เมื่อตัวแทนราชสำนักจากไปแล้ว
นางไม่เห็นความจำเป็นที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป มู่หรงหยุนชูกำลังคิดจะจากไป พลันเฟิ่งหลิงที่หน้าตาอิ่มเอิบกลับมาพร้อมกับนี่ฉิงที่หน้าตาหมองคล้ำ
“พี่ใหญ่...ท่านทึ่งข้าหรือไม่? ดูสิว่าข้าจับตัวนี่ฉิงกลับมาได้เร็วเพียงใด?” เฟิ่งหลิงถามสีหน้าภาคภูมิใจ ไม่สนใจนักแสดงอีกคนที่จ้องจะกินเลือดกินเนื้อนาง
“อืม” เฟิ่งเฉิงกล่าวสีหน้าหงุดหงิด
เฟิ่งเฉิงไม่อยากเลยเชื่อว่าฉู่ฉางเกอที่ทำแต่บาปกรรม จะโชคดีได้ผู้หญิงที่ดีอย่างมู่หรงหยุนชู ช่างเป็นความหายนะโดยแท้
“เฟิ่งหลิง ถึงแม้เจ้าจะสังหารข้า” นี่ฉิงกล่าวสีหน้าแน่วแน่ “ข้าจะไม่ยอมแต่งงานกับเจ้าเด็ดขาด”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฟิ่งเฉิงพลันหน้าสลดเริ่มร้องให้ “นี่ฉิง หากเจ้ายังกล่าววาจาทำร้ายจิตใจข้าต่อไปเช่นนี้...ข้าจะโกรธเจ้าแล้วนะ”
นี่ฉิงผู้เย็นชาเบนสายตาจากเฟิ่งหลิง จึงเพิ่งเห็นมู่หรงหยุนชูเป็นครั้งแรก
“ท่านคือเจ้ากรมอาญาที่ทางราชสำนักส่งไปจวนมู่หรงใช่หรือไม่?”
มู่หรงหยุนชูมองประเมินนี่ฉิงพลางเอ่ยปากถามเพื่อความแน่ใจ
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” นี่ฉิงมีสีหน้าตกใจ เขาได้รับคำสั่งจากราชสำนักให้ออกจากเมืองหลวงอย่างลับๆ มีคนรู้เรื่องนี้ไม่มาก
นางได้รับรายงานมาว่านี่ฉิงได้ปลอมตัวไปสอดแนมตระกูลมู่หรงของนาง
“ข้าคือมู่หรงหยุนชูแห่งตระกูลมู่หรง”
แค่คำเดียวก็อธิบายได้ทุกอย่าง
“แล้วคนอื่นๆที่มากับเจ้า ครานี้อยู่ที่ไหน?” นี่ฉิงรีบถามด้วยความตื่นเต้น
“อยู่ในป่า”
“กี่คน?”
“สองคน”
“ท่านพาคนสองคนมาช่วยเหลือข้านี่นะ?” ใบหน้านี่ฉิงพลันมืดครึ้ม
มู่หรงหยุนชูแทบไม่อยากเชื่อเลยว่านี่ฉิงจะทึกทักเอาว่านางมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเขา นางตั้งใจกลับจวนทันทีหลังจากเจรจาต่อรองกับเขาเรื่องสำนักแลกเงินไฮ่เฟิ่งเฉียนเสร็จต่างหาก
“ทางราชสำนักเห็นด้วยกับเงื่อนไขที่ข้าเสนอมาหรือไม่?” มู่หรงหยุนชูเอ่ยถามในจุดประสงค์ที่นางดั้นด้นมาที่นี่
“ท่านต้องการเจรจาเรื่องราวระดับชาติกับข้าที่นี่รึ?” นางยังเยาว์เกินไปที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้
“แล้วจะมีเรื่องอื่นใดอีกล่ะที่ข้าจะทำที่นี่? หากเจ้ายังไม่สามารถออกไปได้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะเปลี่ยนสถานที่เจรจา”
“ท่านควรวิตกว่าจะเราจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไรแทนที่จะมาเจรจากิจธุระนะ”
“เจ้ากรมอาญา ท่านต้องกำลังเล่นตลกเป็นแน่” มู่หรงหยุนชูกล่าว “ขาข้าก็แข็งแรงดี อีกทั้งแม่นางเฟิ่งก็มิได้มุ่งหมายให้ข้ามีสามีเป็นโจร แล้วเหตุใดข้ายังต้องกังวลเรื่องการออกไปจากที่นี่ด้วยเล่า? นอกจากนี้...คู่หมั้นข้ายังเป็นจอมยุทธ์ที่มีวรยุทธ์สูงส่ง
คุณชายเฟิ่งคงไม่บังอาจกักขังข้าแน่”
ฉู่ฉางเกอหัวเราะกับการถูกนางเอาเปรียบอีกแล้ว ภรรยาเขาใช้เขาเป็นเครื่องมือเพื่อข่มขู่คนให้กลัว
เฟิ่งเฉิงถึงกับหัวเราะสมน้ำหน้าฉู่ฉางเกอ โจรหนุ่มควรจะรู้ว่าคนอย่างฉู่ฉางเกอย่อมดึงดูดคนประเภทเดียวกันกับเขา
“อ้าว...ท่านไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยข้าหรอกรึ?” นี่ฉิงให้เสียใจนัก
“ข้ามาที่นี้เพื่อคุยธุระเพียงอย่างเดียว เนื่องจากท่านก็อยู่ที่นี่แล้ว เช่นนั้นเราสามารถเจรจากันเรื่องสำนักแลกเงินไฮ่เฟิ่งเฉียนได้แล้ว”
นี่ฉิงถึงกับอึ้งตะลึง เขาเข้าใจผิดไปหมด
เฟิ่งหลิงไม่ใช่คนแปลกที่สุดที่เขาเคยเห็นมาเสียแล้ว เมื่อเทียบกับมู่หรงหยุนชู เฟิ่งหลิงกลายเป็นคนธรรมดาไปเลย คนธรรมดาย่อมช่วยเหลือตัวประกันก่อน แล้วค่อยเจรจาธุระกันภายหลัง
“ฮ่องเต้มีพระประสงค์ให้เจ้าเข้าเฝ้าที่พระราชวังหลวง”
นี่ฉิงไม่อาจอ่านราชโองการให้มู่หรงหยุนชูฟังต่อหน้าคนนอกได้
“ดูเหมือนว่าราชสำนักไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขของข้า” มู่หรงหยุนชูกล่าวพลางรับราชโองการมา
“ข้าจะกลับเมืองหลวงเดี๋ยวนี้
คุณชายเฟิ่ง แม่นางเฟิ่ง แล้วพบกันใหม่” มู่หรงหยุนชูก้มหัวให้ทั้งสองเล็กน้อย
“แล้วพบกันใหม่”
เฟิ่งเฉิงก้มหัวตอบรับเล็กน้อย
เฟิ่งหลิงรู้สึกเศร้ามาก มู่หรงหยุนชูเป็นคนดี และใครก็ตามที่ไม่ได้แย่งนี่ฉิงไปจากนางล้วนเป็นคนดีทั้งนั้น
“น้องเฟิ่ง ข้าจะออกไปพร้อมฮูหยินข้า” ฉู่ฉางเกอเอ่ยขึ้น “แล้วเจอกันที่วัดเส้าหลิน
ในวันที่ 15 เดือน 8”
“หากท่านยังมีชีวิตรอดถึงตอนนั้นนะ” เฟิ่งเฉิงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ช่วงเวลาที่จัดการประชุมประจำปีเป็นช่วงเวลาที่เฟิ่งเฉิงได้รับการยกเว้นให้ออกไปจากเขาฮั่วโตวได้
ป่าดอกท้อใหญ่โตเกินกว่าจะถูกเผาไปอย่างรวดเร็ว ทว่า..ยังมีควันลอยฟุ้งหลงเหลือจากไฟไหม้อยู่
มู่หรงหยุนชูใช้แขนเสื้อตนเองปิดปากและจมูก นางเดินตามฉู่ฉางเกอออกจากป่าดอกท้อที่มีแต่ควันไฟ หากนางรู้ว่าจะมีหมอกควันหนาถึงเพียงนี้ นางจะไม่ปฏิเสธข้อเสนอของฉู่ฉางเกอที่ขันอาสาอุ้มนางลงจากเขา เขาพูดถูกต้อง ชื่อเสียงของนางได้เสื่อมเสียไปแล้วแม้นางยังไม่ได้แต่งให้เขา นั่นเป็นเพราะคงไม่มีชายใดอื่นอีกจะกล้าเป็นปรปักษ์กับประมุขพรรคโม่เจี่ยวเพื่อแต่งกับนาง
มู่หรงหยุนชูโล่งใจที่หมอกควันได้จางลงในที่สุดทำให้ป่าดอกท้อกลับมาสดชื่นมีชีวิตชีวาอีกครั้ง นางสามารถสูดหายใจเอาอากาศสดชื่นได้เต็มปอด หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆเงียบๆตามหลังฉู่ฉางเกอ ทว่าทุกครั้งที่ชายหนุ่มหันมองไปรอบๆเพื่อตรวจดูว่านางกับเขาอยู่กันตามลำพังหรือไม่ มันทำให้นางรู้สึกกระดากใจ
“อ๊ะ...” มู่หรงหยุนชูร้องออกมา เมื่อก้าวเท้าพลาดจนเสียหลัก จนทิ้งตัวลงปะทะกับอ้อมอกแกร่งของฉู่ฉางเกอ
มู่หรงหยุนชูรีบช้อนตาสบลึกเข้าไปในดวงตาที่อบอุ่นอ่อนโยนของฉู่ฉางเกอ พลันแก้มนางขึ้นสีแดงจางๆ “ขอบคุณ”
“ข้อเท้าเจ้าแพลงหรือเปล่า” ฉู่ฉางเกอถามด้วยความห่วงใย
มู่หรงหยุนชูทำได้เพียงผงกหัวรับ
“ดูเหมือนสวรรค์คงจะไม่เมตตาข้านัก” ฉู่ฉางเกอกล่าวพลางอุ้มมู่หรงหยุนชูขึ้นในอ้อมแขน
มู่หรงหยุนชูไม่รู้ว่าจะขอบคุณหรือสาปแช่งสวรรค์ดี ความรู้สึกที่ถูกฉู่ฉางเกอโอบอุ้มในอ้อมแขนผสมปนเปกับความสุขและความว้าวุ่นใจมากมาย ทั้งกลิ่นกายบุรุษผสมผสานกับกลิ่นดอกท้อและกลิ่นควันไฟ กลายเป็นกลิ่นอายที่หายากซึ่งคงไม่สามารถเอามาใส่ขวดเก็บไว้ได้ ผมยาวนุ่มสลวยของชายหนุ่มถูกลมพัดปลิวสยายคลุมใบหน้านาง หญิงสาวจึงจับผมเขาเล่นสีหน้าเต็มไปด้วยความเก้อเขิน
“เล่นผมข้าสนุกไหม? ฉู่ฉางเกอคลี่ยิ้มยั่วเย้า
นิ้วมือของมู่หรงหยุนชูพลันแข็งค้าง “ท่านไม่มีเงินซื้อปิ่นปักผมรึ?”
มู่หรงหยุนชูเสียใจนักที่เล่นผมของฉู่ฉางเกอ
“ข้าได้ทุ่มเงินทองไปทั้งหมดให้กับกิจการของฮูหยินข้าและตอนนี้มันก็หายวับไปแล้ว” ฉู่ฉางเกอกล่าว
“มันแค่หายไปเพียงชั่วคราว เมื่อการค้ากลับมาเป็นปกติ ตั๋วเงินของสำนักแลกเงินไฮ่เฟิงเฉียนจะได้รับการยอมรับอีกครั้ง”
“เหตุใดเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้?” ฉู่ฉางเกอแหย่เย้า “เช่นนั้นแล้ว ข้าคงจะไม่ใช้ตั๋วเงินไฮ่เฟิ่งเฉียนเป็นเชื้อไฟหรอก”
“ท่านใช้มันเอาไปจุดไฟรึ?!” มู่หรงหยุนชูกล่าวอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“อืม ข้าไม่อยากเห็นเจ้าหนาวเหน็บในป่านี้ เนื่องจากข้าคิดว่ามันไม่มีค่า ข้าเลยใช้มันจุดไฟเพื่อทำให้เจ้าอบอุ่น”
มู่หรงหยุนชูได้ยินฉู่ฉางเกอบอกกลายๆว่าเขาไม่สนใจเรื่องเผาเงินด้วยสีหน้ารื่นรมย์
“มันไม่ได้มีค่ามากมายนักหรอก” ฉู่ฉางเกอกล่าวยิ้มแย้ม “ก็แค่เสียทองไปเพียงสิบหีบ
ไม่มีสิ่งใดที่เจ้าไม่เคยเห็นมาก่อนหรอก”
“ท่านไม่วิตกว่าการสูญเงินที่หามาทั้งชีวิตจะทำให้ท่านกลายเป็นขอทานในชาติหน้ารึ?”
มู่หรงหยุนชูเอ่ยถามด้วยความเสียดาย
“เจ้าคงอยากให้ข้าเข้าพรรคกะยาจกใช่หรือไม่ เหตุการณ์นั้นคงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ ต่อให้ชาติหน้า พรรคโม่เจี่ยวก็ยอมรับเพียงคนเช่นข้าเท่านั้น ข้าไม่ได้สูญเงินไปเปล่าๆเลย ข้าใช้มันเพื่อทำให้ภรรยาข้าอบอุ่น”
มู่หรงหยุนชูรู้สึกเจ็บปวดใจกับทองสิบหีบซึ่งจะน่าจะตกอยู่ในกำมือของนางยิ่งนัก ถ้าหากว่านางได้แต่งให้กับฉู่ฉางเกอจริงๆขึ้นมา
ขอบคุณมากนะครับที่ตอบเมล์และส่งลิงค์นิยายมาให้
ตอบลบขอบคุณมากครับไรเตอร์บ้านหลังใหม่น่าอยู่มาก
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบขอบคุณที่รับเข้าบ้านใหม่นะครับ ^^
ตอบลบขอบคุณมากเลยนะคะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบ