ริมฝีปากแม่เฒ่าหยางเพิ่งเริ่มขยับ
ยังไม่ทันได้เปล่งเสียง หลิวเจี่ยก็ตวาดขึ้นเสียก่อน
“ข้าบอกพี่สะใภ้หยางไปแล้ว ไฉนจึงยังมาวอแวเรื่องนี้อีกเล่า! ท่านคิดจะทำอะไรอีกรึ? ที่ข้าอธิบายไปเมื่อวันวาน มันเป็นแค่ลมผ่านหูท่านใช่หรือไม่! วันนี้ขายที่ดินพรุ่งนี้ก็อยากซื้อกลับ ท่านจะทำให้ข้าเอาแต่ยุ่งวุ่นวายกับที่ดิน 30
หมู่ของเจ้าอยู่ถ่ายเดียว ! ท่านตั้งใจจะล้อข้าเล่นใช่หรือไม่?”
แม่เฒ่าหยางหมดความมั่นใจ แต่พยายามทำใจดีสู้เสือเอ่ยขึ้น
“เหลียนฟางโจว นางรับปากว่าจะคืนที่ดิน 30
หมู่ให้ข้า”
“ไหนท่านบอกว่าน้าหลิวตอบตกลงแล้วนี่
“ เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเรียบ
หลิวเจี่ยจ้องหน้าแม่เฒ่าหยางเขม็ง
พลางแค่นเสียง “ข้าไปตอบตกลงอะไรกับผู้ใดหรือ? เมื่อวานข้าไม่ได้บอกกับพวกท่านสามีภรรยาไปเรียบร้อยแล้วหรือ? ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทางการได้ออกโฉนดใหม่เสร็จแล้ว ที่ข้าบอกไปมันไร้ความหมายหรือ? ตัวแม่นางเหลียนเองตั้งใจซื้อที่ดินมาหลายแปลงเพื่อจะรวมเป็นผืนใหญ่ผืนเดียว หากมิใช่ท่านที่อาศัยความเป็นผู้อาวุโสมาบังคับโดยมิชอบด้วยเหตุผล ไยผู้อื่นต้องตกลงคืนอะไรให้ท่านเล่า? ที่ดิน 30 หมู่แบบนั้นสามารถขายทำเงินได้ตั้ง
80 ตำลึง สกุลหยางของท่านโชคดียิ่งนัก! แม่นางเหลียนใจกว้างขนาดนี้แล้ว ท่านจงเลิกคิดหาเรื่องนางเสียเถิด ตัวท่านก็แก่จนปูนนี้แล้ว อย่าได้ใช้ความอาวุโสมารังแกผู้อื่นเลย!”
พอหลิวเจี่ยกล่าวจบ
ก็หันไปเอ่ยกับเหลียนฟางโจว “แม่นางเหลียน
ท่านไม่ต้องไปสนใจนางหรอก! หากนางยังกล้าใช้ความอาวุโสมาบังคับท่านอีก ท่านก็มาบอกข้าได้! งานนี้เป็นผลงานของข้า ข้าจะจบเรื่องนี้ให้เอง!”
แม่เฒ่าหยางโมโหที่ไม่อาจทำอะไรได้ถนัด ทว่าก็ยังรู้ว่าคนอย่างหลิวเจี่ย
ไม่ใช่ผู้ที่นางจะเป็นปฏิปักษ์ได้
จึงถลึงตาใส่เหลียนฟางโจวคราหนึ่ง แล้วเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงจากไป
พอเห็นนางคล้อยหลังไปแล้ว หลิวเจี่ยก็อดปรบมือให้เหลียนฟางโจวไม่ได้ พลางเอ่ยแย้มยิ้ม “แม่นางเหลียนนี่ยังกับเทพเซียนเลย! ไฉนท่านถึงรู้ว่าแม่เฒ่าผู้นี้จะกลับมาหาเรื่องท่านเล่า?”
เหลียนฟางโจวหัวเราะขอบคุณหลิวเจี่ยก่อน แล้วจึงแค่นเสียง “เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แม่เฒ่าผู้นี้เซ้าซี้ข้าไม่เลิกรา เป็นเพราะนางเคยบีบข้าให้ถอนหมั้นกับบุตรชายนาง อ้างว่าครอบครัวข้าเป็นภาระถ่วงความเจริญ ยามนี้พอเห็นพวกข้าลืมตาอ้าปากได้ ไยนางจะรู้สึกชอบใจได้เล่า? จะปล่อยให้ข้าอยู่ดีมีสุขโดยไม่หาเรื่องทะเลาะได้อย่างไร? นี่คือคนที่จิตใจคับแคบอย่างที่สุด พอเห็นข้า
นางก็ขัดหูขัดตา คิดเพียงว่าข้าต้องยอมนางผู้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ไยจะนางยอมถอดใจง่ายๆ! ยิ่งมาเห็นข้ามีชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ
นั่นมิใช่ข้อพิสูจน์ว่านางตัดสินใจผิดพลาดมาตั้งแต่ต้นหรือ? นางจะยอมเป็นฝ่ายผิดได้อย่างไร!”
หลิวเจี่ยทนไม่ไหวระเบิดหัวเราะจนตัวโยน
ครั้นแล้วนิ่งคิดไปพักหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ที่แม่นางเหลียนพรั่งพรูมายืดยาวนี่
ก็ค่อนข้างมีเหตุผลทีเดียว! นางช่างเป็นหญิงชราที่น่าชังนัก! ตอนที่แม่นางเหลียนยกเลิกสัญญาแต่งงานนี้ ท่านเสียใจหรือไม่?”
“เสียใจหรือ?”
เหลียนฟางโจวส่ายหน้า
เอ่ยแย้มยิ้ม
“ต้องนับว่าโชคดีสิถึงจะถูก!” พอกล่าวจบทั้งสองก็มองหน้ากันพลางหัวเราะดังลั่น
“วันนี้ที่ข้ามา ไม่คิดว่าจะมาเพื่อเรื่องนี้ ตรงข้ามกลับถือว่าเป็นเหตุบังเอิญ อันที่จริงข้าตั้งใจว่าพอว่างแล้วจะเอาโฉนดที่ดินตรงสามแยกนั่น
และตรงปากทางเข้าหมู่บ้าน ที่ทางการออกให้มาส่งมอบให้ท่าน! ท่านรับไปเสียสิ!”
หลิวเจี่ยหัวเราะพลางล้วงโฉนดที่ดินสองใบออกมาจากอกเสื้อ
เหลียนฟางโจวยิ้มแย้มขณะรับมา
พลางเอ่ยขอบคุณ “ท่านช่างสามารถนัก ทำงานลุล่วงได้ราบรื่นและตรงเวลาดีแท้ ต้องขอบคุณในความขยันทุ่มเทของน้าชูยิ่งนัก! นี่ก็นับว่า
ที่ดินเหล่านี้ได้เตรียมการจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว ข้าจะได้เริ่มทุ่มเทกับเรื่องก่อสร้างอาคารเสียที!”
หลิวเจี่ยหัวเราะหึหึ
พร้อมกับยกนิ้วให้ พลางเอ่ยแย้มยิ้ม “แม่นางเหลียนช่างขยันคิดขยันทำนัก ชีวิตท่านต้องยิ่งกว่าเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งร่ำรวยแน่ๆ! ภายหน้าหากจะซื้อที่ดินอีก
อย่าลืมบอกข้าเสียล่ะ! ข้ามีที่ดินผืนงามอยู่ในมือหลายผืน รับรองจะเก็บแต่ของดีเลิศไว้ให้แม่นางเหลียนเท่านั้น!”
เหลียนฟางโจวหัวเราะ ขอบคุณอย่างอ่อนน้อมให้หลิวเจี่ยไม่หยุด
พอพูดคุยสัพเพเหระอีกพอสมควร
หลิวเจี่ยจึงเอ่ยแย้มยิ้ม
“วันนี้ข้ายังมีธุระอื่นอีก คงต้องขอตัวก่อนล่ะนะ!”
เหลียนฟางโจวออกไปส่งเขาที่หน้าประตูด้วยรอยยิ้ม
มองโฉนดที่ดินสองใบในมือที่ได้มาดังใจหมาย เหลียนฟางโจวรู้สึกโล่งอกและมีกำลังใจขึ้น
เรื่องใหญ่โตนี้ ในที่สุดก็บรรลุถึงบทสรุปอย่างงดงาม!
ที่ดิน 2,800 หมู่นี้แม้ยังต้องเตรียมการอีกหลายอย่างเพิ่ม ทว่าในส่วนการวางรากฐานก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยในที่สุด ที่เหลือ
ล้วนเป็นการทำงานอันละเอียดอ่อนทั้งสิ้น
บางที สองวันนี้เธอคงต้องวางแผนงานการสร้างโกดังเก็บวัตถุดิบ
และโรงผลิตให้ดี ใช้เวลาเพื่อกำหนดขั้นตอนของงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
จากนั้น ก็จ้างคนงาน ซื้อวัสดุ
เพื่อเริ่มงานก่อสร้าง ทำแต่ละขั้นตอนด้วยความรวดเร็ว
เหลียนฟางฉิงกับพวกน้องชายและอาเจี่ยน
ทั้งหมดเดินทางไปยังที่ดินตรงสามแยก เพราะน้องน้อยทั้งสองอยากเห็นเขาเสี่ยวฮวากั่วซานจนทนไม่ไหว ส่วนเหลียนฟางโจวและป้าสามอาสาเฝ้าบ้านอย่างสบายใจ
เมื่อมีเวลาเอ้อระเหยไม่รีบร้อน หญิงสาวจึงใช้พู่กันวาดแปลนอาคารที่ใช้เป็นโรงผลิตบนที่ดินนั่น รออาเจี่ยนกลับมาเมื่อใด จะได้หารือกับชายหนุ่มอีกรอบ
อาเจี่ยนเป็นผู้มีสายตาแหลมคม หลายเรื่องที่เขาคิดช่วยเตือนสติเธอได้
เรื่องการจ้างคนมาทำงานนั้นก็เอาคนที่คุ้นเคยกันดี จะได้ช่วยผ่อนแรงอาเจี่ยนกับเหลียนเซ่อ ตอนทำงานจะได้ไม่ต้องจับตาดูมากนัก ตกเที่ยงคนทั้งหมดก็กลับมากินมื้อกลางวัน ไม่ต้องให้เหลียนฟางโจวต้องเอาไปส่ง
ดังนั้น หญิงสาวจึงมีเวลาทั้งบ่ายคิดเรื่องวาดแบบแปลนอาคาร
ช่วงเย็น เหลียนฟางโจวและอาเจี่ยนจุดตะเกียง
แล้วนั่งหารือและแก้ไขแบบแปลน จนได้แบบที่ถูกใจในที่สุด มือหยิบกระดาษภาพแบบแปลนต้นแบบที่เสร็จแล้วรวมทั้งสำเนาขึ้นมาสะบัดให้แห้ง หญิงสาวจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หรือพรุ่งนี้พวกเราเข้าเมืองไปหาน้าจ้าวลิ่วก่อนเป็นไร? เตรียมการล่วงหน้าไว้เยอะๆ งานเราจะได้สำเร็จ พวกเราจะได้ฉลองปีใหม่กันอย่างปลอดโปร่งเต็มที่!”
ทุกคนล้วนตรากตรำกันมานาน ซ้ำในมือเธอยังมีเงินเหลือให้ทำอะไรได้อีกมาก เหลียนฟางโจวจึงวางแผนจะฉลองปีใหม่กับสมาชิกในครอบครัวกันอย่างสุขีสโมสร อย่างที่ตั้งใจมานาน
อาเจี่ยนพยักหน้าเอ่ยแย้มยิ้ม “งานที่ทำไว้ก็ไปได้สวยเร็วกว่าที่คิด คอยให้ถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ ที่ดินสองพันกว่าหมู่นี้คงทำให้ทุกคนหัวหมุนกันพอดู ไหนยังจะแปลงนาข้าวผืนงามเนื้อที่หลายสิบหมู่อีก!”
“ขอให้เป็นอย่างที่ท่านพูดเถิด!” เหลียนฟางโจวเอ่ยแย้มยิ้ม
วันรุ่งขึ้นพอกินมื้อเช้าเสร็จแล้ว คนทั้งสามก็พากันเข้าเมือง
คนเช่นจ้าวลิ่วทั้งการพูดจา
ทั้งการทำงานแม้ค่อนข้างรักสนุก ทว่าก็เป็นคนตรงไปตรงมาและเป็นยอดฝีมือผู้หนึ่ง นับว่าเป็นคนดีที่น่าคบหาสมาคมไว้
เหลียนฟางโจวตระหนักชัดว่า เธอเป็นเด็กสาวกำพร้าหัวเดียวกระเทียมลีบ ภายหน้าหากอยากจะลงหลักปักฐานในเมืองยู่เหอนี้ ผู้อาวุโสผู้มีฝีมือชั้นครูอย่างหลิวเจี่ย และจ้าวลิ่ว
หากมีโอกาสผูกมิตรไว้ ต้องนำพาโอกาสดีๆและความมั่นคงมาให้เป็นแน่
!
แถมภายภาคหน้ายังช่วยส่งเสริมผู้น้อยเช่นนางอีกด้วย
ในใจของหญิงสาวนั้น เมล็ดฝ้ายคือสิ่งที่ทำเงินได้แน่นอน ซ้ำยังเป็นเงินก้อนมหาศาลอีกต่างหาก เมื่อเวลานั้นมาถึงจะมีทั้งคนอิจฉาและเกลียดชังเธอมากเป็นแน่
อาจจะอิจฉาอย่างเดียว
หรือบางทีทั้งอิจฉาและพ่วงความเกลียดชังมาด้วย
เธอกลัวว่าเพราะความเกลียดชังนี้อาจเป็นต้นเหตุของสิ่งไม่คาดฝันอื่นๆตามมา แม้เธอจะอาศัยบารมีของคนสกุลซูแห่งเมืองชวงหลิวในตอนเริ่มต้น แต่เดิมทีเรื่องนี้มันเป็นแค่ความสัมพันธ์ผ่านทางญาติผู้พี่ ซึ่งไม่เป็นปัญหา ตราบที่ไม่พูดเรื่องอันคลุมเครือนี้ออกมาให้ใครรู้ แต่อย่างไรก็ตาม เธออาจมีโอกาสเจอสถานการณ์ น้ำไกลมิอาจดับไฟใกล้เอาได้[1]
มิหนำซ้ำ ต่อให้ราชสำนักที่ทรงอำนาจ ก็ยังยากจะควบคุมผู้มีอิทธิพลในพื้นที่!
ด้วยเหตุดังนี้ เพื่อให้ได้คบค้ากับผู้อาวุโสระดับหัวหน้าอย่างหลิวเจี่ย
จ้าวลิ่ว และท่านอื่นๆ เหลียนฟางโจวจึงยอมทุ่มเงินเป็นอันมาก พอมีคนมาเป็นพวกเพิ่มซักคนสองคน ใครที่อยากหาเรื่องเธอ ก็ต้องตรองดูให้ดี
ทว่าหญิงสาวทำการผูกมิตรได้อย่างชาญฉลาดทีเดียว เธอจะไม่ยกยอปอปั้นเสียจนเกินงาม เมื่อมีโอกาสก็แสดงความสำนึก “บุญคุณ”
ทุกครั้ง กลับทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ แถมยังรับรู้ได้ถึงความจริงใจของเธอด้วย
ยกตัวอย่างเช่นวันนี้ที่พวกเธอจะไปเยือนบ้านจ้าวลิ่ว เหลียนฟางโจว เหลียนเซ่อ กับอาเจี่ยนแวะไปที่ร้านขายของก่อนเพื่อซื้อของกำนัลไปฝากเป็นอันมาก
อาทิเช่น ขนมหวาน ลูกกวาดชั้นหนึ่ง ผ้าตัดเสื้อ 1 พับ หมูสามชั้น และ ขาหมูอย่างดี 2 ขา เทียบกับครั้งก่อนที่ไปเยือนบ้านหลิวเจี่ย เธอซื้อของไปฝากมากกว่าเล็กน้อย
นี่คือการเยี่ยมเยียนครั้งแรก ซื้อของดีๆไปฝาก ก็ดูสมเหตุสมผล
จ้าวลิ่วผู้นี้เป็นคนที่มีชีวิตชีวาจริงๆ เห็นของฝากเหล่านี้ ก็ขอบอกขอบใจ
พลางเอ่ยแย้มยิ้ม “แหม..สองวันมานี่ข้านึกอยากกินขาหมูอยู่พอดี ไม่คิดเลยว่าแม่นางเหลียนจะนำมามอบให้ถึงบ้านทันควัน!”
พอกล่าวจบ ทุกคนต่างหัวเราะขึ้นพร้อมกัน
ไม่คอยให้เหลียนฟางโจวถาม จ้าวลิ่วก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แม่นางเหลียน ท่านเริ่มเตรียมการสำหรับที่ดินตรงปากทางเข้าหมู่บ้านหรือยัง?”
**
[1] หมายถึง ความช่วยเหลือที่อยู่ไกล
ไม่อาจช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ใกล้ได้ทันท่วงที
----------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ ^-^
สนกๆๆ คนแปลก็เยี่ยม
ตอบลบขอบคุณค่ะ...สนุกทุกตอนที่อ่านค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ สนุกสนานทุกตอนค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
ตอบลบจะเข้าสู่โหมดสงบสุขแล้วสินะ ดีจัง ดูฟางโจทำงานเยอะแยะมากมายในแต่ละวันเรานี่กลายเป็นตัวขี้เกียจไปเลย
ตอบลบ"ไกล" สะกดแบบนี้ค่ะ ^_^
ตอบลบแก้ให้แล้ว ขอบคุณค่ะ
ลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณนะคะ
ตอบลบเป็นนิยายแปล ที่แปลสำนวนอ่านง่าย ใหลลื่นมากๆค่ะ ขอบคุณนะคะ
ตอบลบขอบคุณมากเลยนะคะ ยิ่งอ่านยิ่งอยากอ่านต่อเยอะๆ ชอบเรื่องมากเลยค่ะ
ตอบลบเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง รอตอนต่อไปค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ ชอบ ๆ สนุกดีจัง
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบช่วงนี้ก็ได้แต่ลุ้นให้เหตุการณ์ผ่านไปได้ด้วยดี
ตอบลบชีวิตกลับมาปรกติสุขเสียที...
ตอบลบสนุกๆๆขอบคุณมากๆๆนะ
ตอบลบ