วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2562

จับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 235 หมาป่ามาเยือน


           มีชาวบ้านบางฝ่ายไม่ยอมรับอีกเหมือนกัน คิดว่าเสือตัวนั้นตัวหาใช่อาเจี่ยนเป็นผู้สังหารเอง เวลานั้นลูกบ้านหลายคนของหมู่บ้านเล่ามิได้ไปด้วยหรือไร? ชัดเจนว่าทุกๆคนต่างก็มีส่วนร่วมในผลงานทั้งนั้น!  แม้ว่าอาเจี่ยนอาจโดดเด่นกว่าคนเหล่านั้นอยู่บ้าง แต่ก็มีขีดจำกัดมิใช่หรือ?
            มิหนำซ้ำยังมีคนคิดอีกว่า  ที่ลือกันว่าอาเจี่ยนแข็งแกร่งมาก ฝีมือยิงธนู หรืออะไรต่อมิอะไรเลอเลิศ ดูท่าจะมีข้อจำกัด ไม่มีอะไรหรอก ควรเป็นว่าตัวเขาเอง ก็แค่ฉลาดกว่าผู้อื่นหน่อย ไม่เช่นนั้น ไยถึงคิดแผนให้สร้างกับดักล่อเสือมาสังหารได้เล่า? เห็นได้ชัดว่ากับดักนี่แหละคือปัจจัยหลักหนึ่งเดียวที่ทำให้บรรลุผลสำเร็จ และในกรณีของอาเจี่ยนนั้น ต่อให้เขาไม่อยู่ตรงนั้น  เสือก็ต้องเดินมาติดกับดักนั่นอยู่ดี และการยิงเสือให้ตายนั้น แสนง่ายดุจปอกกล้วยเข้าปาก ไม่ว่าเปลี่ยนเป็นใครมายิง ย่อมได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน  เหลือเพียงเรื่องของเวลาว่าจะช้าหรือเร็วแค่นั้น

            ข่าวที่ว่าถูกร่ำลือผสมปนเปกันไปหลากหลายเรื่องเล่า ประกอบกับท่าทีของตัวอาเจี่ยนเองด้วย ทุกๆคนจึงค่อยๆเลิกสนใจในเรื่องนี้ไปในที่สุด ความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับอาเจี่ยนจึงได้ลงเอยเช่นนี้แล!
            แม้แต่บางคนในหมู่บ้านเล่าก็เริ่มมีความรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนที่ ทั้งเจ็บใจ ทั้งถูกดูหมิ่นเป็นอันมาก เหตุใดพวกเขาถึงไม่คิดทำกับดักล่อเสือมาสังหารบ้าง? ทั้งที่ความจริงมันเป็นเรื่องที่ง่ายแสนง่ายมิใช่หรือไร?  คนทั้งหมดในหมู่บ้านช่างขี้ขลาดตาขาวเสียจริงๆ  มัวแต่ให้ความกลัวมาบดบังความกล้าหาญเสียสิ้น  กระทั่งแผนการที่ง่ายแสนง่ายปานนี้ก็ยังคิดไม่ออกอีกต่างหาก!  ถึงได้ถูกอาเจี่ยนเอาเปรียบอย่างไร้เหตุผล  เป็นผู้ได้หนังเสือทั้งผืนไปครอบครอง!
            เอ  อาเจี่ยนนี่ก็อีกคน  ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนไร้ยางอายกับเขาเหมือนกัน....
            เสียงเล่าลือนี้ได้ลอยมาเข้าหูเหลียนฟางโจวพร้อมทั้งคนอื่นๆในที่สุด อาเจี่ยนเอาแต่ยิ้มและไม่ใส่ใจเลยสักนิด  กลับกลายเป็นป้าจางที่รู้สึกผิดเอามากๆ  รีบให้ลุงหลี่และหลี่ซานเหอมาหาหนึ่งเที่ยวเพื่อพูดปลอบใจโดยเฉพาะ  เหลียนเซ่อถึงกับควันออกหู  เขาออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้อาเจี่ยนผู้นิ่งเฉย!
            “คนพวกนั้นมีปากสักแต่ว่าพูดไปจริงๆเลย!  คิดกันจริงๆหรือว่าไอ้การสร้างกับดักมันง่ายปานนั้น? จะสร้างกับดักที่ไหน สร้างแบบไหนถึงจะถูกต้อง  ยามใดถึงจะล่อเสือนั่นมาติดกับได้ โดยที่มันไม่สังเกตุเห็นเรา? พวกนั้นเห็นเพียงแค่ตอนจบที่เสือนั่นโดนสังหารอย่างง่ายดาย จึงเชื่อกันเป็นตุเป็นตะว่างานนี้มันสุดแสนจะง่าย ยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก  ถึงได้เที่ยวเอาพี่เจี่ยนมาพูดเสียๆหายๆกันสนุกปากปานนี้ มันน่าโมโหจริงๆเลย!”
            อาเจี่ยนได้ฟังแล้วก็คลี่ยิ้มบาง ที่เหลียนเซ่ออุตส่าห์พูดเพื่อตนขนาดนี้  ชายหนุ่มตบบ่าเด็กหนุ่ม แล้วเอ่ยถ้อยคำอบอุ่นอ่อนโยน “ที่ข้าสังหารเสือก็เพราะเห็นแก่ป้าจาง ประการที่สองก็เพื่อมิให้ชาวบ้านต้องเป็นอันตราย และยามนี้ข้าก็บรรลุทั้งสองความประสงค์แล้ว ผู้อื่นรักจะพูดอย่างไร ก็เรื่องของเขา ธุระอันใดที่ข้าต้องไปใส่ใจเล่า?  ผู้ฝึกวรยุทธ์  ควรหลีกเลี่ยงการอยากเอาชนะ และการวิวาทกับผู้อื่นที่คิดว่าเป็นศัตรู จะใช้วรยุทธ์ ก็ควรใช้ให้ถูกทางด้วย เจ้าจำได้อยู่หรือไม่?”
            เหลียนฟางโจวรีบพยักหน้าเอ่ยด้วยอีกคน “อาเจี่ยนกล่าวถูกแล้ว ผู้บริสุทธิ์ อย่างไรก็บริสุทธิ์ ผุ้มีมลทิน อย่างไรก็มีมลทิน เรื่องซุบซิบไร้สาระพวกนี้ ไยต้องใส่ใจด้วยเล่า?  เป็นไปได้เหรอที่เจ้าจะเที่ยวไปโต้เถียงเอาชนะด้วยเหตุผลกับคนทุกๆคน? อีกทั้งมีเรื่องอันใดที่ต้องมาว่ากล่าวกันด้วยเล่า? ตัวเราเองมีใจบริสุทธิ์ก็เพียงพอแล้ว!”
            เหลียนเซ่ออดรู้สึกหวาดหวั่นในใจมิได้ พลางก้มหน้าต่ำอย่างละอายใจเล็กน้อย  ครั้นแล้วเขาผงกศรีษะแล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “พี่เจี่ยนและพี่ใหญ่กล่าวถูกต้องแล้ว เป็นข้าเองที่ตื้นเขินไปหน่อย!”
            อาเจี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้ามิกังขาเจ้าในเรื่องนี้หรอก  เจ้าอายุยังน้อย คนหนุ่มเลือดร้อนย่อมอยากเอาชนะ เพียงเจ้าเชื่อฟังและยอมรับคำแนะนำ นี่ก็หาใช่เรื่องง่ายแล้ว!”
             “อื้ม!  ข้าไม่โกรธแล้วล่ะ! และข้าไม่ใส่ใจพวกเขาแล้วด้วย!” อารมณ์เหลียนเซ่อพลันพลิกฟื้นขึ้นมาทันตา   เด็กหนุ่มเอ่ยพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ปรากฏบนใบหน้า
            ครั้นพอนึกถึงความอยุติธรรมที่อาเจี่ยนได้รับในตอนท้าย เด็กหนุ่มจึงบ่นพึมพำ  “หากมีเสือสักตัวมาเยือนหมู่บ้านเราบ้าง คงจะดีไม่น้อยเลย  จะได้ให้พวกชาวบ้านดูสิว่า พี่เจี่ยนมีฝีมือเยี่ยมยุทธ์จริง หรือเป็นเหมือนที่พวกเขาพูดกันแน่ !”
            ความเอาแต่ใจแบบเด็กๆของเหลียนเซ่อแสดงออกเด่นชัด  พอเขากล่าวจบ เหลียนฟางโจวและอาเจี่ยน ก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน
            เหลียนฟางโจวทั้งขำทั้งฉุนผู้เป็นน้องชาย  “เจ้าพูดเหลวไหลอะไรของเจ้า!  อย่าบอกนะว่าจะให้เสือเข้ามารังควานหมู่บ้านเรา?”
            เหลียนเซ่อเองก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดมานี้ออกจะทึ่มทื่อไปหน่อย  เด็กหนุ่มจึงแย้มยิ้มเอ่ยขึ้น “ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง  ถึงอย่างไร หมู่บ้านเรามิได้อยู่ติดภูเขาสูงกับเขาเสียหน่อย  ไม่เหมือนหมู่บ้านเล่าโน่นที่มีภูเขาสูงมากมาย  พอที่เสือจะหลบซ่อนตัวได้!”
            “เจ้าก็เข้าใจดีนี่!”  เหลียนฟางโจวระบายยิ้ม
            คนทั้งสามสนทนาพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ  ครั้นแล้วก็วางเรื่องนี้ไว้จนลืมสิ้น ขณะที่ต่างคนก็ต่างก็ดำเนินชีวิตไปตามหน้าที่รับผิดชอบของตน
            ใครจะคาดคิดเล่าว่า โลกนี้จะมีวลีที่รู้จักกันว่า พูดเป็นลาง เหลียนฟางโจว  อาเจี่ยน และเหลียนเซ่อเองต่างคิดไม่ถึง ว่าวาจาของเหลียนเซ่อ  อันที่จริงก็ถือเป็นลางบอกเหตุเช่นกัน!
            เหตุผลที่ว่า ถือเป็น ก็เพราะหมู่บ้านต้าฝางมิได้โดนเสือโจมตีแต่อย่างใด แต่กลับกลายเป็นหมาป่า และเป็นฝูงหมาป่ารวมทั้งสิ้น 11 ตัวด้วยกัน!”

    ตกดึกวันนั้น ทุกคนในหมู่บ้านต่างโดนเสียงหอนอันโหยหวนของหมาป่า และเสียงขู่กรรโชกคำรามอันน่าสยดสยองปลุกให้ตื่นจากการหลับไหล ส่วนเด็กๆก็ร้องไห้จ้าหวาดกลัวเสียงเห่าหอนเสียงขู่คำรามของพวกมัน
            ทุกคนที่ตื่น ก็ตื่นไป แต่ไม่มีใครกล้าออกไปนอกบ้าน มีแต่จะปิดประตูรั้วบ้าน และประตูเรือนให้แน่นหนา คนทั้งบ้านต่างก็หาท่อนไม้มาถือ แล้วมาเกาะกลุ่มตัวสั่นงันงก ซ่อนตัวอยู่ในเรือนด้วยกัน
            บ้านไหนที่รั้วบ้านสร้างด้วยดินคงทนแข็งแรง ก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่บ้านไหนที่รั้วบ้านสร้างด้วยไม้ไผ่สานสูงเพียงครึ่งตัวคน หรือบางทีไม่มีรั้วบ้านเอาเสียเลย ต่างก็หน้าซีดตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว  เสียงร้องไห้ของเด็กๆในแต่ละบ้านฟังดูอู้อี้  เพราะโดนพวกผู้ใหญ่ปิดปากไว้แน่น
            รั้วบ้านเหลียนฟางโจวสร้างด้วยดิน แถมมีความสูงกว่าตัวคนมาก  ส่วนประตูรั้วนั้น เดิมทีเพื่อตั้งใจกันพวกเหลียนลี่และเฉียวชื่อมารังควานโดยเฉพาะ จึงมีการปรับปรุงขึ้นด้วย ทุกอย่างจึงแน่นหนาแข็งแรงอย่างแท้จริง
            คนทั้งบ้านมารวมตัวกันในห้องโถงกลาง อาสามเหลือบมองอาเจี่ยน แล้วถามขึ้นอย่างระแวดระวัง “อาเจี่ยน เจ้าสามารถสังหารเสือได้ ก็สังหารหมาป่าได้ด้วย ใช่ไหม? อีกทั้ง กำแพงบ้านเราก็แข็งแรงดีมาก ฝูงหมาป่าย่อมบุกเข้ามาไม่ได้ ใช่ไหม?”
            ใบหน้าอาเจี่ยนเคร่งขรึม  สายตาเข้มเล็กน้อย  ชายหนุ่มขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น “แม้อากาศจะหนาวเหน็บเมื่อไม่นานมานี้ ทว่าหมู่บ้านต้าฝางหาได้แวดล้อมด้วยขุนเขาสูงใหญ่ มีเพียงเขาเล็กๆเตี้ยๆ ลูกสองลูกเท่านั้น  จะดึงดูดฝูงหมาป่าให้เข้ามาได้อย่างไรกัน? ส่วนกำแพงบ้านเรานี้ เพียงสูงเลยหัวคนเท่านั้น หากหมาป่าตัวโตเต็มวัย อยากเข้ามา ก็แค่กระโดดครั้งเดียว...”
            “ฮ้า!” ทุกๆคนหน้าถอดสี  อ้าปากค้างอุทานเสียงดังไม่เว้นแม้แต่คนเดียว  แถมอาสามยังร้องเสียงดังกว่าใครทั้งหมด ร่างนางอ่อนยวบ แทบจะลงไปกองอยู่ตรงนั้น นางเอ่ยอย่างหวาดกลัว “ละ..แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี! จะทำอย่างไรกันดีล่ะ!”
            เหลียนฟางโจวเพ่งฟังเสียงด้านนอกอย่างตั้งอกตั้งใจ  ครั้นแล้วจึงเอ่ยด้วยสีหน้าวิตกกังวล “ฟังเสียงดูคล้าย มีหลายตัวด้วยล่ะ!”
            อาเจี่ยนเอียงหูเพ่งฟังอย่างตั้งใจอยู่ครู่หนึ่ง ครั้นแล้วจึงเอ่ยขึ้น “น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 7-8 ตัว!”
            “โอ้ แม่เจ้า!”  ในที่สุดอาสามก็ฝืนต่อไปไม่ไหว แขนขาอ่อนแรง ทรุดตัวลงไปนั่งกองกับพื้น ดวงหน้าเล็กๆของเหลียนเช่อซีดเผือด  เหลียนฟางฉิงร้องออกมาด้วยความกลัว  รีบไปดึงอาสามขึ้นมา แล้วเอ่ยขึ้น “พี่ใหญ่ พี่เจี่ยน พวกเราจะทำอย่างไรกันดีล่ะ!”
            มือของเหลียนเซ่อกำแน่นแล้วคลายออก  ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า เห็นได้ชัดว่ากำลังพยายามระงับความตื่นเต้น พอเขาเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า จึงเอ่ยถามเหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อย่างใคร่รู้ “พวกเจ้าสองคน ไฉนถึงไม่หวาดกลัวนักเล่า?
            เหลียนฟางฉิงยกยิ้ม “มีพี่ใหญ่กับพี่เจี่ยนอยู่ เพียงเท่านั้น ข้าก็ไม่กลัวแล้ว!”
            เหลียนเช่อพูดเสริมอีกคนว่า “พี่รองก็ด้วย!”
            เหลียนฟางฉิงรีบผงกหัว “ใช่แล้ว ใช่แล้ว! แถมยังมีพี่รองอีกคน!”
            เหลียนเซ่อหัวเราะถูกใจ
            เหลียนฟางโจวหันไปทอดมองพวกเขาอย่างอดไม่ได้ พลางเอ่ยในใจว่ามิคาดว่าน้องเล็กสองคนของบ้านจะมั่นใจในตัวฉันถึงปานนี้  ขนาดฉันเองยังไม่แน่ใจตัวเองเลยด้วยซ้ำ!
            ฝูงหมาป่าเข้ามาในหมู่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่ายามนี้จะยังไม่โจมตีบ้านตน  ทว่าใครจะกล้ารับประกันเล่าว่า  นาทีถัดมาพวกมันจะมาหาหรือไม่?
            “อาเจี่ยน....” เหลียนฟางโจวย้ายสายตาไปยังอาเจี่ยน
            ในที่สุดเหลียนเซ่อก็เห็นพี่สาวตนเปล่งเสียงออกมา จิตใจเด็กหนุ่มฮึกเหิมขึ้นทันที “พี่เจี่ยน  พวกเราไปลองกันสักตั้งเถิด! ขอเพียงแต่เรายิงหมาป่าฝูงนั้นตายได้  ข้าจะดูสิว่า ยังมีใครหน้าไหน กล้ามาตั้งคำถามกับพี่เจี่ยนอีก!
-----------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ ^_^

12 ความคิดเห็น:

  1. ว้าววว ฉากบู๊จะมาแล้ววว ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  2. ฝูงหมาป่านะอาเซ่อทำเป็นคึกคักไม่วางแผนให้ดีจะแย่เอา รอลุ้นนาจา

    ตอบลบ
  3. อาเจี่ยนเป็นวีรบุรุษ ของหมู่บ้าน
    แน่เลย

    ตอบลบ
  4. กำลังสนุกกกกกก ขอบคุณนะคะ^^

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณมากค่ะ ที่สละเวลามาแปลให้อ่าน ติดตามตลอดคะ

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณมากค่ะ
    รอตอนต่อไปนะคะ

    ตอบลบ
  7. ตื่นเต้นๆรอๆดูอาเจี่ยนปราบหมาป่าตอกหน้าคนทั้งหมู่บ้านไปเลย

    ตอบลบ
  8. เหลียนเซ่อ!! ลูก!! หนูตื่นเต้นอะไร้! ขำน้อง 555

    ตอบลบ
  9. ตอนนี้สนุกเลย ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ