“ตอนขายทีแรกก็มิได้ชอบใจนัก ภายหลังมาคิดดูอีกที นั่นคือสิ่งที่บรรพบุรุษเราสร้างมากับมือ แล้วจะขายไปได้อย่างไร? ตั๋วเงินนี้พวกเราได้นำมาคืนท่านหลิว ไม่ทราบว่าจะคืนโฉนดที่ดินให้พวกเราได้หรือไม่?” แม่เฒ่าหยางเอ่ยแย้มยิ้มอย่างนอบน้อม
“เรื่องนี้....เอ่อ...”
หลิวเจี่ยลากเสียงแล้วหยุดไปดื้อๆ พลันก้มหน้ายกถ้วยชาขึ้นจิบเนิบๆ คล้ายกำลังครุ่นคิดอยู่ ไม่ปริปากอันใด
แม่เฒ่าและพ่อเฒ่าหยางต่างสบตากัน
ซ้ำไม่กล้ารบกวนเขา
อย่างไรก็ดี ทั้งสองรู้สึกกระวนกระวายใจและอึดอัดเล็กน้อย
พวกเขาจำต้องสะกดกลั้นอารมณ์คอยจังหวะเหมาะ เพราะหลิวเจี่ยยังเอาแต่ก้มหน้าก้มตาจิบชาอยู่ แค่ชาถ้วยเดียวไฉนถึงยังดื่มไม่หมดเสียที
“ท่านหลิว....พวกเรานำเงินมาคืนทั้งหมดแล้ว เพียงต้องการโฉนดที่ดินของพวกเราคืนเท่านั้น!” แม่เฒ่าหยางอดรนทนไม่ไหว จึงเอ่ยขึ้น
“ที่ดินของพวกท่านหรือ?”
หลิวเจี่ยพลันเงยหน้าขึ้น
ดวงตาตั้งคู่เรืองวาบยามจับจ้องแม่เฒ่าหยาง
แม่เฒ่าหยางสะดุ้งโหยง ไม่กล้าปริปากต่อ
แม่เฒ่าหยางไม่รู้ว่านางพูดอะไรผิดไป
จึงเอ่ยแย้มยิ้ม “ท่านหลิว....ท่านคิดว่าจะส่งโฉนดที่ดินคืนให้พวกเราได้เมื่อใด....”
“พี่หยาง อาซ้อ
วาจาที่พวกท่านเอ่ยมาก็ไม่นับว่าถูกต้องนะ!” หลิวเจี่ยเอ่ยเสียงเข้ม “พวกเราทั้งสองฝ่ายต่างก็ให้และรับเงินไปแล้วเห็นๆ ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว! เงินทองท่านก็ได้รับไปเรียบร้อยแล้ว โฉนดที่ดินก็อยู่ในมือข้าแล้ว ไยจะเป็นที่ดินของพวกท่านอยู่อีกเล่า? แล้วข้าจะไปเรียกหาโฉนดที่เป็นชื่อท่านมาคืนให้พวกท่านได้อย่างไรเล่า! ฮะฮะ
หรือเป็นเพราะข้าไปยืมโฉนด
หรือไปปล้นโฉนดท่านมาหรือ?”
“ไม่มี ไม่มี!”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่!”
พ่อเฒ่าหยาง แม่เฒ่าหยาง ต่างสะดุ้งเฮือกด้วยความหวาดหวั่น รีบปฏิเสธเสียงลั่น
“ข้าเพียงพูดหยอกเท่านั้น พวกท่านหาใช่คนไร้เหตุผลเสียหน่อย!” หลิวเจี่ยหัวเราะฮาฮา
แม่เฒ่าและพ่อเฒ่าหยางต่างหวาดหวั่นจนโลดขึ้นคอหอย สองผัวเมียซวนเซไปเล็กน้อย
แม่เฒ่าหยางไม่กล้าพูดเรื่องเอาโฉนดอีก พลางส่งสายตาไปทางพ่อเฒ่าหยาง
ให้เขาเป็นคนพูด
พ่อเฒ่าหยางจึงจำใจต้องเอื้อนเอ่ย
“เรื่องนั้น พวกเราเป็นคนบ้านนอกเงอะๆงะๆ ไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องนี้อย่างไรดี
ที่ดินผืนนั้นพวกเราก็เผลอขายไป แล้วตั๋วเงินนี่ที่พวกเราเอามายังไม่ได้แตะต้องเลยสักนิด ท่านหลิว... ท่านตรวจดูสิว่าใช่หรือไม่....”
“พวกท่านยังไม่เข้าใจที่ข้าพูดอีกรึ?”
หลิวเจี่ยนิ่วหน้าเล็กน้อย
วางถ้วยชาในมือลง แล้วตวัดสายไปยังคนทั้งสองพลางเอ่ยขึ้น
เมื่อครู่ก่อนข้าไม่ได้พูดไปจนชัดแจ้งแล้วหรอกหรือ? ที่ดินผืนนี้ ไม่ใช่ของพวกท่านอีกแล้ว! เข้าใจหรือไม่? ดังนั้น พวกท่านคงไม่อาจพูดได้แล้วว่า
พวกท่านเผลอขายที่ดินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ! ตอนนี้ที่ดินนั่นเป็นของผู้อื่นไปแล้ว ที่คิดว่าเผลอขายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ควรเป็นผู้อื่นที่พูดประโยคนี้มากกว่านะ! ”
แม่เฒ่าหยางได้ฟังแล้วอดนึกฉุนไม่ได้
เอ่ยเสียงเนิบ
“ที่ดินนั่นมิใช่ว่าเหลียนฟางโจวแห่งหมู่บ้านต้าฟางเป็นผู้ซื้อไปหรอกหรือ! เมื่อวานนี้ข้าไปถามนางมา นางบอกว่านางประสงค์จะขายให้! ซ้ำยังให้พวกเรามาหาท่านด้วย!“
“ท่านเป็นอะไรกับนางหรือ?” หลิวเจี่ยหัวเราะถามกลับ
แม่เฒ่าหยางอึ้งไปทันที เอ่ยตะกุกตะกัก “พวกเรา พวกเราไม่....ได้เป็นอะไรกับนาง! ทว่าเรื่องความสัมพันธ์มันเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ!”
“ในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรกับนาง
ไฉนท่านมาช่วยนางผู้เป็นเจ้าของตัวจริงพูดเรื่องขายที่ดินเล่า? นางอยากขายที่ดิน
นางย่อมมาหาข้าเอง
คงไม่ไปหาท่านใช่หรือไม่?” หลิวเจี่ยขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น
พ่อเฒ่าหยางได้ฟังแล้วค่อนข้างงงงวยนัก เขาอึ้งงันไปเป็นนาน จึงเอ่ยขึ้น “ไม่ว่านางจะมาหรือไม่มา ที่ดินนี้ก็สามารถขายได้มิใช่หรือ?”
หลิวเจี่ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ขอบอกตามตรงนะ! เจ้าหน้าที่ทางการเพิ่งจะออกโฉนดที่ดินตรงสามแยกเนื้อที่รวมกัน1,500หมู่มาให้ข้าเมื่อวานนี้ โฉนดของทางการมันออกกันได้ง่ายๆหรือไร? ฝั่งนี้เพิ่งจัดการเรื่องเสร็จไปหยกๆ
ไม่ถึงสองวันอีกฝั่งก็อยากฉีกทิ้งเพื่อเริ่มออกโฉนดใหม่ ท่านทำอย่างกับว่าการเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมันเป็นงานหมูๆ จะให้จัดการแต่ที่ดิน30หมู่ของสกุลหยางของพวกท่านอยู่งานเดียวหรือ
เป็นไปได้อย่างไร?”
เรื่องที่หลิวเจี่ยกล่าวออกมานี้ดูร้ายแรงนัก ใจของพ่อเฒ่ากับแม่เฒ่าหยางกระตุกอย่างแรง ไม่กล้าพูดเซ้าซี้อีก
หลิวเจี่ยเอ่ยเสียงเหยียด “ข้าได้ชี้แจงไปแล้ว
พวกท่านเองก็คงไม่มีเวลาว่างมากจนมาชวนข้าเล่นขำขันกระมัง? ที่ดินถูกขายไปผ่านมาสองวันแล้ว
ยามนี้พูดได้ว่าไม่มีการขายอะไรอีกแล้ว
พวกท่านยังจะตะบี้ตะบันทำอันใดอีก!”
สองสามีภรรยาเฒ่าแซ่หยางไม่กล้าเซ้าซี้อีกแล้ว โดยเฉพาะแม่เฒ่าหยางที่ตระหนกตกใจเป็นพิเศษ พอมองหน้าพ่อเฒ่าหยางก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี อยู่ที่บ้านนางเอาแต่ใจตัวเองนัก นางดูถูกเหลียนฟางโจว นางกล้าไปโหวกเหวกโวยวายในบ้านเหลียนฟางโจว ทว่าในเมืองต่อหน้าตี้เป่านี้ ไหนเลยนางจะกล้าโวยวายอะไรได้เล่า? นอกจากต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ปกครองของเมืองถ่ายเดียว!
“ไม่กล้าแล้วใช่ไหม? ก็ดีแล้ว!” หลิวเจี่ยเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง “ข้ามีธุระเร่งด่วนอีกมาก พวกท่านหากไม่มีเรื่องอันใดแล้ว เช่นนั้นก็ขอตัวก่อน!”
“แล้วเรื่องที่ดินที่บรรพชนเราสร้างมา
พวกเรา....”
ในที่สุดแม่เฒ่าหยางก็ยังไม่ถอดใจ!
“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่บรรพชนเราสร้างมา?”
หากเอ่ยต่อหน้าคนบ้านนอกเหมือนกัน
คงได้รับความเห็นใจและเห็นด้วยเป็นอันมาก
ทว่าต่อหน้าตี้เป่าหลิวเจี่ยผู้นี้
แน่นอน
กลับมิได้ผลเลยสักเสี้ยวเดียว
หลิวเจี่ยเองเอ่ยอย่างค่อนข้างหงุดหงิด
“ข้าเห็นเขาขายบ้านขายช่องที่บรรพชนสร้างมากันโครมๆ มีให้เห็นจนดาดดื่น!”
แม่เฒ่าหยางนิ่งเป็นไบ้ไปทันที ครั้นแล้วจึงเอ่ยว่า
“หากพรุ่งนี้ข้าไปขอเหลียนฟางโจวให้มากับข้าคราวหน้า.....”
“นี่หรือความคิดท่าน?” หลิวเจี่ยเอ่ยเสียงเย็นชา “ข้าบอกไปยังไม่ชัดอีกรึ? ที่ดินเพิ่งขายไปหยกๆ แต่จะซื้อกลับให้ได้ ท่านจงใจจะล้อเล่นกับข้ารึ? ทางการออกโฉนดที่ดินไปเรียบร้อยแล้ว แต่อยากไปหาเจ้าหน้าที่ทางการเพื่อให้ยุติเรื่องหรือ? เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะอธิบายกับนายข้าอย่างไร? พอนายข้าตำหนิข้า ข้าก็ต้องมานั่งอดทนหรือ?”
“แล้วสามารถ สามารถให้เหลียนฟางโจวขาย....”
แม่เฒ่าหยางพลันยิ้มแย้มเอ่ยขึ้นทันที
“หึหึ!”
หลิวเจี่ยหัวเราะขึ้นทันที มองแม่เฒ่าหยางด้วยดวงตาเข้มลึก
พรูลมหายใจเอ่ยขึ้น “ข้าบอกพี่หยางอย่างหนึ่ง
พี่น้องบ้านสกุลเหลียนพวกนั้นน่าเวทนาพอแล้ว
ที่พวกท่านทำเช่นนี้มิได้จะรังแกพวกเขาใช่หรือไม่?
ตัวข้าหลิวเจี่ยแม้ไม่ชอบก้าวก่ายเรื่องผู้อื่น ทว่าเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่พอใจนะ! พวกท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่กันแล้ว ควรให้ความเมตตากับคนรุ่นหลังด้วย!”
พ่อเฒ่าหยางใบหน้าแดงก่ำ
กระอักกระอ่วน พูดอะไรไม่ออก
หลิวเจี่ยอดลอบแค่นหัวเราะไม่ได้ นึกไม่ชอบใจพฤติกรรมของพวกสกุลหยางเป็นอย่างยิ่ง
คนเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเช่นเขา รู้ดีว่าแม่เฒ่าหยางเป็นคนนิสัยแบบใด
เพราะเขาเองก็เห็นมา 7-8 ครั้งแล้ว
บรรพชนสร้างมาอะไรกัน? แม่เฒ่าหยางจงใจบีบคั้นให้เหลียนฟางโจวยอมรับ!
แท้จริงแล้วนางเพียงต้องการหาเรื่อง เพียงต้องการสร้างความลำบากให้เหลียนฟางโจว จึงตั้งใจเข้าเมืองมาหาเขาที่นี่
“ข้าได้ชี้แจงกับพวกท่านไปอย่างละเอียดแล้ว” หลิวเจี่ยตวัดสายให้พวกเขาอีกครั้ง เอ่ยเสียงเนิบ
“พวกท่านไม่ลองคิดดูดีๆเล่า
เหลียนฟางโจวไหนเลยจู่ๆจะมีเงินมากมายมาซื้อที่ดินได้? ใครหนุนหลังนางอยู่.....พวกท่านลองคิดสิ พวกท่านสามารถล่วงเกินคนพวกนี้ได้หรือ?”
แม่เฒ่าหยางยังตามไม่ทัน ทว่าพ่อเฒ่าหยางกลับหวาดหวั่นจนหลั่งเหงื่อเย็นทั้งร่าง เขาฟังแลวก็เข้าใจที่หลิวเจี่ยกล่าวทันที ใช่แล้ว
มีคนหนุนหลังเหลียนฟางโจวอยู่! ซ้ำยังเป็นผู้มีอิทธิพลสูงถึงเพียงนั้น!
คิดดีๆอีกทีแล้ว
หากคนพวกนั้นไม่ยิ่งใหญ่พอ ไฉนเหลียนฟางโจวจะซื้อที่ดินกว่าพันหมู่ได้! หากไม่ยิ่งใหญ่พอ หลิวเจี่ยไฉนถึงไม่กล้าเอ่ยออกมาตรงๆเล่า?
“ท่านหลิวพูดได้ถูกต้องนัก ที่ดินนั่นถูกขายไปแล้วจริงๆ พวกเรา...วันนี้เดิมทีพวกเราไม่ควรมาเลย ไม่ควรมาเลยจริงๆ! เป็นพวกเรา
ที่ล่วงเกินแล้ว! ท่านหลิว...พอดีข้ามีธุระด่วน พวกเรา
คงต้องขอตัวก่อน ไปล่ะ
ไปล่ะ!” พ่อเฒ่าหยางขนหัวลุกเอ่ยละล่ำละลัก รีบร่ำลาแล้วลากตัวแม่เฒ่าหยางออกไปทันที
หลิวเจี่ยไม่รั้งพวกเขาไว้ เหยียดยิ้มบางตามหลังสองสามีภรรยาแซ่หยางที่พุ่งตัวออกไปอย่างไว พวกคนสกุลหยางนี่ ช่างน่าขันจริงๆ!
“เรื่องกำลังจะลงเอยด้วยดีแท้ๆ ดันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากัน!” แม่เฒ่าหยางเจอสามีรุนหลังให้รีบไป
ก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง
------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ ^-^
ขอบคุณมากครับ ว่าแต่ ถ้าอยากดำอิ๊ง นี่ ต้องดำเวปไหนน้อครับ
ตอบลบลิงค์นี้ค่ะ http://www.69shu.com/18433/
ลบไอแม่เฒ่าหยางนี่มันน่าจะโดนหนักๆสักที
ตอบลบยังน้อยกว่าลุงป้ามหาภัยไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาให้อีก
ลบหลิวเจี๋ยนายเจ๋งมาก!! //คนแปลก็เช่นกัน 145 ตอนแล้วนะเนี่ย ขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ ไรท์
ตอบลบดีมาก อย่างน้อย เงิน สินน้ำใจ ที่นางเอก ให้ไปกินขนม ก็มีประโยชน์ สมัยก่อนก็แบบเนีย โลกมันก็เท่าๆเนีย แหละ เรือ่งพวกเนีย เราคิดว่ามันไม่ถูกแต่ มันมีผลกับชีวิตมากเลยนะ
ตอบลบขอบคุณค่ะไรท์
ตอบลบขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ หวังว่าอิแม่เฒ่านี่จะไม่มาหาเรื่องฟางโจวอีกนะ
ตอบลบนางเอกเจอแต่คนที่...ไร้คำบรรยาย
ตอบลบขอบคุณผู้แปลมากค่ะ
ตอบลบจะติดตามต่อไปนะคะ
รีบเข้ามาอ่านอย่างไว เห็นลิงก์ที่ผู้แปลให้มาแล้ว ขอบคุณมาก เอาไว้ละเลียดอ่านยามว่างๆ เข้าไปอ่านเองก็แค่อ่านรู้เรื่อง ไม่ละเมียดละไมเหมือนที่แปลให้อ่านเลยค่ะ
ตอบลบคนเราไม่มีคุณธรรมประจำใจเลยยย
ตอบลบFC หลิวเจี่ยมากๆ
ตอบลบขอบคุณค่ะ สองผัวเมียสกุลหยางต้องเจอแบบหลิวเจี่ยนี่ละคนจริง แต่ไม่รู้จะยอมถอดใจหรือยัง
ตอบลบขอบคุณค่ะ .... สนุกมาก พึ่งเข้ามาอ่าน รวดเดียวเลย
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบกรรมเวณอันใดของแม่นางเหลียนฟางโจวหนอถึงเจอแต่คนเห็นแกตัว หน้าหนา เช่นนี้
ตอบลบกรรมเวณอันใดของแม่นางเหลียนฟางโจวหนอถึงเจอแต่คนเห็นแกตัว หน้าหนา เช่นนี้
ตอบลบ