วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561

ัจับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 164 ชุยเฉ่าซีมาเยือนหมู่บ้านต้าฝางครั้งที่สอง 1

                       ถึงแม้เขามิได้ตั้งใจ   แต่ก็มิได้หมายความว่าสักแต่พูดว่าไม่ได้ตั้งใจจะสามารถลบล้างทุกสิ่งได้หมด
                        หากเธออ่อนแอกว่านี้อีกนิด  หากตนเองไม่มีอาเจี่ยนคอยอยู่เคียงข้าง  เหลียนฟางโจวไม่อยากจินตนาการเลยว่า  เรื่องราวต่างๆท้ายสุดแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป!
                        หากเงินตำลึงและโฉนดที่ดินทั้งหลาย  โดนลุงใหญ่วางแผนฮุบไปได้จริงๆ   ต่อให้ชุยเฉ่าซีมา  ถึงจะแก้ไขความเข้าใจผิดจนกระจ่างแล้ว  ก็ไม่รู้ว่าจะสายเกินไปหรือไม่?

                        เงินจำนวน 10,000 ตำลึงนี้  มากพอจะเปลี่ยนคนที่มิได้มีใจคิดคดแต่แรก กลายเป็นคนโลภโมโทสันได้  ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง  ลุงกับป้าใหญ่ที่เป็นคนละโมบในกมลสันดานอยู่แล้ว!
                        ลุงใหญ่นะหรือ  จะมิได้จงใจวางแผน  เพียงแค่อยากดูแลทุกอย่าง’ตามหน้าที่’เท่านั้น   เหลียนฟางโจวค่อนข้างเชื่อแน่ว่า ลุงเธอคงหวังฮุบทุกอย่างเอาไปครอบครองแต่เพียงผู้เดียว  คนที่กล้าทำเรื่องชั่วร้ายเข้าขั้น  ประหนึ่งกินดีหมีหัวใจเสือเช่นนี้  เธอเกรงว่าคงจะรีบเอาทรัพย์สินไปขายต่อ เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองแทบไม่ทันเสียมากกว่า!
                         มิใช่ว่าเธอจะคิดไปเองคนเดียว  น้องๆของเธอก็คงคิดได้เองไม่ต่างกัน
                        คงไม่มีใครช่วยตัดสินความแทนพวกเขาได้หรอก  แม้แต่ป้าจางเอง ก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะทำได้
    หนังสือข้อตกลง 2 ฉบับ  ที่เขียนไว้ว่าบ้านใหญ่และบ้านรองจะไม่มีอันใดข้องเกี่ยวกันอีกต่อไป   ยามนี้เธอเองก็เข้มแข็งพอตัวแล้ว  คงถึงคราวนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์เสียที  หากยังขืนทำตัวอ่อนแอต่อไป  คงมิต้องทำอะไรกันพอดี!
                        และหากเงินทองเหล่านี้เป็นอันตกไปอยู่ในกำมือของลุงใหญ่   ปราการขวางกั้นอันใดเล่าที่เขาจะฝ่าไปไม่ได้?
                        สรุปสั้นๆ   เธอไม่มีทางพึ่งพาชุยเฉ่าซีได้เลย!
                        ต่อให้เขามิได้ตั้งใจ   ทว่าตัวเขาเป็นผู้มีส่วนทำให้เรื่องราวมันบานปลายใหญ่โต  ยามนี้พอเหลียนฟางโจวได้พบเขาเข้า  ไหนเลยจะยังจะปั้นหน้าดูดีอยู่ได้?
                        ผ่านไปสักพัก  เหลียนฟางโจวก็ยังเห็นชุยเฉ่าซีนิ่งอึ้งไม่เลิกเสียที  เธอแทบจะสิ้นความอดทนแล้ว  จึงเอ่ยเสียงเรียบ  “หากท่านชายชุยมิมีธุระอันใดแล้ว  เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน  ข้ายังมีงานต้องทำอีกมากนัก!  หรือท่านชายชุยจะไปนั่งพักที่บ้านลุงใหญ่ของข้าดี  ข้าเชื่อว่า  เขาคงมีเวลา   ซ้ำยังยินดีต้อนรับท่านชายด้วยความยินดีปรีดาเป็นแน่!”
                        พอชุยเฉ่าซีได้ฟังถ้อยวาจานี้   ให้รู้สึกตะหงิดๆว่า  มีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว  ชายหนุ่มพลันปัดอารมณ์ผิดหวังในใจทิ้งไป  รีบสืบเท้าเข้าไปหาเหลียนฟางโจว  เอ่ยด้วยรอยยิ้มฉงน  “คราก่อน  ข้าหาบ้านเจ้าไม่พบ   ได้พบลุงใหญ่เจ้าโดยบังเอิญ  เขาพาข้าไปบ้านเขา!  อืม...เขา  เขาดูตื่นเต้นดีใจยิ่งนัก...เจ้าคงมิได้หมายถึงเรื่องนี้  กระมัง?
                        ยังคิดไม่ออกอีก  ปัญญาทึบเสียจริงตาคนนี้ !
                        น้ำเสียงของเหลียนฟางโจวเนือยลง  หญิงสาวเอ่ยเสียงเนิบ “ข้าคงพูดอะไรมิได้  ท่านไปบ้านเขาเสียเถิด แล้วจะเข้าใจเอง!”
                        “ช่างพูดพิลึกนัก!”  ชุยเฉ่าซีโง่งมไปทันที  เมื่อได้ฟังถ้อยคำที่เอ่ยออกมา  จึงรีบเอ่ยแย้มยิ้ม  “เขาบอกว่าเป็นลุงเจ้าด้วยเหตุนี้ข้าจึงตามเขาไป  ไม่เช่นนั้น  ข้าคงไม่ไปบ้านเขาแน่ฟางโจว...เจ้าบอกข้าให้รู้หน่อยได้ไหม  ว่าแท้จริงแล้วมันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?  ข้า...ข้าไปทำสิ่งใดให้เจ้าขุ่นเคืองหรือไม่? ” 
                        “ท่านชายชุย  ไหนเลยท่านจะรู้อันใดเล่า  วันนั้น ภายหลังท่านจากไปแล้ว....”
                        เหลียนเซ่ออดปริปากไม่ได้  ทว่ายังพูดไม่ทันจบ  ก็เจอขัดจังหวะด้วยเสียงตื่นเต้นดีใจดังลั่นของเหลียนลี่!
                        “คุณชายซูฮ่าฮ่าฮ่า  ท่านมาแล้ว!  ช่างดียิ่งนัก!   ดีอะไรอย่างนี้! “  เหลียนลี่ตื่นเต้นดีใจเหลือจะกล่าว  ดวงตาทั้งคู่ส่องประกายวาววับ  ใบหน้าแดงระเรื่อ   รีบจ้ำพรวดเข้ามาหาชุยเฉ่าซีด้วยจิตใจแช่มชื่นเบิกบาน
                        เหลียนฟางโจว เหลียนเซ่อ และอาเจี่ยนต่างมองหน้ากันและกัน   ครั้นแล้วเหลียนฟางโจวจึงเอ่ยเสียงเรียบ “พวกเราไปกันเถิด!”  พลางเตรียมตีจาก
                        หญิงสาวอดขึงตาใส่ชุยเฉ่าซีไม่ได้  คุณชายซูสินะ ! หากมิใช่เพราะคำว่า คุณชายซูสามคำนี้   เธอเองคงจะเดือดร้อนน้อยกว่านี้
                        ทว่า  เขายังไม่ทันรับรู้ชื่อเรียกนี้ชัดๆ ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาพลาดอันใดไป
                        ชุยเฉ่าซีคลี่ยิ้มแห้งแฝงแววขออภัยให้เหลียนฟางโจว
                        ตกลงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นวะเนี่ย  เขาอยากรู้จะตายอยู่แล้ว !
              “ฟางโจว  เจ้ายืนอยู่ตรงนั้นแหละ!”  เหลียนลี่พอเห็นเหลียนฟางโจวกำลังจะเดินจากไป   จึงไม่รอช้า รีบมาคำนับทักทายชุยเฉ่าซีอย่างเต็มพิธีการ  แล้วหันไปเหน็บเหลียนฟางโจวทันควัน “ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น   ไม่เห็นหรือไงว่าคุณชายซูอยู่ที่นี่?  อย่าบอกนะว่า  เจ้าเกิดรู้สึกประหม่าขึ้นมา !”
                        “ข้านะรึประหม่าไยข้าต้องรู้สึกประหม่าด้วยเล่า!”   เหลียนฟางโจวเหยียดยิ้มเยาะ  ดวงตาทอประกายวาวโรจน์   สีหน้าค่อนข้างตื่นเต้นเล็กน้อย  ด้วยแทบอดใจรอดูงิ้วตรงหน้าไม่ไหว
                        “ฮึ่ม!”  เหลียนลี่แค่นเสียงฮึ่มฮั่ม  “เรื่องแค่นี้ยังต้องให้บอกด้วยรึ?  คุณชายซูมาแล้ว  ไหนๆก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว  สู้มาคุยเรื่องนี้ให้กระจ่างกันไปเลย!  ข้าอยากจะดูนัก  ว่าเจ้าจะแก้ตัวเรื่องนี้อย่างไร!”
                        เหลียนฟางโจวหันไปยิ้มเยาะเหลียนลี่   โดยไม่ต่อปากต่อคำด้วย  ทว่ากลับตวัดสายตาไปหาชุยเฉ่าซีแทน  เอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้มนอบน้อมยิ่งนัก  “ท่านคือสามีของญาติผู้พี่ข้าใช่หรือไม่?
                        “ไม่ใช่!”  ชุยเฉ่าซีถึงกับตกใจที่ตัวเองเอ่ยตอบเสียงลั่น
                        “อ้อ”  เหลียนฟางโจวเปล่งเสียงออกมาคำหนึ่ง “ท่านมิใช่สามีของญาติแซ่ซูข้า  เช่นนั้นรึ?
                        “ข้าย่อมไม่ใช่!”  ชุยเฉ่าซีสั่นหัวปฏิเสธแข็งขัน  แล้วนี่...เขาทำอะไรผิดไปหรือแม้ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร  ทว่าเขาก็ตระหนักได้ว่า  ตนเองต้องทำเรื่องผิดพลาดอย่างแน่นอน  ซ้ำดูเหมือนจะผิดมหันต์เสียด้วย!
                        เขาเห็นท่าทางของลุงใหญ่ที่มีต่อฟางโจวชัดเจน  เชื่อแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง  ว่าสองกันไม่ถูกกันแน่ๆ!
              พอสำนึกถึงจุดนี้ได้  แม้ชุยเฉ่าซีจะรู้สึกผิดคาดไปหน่อย  ทว่าก็ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้เขานัก  ในแวดวงผู้สูงศักดิ์  เรื่องแบบนี้เขาเคยได้เห็นกับตา  ได้ยินกับหูมานักต่อนักแล้ว  ยังจะมีอะไรน่าประหลาดใจนักเล่า?
                        “ลุงใหญ่  ท่านได้ยินชัดเต็มสองหูแล้วใช่ไหม?”  เหลียนฟางโจวแค่นยิ้ม  พลันหันไปทางเหลียนเซ่อกับอาเจี่ยน แล้วเอ่ยว่า “พวกเราไปกันเถิด!”
                        เหลียนลี่ตะลึงงัน  ปากคอสั่น   ไม่อาจโต้ตอบแม้แต่นิด 
                        ชุยเฉ่าซีเห็นเหลียนฟางโจวกำลังสาวเท้าจากไป  จึงรีบร้องเรียก “ฟางโจว!  เจ้ารอข้าด้วย!”  พลันออกเดินตามหญิงสาวไปทันที
                        “คุณชายซู!”  สมองของเหลียนลี่ยังประมวลผลได้ไม่ดีนัก  เขาจึงไม่เรียก ไม่หยุดรั้งเหลียนฟางโจว  ทว่าเขาก็ไม่อาจปล่อยให้ชุยเฉ่าซีจากไปทั้งอย่างนี้ได้!
                        พอจวนตัวเข้า  เหลียนลี่จึงเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อชุยเฉ่าซีให้หยุด  พร้อมทั้งรีบเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “คุณชายซู  เรื่องนี้  ตกลงมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่!   ท่านคือคุณชายสกุลซูใช่หรือไม่ใช่ไยท่านถึงพูดเช่นนั้น...”
                        “ข้าไม่ใช่!”  ชุยเฉ่าซีมุ่นคิ้ว  ดึงมือเขาออกโดยไม่สนมรรยาทอีกต่อไป  “ข้าพูดเมื่อใดกันว่าข้าคือคุณชายซู? “ กล่าวจบก็วิ่งไล่ตามเหลียนฟางโจวไปทันที
                        “คุณชายซู!” เหลียนลี่พลันรู้สึกย่ำแย่ทันใด  หัวใจเต้นกระหน่ำว้าวุ่น  ไหนเลยจะยอมปล่อยชุยเฉ่าซีไปง่ายๆเล่า?  เหลียนลี่จึงรีบแซงขึ้นหน้า  พลางกางแขนขวางหน้าชายหนุ่มเอาไว้   พยายามฝืนยิ้มให้  “คุณชายซูท่านอย่าล้อเล่นขำๆน่า!   ท่านมิใช่คุณชายแห่งสกุลซูรึคราก่อนท่านก็บอกข้าเห็นๆ!”
                        ชุยเฉ่าซีชักโมโห  พลันขึงตาใส่เหลียนลี่เอ่ยด้วยความไม่พอใจ “ใครเล่าจะล้อท่านเล่นขำ?  คราก่อนรึคราก่อนข้าพูดแค่ว่าข้าคือคนสกุลซู  ข้ามิได้บอกว่าข้าคือคุณชายซู!  มารดาข้าคือน้องสาวแท้ๆของประมุขสกุลซู  ข้าก็คือคุณชายลูกพี่ลูกน้องสายเลือดใกล้ชิดสกุลซู  ท่านจะพูดว่าข้าไม่นับเป็นคนสกุลซูครึ่งหนึ่งรึกับการมีสายเลือดครึ่งหนึ่งมีอันใดแตกต่างนักหรือ?  ที่ข้าพูดไปมิได้พูดผิดอันใดมิใช่หรือ?
                        “หากพูดเช่นนี้  ท่านก็คือญาติลูกพี่ลูกน้องของสกุลซู!”  ดวงตาเหลียนลี่เรืองวาบ
                        “ถูกต้อง!”  ชุยเฉ่าซีพยักหน้า  ผลักเหลียนลี่ให้พ้นทาง  พลางร้องเรียก “ฟางโจว!”  แล้วรีบไล่ตามไปทันที
                        ชุยอวี้ส่ายหน้า  รีบหันไปโบกมือให้สารถี “ขับตามไป!”  ส่วนตนเองก็เร่งฝีเท้าตามชุยเฉ่าซีไปติดๆ
                        มิใช่ว่าเขาไม่อยากนั่งรถม้า  ก็ในเมื่อเจ้านายยังลงเดิน  เขาซึ่งเป็นบ่าวรับใช้ไฉนจะนั่งรถได้เล่ามิกลัวชีวิตจะถึงฆาตก่อนวัยอันควรหรือไร?
                        เพียงไม่นาน  ก็เหลือเพียงเหลียนลี่ยืนใบ้กินอยู่ที่นั่นเพียงผู้เดียว
  ----------------------------------------------------------------------
  ขอบคุณทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ ^_^
   มาอัพให้อ่านก่อน  เพราะผู้แปลจะหายตัวไป 10 วัน  แล้วค่อยเจอกันใหม่นะคะ

17 ความคิดเห็น:

  1. รอดูเรื่องสนกต่อค่ะ

    ตอบลบ
  2. มาให้อยากแล้วก็จากไปเหรอคะ

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. คิดถึง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รออีกสิบวัน

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณค่ะสงสารชุยเฉ่าซีเหมือนกันฟางโจวเราไม่แลเลย

    ตอบลบ
  6. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  7. ลำใยคุณชายจริงๆ ไม่เฉลียวบ้างเลย

    ตอบลบ
  8. มาหาเรื่องให้แบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ และก็โดนไปเต็มๆแบบงง

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ3 มีนาคม 2561 เวลา 00:37

    ขอบคุณนะคะ กำลังคิดถึงเลย

    ตอบลบ
  10. อ่อยยยย ทำไมคุณชายซวยเยี่ยงนี้ 5555

    ตอบลบ
  11. ขอบคุณค่ะ รอฉากสนุก ๆ เมื่ออัพนะคะ

    ตอบลบ
  12. ดูน่าจะฉลาดไฉนซื่อจาเข้าขั้นโง่

    ตอบลบ
  13. อิลุงหลี่นี่ยังไม่เลิกบ้าอีก ขอบคุณค่ะจะรอค่ะ

    ตอบลบ
  14. ไม่ระบุชื่อ6 มีนาคม 2561 เวลา 16:06

    ติดตามค่าาา

    ตอบลบ
  15. ขอบคุณนะคะ ลำไยคุณชายนี่จริงๆเลย

    ตอบลบ
  16. หน้าแตกดังเพล้งจนหมอไม่รับเย็บ อิอิอิ

    ตอบลบ
  17. ตั้แต่อ่านมาหลายๆที่​ คือผู้แปล​ แปลดีที่สุด​ ลื่นไหล​ ไม่ติดขัดเหมือนเว็บอื่น​ เว็บอื่นเหมือนผู้แปลยังสับสนอ่ะ​ อยากให้กลับมาแปลอีกจัง​ คือชอบมากนะ

    ตอบลบ