วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2566

จับแม่ทัพไปไถนา-บทที่ 754 ตั้งครรภ์-2

      ปี้เถาได้ไปเอาพู่กันและหมึกมาเตรียมไว้อย่างรู้งานแล้ว  เซวียอี้ชิงสะบัดพู่กันเขียนใบสั่งยารวดเดียว จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและผละออก

    หลี่ฟู่ซึ่งอยู่ข้างๆเหลียนฟางโจว ได้แต่ยิ้มหน้าบานทำอะไรไม่ถูก เขารับคำอีกฝ่ายอย่างไม่ใส่ใจนัก และไม่มีการพูดส่งแขกเลยสักคำ


    กลับให้ชุนซิ่งและปี้เถาเป็นผู้ไปส่งอีกฝ่าย

    เซวียอี้ชิงมิได้สนใจเช่นกัน เพียงแค่กลอกตาอีกครั้ง ก่อนจะส่ายหน้าแล้วจากไป

    หลักใหญ่ใจความก็คือ พี่สะใภ้ท้องไม่ใช่เหรอ? นี่เป็นเรื่องธรรมดาสามัญยิ่งนัก ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆว่า คนบางคนสามารถมีความสุขราวกับคนโง่ได้อย่างไร!

    ข่าวอันเป็นมงคลนี้ได้แพร่สะพัดไปทั่วพระราชวังราวกับติดปีกในชั่วพริบตา และบรรดาบ่าวรับใช้และสาวใช้ของจวน ต่างก็คุกเขาโขกศรีษะ เพื่อแสดงความยินดี กันอย่างพร้อมเพรียง หลี่ฟู่ตบรางวัลเป็นเงินเท่ากับเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน ให้แก่บ่าวไพร่ทุกคนในจวน พวกเขาต่างเบิกบานยินดีเสียยิ่งกว่าตอนเทศกาลปีใหม่เสียอีก

   โจวซื่อยังรีบรุดมา เมื่อได้รับทราบข่าวดี  นางยิ้มแย้มแล้วเอ่ยด้วยความดีใจ  "ขอแสดงความยินดีด้วยนะ"  ก่อนจะดึงเหลียนฟางโจวมา เพื่อชี้แนะวิธีดูแลยามตั้งครรภ์

    เมื่อเห็นสองสามีภรรยาเปี่ยมด้วยความปิติยินดี  นางก็รู้สึกตื่นเต้นยินดีแทนพวกเขา  ทันใดนั้นใจก็กระหวัดไปถึงสามีที่เสียไป แล้วของตน ด้วยความเศร้าในใจ

    เมื่อทุกคนแยกย้ายไปกันแล้ว เหลือเพียงหลี่ฟู่กับเหลียนฟางโจว หลี่ฟู่กุมมือหญิงสาวเอาไว้ และคอยพร่ำบอกนางให้รู้จักระวังใส่ใจกับอาหารการกิน และเสื้อผ้าเสียยืดยาว เหลียนฟางโจวยิ้มรับคำอีกฝ่าย ในใจให้รู้สึกหวานล้ำ

   ทันใดนั้นหลี่ฟู่ก็ยิ้มอีกครั้ง: "ในที่สุดพวกเราก็มีลูกชายด้วยกันจนได้ ฮูหยิน เห็นไหมว่าความทุ่มเทอย่างหนักของพวกเรามิได้สูญเปล่าเลย!" 

  ใบหน้าของเหลียนฟางโจวพลันแดงระเรื่อ ดังนั้นหญิงสาวจึงดึงมือออกจากการเกาะกุมโดยไม่รู้ตัว แล้วเอ่ยด้วยความโมโห "คนบ้า! "

   หลี่ฟู่ฉวยมือหญิงสาวมากุมอีกครั้ง แล้วโน้มตัวลงมา พลางเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ไฉนเจ้าถึงว่าข้าเล่า? นี่ข้าพูดนี่ ข้าจริงจังนะ! "

   ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ชายหนุ่มจ้องไปที่หน้าท้องของภรรยา เมื่อคิดว่าเลือดเนื้อเชื้อไขของตนกําลังนอนนิ่งอยู่ในนั้น ชายหนุ่มให้รู้สึกเหลือเชื่อ และรู้สึกอัศจรรย์ใจนัก จึงอดฉีกยิ้มอีกครั้งไม่ได้

   เขากำลังจะมีบุตรชายแล้ว! เขาจะมีบุตรชายกับสตรีที่เขารักแล้ว!

   "ลูกชาย?" ทันใดนั้นเหลียนฟางโจวก็พลันได้สติ แล้วโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว "ท่านรู้ได้อย่างไรว่าจะได้ลูกชาย แล้วถ้าเกิดเป็นลูกสาวล่ะ?  ท่านจะไม่ชอบลูกสาวเหรอ? "

    ความจริงแล้วหญิงสาวรู้สึกกังวลในใจเล็กน้อย ทายาทคือเรื่องที่สําคัญที่สุดของคนยุคสมัยโบราณ และทายาทนี้เกือบร้อยทั้งร้อยจะเป็นทารกเพศชาย และไม่เคยได้ยินใครที่ตั้งตารอคอยลูกสาวเลยสักคน!

    ไม่ว่าหลี่ฟู่จะรักเธอมากแค่ไหน เขาก็รักลูกชายของเขาด้วย!

    หลี่ฟู่พูดเองเสร็จสรรพ "เจ้านี่ช่างไม่รู้อะไรในเรื่องนี้เลย ลูกคนแรกของเราสองคน แน่นอน ย่อมเป็นลูกชาย! เมื่อข้าสอนวรยุทธ์ สอนขี่ม้าและยิงธนูให้แก่เขาแล้ว เขาจะได้ปกป้องน้องๆที่จะเกิดมาในอนาคตได้! ถ้าเกิดเป็นลูกสาว เรื่องมันจะยิ่งยากขึ้น และข้าทนเห็นลูกสาวของเราต้องมาฝึกฝนอย่างลำบากลำบนไม่ได้! "

    "..."เหลียนฟางโจวขยับริมฝีปากพะงาบๆ นี่มันตรรกะอะไรของเขาเนี่ย!

    เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะโล่งใจ หรือว่าตื่นตระหนกกว่าเดิมดี ที่ได้ยินเรื่องนี้

   แต่ก็นับว่ายังโชคดี ที่เขาไม่ใช่คนที่โปรดปรานบุตรชายมากกว่าบุตรสาว!

   เหลียนฟางโจวจึงยิ้มแย้มในหน้า แล้วเอ่ยขึ้น "เช่นนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้วล่ะ! แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาว ข้าก็รักทั้งนั้น! "

   "ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว!" หลี่ฟู่ไม่รู้สึกว่าคําพูดของเขากับคําพูดก่อนหน้า มีอะไรย้อนแย้งกัน "พวกเขาทุกคนล้วนเป็นลูกของเรา แน่นอนว่าข้าชอบพวกเขาทุกคน!" 

   ทันใดนั้นชายหนุ่มก็เลิกคิ้วขึ้นอีกครั้ง และเอ่ยด้วยความฉงน "ข้าเคยได้ยินคนอื่นพูดมาก่อนหน้านี้ว่า ผู้หญิงเราเวลาตั้งครรภ์ นางจะไม่มีความอยากอาหาร กินอะไรก็อาเจียน และชอบกินของรสเปรี้ยว ไฉนข้าไม่เห็นเจ้าเป็นเช่นนี้เลย" 

    เหลียนฟางโจวทั้งขำทั้งฉุน ฝ่ามือของหญิงสาวลูบไปบริเวณท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว ขณะที่ใบหน้ายกยิ้มอ่อนโยน "ท่านไม่ได้ยินสิ่งที่พี่เซวียพูดหรือ? ข้ามีอายุครรภ์แค่สองเดือนเอง! สิ่งที่ท่านพูดมา มันยังไม่ถึงเวลาของมัน! "

    หลี่ฟู่ฉุกคิด และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ "มันเป็นเช่นนี้นี่เอง!" 

    เขาจึงเอ่ยอย่างเป็นกังวล "แล้วมันจะดีได้อย่างไร หากเจ้ากินอะไรไม่ได้ พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเซวียอี้ชิงอีกหน จะถามเขาว่าเขามีวิธีการดีๆหรือไม่! เอ่อ แล้วจะสั่งให้ซื้อลูกเหมย ลูกซานจา  ผลซิ่งมาดองดองน้ําส้มสายชูข้าวและของอื่น ๆ กลับมา! "

    "..." เหลียนฟางโจวก็อยากจะบอกเขาว่า อาการอาเจียนตอนเช้า ขนาดยาแผนปัจจุบันอันทันสมัย ก็ยังรักษาไม่ได้เลย แต่พอเห็นความเคร่งเครียดบนใบหน้าเขา เธอก็เลยปล่อยเลยตามเลย ไม่ไปขัดเขา!

   สําหรับเรื่องซื้อนั้น อยากซื้ออะไรก็ซื้อ เมื่อซื้อมาแล้ว นางจะได้มีกินไม่ขาด 

  ขณะที่สองหนุ่มสาวกำลังพูดคุยและหัวเราะกันอย่างหวานชื่น จู่ ๆสาวใช้รุ่นเล็กได้เข้ามารายงานว่า แม่นางฉินมาขอเข้าพบ! บอกว่ามาเพื่อมากล่าวแสดงความยินดีกับนายท่านและฮูหยิน!

   เหลียนฟางโจวและหลี่ฟู่หยุดพูดทันที แล้วหันมามองหน้ากัน

   ทั้งสองคิดไม่ถึงว่าแม่นางฉินจะมา

   เหลียนฟางโจวหัวเราะเยาะกับตัวเองในใจ  แม่นางฉินเงียบไปพักใหญ่ เธอยังคิดว่านางจะเงียบไปตลอดกาลเสียอีก!

   สายตาของหลี่ฟู่ดูหม่นลงเล็กน้อย สําหรับแม่นางฉินแล้ว ความรู้สึกของเขาค่อนข้างซับซ้อน

   "เชิญนางเข้ามา!" เหลียนฟางโจวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

   ผู้คนมากล่าวแสดงความยินดีกับพวกเขา  พวกเขาก็คงไม่อาจหันหน้าหนีไปได้ตลอด

   สาวใช้รุ่นเล็กรับคำ "เจ้าค่ะ” แล้วหันหลังกลับจากไป

   หลี่ฟู่กุมมือเหลียนฟางโจวไว้แน่น น้ําเสียงของเขานุ่มนวลและไม่ให้ตั้งคำถาม "เจ้ากําลังตั้งครรภ์ ห้ามคิดอะไรฟุ้งซ่านเด็ดขาด  เจ้าต้องเชื่อข้า ชั่วชีวิตนี้ ข้าจะมีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น!" 

   หัวใจของเหลียนฟางโจวพลันอบอุ่นขึ้น หญิงสาวแล้วหันไปยิ้มให้เขา พลางพยักหน้า

   เสียงฝีเท้าราบเรียบแผ่วเบาดังขึ้น ม่านขยับไหวเล็กน้อย และเห็นเงาร่างบอบบางสีขาวงาช้างวาบเข้ามา และแถบผ้าไหมสีขาวงาช้างเหมือนกัน กว้างสองนิ้ว มัดกับผมที่เกล้าสูง แต่งตัวประดุจนักบวช นี่คือแม่นางฉิน

   ติงเซียงที่ติดตามนางมาด้วย ก็แต่งกายด้วยอาภรณ์เรียบๆธรรมดา ไม่สวมใส่เครื่องประดับเลย แม้แต่ปิ่นปักผมสักอัน

   ทันทีที่แม่นางฉินเข้ามา นางก็เหลือบมองหลี่ฟู่โดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ได้สบตาหลี่ฟู่ และอดแอบผิดหวังในใจไม่ได้

   จากนั้นหญิงสาวก็ยิ้ม แล้วก้าวเข้าไปหาพร้อมรอยยิ้ม และเอ่ยแสดงความยินดี ในขณะที่ย่อกายคำนับคนทั้งสอง

   โดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายค้อมตัวลงไป เหลียนฟางโจวรีบขอให้ใครบางคนมาพยุงอีกฝ่าย พลางส่งยิ้มให้ "ไม่ต้องหรอก! ตอนนี้เจ้าเป็นคนนอกแล้ว เจ้าไม่อาจทำแบบนี้ได้! ต่อไปไม่ต้องทำแบบนี้อีกแล้ว! “  เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้มและขอให้อีกฝ่ายนั่งลง

    การเคลื่อนไหวของแม่นางฉินพลันแข็งทื่อไปนิดหนึ่ง ซึ่งอากัปกิริยาเล็กน้อยนี้ ไม่สามารถหลุดรอดสายตาของเหลียนฟางโจวไปได้

   แม่นางฉินหรุบตาลง พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ "ขอบคุณเจ้าค่ะ ขอบคุณพี่สะใภ้..."

    หลี่ฟู่ยืนขึ้นพร้อมรอยยิ้ม "พวกเจ้าค่อยๆคุยกันไปนะ ข้าจะไปห้องหนังสือสักหน่อย พอดีมีบางเรื่องที่ต้องสะสางน่ะ!" 

    เมื่อพูดเช่นนั้น ชายหนุ่มจึงพยักหน้ายิ้มให้แม่นางฉินนิดหนึ่ง แล้วหันไปพูดกับเหลียนฟางโจวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล " เจ้ากําลังท้องกำลังไส้  พักผ่อนให้มากๆ มีธุระอันใด  ก็ให้พวกชุนซิ่งจัดการไปนะ!" 

    เหลียนฟางโจวยิ้มตอบรับ

    ใบหน้าของแม่นางฉินเปลี่ยนเป็นซีดขาวอีกครั้ง

    เมื่อนางมา เขาจะคอยหลีกเลี่ยง และไม่แม้กระทั่งอยากเห็นนางอีก

    เขารังเกียจนางมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

    ถ้อยคํานั้นที่จริงแล้ว แอบเตือนนาง ไม่ให้นางอยู่นาน จะได้ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของฮูหยินที่รักของเขาใช่หรือไม่?

    ใจของแม่นางฉินมีแต่ความขมขื่น

    คนนอกรึ?

    หึๆ!

   มุมปากหญิงสาวกระตุกขึ้นโดยไม่รู้ตัว เผยให้เห็นร่องรอยการเย้ยหยันจางๆ!

   หลังจากที่หลี่ฟู่จากไป แม้ว่าหัวใจของแม่นางฉินจะเจ็บปวด ทว่านางจะไม่ยอมเผยมันต่อหน้าเหลียนฟางโจวเด็ดขาด ครั้นแล้วหญิงสาวจึงกล่าวแสดงความยินดีกับอีกฝ่าย ด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า

    หายากนักที่เธอไม่ได้เพิ่มการป้องกันตัวเอง และทั้งจวนนี้ล้วนเป็นคนของเธอเอง ดังนั้นเหลียนฟางโจวก็ไม่กลัวจะเจอกับกลอุบายที่อีกฝ่ายจะใช้พลิกฟื้นสถานการณ์

    นางมาแสดงความยินดีด้วยใจ เธอก็แค่ฟังด้วยรอยยิ้มจริงใจ

   ในใจของข้า ข้ายังคงแอบขบขันแม่นางฉินผู้นี้ ฝีมือในการเล่นละครของนาง ยังดูเงอะงะเกินไป

   จะเกิดอะไรขึ้นหากอีกฝ่ายควบคุมตัวเองได้?  คงยาก เพราะใบหน้าติงเซียงแสดงออกชัดยู่ตรงนั้น!

   แม่นางฉินมองสำรวจท้องของเหลียนฟางโจว พลางจัดระเบียบความคิดในสมอง และไม่มีถ้อยคำอะไรมากมายจะพูดกับเหลียนฟางโจว คำพูดจึงเป็นการพูดแบบพอเป็นพิธี และมีไม่กี่คำ

   เพียงไม่นาน นางก็ต้องลุกขึ้น และกล่าวคําอําลา




8 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ2 ธันวาคม 2566 เวลา 23:00

    ชอบมากทุกตอนค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะที่ลงให้อ่านอย่างต่อเนื่อง

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณผู้แปลที่สละเวลาอันมีค่าห่วงใยนักอ่านสูงวัย ทั้งที่ผู้แปลมีภาระต่อครอบครัว ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ3 ธันวาคม 2566 เวลา 11:29

    ขอบคุณมากค่ะ ที่สละเวลาแปลให้ สนุกทุกตอนค่ะ รอติดตามอยู่นะค่ะ ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ3 ธันวาคม 2566 เวลา 16:46

    ขอบคุณผู้แปลมากๆค่ะ

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ4 ธันวาคม 2566 เวลา 12:23

    ขอบคุณมากค่ะ
    ดูแลสุขภาพนะคะ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ4 ธันวาคม 2566 เวลา 16:47

    ขอบคุณมากมากค่ะ ที่สละเวลาแปล ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณมากค่ะ ชอบทุกตอนเลยค่ะ

    ตอบลบ
  8. เมื่อไหร่จะคิดได้สักทีนะแม่นางฉิน
    คนที่ชอบพอเจ้ามีอยู่

    ตอบลบ