วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568

จับแม่ทัพไปไถนา-บทที่ 1029 แผนการแต่งงานแทนล่ม

 

บทที่ 1029  แผนการแต่งงานแทนล่ม

 

ช่างเป็นคนที่ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริง ๆ! เรื่องของจวนสวีกั๋วกง ทำไมเจ้าต้องเข้ามายุ่งด้วย!” เมิ่งซื่อโกรธจนทนไม่ไหว

นางยังรู้สึกเสียใจมากด้วย หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนแรกก็ควรจะยืนกรานไม่ยอมให้หมอเซวมารักษาดีกว่า

อย่างไรคนก็เป็นคนของบ้านเรา ตราบใดที่นางกับท่านกั๋วกงไม่ยอม หมอเซวจะทำอะไรได้?

ตอนนี้พูดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว

ถ้าเด็กนั่นเกิดอะไรขึ้นอีก ชื่อเสียงของนางคงจะพังทลายไปกว่าครึ่ง แม้ว่าจะไม่พังทลายทั้งหมดก็เถอะ นางจะยอมได้อย่างไร!

ข่าวที่ว่าแผลที่ขาของสวีอี้หยุนหายดีแล้วแพร่สะพัดไปทั่วจวนในวันรุ่งขึ้น

แต่ก็เพียงแค่รู้กันเท่านั้น ทุกคนยังคงทำงานของตัวเองต่อไป

แน่นอนว่า ถ้าเป็นคุณหนูรองที่ป่วยแล้วหายดี คุณนายคงจะให้รางวัล ทุกคนก็คงจะมีความสุขกันถ้วนหน้า

เช้าตรู่ สวีอี้เจินและเมิ่งถิงถิงก็มาอยู่ที่นี่ ทั้งสองคนอารมณ์ไม่ดี สวีอี้เจินเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ส่วนเมิ่งถิงถิงมีความกังวลมากกว่า

เมิ่งซื่อเพียงแค่มองพวกนางสองคนแล้วพูดเบา ๆ ว่า “ขาของพี่สาวพวกเจ้าในที่สุดก็หายดีแล้ว ก่อนที่นางจะแต่งงานจะต้องไม่เกิดอะไรขึ้นอีก พวกเจ้าเข้าใจไหม? ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นมา อย่ามาโทษข้าว่าไม่มีน้ำใจ!”

ท่านแม่!” สวีอี้เจินอดทนไม่ไหว ร้องตะโกนด้วยโทสะ “ใครกันแน่ที่เป็นลูกแท้ ๆ ของท่านแม่เจ้าคะ!”

เมิ่งถิงถิงก็หน้าเปลี่ยนสี ร้องด้วยความน้อยใจ “ท่านแม่บุญธรรม!”

เมิ่งซื่อถอนหายใจและอธิบายเหตุผลให้พวกนางฟัง แล้วถอนหายใจอีกครั้ง “เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ปล่อยไปเถอะ! อย่างไรก็ส่งนางออกจากประตูไปแล้ว ต่อไปจะไม่ต้องเห็นหน้ากันอีกก็จบ! ฮึ ตระกูลเหลียนจะรวยแค่ไหนก็แล้วอย่างไร? ท้ายที่สุดก็ยังมาจากคนธรรมดา เมื่อเทียบกับตระกูลซิ่นหยางโหวแล้ว ก็เหมือนกับดินใต้เท้าของพวกเขา หากเจ้าอิจฉานางก็โง่เองแล้ว!”

สวีอี้เจินกระทืบเท้าและพูดอย่างโกรธเคือง “ใครอิจฉานางกัน? ข้าไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอก! ข้าแค่ไม่ชอบนิสัยของนางเท่านั้นเอง! นางน่ารังเกียจ ไร้คุณธรรม ไร้ความสามารถ และไม่สวยงาม แล้วนางมีสิทธิ์อะไรถึงได้แต่งงานและได้เสวยสุขเล่า? มันไม่ยุติธรรมเลย!”

ส่วนเมิ่งถิงถิงน้ำตาคลอเบ้าและร้องเรียกอย่างน่าสงสาร “ท่านแม่บุญธรรม!” แล้วนางล่ะ? นางจะทำอย่างไร?

เมิ่งซื่ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจ เสียใจที่พูดเร็วเกินไปและพาคนมาที่นี่ ตอนนี้มันยากที่จะเชิญคนมาแล้วเชิญกลับไปง่าย ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น หากส่งคนกลับไปตอนนี้ ตัวเองจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนต่อหน้าพี่ชายและพี่สะใภ้? และแม้แต่ท่านกั๋วกงก็จะเสียหน้ามากด้วย!

ช่วงนี้ช่างไม่มีอะไรเป็นไปตามที่หวังเลย!

เจ้าไม่ต้องกังวล เรื่องยังไม่ถึงขั้นนั้น! ในเมื่อเจ้าเรียกข้าว่าแม่บุญธรรม ข้าจะไม่ดูแลเจ้าได้อย่างไร? แม้ว่าจะไม่ได้แต่งกับตระกูลเหลียน แต่เรื่องแต่งงานของเจ้าข้าจะจัดการเอง!” เมิ่งซื่อพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เมิ่งถิงถิงตอบรับด้วยเสียงเบา แต่ในใจยังคงไม่พอใจ ตระกูลเหลียนกำลังรุ่งเรืองและมั่งคั่งมาก อีกทั้งยังไม่มีพ่อแม่สามี เมื่อแต่งเข้าไปแล้วจะได้เป็นใหญ่ในบ้าน และมีตระกูลโหวหนุนหลัง จะมีการแต่งงานที่ดีไปกว่านี้อีกหรือ?

หากตอนแรกไม่มีใครบอกเรื่องนี้กับนาง แน่นอนว่านางคงจะไม่เกิดความคิดเช่นนี้ขึ้น แต่เมิ่งซื่อกลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมา แล้วตอนนี้บอกว่าไม่มีส่วนของนางแล้ว ความคิดในใจก็ย่อมเปลี่ยนไป

เมิ่งถิงถิงย่อมคิดว่าสวีอี้หยุนแย่งการแต่งงานของนางไป!

จะให้ไปแต่งกับคนอื่น นางจะยอมได้อย่างไร?

เมิ่งถิงถิงคิดอย่างชาญฉลาดจึงยิ้มแล้วเอ่ยว่า “แม่บุญธรรม ถ้าอย่างนั้น หาเรื่องแต่งงานอื่นให้พี่อี้หยุนดีไหมเจ้าคะ...”

ดวงตาของเมิ่งซื่อและบุตรสาวสว่างวาบ

ใช่เลย!” สวีอี้เจินปรบมือหัวเราะ “พี่ถิงถิงฉลาดจริง ๆ นี่เป็นความคิดที่ดี ท่านแม่คะ ข้าก็คิดว่าการแต่งงานกับตระกูลเหลียน พี่ถิงถิงเหมาะสมกว่ามาก นังเด็กนั่นไม่มีวาสนาและดวงชะตาเหมาะสม อาจจะรับไม่ไหวและทำให้ตัวเองลำบาก แทนที่จะเป็นเช่นนั้น หาครอบครัวอื่นให้นางดีกว่าเจ้าค่ะ!”

แสงในดวงตาของเมิ่งซื่อหรี่ลงอย่างรวดเร็ว นางถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “พอเถอะ! อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย! การแต่งงานครั้งนี้เป็นเรื่องที่หมิ่นจวิ้นอ๋องผู้เฒ่าเป็นพ่อสื่อ จะยกเลิกง่าย ๆ ได้อย่างไร! ตอนนี้ข้ออ้างก็ไม่มีแล้ว เลิกคิดเถอะ! ท่านกั๋วกงก็คงไม่เห็นด้วย!”

สวีอี้เจินโกรธเคืองและต่อว่าสวีอี้หยุนอีกสองสามคำ ส่วนเมิ่งถิงถิงตอบรับอย่างน้อยใจ

แต่เมิ่งซื่อเองก็ยังคงไม่สบายใจจริง ๆ ตอนเย็นทนไม่ได้จึงพูดกับท่านกั๋วกงอีกสองสามคำ โดยเนื้อหาเป็นว่าลูกสาวคนนี้มีชื่อเสียงไม่ดี ไม่เข้าใจระเบียบและมารยาท ตอนนี้ตระกูลเหลียนไม่เหมือนเดิมแล้ว ถ้าเกิดทำอะไรไม่เหมาะสมในตระกูลเหลียนจะทำให้ชื่อเสียงของจวนสวีกั๋วกงเสียหาย

ท่านกั๋วกงรู้ดีถึงความคิดของเมิ่งซื่อ แม้เขาเองจะไม่ชอบนิสัยของสวีอี้หยุน แต่ก็ถอนหายใจและพูดว่า “ตระกูลเหลียนยืนยันที่จะรับนางเป็นฮูหยิน ฮูหยินเว่ยหนิงดหวถึงกับเชิญหมอเซวมาเพื่อรักษานาง — ฮึ เจ้าคงไม่รู้สินะ? ตอนนั้นหมอเซวไม่อยู่ในเมืองหลวง พวกเขาต้องไปตามหาหมอเซวกลับมา! เฮ้อ บุตรสาวของข้าช่างมีหน้ามีตามาก! ฮูหยินยังไม่เห็นหรือว่าตระกูลเหลียนตั้งใจที่จะรับนางเป็นฮูหยิน พวกเขายินดีเอง ก็ปล่อยให้พวกเขาไปเถอะ! สำหรับหลานสาวของเจ้า เราก็แค่หาการแต่งงานที่ดีให้นางอีกครั้งก็พออ!”

เมิ่งซื่อไม่รู้ว่าเหลียนฟางโจวทำถึงขนาดนี้เพื่อสวีอี้หยุน นางรู้สึกอิจฉาหนักขึ้นและต้องกล้ำกลืนคำพูดลงไป ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อท่านพูดเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว แล้วเรื่องสาวใช้ที่จะเป็นสินเดิม...”

เรื่องเล็กน้อยนี้เจ้าไปจัดการเถอะ!” ท่านกั๋วกงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจและพูดว่า “ไม่มีอะไรสำคัญ!”

เมิ่งซื่อจึงยิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เตรียมสาวใช้ไปสี่คน สองคนที่มีนิสัยสุขุม สามารถช่วยนางดูแลงานได้ในอนาคต และอีกสองคนที่มีหน้าตางดงาม สามารถช่วยนางควบคุมคุณชายได้! ข้าว่าจะมีคนจำนวนมากที่พยายามส่งคนเข้าไปในจวนเพื่อเอาใจคุณชายในอนาคตแน่นอนเจ้าค่ะ!”

ท่านกั๋วกงเห็นด้วยกับสิ่งที่เมิ่งซื่อพูดและพยักหน้า

เมิ่งซื่อจึงรู้สึกดีขึ้นบ้าง

เหลียนฟางโจวได้รับข่าวว่าสวีอี้หยุนหายดีแล้ว จึงไปที่จวนเหลียนเพื่อบอกเหลียนเจ๋อ

เหลียนเจ๋อถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรู้สึกซาบซึ้งในความเอาใจใส่ของเหลียนฟางโจว เขาถอนหายใจและเอ่ยว่า “เรื่องนี้ต้องขอบคุณพี่ใหญ่จริง ๆ! ถ้าไม่มีพี่ใหญ่ที่ใส่ใจขนาดนี้ ขาของคุณหนูใหญ่สวีอาจจะต้องเสียไปก็เป็นได้”

เด็กสาวที่มีแผลเป็นใหญ่ที่ขา ไม่รู้ว่าจะเสียใจขนาดไหน!

ข้าทำทั้งหมดก็เพราะเห็นแก่เจ้า” เหลียนฟางโจวยิ้ม แล้วจู่ ๆ ก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา นางจึงลองหยั่งเชิงถามด้วยรอยยิ้มแบบไม่ตั้งใจว่า “หากโชคไม่ดีและหาหมอเซวไม่เจอทันเวลา แล้วขาของนางมีแผลเป็น เจ้าจะยังแต่งงานกับนางอยู่ไหม?”

เหลียนเจอรู้สึกแปลกใจกับคำถามของเหลียนฟางโจว เขามองนางด้วยความงุนงงสงสัย “แน่นอนว่าจะต้องแต่งงานสิ เรื่องแต่งงานมันถูกกำหนดไว้แล้วไม่ใช่หรือขอรับ?”

เหลียนฟางโจวจึงรีบพูด “ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ข้าหมายถึงว่า เจ้าจะยังเต็มใจแต่งงานกับนางหรือไม่? เพราะถึงอย่างไรนางก็มีแผลเป็น แม้แต่ถ้าพวกเราจะถอนหมั้น พวกเขาก็พูดอะไรไม่ได้!”

แบบนั้นจะได้อย่างไร!” เหลียนเจอได้ยินก็รีบพูดด้วยความร้อนใจ “พี่ใหญ่วางใจได้ ข้าจะไม่มีวันทำเรื่องทิ้งขว้างเช่นนั้น! นางได้รับบาดเจ็บขนาดนั้นจิตใจนางก็แย่พอแล้ว ข้าจะไปซ้ำเติมนางอีกได้อย่างไร! และข้าก็ไม่สนใจด้วย! ต่อให้นางจะมีแผลเป็นบนหน้า ข้าก็ไม่สนหรอก!”

 

 

 

 

 

 

 

 

1 ความคิดเห็น: