จับแม่ทัพไปไถนา-บทที่ 1008 สินสอดทองหมั้น

 

บทที่ 1008 สินสอดทองหมั้น

 

หากต้องแต่งงานกับหลานชายของเมิ่งซื่อจริงๆ ชีวิตนี้นางจะมีอะไรให้หวังอีก?

แต่ครั้นจะไม่แต่งงาน นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่นางจะตัดสินใจได้

คำสั่งของบิดามารดาและคำพูดของแม่สื่อถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถึงแม้นางจะมีชื่อเสียงไม่ดี แต่นางก็ไม่กล้าท้าทายกฎเกณฑ์อันยิ่งใหญ่นี้

และนางก็รู้ดีว่า หากนางต่อต้านด้วยความตาย ไม่แน่ว่าป้ายชื่อของนางอาจจะถูกส่งไปยังตระกูลเมิ่ง และหลังจากตายไปแล้ว นางอาจจะถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนเลวอีก!

นี่เป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะอยู่หรือตายก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

หนีไปรึ? ฮึ! นางเป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ไม่รู้วิธีใช้ชีวิตข้างนอก แล้วจะหนีไปที่ไหนได้? การที่ตระกูลโหวจะหาตัวนางเจอไม่ใช่เรื่องยาก

หากนางตายอยู่ข้างนอก หรือเกิดอะไรขึ้นที่ข้างนอก เมิ่งซื่อก็จะดีใจมาก!

นางเองก็แทบคลั่ง ในวันนั้นเมื่อเห็นคนที่แซ่เหลียนอะไรสักอย่าง นางรู้สึกว่าเขาก็พอจะดูดีอยู่บ้าง อีกทั้งสีหน้าของเขาก็ชัดเจนว่าถูกความงามของนางทำให้หลงใหลจนหัวหมุน ด้วยเหตุนี้นางจึงพูดคำนั้นออกไป

แท้จริงแล้ว หลังจากพูดออกไป ความรู้สึกขุ่นเคืองในใจของนางก็ได้ถูกระบายออกไป ทำให้นางรู้สึกดีขึ้นมากและไม่ได้คาดหวังอะไรกับเขามากนัก

หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ต้องเดินไปทีละก้าว!

ความจริงแล้วนางก็แอบเตรียมใจที่จะเข้าสู่ตระกูลเมิ่งไว้แล้ว

แต่ไม่คาดคิดเลยว่า คนแซ่เหลียนอะไรนั่นจะทำสำเร็จจริงๆ

เขาถึงกับเชิญคนมาสู่ขอนาง และยังเชิญหมินจวิ้นอ๋องผู้เฒ่ามาเป็นพ่อสื่ออีกด้วย!

เมื่อมีพ่อสื่ออย่างท่านอ๋องผู้เฒ่า การหมั้นหมายครั้งนี้จึงกลายเป็นเรื่องแน่นอน ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้!

เมื่อรู้ข่าวนี้ สวีอี้หยุนเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องรู้สึกอย่างไรกันแน่

เมื่อปิงลวี่เห็นคุณหนูรู้สึกเบื่อหน่ายเช่นนี้ก็ยิ่งรู้สึกเศร้าใจ แต่ก็ฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “จริงๆ แล้ว การแต่งงานกับตระกูลเล็กๆ ก็ไม่เลวนักหรอกเจ้าค่ะ อีกทั้งไม่มีพ่อแม่สามีให้ต้องคอยดูแล ในอนาคตคุณหนูก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่มีใครมาคอยขัดขวางอีก! รอจนเมื่อมีคุณชายน้อย คุณหนูใหญ่ก็สามารถเชิญอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมาสอนสั่ง ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่เอาไหนค่ะ!”

คำพูดนี้ทำให้สวีอี้หยุนหลุดหัวเราะออกมา “นี่เรื่องมันยังไปไม่ถึงไหนเลยนะ แต่เจ้ากลับพูดถึงคุณชายน้อยแล้ว! เจ้าไม่รู้สึกอายบ้างหรือ?”

ปิงลวี่ซึ่งแก่กว่าสวีอี้หยุนสามหนาว พลันหน้าแดงขึ้นมาทันทีและพูดไม่ออกด้วยความเขินอาย

เมื่อสวีอี้หยุนเห็นปิงลวี่เป็นเช่นนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงเปลี่ยนเรื่องพูดเป็นเรื่องอื่น

ที่จวนเว่ยหนิงโหว เมื่อเหลียนฟางโจวบอกข่าวกับเหลียนเจ๋อ เขาก็ดีใจจนแทบไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากยิ้มและกล่าวขอบคุณเหลียนฟางโจวไม่หยุด เหลียนฟางโจวฟังแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดนัก

ดูสิ! พอเรื่องการหมั้นหมายสำเร็จ เขาก็หัวเราะและขอบคุณนางอย่างนี้จริงๆเลย สมแล้วที่เขากล่าวกันว่ามีภรรยาแล้วก็ลืมพี่สาว!

เหลียนเจ๋อไม่เข้าใจว่าเหตุใดพี่สาวของตนถึงอารมณ์ไม่ดี ทั้งที่ทุกอย่างก็ดูปกติดี คิดเพียงว่าอาจเป็นเพราะท่าทีของตนยังไม่ดีพอ จึงยิ่งพยายามถ่อมตนและระมัดระวังมากขึ้นในการพูดคุย แต่ผลที่ได้กลับทำให้เหลียนฟางโจวยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

ในที่สุด เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไร นางก็ต้องปรับอารมณ์ของตนเอง

พูดก็พูดเถอะ การมีสามีหัวทึบคนหนึ่งก็แย่พอแล้ว แต่ตอนนี้น้องชายก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นด้วย นี่มันเกินทนจริงๆ

“พี่ใหญ่ เรื่องสินสอดรบกวนพี่ช่วยจัดการให้ข้าด้วยนะขอรับ! พี่คงต้องเหนื่อยหน่อย!” เหลียนเจ๋อรีบกลับเข้าประเด็นสำคัญและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จะต้องใช้เงินเท่าไรก็ไม่เป็นไร! ในเมืองหลวงนี้มีทุกอย่างให้ซื้ออยู่แล้ว เวลาสิบวันก็พอเตรียมได้ พี่เลือกซื้อแต่ของที่ดีที่สุดเลยนะขอรับ!”

“รู้แล้ว!” เหลียนฟางโจวกลอกตาใส่เขาแล้วเอ่ยพร้อมร้อยยิ้ม “น้องชายแท้ๆ ของพี่จะมีภรรยา นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของตระกูลเหลียน จะไม่จัดการให้ดีได้ยังไง! เจ้ารอเป็นเจ้าบ่าวเถอะ เรื่องสินสอดเจ้าไม่ต้องกังวล!”

ในใจนางได้แต่หัวเราะเยาะตนเอง ปีนี้นางคงต้องวุ่นวายอยู่กับเรื่องงานแต่งงานไม่หยุด ตั้งแต่เซียวมู่ และเดือนหน้าก็เป็นอวี้เจิน เมี่ยวอวิ๋น และเข่อซิน เดือนถัดไปก็คือเหลียนเจ๋ออีก!

เรื่องสินสอดนั้น เหลียนฟางโจวตั้งใจจัดเตรียมอย่างดี สิ่งที่ต้องมีอย่างเงินสินสอด ขนมแต่งงาน อาหารทะเล สามสหายปลามีชีวิต สุรา ผลไม้สี่ชนิด ขนมสี่ชนิด และใบชา ล้วนไม่ขาดตกบกพร่อง นางยังขอให้เซียวมู่และลั่วกว่างช่วยหาห่านป่าที่หายากในปัจจุบันมาได้คู่หนึ่ง

นอกจากนี้ ยังเตรียมผ้าไหมหลากสีสัน อัญมณีล้ำค่า เครื่องสำอางโบราณ และของประดับโบราณต่างๆ อย่างเหมาะสมและสมเกียรติ

นอกจากของที่ซื้อจากในเมืองหลวงแล้ว เหลียนฟางโจวยังเลือกของดีสิบกว่าชิ้นจากคลังสมบัติของตระกูลมาใส่เพิ่มด้วย เช่น ต้นท้อหยกในกระถางที่ลำต้นและกิ่งก้านทำจากทองคำบริสุทธิ์ ประดับด้วยดอกไม้จากพลอยและไข่มุก ใบจากหยกเขียว อีกทั้งเชิงเทียนสามขาที่แกะสลักลายมังกรและหงส์พันรอบสูงกว่าหนึ่งฉื่ออ ไข่มุกเม็ดใหญ่หกสิบเม็ดที่หลิวจวิ้นหวางเฟยเคยมอบให้ รวมถึงขนจิ้งจอกขาวและขนจิ้งจอกไฟชั้นดีอย่างละสองผืน

ท่านหมินจวิ้นอ๋องผู้เฒ่าถึงกับส่งของขวัญดีๆ มาให้หลายชิ้นผ่านทางพ่อบ้าน เพื่อช่วยเสริมหน้าตาให้กับเหลียนเจ๋อ ของขวัญเหล่านั้นรวมถึงงานแกะสลักหินหยกขาวชั้นเลิศรูปแปดเซียนข้ามทะเลที่มีขนาดกว้างกว่าหนึ่งฉื่อ พร้อมฐานรองทำจากไม้จันทร์ขนาดเล็ก, ปะการังแดงคู่หนึ่งสูงกว่าสามฉื่อที่มีสีแดงสดราวกับเปลวไฟ กิ่งก้านแผ่กระจายอย่างงดงามและสมดุลจนไร้ที่ติ และเครื่องกระเบื้องเงาเขียวคู่หนึ่งจากเตาเผา ที่มีสีบริสุทธิ์ เนื้อบางดุจปีกจักจั่น และขวดที่มีเส้นสายเรียบลื่น ดูงดงามจับตา...

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าของเหล่านี้เป็นของชั้นหนึ่งเลย เพียงแค่ชื่อเสียงของท่านหมินจวิ้นอ๋องผู้เฒ่าที่มอบของเหล่านี้ ก็ถือเป็นเกียรติอันน่าอิจฉาแล้ว

ความอิจฉานั้นไม่ต้องพูดถึงเลย

ผู้คนต่างพากันกล่าวว่า คุณหนูใหญ่แห่งจวนสวีกั๋วกงช่างโชคดีจริงๆ! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่สินสอดเหล่านี้ก็ทำให้ชีวิตทั้งชีวิตไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้องแล้ว!

ต้องรู้ไว้ว่าสินสอดเหล่านี้ นอกจากพวกสุราและชาแล้ว สิ่งของอื่นๆ ล้วนต้องถูกนำมาเป็นสินเดิมและส่งกลับไปยังครอบครัวสามี

และของที่ออกจากบ้านสามีในฐานะของสาธารณะ เมื่อกลายเป็นสินเดิมแล้วก็จะกลายเป็นสมบัติส่วนตัวของเจ้าสาวทั้งหมด

จวนสวีกั๋วกงเองก็ตกตะลึง ไม่เคยคาดฝันว่า ตระกูลเหลียนจะร่ำรวยถึงเพียงนี้

เมื่อเห็นสินสอดที่ถูกยกเข้าประตูบ้านทีละชิ้น สวีกั๋วกงย่อมดีใจจนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกภูมิใจ ไม่ว่าจะอย่างไร นี่ก็เป็นเรื่องที่เชิดหน้าชูตายิ่งนัก!

เมิ่งซื่อและสวีอี้เจินที่แอบดูอยู่ก็ตกตะลึงเช่นกัน รอยยิ้มบนใบหน้าของเมิ่งซื่อเริ่มจะดูฝืนๆ ไปบ้าง

สวีอี้เจินบีดผ้าเช็ดหน้าในมือแล้วส่งเสียงฮึดฮัดเบาๆ "เด็กบ้านนอกคนนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ ทำท่าทางไปตามพิธีได้ดี แต่ใครจะรู้ว่าข้างในนั้นเต็มไปด้วยของไร้ค่าอะไรกันบ้าง!"

พูดจบก็สะบัดผ้าเช็ดหน้าในมือแล้วหันหลังเดินออกไปทันที

ในขณะเดียวกัน ปิงลวี่ซึ่งแอบดูอยู่ในที่ลับก็รีบกลับไปแจ้งข่าวให้สวีอี้หยุนด้วยความตื่นเต้น ปากยิ้มกว้างแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า "คุณหนูใหญ่! คุณหนูใหญ่! ตระกูลเหลียนส่งสินสอดมาแล้วเจ้าค่ะ! มีของมากมายจนไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่ เห็นจนตาลายไปหมดเลยเจ้าค่ะ! ยังมีห่านป่ามีชีวิตคู่หนึ่งด้วย! บ่าวไม่เคยเห็นห่านป่าที่มีชีวิตมาก่อนเลย ไม่คิดว่าจะมีรูปร่างแบบนี้!"

...