วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560

จับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 115 เมล็ดฝ้าย

                 เมล็ดฝ้ายเหล่านี้ยังคงกองอยู่ในกระสอบใบใหญ่ที่ทางการส่งมา  ชาวบ้านต่างรู้เพียงว่า  ส่วนแบ่งเมล็ดพันธ์ของบ้านตนมีจำนวนกี่ชั่ง  แล้วลงลายมือชื่อรับเงินที่ตนขายเมล็ดไป   ส่วนเมล็ดนั้นไม่มีใครสนใจจะเหลือบแลมองเลย
                  เหลียนฟางโจวลองเปิดดูเมล็ดฝ้ายกระสอบหนึ่งจากทั้งหมด  เพื่อตรวจดูว่าเมล็ดฝ้ายส่วนที่ไม่ได้บอกขายเธอนั้น  มีจำนวนเท่าใด  สำหรับส่วนที่ขายให้เธอได้ถูกขนย้ายออกไปแล้ว 

             “ข้ามีเรื่องหนึ่งจะบอก”  จางลี่เจิ้งแย้มยิ้ม  แล้วเอ่ยถึงเรื่องน่าขันของพวกรักสบาย  “เมื่อวานตอนบ่าย  มิคาดว่า มีลูกบ้านบางคนมาถามข้าว่า  พวกเขาขอไม่รับเมล็ดฝ้ายที่ทางการส่งมา  แล้วบอกว่าอยากจะขายไปเลยได้ไหม   ข้าหัวเราะบอกพวกเขาว่าไม่รู้เหมือนกัน  เขามาวานข้าให้ช่วยถามให้หน่อย  เห็นว่าพรุ่งนี้จะมาถามไถ่อีกครา!” 
      เหลียนฟางโจวพลันลิงโลดใจ ยิ้มร่าและเอ่ยว่า “เมล็ดฝ้ายนี้  ข้ายังอยากได้เพิ่มอีก 5,000 ชั่ง  หากมีมาบอกขายอีก  ท่านไม่ต้องรั้งรอ  ช่วยเก็บไว้ให้ข้าเลย!  เพียงแต่...”
             เหลียนฟางโจวชะงัก  มองหน้าจางลี่เจิ้ง อย่างอึดอัดใจ พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ยามนี้ข้าไม่มีเวลาเอาเสียเลย  ซ้ำที่บ้านข้าไม่มีคนพอจะจัดการเรื่องนี้ได้!  อย่างที่กล่าวกันว่า  งานๆเดียว  ไม่ควรให้ 2 คนดูแล  เพราะจะพาให้วุ่นวาย  น้าลี่เจิ้ง...หากท่านพอมีเวลา  ข้าคิดขอร้องท่านช่วยรวบรวมเมล็ดฝ้ายให้ข้าด้วย   งานนี้ไม่เหมือนกับงานที่ท่านเคยจัดการให้คนในหมู่บ้านเรา  หากข้าให้ท่านช่วยเปล่าๆ  ข้าคงไม่กล้าพูดออกมาหรอก!  งานนี้ว่ากันตามจริงแล้วค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน   ทุกวันนี้ข้าล้วนต้องจัดการธุระจุกจิกในบ้านทั้งวัน  ส่วนงานหลักก็มีให้ทำไม่รู้จบ!    ซ้ำยังได้รับความกดดัน  ให้ต้องปักหลักแก้ปัญหาอยู่กับที่  ไปไหนไม่ได้  ต้องคอยหลบหลีกคนที่มาหาเรื่อง  มารบกวนเวลางานอีก!  อีกทั้งข้าควรต้องมีช่องทางกระจายข่าวสารล่วงหน้าด้วย   ข้ารู้ว่า  ข้าอาจจะพูดจาอวดดีไปหน่อย   ทว่าข้าอยากขอเสนอค่าตอบแทนให้ท่านที่ช่วยเป็นธุระให้ข้า  วันละ 5 เฉียน   ก่อนอื่นท่านโปรดรับค่าตอบแทนการทำงาน สำหรับช่วงเวลา 4 วันก่อน   ท่านมองว่า พอจะทำให้ข้าได้หรือไม่?
                  แท้จริงแล้วหนิวซื่อยังมิได้ออกไปไหน  นางแอบเงี่ยหูฟังแนบประตู   พลันให้สะดุดกับประโยคสุดท้าย!  เพราะได้ยินเหลียนฟางโจวพูดว่า  จะให้ค่าตอบแทนวันละ 5 เฉียน  4 วันก็เป็นเงิน 2 ตำลึงสิ! 
                  นับว่าเป็นงานที่หาได้เหน็ดเหนื่อยอันใดเลยไม่  เพียงนั่งอยู่ในบ้าน 4 วันก็สามารถหาเงินได้ 2 ตำลึงแล้ว!  ใครไม่ทำก็โง่เต็มทีแล้ว!
        หนิวซื่อกลัวว่าจางลี่เจิ้งจะปฏิเสธ  จึงร้องลั่นผลักประตูเข้ามาทันที  พลางหัวเราะคิกคัก “ฟางโจวเจ้าช่างใจกว้างยิ่งนักเจ้าพูดมาเสียขนาดนี้  น้าชูไหนเลยจะปฏิเสธได้เล่าเรื่องนี้ต่อให้อยากจะปฏิเสธ   ก็ยากจะหาเหตุผลใดมาค้านได้ไม่ใช่ว่าข้าจะพูดเกินจริงนะ  เงื่อนไขต่างๆเหล่านี้ที่เจ้าพูดมา  ล้วนจริงอย่างที่สุด  ทอดตาไปทั่วหมู่บ้านนี้  จะหาใครอื่นมาทำงานนี้ได้  นับว่าไม่มีเลย!”
            “พวกน้าอยากร่วมมือกับข้าจริงๆรึ!” เหลียนฟางปรบมือหัวเราะดีใจ  ดวงตามีประกายอ่อนโยนพาดผ่าน  ใบหน้าเปื้อนยิ้มแล้วเอ่ยว่า “เช่นนั้น  เรื่องนี้....”  
    จางลี่เจิ้งกำลังจะเปิดปากพูด  ทว่าหันไปเห็นหนิวซื่อปรบมือเอ่ยหัวเราะพยักหน้าตอบรับเป็นการยืนยัน  เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้น ก็ตกลง!  ในเมื่อเจ้าพูดมาถึงขนาดนี้  ไหนเลยจะไม่ทำได้เล่าก็คงต้องตกลงมิใช่หรือ?ขณะปากพูดไป  ก็หันไปขึงตาใส่จางลี่เจิ้ง ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวไปด้วย  ลองกล้าไม่ตกลงสิ  ก็เตรียมเจอฤทธิ์เดชของนางได้เลย 
              จางลี่เจิ้งได้แต่ยิ้มแหยๆ  เอ่ยกับเหลียนฟางโจว “ ตกลงยามนี้ก็อยู่นอกฤดูเพาะปลูก  ข้าเองก็ไม่ใคร่มีอันใดจะทำนัก!  ทว่าเงิน 2 ตำลึงนี่  ข้าว่า..มันมากเกินไป”
             “ไม่มากอันใดเลย! ”เหลียนฟางโจวรีบแย้มยิ้มให้  “ว่ากันตามจริงแล้ว  หากให้ผู้อื่นทำงานนี้  ข้า...ข้าเองหาได้เบาใจเลย!  เงิน2 ตำลึงนี้  ไยจะนับว่ามากเกินไปได้!”
                  “ทุกวันนี้  ฟางโจวเงินทองขัดสนหรือ!”  หนิวซื่อค้อนตาใส่จางลี่เจิ้ง  แล้วลอบประเมินสีหน้าของเหลียนฟางโจว  พลางเอ่ยแย้มยิ้ม  “ได้ยินว่าเจ้ามีญาติผู้พี่ในเมืองชวงหลิวใช่หรือไม่ยามนี้บ้านเจ้าอยากได้เมล็ดฝ้าย  คงจะเป็นแผนการของนาง....รวมทั้งเงินทองนี่ด้วยใช่หรือไม่? 
                  ข่าวลือมักแพร่สะพัดรวดเร็วราวติดปีก  ข่าวนี้คงร่ำลือกันไปทั่วแล้วใจเหลียนฟางโจวพลันมืดครึ้มลง ได้แต่อุทาน “อ้อ”  พลางหัวเราะกลบเกลื่อน  มิได้โต้แย้งอันใด
             สีหน้าทุกอย่างของหญิงสาวตกอยู่ในสายตาของหนิวซื่อ  แน่เสียยิ่งกว่าแน่แล้ว
             “ตกลง! แล้วเจ้ายังจะมาเซ้าซี้อะไรอยู่ที่นี่เล่า  ยังไม่รีบกลับไปทำงานทำการอีก!  เอาแต่ยุ่งต่อยผู้อื่นดุจแมงป่องไปทั่ว!” จางลี่เจิ้งส่งเสียงฮึดฮัดไม่เลิก
             หนิวซื่อหัวเราะคิกคัก “ได้เลย..ตามที่ท่านพูด  ข้าไปก่อนล่ะ! ฟางโจว ข้าไปก่อนนะ!”
             พอนึกถึงค่าตอบแทนเป็นเงิน 2 ตำลึง หนิวซื่อให้รู้สึกเป็นมิตรกับเหลียนฟางโจวยิ่งขึ้น 
             เหลียนฟางโจวหัวเราะเห็นด้วย  พอเห็นหนิวซื่อออกไป  จึงหันไปคุยธุระกับจางลี่เจิ้งต่อ
             บ้านจางลี่เจิ้งไม่มีพื้นที่มากนัก  กระสอบเมล็ดฝ้ายเป็นอันมากนี้ ไว้รอเหลียนฟางโจวกลับมาจากเข้าเมืองตอนบ่ายก่อน   จึงจะขนย้ายไปกองไว้ยังห้องใต้หลังคาบ้านเธอ   หากสะดวกตอนเข้าเมือง  หญิงสาวจะหาซื้อกระสอบผ้าสัก 30-40 ใบ  ไว้ให้จางลี่เจิ้งเก็บเมล็ดฝ้าย 
             เรื่องของเรื่อง  ก็เพื่อเก็บเมล็ดฝ้ายที่ชาวบ้านขายให้  เป็นสัดเป็นส่วน  เพราะเอาเข้าจริงชาวบ้านย่อมขายเมล็ดพันธ์ด้วยจำนวนไม่เท่ากัน   ชาวบ้านแต่ละคนจากหมู่บ้านของตน  จะซื้อเมล็ดมาเก็บไว้ก่อน  แล้วค่อยส่งออกไปขายภายหลัง 
                  เหลียนฟางโจวถือโอกาสนี้แจ้งข่าวว่าอยากได้แรงงานชาวบ้านสัก 20 คนมาทำงานถากถางพื้นดินรกร้าง  มีการเน้นว่าจะซื้อที่ดินไว้ด้วย
        จางลี่เจิ้งเหลือบมองหญิงด้วยความประหลาดใจไม่น้อย  ทว่ามิได้ถามอะไรมากนัก  คิดว่าเป็นเพียงอุบายของหญิงสาว   จึงหัวเราะเห็นด้วย  
       แน่นอน ที่ดินเสื่อมโทรมที่ถูกทิ้งร้างในหมู่บ้าน  หากซื้อขึ้นมาแล้วนำไปขายทำกำไรได้บ้าง  ก็นับว่าดีแล้ว  เหลียนฟางโจวต้องขอบคุณคนซื้อต่อทีหลังให้มากทีเดียว  หากมีจังหวะตอนเข้าเมืองจะเอ่ยเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหลิวเจี่ยด้วย
           ที่ดินผืนนี้อยู่ใกล้หมู่บ้าน  เธอต้องบอกกล่าวลี่เจิ้งให้รู้ก่อน   ส่วนที่ดิน 1,000 หมู่ที่เพิ่งซื้อมานั้น  ยังไม่จำเป็นต้องบอก
             พอเห็นพ้องกับเรื่องที่คิดนี้  เหลียนฟางโจวจึงลุกขึ้นยืน  แล้วขอตัวกลับ  บอกเพียงว่าเย็นนี้จะนำเงินตำลึงมาให้
                  จางลี่เจิ้งกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ   เหลียนฟางโจวย่อมไม่ยอมเปิดโอกาส
             เหลียนฟางโจวจากไปแล้ว  หนิวซื่อไม่รู้ว่ามาจากไหน  พริ้วกายเข้ามา  เหลือบมองสามีแว่บหนึ่ง แล้วเอ่ยตรงๆ “ท่านนี่...จริงๆเลย  ยามนี้คนร่ำรวยผู้นั้นไปไหนเสียแล้วล่ะ  ท่านคงเอาแต่ปฏิเสธล่ะสิ  เงิน  1 หรือ 2 ตำลึงจะพออะไรเล่าหากนางมาขอพึ่งท่านให้ช่วยจริงๆ   ดูนางสิ  มองท่านเอาแต่ร่ำร้องว่าไม่มีทางออก!”
             เจ้าคิดว่าทุกคนจะเหมือนเจ้ากันหมดรึ!” จางลี่เจิ้งถลึงตาใส่ภรรยา พลางเอ่ยว่า “ ข้าขอเตือนเจ้าไว้นะ  คราวหน้าคราวหลัง  เวลามีใครมาคุยธุระการงานที่บ้าน  ข้าไม่อนุญาติให้เจ้าแอบฟังอีก  และอย่าได้วิ่งออกมาสอดเด็ดขาด!”
             หนิวซื่อพลันร้อง “อ้อ”  น้ำเสียงไม่พอใจจางลี่เจิ้ง  กำลังจะเปิดปากโต้ตอบ  พลันเห็นสีหน้าสามีบึ้งตึง  หาได้ล้อเล่นแม้สักนิด  จึงได้แต่หัวเราะเอาใจ  พลางเอ่ยว่า “โถ..โถ..โถ  ข้ารู้แล้ว  ข้าเข้าใจแล้วข้าเข้าใจแล้วข้าจะไม่แอบฟัง  จะไม่เข้าไปก้าวก่าย  จะไม่ทำอีกแล้วจ้า 
     จางลี่เจิ้งยกมือขึ้นลูบหน้าผาก  ฝืนยิ้มให้อย่างเสียไม่ได้   วาจาพวกนี้  นางไม่รู้ตัวหรือ ว่าพูดออกมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว   ลงท้ายก็เข้าอีหรอบเดิม  เขารู้ซึ้งอยู่แล้วว่าสุดท้าย  นางก็กลับไปทำแบบเดิมอีก  ตัวเขาเองก็อดตักเตือนนางทุกครั้งไม่ได้เหมือนกัน !
                  หญิงผู้นี้...ช่างเกินเยียวยาแล้ว!
                  อย่างไรก็ตาม  มุมปากของจางลี่เจิ้งพลันยกขึ้นนิดๆ  พลางยกมือขึ้นลูบเคราด้วยความพอใจยิ่งนัก  เงิน 2 ตำลึงเชียวนะ...  
        เหลียนฟางโจวกลับไปกินมื้อกลางที่บ้าน  เธอ เหลียนเซ่อ และอาเจี่ยน นั่งพักสักครู่  แล้วจึงรีบขับรถเกวียนเทียมลาเข้าเมืองไป
                  ในที่สุดก็อยู่ในตัวเมือง   ก่อนอื่นเธอต้องไปหาหลิวเจี่ยเพื่อแจ้งเรื่องนี้แก่เขาเสียก่อน  ทั้งยังมีธุระที่ต้องแวะไปสะสางอีก  หลิวเจี่ยย่อมไม่ปฏิเสธเป็นแน่   มิหนำซ้ำเพียงไม่นานเหลียนฟางโจวก็มีเรื่องให้เขาจัดการ  คือการทำเรื่องซื้อขายที่ดินผืนใหญ่เนื้อที่กว่า 2,000 หมู่   หากเธอจะซื้อที่ดินเพิ่มอีกสัก 20 หมู่  เขาก็ไม่รู้สึกว่ามีอันใดแปลก  แม้จะซักถาม  ก็หาได้ถามอันไดมากมายไม่  เพียงหัวเราะดีใจ  เอ่ยว่าพรุ่งนี้เช้า  จะให้คนของทางการไปทำการังวัดที่ดินให้
                  หลิวเจี่ยหันไปเอ่ยกับเหลียนฟางโจวด้วยรอยยิ้ม “แม่นางเหลียน  ท่านจะซื้อที่ดอนใช่หรือไม่ท่านต้องไม่มองหาแปลงนาข้าวแน่เลย ใช่ไหมเมื่อเร็วๆนี้  ข้าเพิ่งได้ที่ดินดีที่สุดเนื้อที่ 60 หมู่มาอยู่ในมือ  อยู่ในหมู่บ้านต้าฟางของท่านนี่เองหากซื้อมา  ตอนต้นฤดูใบไม้ผลิ ก็สามารถหว่านเมล็ดได้เลย  เป็นทุ่งนาที่ใช้ได้ทีเดียว  ซื้อไปแล้วคุ้มค่าแน่นอน!”      

                  เหลียนฟางโจวชะงักไป  จริงๆแล้ว ดูเหมือนว่า  หากมีกำลังซื้อ  เธอก็อยากซื้อไปเรื่อย  เธอใช้เงินมือเติบมาก  ยามนี้ใช้เงินไปพอๆกับรายจ่ายของ 1 ปีแล้ว 
  ---------------------------------
  ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ และการติดตามนะคะ ^-^    






12 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณค่ะไรท์///นางเอกใช้เงินไปเยอะแล้วหวังว่าคงพอนะค่ะ

    ตอบลบ
  2. ขอให้ราบรื่นนะฟางโจวคำนวณรายจ่ายให้ดีด้วย

    ตอบลบ
  3. กลัวเงินไม่พอ นางเอกใช้เงินเยอะมาก

    ตอบลบ
  4. นางใช้เงินเยอะจริงๆ

    ตอบลบ
  5. นางจะซื้ออักรึเปล่า?

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ8 สิงหาคม 2560 เวลา 20:35

    พอก่อนนะ เดี๋ยวได้วิ่งไปกู้เพิ่มอีกจะซวยเอาาาา

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ9 สิงหาคม 2560 เวลา 10:34

    ขอบคุณมาก คะ

    ตอบลบ
  8. สนุกมากเลยค่ะ อ่านเพลินจริงๆ
    นางเอกมือเติบแบบที่เราอยากเป็นเลยนะเนี่ย

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ10 สิงหาคม 2560 เวลา 09:58

    ร่ำรวยมาก เศรษฐีอสังหาฯ

    ตอบลบ
  10. สนุกมากค่ะ ขอบคุณท่านผู้แปลที่แปลมาให้ได้อ่านด้วยนะคะ

    ตอบลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ22 ธันวาคม 2561 เวลา 10:08

    ชอบนางเอกเรื่องนี้นะ ติดอย่างเดียว ทำไมนางเอกชอบเปย์!?

    ตอบลบ