วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 171 เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ

            พอคนทั้งหลายก้าวเท้าเข้ามาในเรือน  ก็ทำให้เรือนนั้นดูคับแคบลงไปถนัดตา
            เหลียนฟางโจวรีบแนะนำชุยเฉ่าซีกับป้าสาม  ซ้ำยังเรียกเหลียนเช่อให้เข้ามาทำการคารวะชายหนุ่มอีกด้วย
            ชุยเฉ่าซียิ้มแย้มเปี่ยมด้วยมรรยาท  แล้วจึงยื่นหยกประดับสีขาวให้เหลียนเช่อเป็นของขวัญเป็นอย่างแรก  ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างย่อมไม่พลาดคะยั้นคะยอให้เด็กชายเรียกเขาว่าเปี่ยวเกอ
            เหลียนเช่อเหลือบมองเหลียนฟางโจว  เห็นพี่สาวไม่คัดค้านอันใด  จึงก้าวเข้ามาขอบคุณและรับของขวัญไป

            เพราะมีเหลียนฟางฉิงมารับลูกต่อ  เหลียนฟางโจวจึงสนทนาด้วยเพียงเล็กน้อย  ส่วนป้าสามและเหลียนเช่อยามได้ยลรูปโฉมและท่าทางของชุยเฉ่าซี  แม้ทั้งสองจะตกตะลึงมิใช่น้อย  ทว่าการแสดงออกของชายหนุ่มดูมิได้ถือตัวอันใด   ดูแล้วนับว่าวางตัวได้เหมาะสมดี
เหลียนฟางโจวจึงเอ่ยแย้มยิ้ม “เจ้านั่งที่นี่อยู่คุยเป็นเพื่อนแขกไปก่อนนะ!  ข้ากับป้าสามจะเข้าครัวไปทำอาหาร!   คืนนี้คุณชายชุยจะอยู่กินมื้อค่ำที่บ้านเรา!”
จะให้เรียกขานชื่อเขาว่าหมิ่นจือรึหากเหลียนฟางโจวเป็นคนโง่งมเสียหน่อย  ก็คงเรียกนามจริงเขาไปแล้ว!
“เปี่ยวเกอผู้งดงามจะอยู่กินมื้อค่ำที่บ้านเราหรือเยี่ยมไปเลย!”  เหลียนฟางฉิงดีใจยกใหญ่  พลางเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
ชุยเฉ่าซีได้แต่ก้มหน้า ไม่ยอมเงยหน้าเลยสักนิด!  ชายหนุ่มอยากกำจัดคำว่า งดงามสองคำนี้ออกไปเสียจริงๆ....
  ครั้นแล้วชุยเฉ่าซีจึงได้แต่ทอดมองเหลียนฟางฉิง  ด้วยสีหน้าที่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือหลั่งน้ำตาดี
“จริงๆรึ?”  ป้าสามเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ  พลางพูดโพล่งออกมา “เย็นย่ำขนาดนี้แล้ว  ท่านยังเดินทางกลับได้ใช่หรือไม่?”
“ข้ามิได้ไปไหน  ข้าจะพักที่บ้านพวกท่านคืนนี้!”  ชุยเฉ่าซียิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“บ้านเราไม่มีที่พอให้นอนหรอกนะ!”  ป้าสามเลื่อนสายตาไปยังชุยเฉ่าซี  อดเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ “ขนาดเตียงดีๆ ที่บ้านเรายังไม่มีเลย  จะให้บุคคลระดับเปี่ยวกงจื่อ(ท่านชายที่ดองกันเป็นญาติ)นี้มาพักอยู่ด้วย  จะไม่เป็นการทำผิดต่อท่านรึ?”
เปี่ยวกงจื่อ.....
ครั้นชุยเฉ่าซีได้ยินคำเรียกขานเช่นนี้ ก็เอ่ยอย่างแช่มชื่นว่า “ไม่ผิดอันใดต่อข้าหรอก!    เหลียนฟางโจวได้แต่ไบ้กิน  แล้วจึงรีบไปดึงตัวป้าสามออกมา “พวกเราเข้าครัวกันเถิด!”
            ป้าสามถูกเหลียนฟางโจวลากตัวเข้ามาในครัวจนได้   ป้าสามยังคงจุ๊ปากชื่นชม พลางถอนหายใจออกมา  พร่ำเพ้อว่าชุยเฉ่าซีช่างหล่อเหลาสง่างามนัก  การแต่งกายดูดีไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า   น้ำเสียงยามเจรจาก็ช่างไพเราะเพราะพริ้ง  ไม่รู้เลยจริงๆว่าสวรรค์ทำอีท่าไหนถึงได้เสกสรรค์ปั้นแต่งบุคคลเช่นนี้ออกมาได้  รวมทั้งอะไรต่อมิอะไรมิได้หยุด
            เหลียนฟางโจวได้ยินแล้วก็ยังไม่ปริปากอันใด  ได้แต่รำพึงในใจเงียบๆว่า  ก็เขากำเนิดมาในชาติตระกูลสูงส่ง  คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด   ธรรมเนียมพิธีการต่างๆย่อมมิใช่ชั่ว  หากยังไม่สามารถมีบุคลิกท่าทางและมรรยาทเช่นนี้แล้ว  ก็แสดงว่าต้องเป็นคนโง่เซ่อมิใช่น้อย!
            “เปี่ยวกงจื่อผู้นี้นับว่าเป็นญาติที่หล่อเหลางดงามเสียจริงๆเฮ้อ  ไม่รู้ว่าในภายหน้าใครจะโชคดีได้แต่งเป็นภรรยาเขากันน๊า  หากเป็นเช่นนั้นแล้ว  คงได้ตกไหน้ำผึ้งจนชุ่มโชกแน่!”  ป้าสามเอ่ยด้วยรอยยิ้ม พลางทอดถอนใจออกมา  ขณะที่ปากพูดไป  หญิงกลางคนก็หันไปปรายตาใส่เหลียนฟางโจวอีกด้วย
            “ป้าสาม!”  เหลียนฟางโจวตื่นตระหนกทันที  หญิงสาวถลึงตาใส่  พลางเอ่ยเสียงเข้ม “ที่ท่านชายชุยให้ความสำคัญกับบ้านเรามากนั้น ก็เพราะเห็นแก่หน้าเปี่ยวเจี่ยและสามีของนางซึ่งเป็นคนสกุลซู    ไม่ว่าเขาจะแสดงสีหน้าอย่างไร  พวกเราอย่าได้สำคัญตนผิดไปบุคคลเช่นคุณชายชุยนี้  มิใช่ผู้ที่เราจะทำตัวตีเสมอได้หากเกิดคิดเกินเลยขึ้นมา แล้วท่านชายชุยรู้เข้า  คงได้ขายหน้าเป็นแน่แท้  ต่อไปภายหน้าพวกเราจะมีหน้าไปพบเปี่ยวเจี่ยและสามีของนางได้รึนี่คือการตัดอนาคตการงานตัวเองแท้ๆ  ท่านพูดอะไรของท่านกันเนี่ย?”
            ป้าสามสะดุ้งตกใจ  หน้าซีดไปนิดหนึ่ง  แล้วรีบเอ่ยเสียงตะกุกตะกักทันที  “ข้า...ข้า...ข้าก็แค่พลั้งปากไปนิดเดียวเอง!  นิดเดียวจริงๆ   เรื่องไหนหนักเรื่องไหนเบา ข้าเองก็รู้เหมือนกันนะ  เจ้าวางใจเถิด   ข้าไม่พูดแล้ว  ไม่พูดไม่คิดอะไรแล้วด้วย!”
            ลองมาคิดทบทวนดูอีกที  ท่านชายชุยมีฐานะระดับไหนแล้วครอบครัวนางมีฐานะระดับไหนไยเขาจะชายตาแลฟางโจวเล่าเฮ้อต่อให้เขาคิดเกินเลยกับหลานสาวนางขึ้นมาจริงๆ  ฟางโจวจะยอมเข้าไปเป็นอนุของสกุลชุยหรือ?  คนอย่างหลานสาวนางเนี่ยนะ!
            และที่สำคัญกว่านั้น  หากเกิดเป็นเรื่องจริงขึ้นมา  แล้วเป็นเหตุให้สกุลซูไม่พอใจ  ก็คงยกเลิกสัญญากู้เงิน  และคงไม่ให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินทองกับบ้านนางอีกต่อไป  ช่างได้ไม่คุ้มเสียเอาเลย!
            “ท่านเข้าใจแล้วนะ! “ เหลียนฟางโจวเห็นป้าสามหน้าซีด ก็ชักไม่สบายใจขึ้นมา  เห็นได้ชัดว่านางยังหวาดหวั่นกับสิ่งที่เธอพูดไป  หญิงสาวจึงเอ่ยอีกคราว่า  “เขามาเป็นแขกของบ้านเรา  เราก็ตั้งใจดูแลต้อนรับเขาให้ดีที่สุด  แต่ก็ไม่ต้องพะเน้าพะนอเอาใจประหนึ่งเป็นข้าทาสบริวารของเขาหรอก!  ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น!”
            “อ้อ....”  ป้าสามผงกศีรษะคราหนึ่ง  ไหนเลยนางจะยังกล้าคิดฟุ้งซ่านอันใดอีกเล่า ก็เหลียนฟางโจวเป็นคนพูดจาคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว
            “แล้วอย่างคำว่า เปี่ยวกงจื่อ อะไรนั่นอีก “เหลียนฟางโจวเอ่ยพร้อมถอนหายใจ “ควรเรียกเขาว่าท่านชายชุยจะดีกว่านะพวกฉิงเอ๋อร์อายุยังน้อย  จะเรียกขานเขาอันใดด้วยความสนุกหรือขาดความสำรวมไปบ้างก็ยังดูไม่น่าเกลียดนัก  ทว่าผู้ใหญ่อย่างเราห้ามเสียมรรยาทเด็ดขาดบ้านเรากับสกุลชุยมีธุระเกี่ยวพันอะไรกันหรือแล้วเราจะไปเรียกขานเขาว่าเปี่ยวกงจื่อได้อย่างไรเล่า
            “ที่เจ้าพูดมาถูกต้องแล้ว  ล้วนเป็นข้าเพ้อเจ้อไปเอง  ข้าฟั่นเฟือนไปเอง!”  ป้าสามหัวเราะแหะๆ พลางเอ่ยแก้ต่างให้ตนเอง “ข้าไม่ได้มองท่านชายเป็นญาติเลย  โอ้ไม่เลยทั้งนั้น  รูปโฉมอย่างท่านชายชุยนี่  ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์เช่นนี้  ทั้งมรรยาทสง่างามเช่นนี้   ข้าล้วนนึกนิยมในใจเพียงเท่านั้น   ที่เรียกขานไปก็หวังแค่จะได้สนิทสนมกันมากขึ้น  หลังจากได้ฟังที่เจ้าพูดเตือน   ข้าก็กระจ่างแจ้งแล้วท่านชายชุย  ท่านชายชุย  ข้าจะไม่เรียกขานผิดแล้วล่ะ ฮะฮะ!”
            เหลียนฟางโจวพยักหน้า “ป้าก็จำไว้ไห้จงดีล่ะ!”
            ป้าสามจึงเอ่ยอีกครา “ไม่ว่าจะพูดอย่างไร  ท่านชายชุยก็คือแขกผู้ทรงเกียรติของบ้านเรา  พวกเราต้องรับขับสู้ผู้อื่นให้จงดี  คืนนี้เราต้องทำอาหารดีๆสักสองสามอย่างเลี้ยงใช่หรือไม่?”
            “ย่อมเป็นเช่นนั้น!”    เหลียนฟางโจวพยักหน้า พลางเอ่ย “ท่านไปซื้อไก่และเป็ดกลับมาอย่างละตัว  เราจะทำไก่ตุ๋นเห็ด   เป็ดผัดกับเผือก  ไข่เจียวต้นหอมสับ  ต้นกระเทียมผัดหมู  แล้วก็ทำผัดผัดกาดขาวมาอีกสักจาน!”
เป็ดผัดกับเผือก

ต้นกระเทียมผัดหมู

            ป้าสามร้องรับคำ ได้” แล้วเอ่ยอย่างแสนเสียใจว่า “น่าเสียดายจริงๆ  หากเขามาเร็วกว่านี้อีกสักสองสามวัน  คงได้ลิ้มลองเนื้อไก่ฟ้ากับกระต่ายป่าไปแล้ว!”
            เหลียนฟางโจวเอ่ยแย้มยิ้ม  นานทีปีหนนะ  ข้าถึงจะเห็นท่านมิได้พูดว่าสิ้นเปลืองเหลือแสน!  ไก่ฟ้ากับกระต่ายป่า ในสายตาของผู้อื่นนับเป็นอะไรได้  ท่านอย่าไปเสียดมเสียดายเลย!   ยามนี้เรามองหาแต่สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว  เอาไว้ต้อนรับแขกก็แล้วกัน!”
            คนสกุลชุยเป็นคนประเภทไหนกันเล่าหากไม่มีเนื้อสัตว์ป่าแล้วจะกินไม่ได้เลยหรือไร !
            ป้าสามหัวเราะแหะๆ  “มันจะเหมือนกันได้อย่างไร   ก็ท่านชายชุยผู้นี้คือแขกผู้สูงส่งนี่ เช่นนั้น..ข้าไปซื้อไก่กับเป็ดก่อนละนะ  เจ้าก็ต้มน้ำไว้หม้อหนึ่ง  รอข้ากลับมาแล้ว ค่อยฆ่าเป็ดไก่!”
            เหลียนฟางโจวรับคำ  พอเห็นป้าสามคล้อยหลังไปแล้ว  หญิงสาวจึงเริ่มต้มน้ำ  ซ้ำยังซาวข้าวและหุงข้าวไปด้วย  จากนั้นหญิงสาวจึงย้ายม้านั่งไปนั่งหน้าเตาเพื่อดูไฟในเตา
            ไม่นานป้าสามก็กลับมา  เหลียนฟางโจวออกไปยืนรอรับไก่มาจากมือนาง  พลางเอ่ยแย้มยิ้ม  พวกเรารีบเข้าครัวกันเถิดอากาศข้างนอกเย็นนัก!”
            ป้าสามย่อมไม่มีข้อคัดค้าน
สองคนช่วยกันฆ่าไก่และเป็ด  ถอนขน  ล้างให้สะอาด  จัดการทุกอย่างเรียบร้อยด้วยความว่องไวเหลือแสน
ครั้นแล้วป้าสามก็สับเป็ดและไก่  ส่วนเหลียนฟางโจวก็ล้างผักให้สะอาดรอท่าไว้
เมื่อเป็ดไก่ถูกฆ่าและสับเรียบร้อยแล้ว  จึงเริ่มลงมือทำอาหาร
เห็ดที่เหลียนฟางโจวเลือกมาทำอาหารคือเห็ดหอมและเห็ดโคนดอกใหญ่  รวมทั้งเห็ดชนิดอื่นอีกนิดหน่อยเพื่อไว้เป็นเครื่องชูรส  ครั้นแล้วจึงนำไก่ที่สับเตรียมไว้แล้ว ใส่ลงในหม้อน้ำเดือด  แล้วค่อยตุ๋นกับเห็ดด้วยไฟอ่อน  ส่วนเนื้อเป็ดนั้น โรยเกลือใส่นิดหนึ่ง แล้วหมักทิ้งไว้
รอตุ๋นไก่กับเห็ดผ่านไปครึ่งชั่วยาม  จากนั้นจึงเริ่มลงมือปรุงอาหารจานผัดต่อ
ด้วยกลัวว่าชุยเฉ่าซีจะหนาว  หญิงสาวจึงให้คนเอาอ่างใบใหญ่ใส่ถ่านเข้าไปในห้อง  ถึงอย่างไรบ้านนี้ก็มีเศษถ่านตุนไว้เป็นอันมาก  จึงไม่กังวลเรื่องเผาถ่านเพื่อให้ความอบอุ่น
ชุยอี้เห็นแล้วให้รู้สึกพึงพอใจนัก   บ่าวรับใช้หนุ่มอดลอบประเมินเหลียนฟางโจวมิได้  พลางรำพึงในใจว่า แม่นางเหลียนช่างเป็นผู้ที่มีจิตใจเอื้ออารีย์ยิ่งนักทั้งยังต้อนรับขับสู้อย่างดีเยี่ยม!
  ..
   -------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ และการติดตามค่ะ^_^

12 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ24 พฤษภาคม 2561 เวลา 07:07

    ขอบคุณมากค่ะ
    รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณค่ะ อาหารมื้อนี้น่ากินทุกรายการเลย แหะๆน้ำลายจะไหลแล้ว

    ตอบลบ
  3. เมนูอาหารน่ากินจริงๆค่ะ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณค่ะ อ่านไปน้ำลายจะไหลไป

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณค่ะ รอเมนูใหม่จากหนูโจวนะคะ

    ตอบลบ
  6. การบรรยายอาหารเรื่องนี้คือสุดจริงๆ

    การกินอยู่นี้เห็นภาพมาเลยค่ะ

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณค่ะ
    อ่านไปน้ำลายไหลไป

    ตอบลบ
  8. มารบกวนเค้าหลายตอนละ อันเชิญท่านชายชุยกลับที่เถอะค่ะ

    ตอบลบ
  9. โชคดีที่มีของกินวางอยู่ข้างตัว

    ตอบลบ
  10. อยากกินเป็ด😁💗💗

    ตอบลบ