “พี่เจี่ยน
ของเจ้าล่ะ ?”
เหลียนเซ่อจ้องมองพี่สาวแล้วยิ้มเอ่ย “พี่ใหญ่อย่าได้กังวล  พี่เจี่ยนเดินตามหลังมาอยู่น่ะ  พี่เขาให้ข้าล่วงหน้ามาแจ้งข่าวพี่ใหญ่ก่อน  กลัวพี่ใหญ่จะกังวล  เขามีหวงหยางตัวเบ้อเริ่มตั้งสามตัวแน่ะ  แค่หัวก็น่าจะหนัก 40 ชั่งเข้าไปแล้ว ข้าเลยแบกไม่ไหว...”
พอได้ยินว่าอาเจี่ยนไม่ได้เป็นอันใด สีหน้าหญิงสาวพลันโล่งใจ แล้วรีบเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นแล้ว...อาเจี่ยนแบกมาตัวคนเดียวได้อย่างไร?  แล้วจะเดินมาอีท่าไหนกันเนี่ย !  ฉิงเอ๋อร์ เช่อเอ๋อร์ พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน อาเซ่อไปกัน  พวกเราไปรับอาเจี่ยนกัน  เราสองคนรวมกัน คงช่วยยกได้บ้างกระมัง?”
“อื้ม” เหลียนเซ่อพยักหน้าขานรับ  แล้วจึงหันหลังเดินไปกับเหลียนฟางโจว
อาเจี่ยนเห็นคนทั้งสองเดินมาเกือบครึ่งทางแล้ว  ชายหนุ่มจึงเอ่ยแย้มยิ้ม “พวกเจ้ามาทำไมกัน?  ข้าเดินมาไม่ได้ลำบากนักหรอก ไม่มีปัญหาเลย !  พวกเจ้ากลับไปดีกว่า !”
อาเจี่ยนฉลาดนัก รู้จักเอากิ่งไม้หนาๆมาทำเป็นคานหาม ที่ปลายทั้งสองข้างแขวนห้อยหวง
หยางไว้  โดยเอาเถาวัลย์ป่ามามัดขาหวงหยางทั้งสี่ขาเข้าด้วยกัน
เหลียนฟางโจวยิ้มเอ่ย “ไหนเลยจะให้ท่านรับภาระหนักผู้เดียวเล่า?  พวกเราเลยกลายเป็นคนง่อยไม่ได้ทำอะไรกันพอดื !  วันนี้ช่างโชคดีเกินคาดนัก หวงหยางพวกนี้ ดูแล้วก็รู้ว่า ต้องมีรสชาติเยี่ยมแน่ๆเลย !”
------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมมเมนต์และการติดตามนะคะ  ^_^
ต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่าน ที่เงียบหายไปนาน พอดีผู้แปลมีธุระต้องไปต่างประเทศค่ะ 
 

10 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ27 มีนาคม 2562 เวลา 21:27

    เย้ ได้อ่านต่อแล้ว มารอทุกวันเลยค่ะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากค่ะ
    ยังคงสนุกมากมายเช่นเดิม

    ตอบลบ
  3. ยังรอคนแปลอยู่เช่นเดิมค่ะ

    ตอบลบ
  4. มาให้หายคิดถึงแล้วขอบคุณไรท์นะคะ

    ตอบลบ
  5. ช่างเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข♥

    ตอบลบ
  6. มาแล้วมาแล้วดีใจจังมารอไรท์ที่รักทุ๊กกกวันลุยยย
    ขอบคุณนะคะ จุ๊ฟฟๆ

    ตอบลบ
  7. ยังรออยู่เสมอจ้า ขอบคุณไรท์มากๆเลยค้าLove Love

    ตอบลบ
  8. ยังรอเสมอค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ

    ตอบลบ