สองวันต่อมา มีเพียงเหลียนฟางโจว อาเจี่ยน และเหลียนเซ่อเท่านั้นที่ขึ้นเขาเซียนเถิงซาน โดยมิได้พาเหลียนฟางฉิง
กับเหลียนเช่อน้องน้อยทั้งสองไป ซ้ำยังมิให้เหลียนเซ่อเอาธนูและลูกธนูติดตัวไปด้วย หญิงสาวเพียงรับปากน้องชายว่า รอให้ธุระยุ่งๆจบเสียก่อน แล้วจะให้เขาได้ล่าสัตว์สัก 2-3
วันเป็นกรณีพิเศษ
หญิงสาววางแผนว่าจะทุ่มเททำงานในสองวันนี้ นั่นคือการขุดตอไม้จำนวนมากเอากลับไป หลังจากนั้นจะงดกิจกรรมนี้ไปชั่วคราว
สองวันมานี้ เหลียนฟางโจวกับพวกรวม 3 คนพากันไปขุดตอผลไม้ป่าที่ไว้ใช้ทาบกิ่ง
เอากลับไปได้มากถึง 400 ต้น โดยกว่า 200
ต้นล้วนเป็นต้นพลับป่า
เมื่อได้เจอต้นพลับป่ากลุ่มหนึ่งโดยบังเอิญ ก็หาได้ทำให้ความสุขของเหลียนฟางโจวลดน้อยถอยลงไปนัก
ต้นพลับป่ามี
2 สายพันธุ์ สายพันธุ์หนึ่งคล้ายต้นพลับบ้านที่ชาวบ้านปลูกกันอยู่ทั่วไป ซึ่งไม่รู้ว่าเมล็ดพวกนี้ไปตกในป่าและเจริญเติบโตขึ้นเมื่อใด
อีกพันธุ์หนึ่งมีผลเล็กขนาดใกล้เคียงไข่ไก่
เมล็ดจะใหญ่เป็นพิเศษ มีเนื้อน้อย รสชาติพื้นๆ
นี่สิถึงจะเรียกว่าผลไม้ป่าขนานแท้
สำหรับสายพันธุ์ผลไม้ป่าของแท้นี้ เป็นเพราะยามที่ผลสุกงอม บรรดานกทั้งหลายคงชอบมาจิกกิน ด้วยเหตุนี้จึงเรียกขานกันว่าลูกพลับนก
เหลียนฟางโจวกับพวกเห็นหมู่ต้นพลับนกนั้นแล้ว
แม้จะเรียกขานเช่นนี้ ทว่ารูปลักษณ์ของมันมองดูแล้ว คล้ายลูกพลับพื้นๆทั่วไป นำมาใช้เป็นต้นหลักไว้ทาบกิ่ง นับว่าเหมาะสมอย่างที่สุด
เหลียนฟางโจวเบิกบานใจนัก จึงให้เหลียนเซ่อ
กับอาเจี่ยนขุดต้นพลับกลุ่มนั้นที่ได้ขนาดไปเกือบหมด
คนทั้งสามมัวแต่วุ่นกับงานนี้ไปหลายวัน ส่วนงานอีกงานหนึ่งก็คืบคลานมาถึงขั้นตอนสุดท้ายตามที่คาดการณ์ไว้ เผลอแผลบเดียวก็ล่วงเข้าเดือนสิบสองโดยไม่รู้ตัว
สำหรับงานก่อสร้างที่ปากทางเข้าหมู่บ้านนั้น เหลียนฟางโจวจะเป็นฝ่ายแวะเวียนไปดูทุกๆวัน เพื่อตรวจความคืบหน้าของงานตามที่กู้สือแจ้งมา ซึ่งเหลืออีกกว่าครึ่งเดือนงานก่อสร้างจึงจะแล้วเสร็จ
และในยามนี้ เหลียนฟางโจวยังมีอีกสองเรื่องที่อยากทำ
เรื่องหนึ่งก็คือ นำเมล็ดฝ้ายไปเพาะเป็นต้นกล้าให้เสร็จ อีกเรื่องได้แก่ เรื่องซื้อคนมาทำงาน ส่วนจะเริ่มดำเนินการซื้อคนในตอนนี้ดีหรือไม่ หญิงสาวเองยังสองจิตสองใจอยู่!
หรือจะรอให้ผ่านไปหนึ่งปีก่อนแล้วค่อยซื้อคน พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ซื้อคนช่วงเวลาใดจึงจะเหมาะสมที่สุด ทว่าเมื่อซื้อแล้ว ยามถึงคราวจัดหาที่พัก หญิงสาวจะทำอย่างไร เรื่องนี้สร้างความลำบากใจให้เธอไม่น้อย
หากคอยให้สร้างหมู่เรือนตรงปากทางเข้าหมู่บ้านจนแล้วเสร็จ ที่นั่นก็มีแต่เรือนโล่งๆ ซึ่งยังไม่สามารถเข้าไปอยู่ได้!
หญิงสาวจึงได้หารือกับอาเจี่ยน
และเหลียนเซ่ออยู่พักหนึ่ง
ในที่สุดก็ตกลงใจว่าจะเตรียมการเพาะต้นกล้าฝ้ายเป็นอย่างแรกก่อนดีกว่า สำหรับเรื่องซื้อคนงานนั้น ยามเข้าเมืองค่อยไปขอร้องให้จ้าวลิ่วช่วยเป็นนายหน้าแนะนำคนหน่วยก้านดีให้สักสองคน พวกเขาจะไปดูลาดเลาล่วงหน้าก่อน หากดูแล้วเหมาะสม ก็จะซื้อไว้แต่เนิ่นๆเลย ไม่เช่นนั้น
ก็ทิ้งเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
สำหรับงานเพาะต้นกล้า เหลียนฟางโจวตั้งใจจะใช้พื้นที่ที่ห่างไกลจากหมู่บ้าน
แต่อยู่ใกล้ๆบริเวณที่ดินตรงสามแยก ซึ่งต้องการอาณาบริเวณราวๆ 150 หมู่พอ!
สำหรับเรื่องอื่นๆก็ไม่มีอะไรแล้ว เหลือเพียงเรื่องปุ๋ยเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้เหลียนฟางโจวค่อนข้างหนักใจพอดู
ปุ๋ยคอกในคอกสัตว์ เธอได้วางแผนดำเนินการไปแล้ว
คอยถึงปีหน้าปุ๋ยเหล่านั้นทั้งหมดจะถูกนำไปหว่านให้แปลงต้นกล้าฝ้ายที่เพาะลงดิน เมื่อถึงคราวลงไปตรวจสอบดูอีกครา ไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายเงินซื้อหาปุ๋ยแบบนี้มาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ส่วนปุ๋ยมูลไก่ หรือของเสียจากมูลสัตว์เลี้ยงใช้งาน หรือมูลคน เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะสามารถรวบรวมมาได้สักเท่าไร ซ้ำยังมีเรื่องขี้เถ้าอีก ทว่าเทียบกันแล้ว ยังไม่ใคร่จัดการยุ่งยากนัก
ในที่สุดเหลียนฟางโจวก็นึกถึงโคลนในบ่อน้ำขึ้นมาได้ หลังจากวิดน้ำออกจากบ่อปลา ที่ก้นบ่อจะเต็มไปด้วยโคลนตม
โคลนประเภทนี้นับว่าเป็นปุ๋ยชั้นดีทีเดียว จะเตรียมพื้นที่เพาะต้นกล้ามากมาย ลำพังพึ่งพาแรงงานคนที่บ้านไม่กี่คน เห็นชัดๆว่าไม่พอเอาเลย เหลียนฟางโจวจำต้องจ้างคนมาทำงานให้อีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ วันรุ่งขึ้นหลังกินมื้อเช้าเสร็จแล้ว เธอกับเหลียนเซ่อ และอาเจี่ยน
จึงเร่งรีบขับรถเกวียนเทียมลาบ่ายหน้าเข้าเมือง
"หรือเราจะไปร้านขายเครื่องโลหะกันก่อนดีไหม!” พอผ่านเข้าเขตเมือง หญิงสาวหนึ่งเดียวก็หันไปเอ่ยกับอาเจี่ยนและเหลียนเซ่อด้วยรอยยิ้ม
เหลียนเซ่อหันมายิ้ม อาเจี่ยนก็พยักหน้าหัวเราะเอ่ยว่าดี
เมื่อวานพวกเขาต่างปรึกษากันมาแล้ว
วันนี้นอกจากจะไปหาจ้าวลิ่วเพื่อหารือเรื่องจ้างคนงานแล้ว
หากสะดวกก็จะหาซื้อเครื่องมือทำการเกษตรเพิ่มอีกสักสองสามอย่าง รวมถึงไปว่าจ้างร้านเครื่องโลหะให้ทำธนูกับลูกธนูโลหะไว้ล่าสัตว์สัก
2 ชุดด้วย
ในที่สุดก็บรรลุถึงร้านเครื่องโลหะ ทั้งสามกระโดดลงจากรถ แล้วนำรถไปจอดแอบไว้ข้างทาง
อาเจี่ยนพูดคุยกับคนในร้านเครื่องโลหะอย่างละเอียดพักหนึ่ง คนงานร้านพยักหน้าหัวเราะตอบรับเป็นพักๆ เพียงไม่นานพวกเขาก็จ่ายเงินมัดจำทิ้งไว้ แล้วตรงดิ่งไปหาจ้าวลิ่ว
ยามนี้เหลียนฟางโจวยังคงจ้างคนงาน 30 คน โดยขอร้องจ้าวลิ่วให้เป็นธุระเตรียมการให้ด้วย
เพราะก่อนหน้านั้นได้พูดคุยกันไว้ดิบดีแล้ว จ้าวลิ่วจึงยังใช้คนงานดั้งเดิมที่จ้างมาคราที่หักร้างถางพงบนที่ดินรกร้างให้เหลียนฟางโจว
เหลียนฟางโจวจ่ายค่านายหน้า แล้วจึงกล่าวอำลาด้วยรอยยิ้ม ทั้งสามชีวิตจึงตรงดิ่งไปตลาดต่อ
นอกจากจะหาซื้อของใช้จิปาถะในชีวิตประจำวันแล้ว พวกเขายังซื้อตระกร้าสานไม้ไผ่ที่มีหูหิ้วยาวๆ
10 คู่ รวมทั้งคานหาบ 10 อัน เข่งไม้ไผ่
20 ใบ ขอเกี่ยวเหล็ก 10 คู่
คานหาบพร้อมตระกร้ามีหูยาว |
ข้าวของพะรุงพะรัง ถูกบรรทุกอัดแน่นจนเต็มรถเกวียน
วันรุ่งขึ้น คนงาน 30 คน มาถึงที่ดินตรงตามเวลานัด เหลียนฟางโจวทักทายคนงานพร้อมสำรวจขั้นตอนงานที่จะต้องทำบนพื้นที่
1 หมู่ไปด้วย ทว่าพื้นที่ทั้งหมดมี 150 หมู่ก็ต้องเตรียมงานให้เสร็จ
150 งาน โดยจะต้องวางแผนการทำงานทั้งหมดให้เป็นขั้นเป็นตอน
การพรวนดินก็ต้องให้พอเหมาะกับระดับความหนาของชั้นดิน เหลียนฟางโจวได้อธิบายรายละเอียดวิธีการทั้งหมดให้ทุกคนฟังอย่างกระจ่าง
โชคดีที่คนงานแต่ละคนล้วนคุ้นเคยกับวิธีการดี ซ้ำยังเข้าใจงานดีโดยแทบไม่ต้องให้เอ่ยปาก ไม่ว่าเจ้าของงานจะสั่งงานอย่างไร พอคนงานฟังแล้ว
ก็รู้แจ้งแทงตลอด ล้วนช่วยให้งานเดินหน้าสะดวกขึ้นมากทีเดียว
เหลียนฟางโจวย้ำขั้นตอนการปฏิบัติงานของบ้านตนให้คนงานฟังอีกครั้งตามที่เคยมา ตอนกลางวันก็มีน้ำแกงตุ๋นเนื้อ จีต้านปิ่ง
(แป้งทอดชุบไข่) หรือไม่ก็ลู่วเจียนปิ่ง (แป้งทอดไส้เนื้อ)ให้รับประทาน โดยไม่หักเงินจากค่าจ้างเลย และเมื่อไดก็ตามที่พบว่ามีใครอู้งาน วันรุ่งขึ้นก็จะไม่ให้คนผู้นั้นมาทำงานอีก!
จี้ตานปิ่ง |
ลู่เจียนปิ่ง |
เรื่องนี้ถือว่าจำเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าทุกคนล้วนคุ้นเคยกันดีมาก ทว่าก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ทำงานเฉื่อยแฉะ หากมีคนคิดว่าตนเองคุ้นเคยกับงานดีแล้ว อาจเป็นเหตุให้ไม่เร่งมือทำงาน กลายเป็นคนเฉื่อยชาขึ้นมาได้ เมื่อถึงเวลานั้นมันจะดูไม่งามเอา
หากได้มีการบอกกล่าวเรื่องความผิดเอาไว้ล่วงหน้า จะเป็นการกระตุ้นให้พวกคนงานประพฤติตนถูกทำนองคลองธรรมยิ่งขึ้น เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้คนงานหัวหมอสบช่องตำหนิหรือเกิดเรื่องบาดหมางใจกันภายหลังได้
สำหรับการคุมคน เหลียนฟางโจวเลือกคนงานสองคนคือหลี่ฉิงและหวูเสี่ยวเหมา
ขึ้นมาเป็นหัวหน้าต่อหน้าทุกๆคน ในกรณีที่ตัวเธอเอง
อาเจี่ยนและเหลียนเซ่อไม่อยู่ที่หน้างาน
หากเกิดเรื่องอันใดขึ้น ก็ให้สองคนนี้ไปหาพวกเขาทั้งสาม
หลี่ฉิงและหวูเสี่ยวเหมายิ้มแย้มตอบรับงานที่มอบหมายด้วยความดีใจ
พอเห็นคนงานทุกคนแบ่งกลุ่มกันไปทำงานแล้ว เหลียนฟางโจวกับพวกต่างจัดแจงขับรถไปยังหมู่บ้านของสกุลหยาง โดยบนรถเกวียน บรรทุกเข่งไม้ไผ่ 20 ใบ
เหลียนฟางโจวเองนั้นหาได้ตั้งใจจะไปหมู่บ้านสกุลหยางแม้สักนิด ทว่าหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดที่พอจะมีบ่อปลา มีเพียงหมู่บ้านสกุลหยางเท่านั้น ซึ่งเจ้าที่ดินสกุลหยางมีบ่อปลากว้างใหญ่
2 บ่อ
ในยุคโบราณนี้คนทำอาชีพเลี้ยงปลายังมีไม่มากนัก สาเหตุที่ไม่ค่อยมีคนทำ ก็เพราะลูกปลาหายาก อีกประการหนึ่งก็เพราะเลี้ยงปลาแล้วไม่คุ้ม เลี้ยงปลาไว้มากมาย พอปลาโตขึ้นมักเกิดโรคระบาดตามมา หากไม่เข้าใจวิธีรักษา ปลาก็มักจะตายเป็นวงกว้าง ทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย
การที่คหบดีสกุลหยางถือครองบ่อปลา 2 บ่อ
เป็นเพราะคนในครอบครัวชอบกินปลากันมาก
ทั้งสามชีวิตบรรลุถึงบ้านคหบดีสกุลหยางด้วยความราบรื่น แถมยังมิได้พบหยางหวายชานคนสกุลหยางผู้นั้นด้วย ไม่ใช่หลียนฟางโจวเพียงคนเดียวที่กังวล เหลียนเซ่อเองก็ลอบพรูลมหายใจด้วยความโล่งอกไปด้วย
มีเพียงอาเจี่ยนคนเดียวที่ไม่รู้สึกอันใดกับคนบ้านสกุลหยางนี้ ตัวเขาเคยมีเรื่องอันใดเกี่ยวข้องกับคนสกุลนี้มาก่อนหรือไร?
เจ้าที่ดินหยางได้ฟังวัตถุประสงค์การมาของเหลียนฟางโจวแล้ว คราแรกก็ไม่เต็มใจอย่างยิ่ง
เหลียนฟางโจวพยายามเกลี้ยกล่อมทุกทาง
ซ้ำยังพยายามยิ้มแย้มเอาใจด้วย เจ้าที่ดินหยางก็ยังสองจิตสองใจ แต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังเห็นแก่หน้าสกุลซูแห่งเมืองชวงหลิวอยู่บ้าง และแน่นอน
เรื่องนี้เขามิได้บอกเหลียนฟางโจว
หาไม่แล้ว เขาคงไม่ยอมตกลงเด็ดขาด แม้ว่าเหลียนฟางโจวจะพูดว่าจะจ่ายเงินให้ด้วยก็ตาม ทว่าไหนเลยเขาจะเห็นแก่เงินเล็กน้อยนั้นเล่า?
เจ้าที่ดินหยางได้เรียกหยางก่วนสือมารับหน้าในเรื่องนี้ แล้วจึงโบกมือไม่สนใจอีกต่อไป
เพื่อช่วยให้การจับปลาสะดวกขึ้น บ่อปลาจึงถูกสร้างไว้ใกล้ๆบ้านคหบดีสกุลหยาง
บ่อปลา 2
บ่ออยู่ใกล้กัน และมีทางน้ำเชื่อมซึ่งกันและกัน ปากบ่อแต่ละบ่อมีเนื้อที่กว้างราวๆ 5 หมู่
ยามนี้ บ่อหนึ่งมีน้ำเต็มปริ่มสีเขียวอ่อน น้ำใสสะท้อนแดดเป็นประกายระยิบระยับ เทียบกับบ่อที่เหลือ น้ำแห้งผากจนเห็นก้นบ่อ ซึ่งตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง
--------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ ^_^
ขอบคุณนะคะ
ตอบลบขอบคุณคะ สกุลหยางจะมีปัญหาไหม้นะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ ดีใจทุกครั้งที่มีเตือนว่าอัพตอนใหม่ในเฟซบุ๊ค
ตอบลบขอยคุณค่ะ
ตอบลบมาแล้วๆ ขอบคุณค่า
ตอบลบขอบคุณผู้แปลค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่าา รอๆตอนต่อไป
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบลืมไปแล้วบ้านสกุลหยางคือบ้านใคร หยางหวายชานคือใคร😂😂
ตอบลบมาแล้ว ๆ ขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่า
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบ