วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2562

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 221 เฉียวชื่อต่อว่า


สัตว์ที่วิ่งไปมาระหว่างภูเขาและทุ่งหญ้า  คุณภาพของเนื้อย่อมเลิศล้ำ ดีกว่าสัตว์ที่เลี้ยงไว้อย่างชนิดเทียบกันไม่ติด  เหลียนฟางโจวแค่ดูด้วยตา  ก็เหมือนได้กลิ่นเนื้อหวงหยางลอยมาแต่ไกลแล้ว ไม่ว่าจะเอาไปตุ๋นโดยไม่ปรุงรส เอาไปเคี่ยวไฟอ่อนๆ  ผัดด้วยน้ำมัน หรือเอาไปย่าง  ล้วนให้รสชาติโอชาเป็นแน่ !
อาเจี่ยนหัวเราะพรืด แล้วเอ่ยขึ้น “ฟังดูแล้ว เจ้าคงจะชอบพวกมันมากทีเดียว เช่นนั้น...ก็ไม่เสียเปล่าแล้วที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงที่นี่ !”

“ย่อมเป็นเช่นนั้น  ไยข้าจะไม่ชมชอบได้เล่า !”  เหลียนฟางโจวเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ท่านรีบเดินเข้ามาก่อนเถิด  ข้าและอาเซ่อจะช่วยขนไปด้วย !”
อาเจี่ยนรู้นิสัยหญิงสาวดี  ชายหนุ่มจึงชี้ร่องทางเดิน ซ้ำยังคอยเตือนคนทั้งสองให้คอยระวังอยู่เป็นระยะๆ  ขณะปล่อยให้คนทั้งสองเดินเข้ามาช่วยแบกขน
สักพักหวงหยางทั้งหมดก็ถูกขนกลับมา  คนทั้งห้านั่งล้อมวงรอบกองไฟที่กำลังลุกโชน  น้องน้อยสองคนถามไถ่ถึงการล่าหวงหยางที่เพิ่งผ่านมาหยกๆ  ทั้งสองคนตั้งใจฟังด้วยความสนใจใคร่รู้
เหลียนฟางโจวเอาไก่ฟ้าที่ย่างสุกแล้ว ซึ่งปักไว้ด้านหนึ่ง นำมาย่างซ้ำอีกครู่หนึ่ง ครั้นแล้วจึงส่งให้เหลียนเซ่อและอาเจี่ยนแบ่งกันกิน พร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “รอพวกเรากลับไปถึงก่อนเถิด !  หวงหยางสามตัวนี้ ต้องรีบนำกลับไปแล่โดยด่วนเลย !”
อาเจี่ยนพยักหน้าขานรับ
บรรดาไก่ฟ้า กระต่าย และนกอื่นๆ  ถูกบรรจุลงในกระสอบ แล้วพาดไว้บนหลังลา หวงหยางตัวหนึ่งก็ถูกนำมาพาดไว้บนหลังลาด้วย ส่วนอีกสองตัว อาเจี่ยนเป็นผู้แบกไป  ครั้นแล้วคนทั้งห้าจึงเดินทางกลับ
ลงท้ายก็ขนหวงหยางตรงดิ่งไปยังหมู่ตึก เพราะที่นั่นมีพื้นที่กว้างขวาง แรงงานพรักพร้อม หนำซ้ำยังอยู่ใกล้แม่น้ำอีกต่างหาก  นำมาแล่ที่นี่นับว่าสะดวกที่สุดแล้ว
หวงหยางพวกนี้ตัวใหญ่มาก  เหยื่อตัวใหญ่โตมโหฬารปานนี้นับว่าหาได้ยากนัก ทุกๆคนทั้งดีใจและตื่นเต้นกับของหายาก  ต่างสอบถามกันขโมงโฉงเฉงมิได้หยุด
ใครๆก็รู้ว่าเหลียนฟางโจวเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวาง  มิต้องเอ่ยให้มากความ  รับรองเย็นนี้ ทุกคนในหมู่ตึกจะได้ลิ้มลองหวงหยางเป็นหนแรกในชีวิต แถมยังได้ลิ้มรสต่อไปในอีกหลายมื้อเป็นแน่ !
ด้วยแรงงานคนจำนวนมาก จึงทำการแล่หวงหยางและล้างทำความสะอาดในเวลาอันรวดเร็ว โดยแยกเอาส่วนเครื่องในออกมา แล้วสั่งคนงานมาล้างทำความสะอาด  เหลียนฟางโจวออกคำสั่ง โดยตั้งใจกันหวงหยาง 1 ตัว พร้อมเครื่องในเอากลับไป เพื่อพรุ่งนี้จะได้จัดเตรียมไปพร้อมกับสัตว์ป่านานาชนิดที่ล่าได้บนภูเขา ส่งไปให้เปี่ยวเจีย(ญาติสาวผู้พี่) ที่อยู่ ณ เมืองชวงหลิว
จะอย่างไร นางก็เป็นผู้มีพระคุณใหญ่หลวงต่อตนเอง  นี่ก็ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ก็ควรส่งของกำนัลสิ้นปีไปให้   จับหวงหยางส่งเป็นของกำนัล นับว่าคู่ควรที่สุด
แม้มิใช่แก้วแหวนเงินทองของมีค่า ทว่าการล่าสัตว์ประเภทนี้ได้ นับว่ามิใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย  มาดว่าทางสกุลซูจะต้องถูกใจด้วยซ้ำ
ยังเหลือหวงหยางอีกสองตัว ทิ้งไว้ที่หมู่ตึกครึ่งตัว พร้อมเครื่องในอีกสองชิ้น ที่เหลือมากกว่าครึ่งตัวเอาไว้ส่งเป็นของขวัญ มอบให้ครอบครัวจางลี่เจิ้ง และครอบครัวป้าจาง ครอบครัวละ 1 ขา หลังจากเหลียนไห่ ผู้เป็นถางสยงกลับมา ก็ได้ไปมาหาสู่ที่บ้านตนอยู่หลายครั้ง อุตส่าห์ตากหน้ามาขอโทษ แสดงความจริงใจให้เห็น  คนทั้งหมู่บ้านล้วนรับรู้โดยทั่วกัน หญิงสาวจึงส่งไปให้บ้านเขา 1 ขาด้วย หาไม่แล้ว  คนทั้งหมู่บ้านคงได้คิดว่าพวกตนพี่น้อง เป็นพวกแล้งน้ำใจเป็นแน่
            ยังมีเหล่าผู้ผู้อาวุโสหลายคนในหมู่บ้านอีก  เหลียนฟางโจวนึกถึงความช่วยเหลือที่ได้รับจากพวกเขาด้วย อีกทั้งเหล่าผู้อาวุโสก็แก่ชรามากแล้ว  การแสดงความกตัญญูตอบตามธรรมเนียม ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องยึดไว้ในใจด้วยเหมือนกัน  หญิงสาวจึงตัดแบ่งไปให้พวกเขาครอบครัวละ 2-3 ชั่ง
            มิหนำซ้ำ บรรดาเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบบ้านตนเองอีกหลายครอบครัวเล่า  ครอบครัวเธอก็ควรแสดงน้ำใจต่อพวกเขาด้วย พอตัดแบ่งแจกจ่ายส่งไปให้เช่นนี้   จึงยังเหลือหวงอยางที่เป็นส่วนของบ้านตนเองไม่มากนัก
            ทว่าเหล่าพี่น้องสกุลเหลียนและอาเจี่ยน ล้วนไม่ใส่ใจสักนิด พอเห็นบรรดาผู้รับแช่มชื่นยินดีมีความสุข พวกเขาล้วนอิ่มเอมใจกันถ้วนหน้า
            การส่งของขวัญไปให้จางลี่เจิ้ง และบรรดาครอบครัวอื่นๆ เหลียนฟางโจวและเหลียนเซ่อ เป็นผู้ไปส่งมอบให้ด้วยตนเอง  จางลี่เจิ้งและบรรดาคนอื่นๆทุกคนย่อมยิ้มแย้มขอบคุณ ที่รบกวนให้นางต้องมาเป็นธุระเอาใจใส่เช่นนี้
            ทว่าเฉียวซื่อพอรู้ว่าบ้านหลานสาวล่าหวงหยางมาได้ 3 ตัว และส่งเพียงขา 1 ข้างมาให้บ้านตน เข้าเท่านั้น พลันบังเกิดความไม่พอใจอย่างแรง
            หญิงวัยกลางคนทอดมองขาหวงหยางหนักราว 7-8 ชั่ง  ครั้นแล้วจึงแค่นเสียง “นังยาโถวนั่น ถึงยังไง ก็มีจิตใจคดโกงอยู่วันยังค่ำ ! ฮึ่ม  ส่งของมาให้พวกเราเพียงเท่านี้   น้อยนิดเพียงนี้ ยังส่งมาได้ !  นั่นก็เพราะหวังป่าวประกาศให้ผู้อื่นยกย่องว่านางมีความกตัญญูกตเวที !  ไม่มีใครในใต้หล้านี้ จะเจ้าแผนการกว่านางแล้วล่ะ !”
ยิ่งคิดใจของเฉียวชื่อยิ่งไม่ยินยอม ไม่พอใจ  หญิงสูงวัยได้แต่ก่นด่าเหลียนฟางโจวรวมทั้งเหลียนเซ่อไม่หยุด
แม้เหลียนลี่มิได้พูดอะไรสักคำ อย่างไรก็ดี เขาก็ไม่ชอบหน้าเหลียนฟางโจวสักเท่าไรนัก  เพียงผู้หญิงของตนคอยก่นด่าหลานแต่ละคนให้ได้ยิน เขาก็พอใจแล้ว !
ขณะเฉียวชื่อเริ่มบริภาษบรรดาหลานๆ  เหลียนไห่ย่อมเดินไปปิดประตูรั้วบ้าน เขาได้แต่อดกลั้นอดทนฟัง  จนในที่สุดก็ทนไม่ไหว  ชายหนุ่มพยายามเกลี้ยกล่อมบุพการี “ท่านแม่ ท่านจะเป็นเดือดเป็นแค้นไปทำไม?  ต่อให้ด่าทอพวกเขาไปมากเพียงใด ใจท่านเองคงมิรู้สึกดีขึ้นนักหรอกกระมัง?  นั่นเป็นเพราะแต่ก่อนพวกท่านเคยทำไม่ดีกับพวกนางไว้  ดีแค่ไหนแล้ว ที่นางยังส่งของกำนัลเหล่านี้มาให้!”
            “เพ้ย” เฉียวชื่อถ่มน้ำลายหนึ่งครา พลางแค่นเสียง “เจ้ายังเป็นลูกชายข้าอยู่รึ?  มิคิดเลยว่าเจ้าจะช่วยพูดแทนพวกมัน  แล้วมาต่อว่ามารดาแท้ๆของเจ้า !  เจ้าออกหน้าแทนนังยาโถวน่าตายนั่น  ในใจเจ้ายังมีพวกข้าอยู่บ้างไหม? ฮึ่ม มิใช่ว่านางทำไปเพื่อเอาหน้า  มิใช่ว่านางกลัวผู้คนจะแอบนินทานางลับหลังหรอกรึ !  ไม่เช่นนั้นของเล็กน้อยเพียงนี้นางคงไม่ส่งมาให้เสียด้วยซ้ำ !  แต่ก่อนพวกข้าไปทำอะไรกับพวกนางรึ?”
            เฉียวชื่อเอาความชอบธรรมเข้าข่ม  น้ำเสียงเกรี้ยวกราดด้วยความโมโหโกรธา “พวกข้าเป็นญาติผู้ใหญ่ของพวกมัน บิดามารดาของพวกมันตายจากไปแล้ว  ทุกๆสิ่ง ไม่ว่าเรื่องราวน้อยใหญ่ เดิมทีควรเป็นพวกข้าที่ต้องเข้ามาจัดการดูแล !  ทว่าเจ้าเบิ่งตาดูสิ  นังยาโถวน่าตายนั่น  มันเคยเห็นพวกข้าอยู่ในสายตาเสียที่ไหน ?  พวกมันคอยตามขัดขวางพวกเข้า ทำราวกับพวกข้าเป็นประหนึ่งขโมย เคยเห็นพวกข้าเป็นญาติผู้ใหญ่ของพวกมันเสียที่ไหน !  พวกมันยกย่องเชิดชูแต่ญาติห่างๆนั่น แต่ทีพวกเราที่เป็นลุงป้าสายเลือดเดียวกันแท้ๆ กลับเหยียบย่ำจมโคลน เพ้ย ช่างน่าขำอะไรเช่นนี้ !  อาไห่เอ๋ย  บิดามารดาของเจ้า จริงใจกับเจ้าที่สุด  ไม่มีแผนการเล่ห์เหลี่ยมอะไรทั้งนั้น  ชัดเจนว่าเจ้าโดนผู้อื่นวางแผนการเสียแล้ว  นางไปเรียกชาวบ้านทุกคนมาบอกว่าพวกเราไม่ใช่ผู้ดูแล !  ต่อหน้าคนนอก นางตลบแตลงแสดงทีท่าว่าทุกข์ระทมเพราะโดนใส่ร้าย !  แล้วมาบอกว่าเป็นข้าที่ลงมือทำเรื่องเหล่านั้น  จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?  นางเคารพผู้อื่นซึ่งเป็นตระกูลเศรษฐีมากกว่าญาติยากจนที่เป็นคนตระกูลเดียวกัน  ไม่ต้องดูอื่นใกลเลย ดูอย่างหัวจินเถาสิ  ดูสิว่าตอนนี้ ผู้อื่นเขามีชีวิตที่สุขสบายอู้ฟู่เพียงใด !  ตัวข้าที่ทำไป ก็หวังให้นังยาโถวน่าตายนั่น ได้มีโอกาสพบพานชีวิตที่สุขสบายเช่นนั้นบ้าง แม้นางไม่รู้สึกซาบซึ้งบุญคุณข้า ข้าก็ไม่ว่า  แต่สุดท้ายนางกลับใช้วาทศิลป์หลอกลวงพวกเขาด้วยการใส่ร้ายป้ายสีข้าซึ่งๆหน้า…”
            ยิ่งเฉียวชื่อก่นด่าไปมากเท่าใด ก็ให้รู้สึกว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกต้องเพียงนั้น  ยิ่งรู้สึกว่าเหลียนฟางโจว  ต้อยต่ำกว่านางเป็นพันเป็นหมื่นเท่า
หลังจากพร่ำพรรณาระบายความขุ่นข้องหมองใจที่สะสมมานานไปเกือบหมด หญิงวัยกลางคนจึงดึงเหลียนไห่มาพูดด้วยความขมขื่นใจ “อาไห่เอ๊ย ความปรารถนาทั้งหมดของแม่ ล้วนฝากไว้กับเจ้าแล้ว !  เจ้าต้องแก้แค้นเพื่อแม่นะ !  เจ้าต้องเป็นปากเป็นเสียงเพื่อพวกเรา !  จัดการนังยาโถวหยาบช้านั่น เหยียบมันให้จมดิน ถึงข้าตายไป ก็อย่าได้เลิกรา !”
“ท่านแม่ ! ท่านพูดจาเหลวไหลอะไรของท่านกัน !”  คิ้วของเหลียนไห่ขมวดเป็นปม ชายหนุ่มรีบโพล่งขึ้น “นี่มันช่วงเทศกาลฉลองวันขึ้นปีใหม่แล้วนะ ท่านดูสิ  ที่ท่านพูดมามันคือถ้อยคำอันใดกัน  เลิกพูดเสียเถิด !”
เฉียวชื่อไม่สนใจ  เอ่ยด้วยน้ำเสียงจงชัง “ที่ข้ามีโทสะปานนี้ ล้วนมีนางเป็นต้นเหตุทั้งสิ้น เจ้ายังจะกลัวลางร้ายอะไรอีกเล่า !  อาไห่ เจ้าต้องรับปากแม่นะ !”
เหลียนไห่ได้แต่จนใจ ชายหนุ่มถอนหายใจบางเบา “ท่านแม่  ไม่ใช่ว่าข้าไม่ได้พูดแทนท่านในฐานะลูกชาย  เรื่องราวเหล่านี้  พวกท่านเป็นฝ่ายผิดตั้งแต่เริ่มต้น !  พวกท่านไม่ควรไปดูถูกเหยียดหยามพวกนางจนเกินไปนัก  อะไรที่พวกท่านคิดหวังไว้ ขอให้รามือเสียเถิด ถือโอกาสนี้ทิ้งความขัดแย้งลงเสีย ยังจะมีสิ่งอื่นใดที่เราสามารถทำได้อีกเล่า?”
เฉียวชื่อแค่นเสียง “ปกตินางยาโถวน่าตายนั่น ซื่อบื้อจะตาย  จู่ๆไม่รู้ปีศาจตนใดเปลี่ยนนางไปเป็นคนละคนเสียนี่”
“นางสามารถคงนิสัยแบบเดิมโดยไม่เปลี่ยนได้หรือ?” เหลียนไห่ตรึกตรองดูสักครู่ เขาก็นึกไม่ออกว่าแต่ก่อนเหล่าพี่น้องพวกนั้นเป็นคนเช่นไร ก็ในเมื่อตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยไปเล่นหัวกับพวกนั้นเลยนี่นา ในส่วนลึกแล้ว เขามีความดูแคลนคนพวกนั้นเช่นเดียวกับบิดามารดาอยู่บ้าง เพียงแต่ โดยปกติเขาจะไม่แสดงออกทางสายตาหรือฝีปากเหมือนมารดา ได้แต่เก็บงำความรู้สึกดูแคลนไว้ในใจเพียงเท่านั้น
-----------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ
ต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่านที่ห่างหายไปนาน พอดีผู้แปลมีเดินทางไปต่างประเทศอีกแล้วค่ะ
เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์  2562  ผู้แปลขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง ดลบันดาลให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุข สมหวัง โชคดี เฮงๆ รวยๆ ตลอดไปนะคะ ^_^

10 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ15 เมษายน 2562 เวลา 19:05

    ขอให้คิดสิ่งใดก็สมใจนึก สุขภาพแข็งแรงค่ะ

    ตอบลบ
  2. สวัสดีปีใหม่ไทยนะค่ะ ขออวยพรให้ผู้แปลมีความสุขความเจริญและสุขภาพดียิ่งๆขึ้นไปในปีนี้ค่ะ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณสำหรับคำอวยพรมากๆค่ะ ขอให้ผู้แปลก็มีความสุขความเจริญเช่นกันค่ะ

    ตอบลบ
  4. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ16 เมษายน 2562 เวลา 17:27

    สุขสันต์สงกรานต์ ถึงร้อนกายแต่ขอให้เย็นใจนะคะ

    ตอบลบ
  6. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ16 เมษายน 2562 เวลา 18:20

    ขอบคุณมากค่ะ
    สุขกายสุขใจทุกวันคืนนะคะ

    ตอบลบ
  8. ขอให้ผู้แปลมีความสุขมากๆ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณมากนะคะ ขอให้เดินทางโดยปลอดภัยค่า

    ตอบลบ
  10. ขอบคุณค่ะ ขอให้โชคดี สุขสมหวังในทุกสิ่งที่ปราถนานะคะ

    ตอบลบ