วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2562

จับแม่ทัพไปไถนา-บทที่ 238 ช่วยกันสังหารหมาป่า


        เพียงแต่ตอนนี้ อาเจี่ยนไม่มีเวลาไตร่ตรองความคิดที่จู่ๆก็ผุดออกมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยนี้ อีกทั้งมีหมาป่าสองตัวที่บาดเจ็บแผดร้องขึ้น  อย่างไรก็ดีเหลียนเซ่อและซุนฉางซิงได้มาถึงในที่สุด ทั้งสองคนอยู่บนกำแพงฟากหนึ่ง ขณะที่อาเจี่ยนยืนอยู่บนกำแพงฝั่งตรงข้าม
       ฝูงหมาป่าที่เดิมทีจะกระโจนใส่อาเจี่ยน พึ่งตระหนักว่ามีศัตรูหน้าใหม่ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังด้วย การเคลื่อนไหวจึงเชื่องช้าลงอย่างช่วยไม่ได้ ดวงตามุ่งร้ายหมายขวัญของหมาป่า 3-4 ตัว จับจ้องไปยังทิศทางของซุนฉางซิงกับเหลียนเซ่อ
            แววตาโหดเหี้ยมอำมหิตปานอสุรกายของหมาป่าเหล่านั้น ส่งผลให้มือของเหลียนเซ่อสั่นน้อยๆ  ในโพรงอกบังเกิดความหวาดหวั่นเพิ่มขึ้นสองส่วน ส่วนซุนฉางซิงนั้น อาศัยที่เข้าป่าล่าสัตว์มาหลายปีดีดัก เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ก็มิปรากฏอาการกระสับกระส่ายให้เห็น  เขาหันไปตวาดเสียงหนักใส่เหลียนเซ่อซึ่งยืนอยู่ข้างๆ “อย่าตื่นตระหนก  จริงๆแล้วมันไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก!”

            เหลียนเซ่อเริ่มมีท่าทีผ่อนคลายลง พลางผงกศีรษะ “อื้ม”
            หลังจากนั้นลูกธนูดอกสุดท้ายในกระบอกธนูของอาเจี่ยน ก็ถูกยิงออกไปโดนหมาป่าตัวหนึ่งได้แผลฉกรรจ์ ส่วนซุนฉางซิงและเหลียนเซ่อต่างก็ยิงศรออกไปคนละสองดอก สำหรับเหลียนเซ่อลูกธนูดอกหนึ่งพลาดเป้า อีกดอกโดนหมาป่าเพียงถากๆ ส่วนลูกธนูของซุนฉางซิงทั้งสองดอก ล้วนยิงโดนหมาป่าตัวที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ทว่าทำได้เพียงสร้างบาดแผล ไม่สามารถปลิดชีวิตมันลงได้
  ในการโจมตีรอบนี้  มีหมาป่าถูกสังหารไปสามตัว  คงเหลืออยู่ 9 ตัว สามตัวบาดเจ็บหนัก สี่ตัวบาดเจ็บเล็กน้อย มีเพียงสองตัวที่ไม่บาดเจ็บ
  “พี่เจี่ยน!” เหลียนเซ่อร้องเรียกอาเจี่ยนเสียงลั่น
            “ไม่เลวนี่!” อาเจี่ยนตอบกลับเสียงดัง
            ชั่วขณะนั้นเอง  คบเพลิงซึ่งอยู่ในมือชายทั้งสามคนถูกจุดขึ้น  ตามมาด้วยพวงประทัดหลายตับ ถูกขว้างลงมาจากที่สูง แล้วปะทุระเบิดขึ้นกลางฝูงหมาป่า หมาป่าหลายตัวถึงกับเห่าหอนลั่นเสียงหลง ด้วยความตกใจกลัว ไหนเลยจะยังมีกะจิตกะใจมาเล่นงานคนทั้งสามเล่า?
            หมอกควันสีขาวลอยคละคลุ้งไปทั้งบริเวณ หมาป่าหลายตัวแผดเสียงร้องลั่นวิ่งพล่านแตกกระเจิงชนนั่นชนนี่ไปทั่ว
            จางหลี่เจิ้ง ลุงหลี่ เหลียนฟางโจวและคนอื่นๆที่รวมตัวกันก่อนหน้านั้น  เมื่อได้ยินเสียงเห่าหอนเสียงแผดร้องอันน่าขนพองสยองเกล้าของหมาป่าดังก้องอยู่เป็นนาน ทุกคนต่างกำมือแน่น หลั่งเหงื่อเย็นไปตามๆกัน แต่ละคนใจเต้นระส่ำแทบหลุดจากโพรงอก ต่างคนต่างมองหน้ากัน หรือไม่ก็มีบางคนเบิ่งสองตาเพ่งมองไปข้างหน้า ไม่มีใครกล้าเปล่งเสียงเลยสักแอะ
  เมื่อวานนี้หยางหวายชานเป็นเพื่อนหัวเสี่ยวฮวากลับมาเยี่ยมบ้านฝ่ายหญิง ยังมิได้เดินทางกลับ เขาจงใจติดตามกลุ่มคนที่มีเหลียนฟางโจวอยู่ สองตาของชายหนุ่มคอยลอบจับจ้องเหลียนฟางโจวเป็นระยะๆ
            ไม่รู้ว่าชายหนุ่มแอบมายืนประชิดตัวเธอตั้งแต่เมื่อไร ฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนไม่ทันมองทางนี้ ชายหนุ่มเอ่ยกระซิบขึ้นเบาๆ “ฟางโจว อย่ากลัวไปเลย  จะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นทั้งนั้น”
            เหลียนฟางโจวเกร็งร่างเอียงไปด้านหนึ่ง ในใจให้รู้สึกเดือดดาล  มิคาดว่าหมอนี่จงใจมาคุยกับเธอโดยเฉพาะ  จิตใจเขาที่แท้ทำด้วยอะไร! หากมีผู้ใดเห็นเข้า เขาไม่รู้ตัวเลยหรือไรว่า จะเป็นคนสร้างปัญหาวุ่นวายตามมา! ตัวเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอเลย ธุระกงการอันใดถึงต้องมากระซิบกระซาบบอกด้วย!
            หญิงสาวไม่ชายตามองอดีตคู่หมั้นเลยสักแวบเดียว เธอขบเม้มริมฝีปาก ไม่พูดไม่จา แล้วแทรกตัวเองหายเข้าไปในกลุ่มคนข้างๆอย่างเงียบเชียบ
            ใบหน้าหยางหวายชานมืดครึ้มลง  ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มเศร้า
            เสียงประทัด! นั่นเสียงประทัดนี่!
  “เร็วเข้า เร็ว!”
       ทุกคนได้ยินเสียงประทัดดังสนั่นหูแทบแตก พริบตาเดียวเสียงตะโกนไถ่ถามดังขึ้นอึงอื้อ คนที่ถือคบเพลิงในมืออยู่ รีบชูคบเพลิงขึ้นสูง ชายหนุ่มร่างกำยำใจแกล้วกล้าซึ่งยืนกั้นอยู่แถวหน้าหลายคน เขม้นสองตามองไปเบื้องหน้า พลางกระชับจอบและท่อนไม้ในมือแน่น  เหล่าฟู่เหริน(สตรีที่แต่งงานแล้ว) ก็ถือแผ่นโลหะ ถังน้ำและฆ้อง อ่างน้ำและภาชนะอื่นๆที่ทำด้วยโลหะซึ่งสามารถส่งเสียงดังกังวาน พร้อมทั้งกระชับอุปกรณ์ใช้ตีในมือแน่นอีกด้วย รอคอยด้วยใจระทึก
            หมาป่า! หมาป่า!” เหล่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดร้องขึ้นพร้อมๆกันอย่างแตกตื่น ต่างส่งเสียงร้องตะโกนก้อง พร้อมทั้งกวัดแกว่งคบเพลิงไปด้วย เสียงร้องดังอื้ออึงไปทั่วบริเวณ ทำเอาเหล่าหมาป่าที่วิ่งมาถึงสะดุ้งโหยงแตกตื่นตกใจ!
            เปลวไฟร้อนแรงซึ่งทำให้ตาพร่า  เดิมทีเป็นสิ่งที่ฝูงหมาป่ากลัวอยู่แล้ว เมื่อผสานกับเสียงร้องตะโกนดังสนั่นปานภูผาถล่มของมวลชน จึงยิ่งทำให้ฝูงหมาป่าขวัญกระเจิงเข้าไปใหญ่ ปฏิกิริยาแรกของพวกมันคือ หันหลังกลับแล้ววิ่งหนี!
            เมื่อทุกคนเห็นฝูงหมาป่ากลับหลังหันเปิดแน่บไปเช่นนั้น  พาให้ความเชื่อมั่นในตนเองเพิ่มขึ้นอักโข ความห้าวหาญเพิ่มทบเท่าทวี อารมณ์พลุ่งพล่านท่วมท้นขึ้นฉับพลัน เสียงตะโกนโห่ร้อง เสียงตีภาชนะโลหะ ย่อมไม่มีทางจบสิ้น!
            เพียงไม่กี่อึดใจ  ทั้งหมู่บ้านดูคล้ายเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องดังอึงอลไปทุกแห่งหน และเต็มไปด้วยเสียงแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่นอีกด้วย ฝูงหมาป่าวิ่งหนีตายกันอลหม่าน ทางหนีทุกสายถูกฝูงชนขวางกั้นไว้ พาให้พวกมันมึนงงสับสน!
            ในที่สุดพวกมันก็พบเส้นทางหนึ่งซึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตใดขวางกั้นอยู่  พวกมันจึงรีบเร่งวิ่งทะยานเข้าไปปานสายฟ้าแลบ!
        อาเจี่ยนที่ยืนอยู่บนกำแพงชะเง้อมองมา  เมื่อชายหนุ่มเห็นเหตุการณ์ความเป็นไปทุกอย่างนี้ แล้ว  จึงกระโดดลงมา แล้วไปดึงลูกธนูของตนออกจากซากหมาป่าที่ตายแล้ว
            เหลียนเซ่อและซุนฉางซิงก็กระโดดตามลงมาด้วย
            อาเจี่ยนเอ่ยขึ้น “พวกท่านจัดการหมาป่าที่บาดเจ็บหนักสามตัวนี้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยตามมา!”กล่าวจบก็ส่งสัญญาณด้วยท่าทางให้ไล่ตามไป
            เหลียนเซ่อและซุนฉางซิงรับคำทันที
            หมาป่าสามตัวนั่นเดิมทีก็มีสภาพเจ็บหนักอยู่แล้ว ภายหลังบังเกิดความหวาดกลัวตัวสั่น ซ้ำยังโดนหมาป่าฝูงเดียวกันชนเข้าอีก  นอกจากนี้หมาป่าตัวหนึ่งยังคงพยายามตะเกียกตะกายหลบหนี ส่วนสองตัวที่เหลือทำได้แต่นอนซมบนพื้นร้องครางเสียงแผ่ว
            หมาป่าสภาพแบบนี้ ย่อมไม่ครณามือทั้งซุนฉางซิงและเหลียนเซ่อ คนทั้งสองย่อมไม่มีความหวาดกลัวแม้สักเสี้ยว
            ขณะหมาป่าตัวที่ทีแรกกำลังพยายามตะเกียกตะกายหลบหนีถูกปลิดชีพ พลันมีเสียงโห่ร้องลั่นปานสวรรค์ถล่มปฐพีทะลายดังขึ้น  ปรากฏว่ามีเหล่าคนหนุ่มมากมาย บ้างก็ชูคบเพลิง บ้างก็ถือด้ามจอบเต็มสองมือ กำลังวิ่งตรงเข้ามา
  เหลียนเซ่อและซุนฉางซิงต่างตะลึงงันยังไม่ทันจะโต้ตอบอันใด หมาป่าสองตัวที่กำลังนอนรอความตายนั้น ก็โดนจอบนับไม่ถ้วนตีเสียแทบจมดิน!
            เขาสองคนไหนเลยจะทันรู้ตัว เหล่าคนหนุ่มได้ยินเสียงเคลื่อนไหวดังมาทางด้านนี้ ก็บังเกิดความรู้สึกถาโถม ความฮึกเหิมที่เพิ่งบังเกิดสดๆร้อนๆไยจะสงบลงง่ายๆเล่า ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ร้องตะโกนออกมา “ใครไม่กลัวตายให้มากับข้านี่! มาช่วยกันเถิดสหาย!”  หลายคนจึงรีบวิ่งตรงเข้ามาเช่นนี้เอง!
            พอสังหารหมาป่าสองตัวนี้ลง ทุกคนล้วนพึงพอใจไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ซ้ำยิ่งรู้สึกถึงเลือดในกายที่กำลังเดือดพล่าน พุ่งปรี๊ดขึ้นศีรษะ คล้ายมีพลังงานอันไร้ขอบเขต เต้นกระหน่ำในโพรงอก หากมิได้มันระบายมันออกมา ในใจคงหาความสงบไม่ได้
  ดังนั้นไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นผู้เริ่มร้องตะโกนก่อน  ทุกๆคนจึงร้องเฮตาม และมุ่งหน้าไปยังเส้นทางที่ฝูงหมาป่าล่าถอยไป เพื่อชวนกันไปร่วมโจมตี
            พริบตาเดียวก็ไปไกลแน่บไม่เห็นฝุ่น!
  เหลียนเซ่อและซุนฉางซิงต่างหันมามองหน้ากันอย่างตกใจ
            เร็วเข้า! รีบตามไปกันเถิด” ซุนฉางซิงหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย รวมทั้งเหลียนเซ่อด้วย ทั้งสองคนรีบไล่ตามไปทันที
            ยามคนทั้งสองไล่ตามไปถึงบริเวณรกร้าง ภาพที่เห็น ทำให้ทั้งสองคนเบิกตากว้างยืนนิ่งงัน
            ที่นั่นมีหมาป่าอีกสี่ตัวที่ยังไม่สิ้นชีพ  แต่ดูแตกตื่นสับสนไม่น้อย  คนหนุ่มทุกคนต่างกวัดแกว่งจอบ ท่อนไม้ และคบเพลิงในมือ ร้องขับไล่หมาป่ากันอย่างชุลมุนวุ่นวาย หมาป่าทั้งสี่ยืนแตกตื่นเสียขวัญอย่างเห็นได้ชัด ประเดี๋ยวพวกมันก็หลบไปทางซ้าย ประเดี๋ยวก็หลบไปทางขวา  การเคลื่อนไหวสับสนไม่เป็นกระบวน พอรีบวิ่งหนีมาอีกฝั่ง ก็ปะทะเข้ากับสายตาของคนทุกคนที่ล้อมเอาไว้ ไม่อาจหาช่องทางหนีพบ!
            ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้  อาเจี่ยนไหนเลยจะยังสามารถใช้ธนูได้เล่า? หากเกิดมีใครโดนลูกหลงขึ้นมา คงได้เป็นเรื่องใหญ่!
            อาเจี่ยนลอบถอนหายใจ เดิมทีเขาวางแผนให้ฉินเฟิงและซูจื่อจี้พาบ่าวสกุลเหลียนทั้ง 11 คน คว่ำไหเหล้าจำนวนมากที่วางบนริมฝั่งแม่น้ำเป็นทางยาวขนาบไปทั้งสองฟากฝั่ง รอจนฝูงหมาป่าโดนต้อนลงไปในแม่น้ำแล้ว ไฟที่ถูกจุดขึ้นที่ริมฝั่งทั้งสองฝั่งจะบังคับพวกมันให้ไม่สามารถหนีกลับขึ้นฝั่งได้ รอเหลียนเซ่อและซุนฉางซิงไล่ตามมาถึง บวกกับคนทั้งสิบกว่าคนที่ยืนคอยอยู่ที่นี่ เชื่อแน่ว่างานกวาดล้างฝูงหมาป่าคงไม่คณามือเป็นแน่
            แต่แล้ว แผนการดังกล่าว ก็โดนคนหนุ่มเลือดร้อนทั้งกลุ่มนี้ ทำลายเสียย่อยยับ
            อาเจี่ยนหมดทางเลือก  ชายหนุ่มจึงคว้าท่อนไม้ในมือของคนที่อยู่ใกล้ๆ สาวเท้าเข้าไปร่วมบรรเลงกับคนหนุ่มกลุ่มนั้น
            ถึงแม้มีคนเป็นอันมากช่วยกันห้อมล้อมรุมประชาทัณฑ์ฝูงหมาป่า ทว่าพวกเขาลงมือได้อย่างไร้ระเบียบแบบแผน  บางครั้งก็เกิดการชนกันเอง โชคดีที่ยังมี อาเจี่ยน เหลียนเซ่อ และซุนฉางซิงอยู่ ในที่สุดหมาป่าทั้งฝูงก็ถูกกำจัดจนสิ้น
            แน่นอนว่า มีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บ
            เพียงแต่ว่าบาดแผลที่ได้รับนี้ ไม่เพียงไม่มีใครรังเกียจ แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาเอาไว้โอ้อวดผู้คน
-------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ที่เป็นกำลังใจ และการติดตามค่ะ ^_^

แปลตอนนี้แล้ว สงสารหมาป่าจัง......



10 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณคะ ตอนนี้สบายมากทุกคนเป็นฮีโร่กันหมด

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากค่ะ ผู้แปลมีเมตตาสูงที่สงสารหมาป่า

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากค่า
    แอบสงสารหมาป่าที่โดนตีเหมือนกันนะคะเนี่ย

    ตอบลบ
  4. สงสารหมาป่าเหมือนกันค่ะ แต่ก็ต้องทำใจมันเป็นนิยายอ่ะนะ
    ขอบคุณมากนะคะสำหรับความสุขใจในตอนนี้
    รอคอยตอนต่อไปค่ะ

    ตอบลบ
  5. หมั่นไส้พวกชาวบ้านน่ะ

    ตอบลบ
  6. สงสารหมาก็สงสารเฮ้อออ

    ตอบลบ
  7. เฮ้อ มากคนมากความ เหมือนจะดีสามัคคีกัน แต่พากันผิดแผน

    ตอบลบ
  8. เราเป็​นพวกที่หวั่นไหวเรื่องสัตว์​มาก​ ไม่กล้าอ่านช่วงไล่ฆ่าหมาป่าเลยได้แต่เลื่อนผ่าน​ ถึงเป็นนิยายก็ห้ามตัวเองไม่ได้ทุกที​ พออ่านแล้วตามนิยายทีไรต้องเห็น​ภาพเองตลอด

    ตอบลบ
  9. ถ้าให้อาเจี่ยนจัดการเองหมาป่าคงไม่ตายอย่างทรมานอ่ะ

    ตอบลบ