วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 173 ขอเปิดห้องพัก 2


สตรีผู้นี้ยามอบรมสั่งสอนมักพยักหน้ามีท่าทีรับฟังคำแนะนำเป็นอันดี  ทว่าพอมีความโลภเข้ามาในหัว  ก็สำแดงสันดานเดิมออกมาทันที  สองตาคอยควานหาแต่ผลประโยชน์เท่านั้น  เรื่องอื่นๆล้วนถูกโยนทิ้งไว้ข้างหลัง
 “ฟางโจว...นี่คือ..ฮ่าฮ่า   เจ้าชอบเห็นผู้อื่นเป็นคนอื่นคนไกลไปได้  หากมีเรื่องอันใดอยากให้ช่วยก็จงบอกมาเถิด  การให้ความช่วยเหลือเป็นงานหลักของข้าคนนี้อยู่แล้ว  ไม่ควรให้บ้านเจ้าต้องมาสิ้นเปลืองเงินทองเลย “ จางลี่เจิ้งเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน 

“ข้ามีเรื่องที่คิดอยากรบกวนท่านลุงลี่เจิ้งและป้าหนิวช่วยเหลือจริงๆนั่นแหละ   เพียงขอยืมดอกไม้ถวายพระพุทธองค์สักหน่อยเถิด”(ขอยืมสิ่งของๆผู้อื่น เพื่อแก้ปัญหาของตน)
เหลียนฟางโจวยิ้มแย้ม พลางเอ่ยเสียงเนิบ “คืออย่างนี้  ที่บ้านข้ายามนี้มีสหายท่านหนึ่งมาเยือน   เขาเป็นญาติร่วมสายโลหิตของคุณชายสกุลซูแห่งเมืองชวงหลิวผู้ซึ่งเป็นสามีเปี่ยวเจี่ยของข้าเอง   เขาคือท่านชายสกุลชุยแห่งเมืองเต๋อซิง  พูดอีกทีก็คือเขาตั้งใจมาดูความคืบหน้าโครงการปลูกฝ้ายของบ้านข้า  วันนี้คุยธุระติดพันอยู่จนมืดค่ำ  จึงไม่อาจเดินทางกลับได้  เลยจำต้องพักค้างคืนหนึ่ง  ทว่าท่านลุงลี่เจิ้งก็รู้สภาพบ้านข้าดี  ไหนเลยจะมีที่นอนให้แขกพักค้างคืนได้  หากบ้านท่านลุงลี่เจิ้งพอจะมีห้องว่างสักห้อง  จะขออนุญาตพาท่านชายชุยผู้นั้นพักที่บ้านท่านสักคืนหนึ่งได้หรือไม่  ตัวข้าเองจนปัญญานัก  จึงได้บากหน้ามาขอพึ่งท่านลุงลี่เจิ้งแล้ว”
“เรื่องนี้เองน่ะหรือ”  พอหนิวซื่อได้ยินว่าหญิงสาวจะขอให้คนแปลกหน้ามาพักบ้านตน  แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นนี้  แถมเหลียนฟางโจวยังออกปากว่า ขอห้องว่าง อีกด้วย  ชัดเจนว่าอยากได้ห้องพักส่วนตัว  นางจึงค่อนข้างรู้สึกไม่พอใจ
“ที่เจ้าพูดมาหมายถึงคนสกุลชุยแห่งเมืองเต๋อซิงเดินทางมาเยือน  ข้าคงฟังไม่ผิดใช่ไหม”  จางลี่เจิ้งอึ้งงันไปอึดใจ  ครั้นแล้วจึงรีบเอ่ยแย้มยิ้ม “บ้านข้ามีห้องว่าง  ทั้งยังมีเครื่องนอนใหม่เอี่ยมอีกด้วย  เจ้าวางใจเถิด  พาท่านชายชุยมาได้เลย  ข้าเองก็อยากต้อนรับเขาด้วยเช่นกัน”
“อันที่จริงไม่ควรให้ท่านลุงลี่เจิ้งต้องมาลำบากเลย  ข้าต้องขอบคุณท่านลุงมาก  ประเดี๋ยวข้าจะให้อาเจี่ยนและอาเซ่อมาส่งท่านชายพร้อมบ่าวรับใช้อีกสองคนเอง  เช่นนั้น..ข้าคงต้องขอตัวก่อนละนะ”  เหลียนฟางโจวคาดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าผู้อาวุโสต้องตกปากรับคำแน่
“ได้สิ  เจ้าล่วงหน้าไปก่อนเถอะ ข้าจะรออยู่ที่นี่เอง  ฮ่าฮ่า  จะได้ไปจัดเตรียมห้องพักไว้ล่วงหน้าด้วย”  จางลี่เจิ้งถูไม้ถูมือเตรียมพร้อมลงมือ   ดวงตาทั้งสองส่องประกายด้วยความตื่นเต้น
“เช่นนั้น..เชิญท่านลุงลี่เจิ้งเร่งมือเถิด  ข้าไปก่อนล่ะ”  เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้ม แล้วจึงเดินจากไป
พอเหลียนฟางโจวคล้อยหลังไปแล้ว   จางลี่เจิ้งก็หันมาขึงตาใส่หนิวซื่อ พลางออกคำสั่งอย่างเร่งด่วน  “ทำหน้าอึ้งตะลึงอันใด  ยังไม่รีบไปอีก  รีบไปทำความสะอาดห้องปีกตะวันออกเร็วเข้า  ไปเรียกลูกสะใภ้ให้มาช่วยเจ้าจัดเตรียมห้องด้วย  ต้องทำความสะอาดให้เรียบกริบเลยนะ  อย่าให้มีฝุ่นในห้องหรือบนที่นอนแม้สักเม็ด  ให้ลูกสะใภ้ไปเอาผ้าห่มนวมผืนที่เพิ่งเย็บใหม่หลังพวกเขาแต่งงานออกมาใช้ด้วย  แล้วเอากระถางเตาไฟที่หรูหราที่สุดเข้าไปจุดไว้ในห้องอันหนึ่งด้วยล่ะ  ไม่สิ  รีบไปเอามาสองกระถางเลย  ไปได้แล้ว”
กระถางไฟ
พอจางลี่เจิ้งสั่งการจบ  ก็เห็นหนิวซื่อทำตาโต ยืนทำหน้าโง่งมอยู่ที่เดิม  คิ้วของชายชราจึงขมวดขึ้นโดยพลัน  พลางส่งเสียงตะคอก “ที่ข้าบอกไป เจ้าไม่ได้ยินรึ”
“ฝันไปเถอะ  เชอะ  เจ้ามันถูกปีศาจเข้าสิงไปแล้วหรือไร  ทีบิดามารดาข้ามาก็ไม่เห็นต้องทำอะไรอึกทึกครึกโครมเช่นนี้เลย  นี่มันสหายของผู้อื่นนะ”  หนิวซื่อบ่นพึมพำไม่พอใจ  ทำเป็นเอาของกำนัลขี้ประติ๋วมาให้นาง   ที่แท้ก็มีแผนจะขอความช่วยเหลือเช่นนี้นี่เอง  โชคดีหรือโชคร้ายกันแน่เนี่ย
“เจ้าจะไปรู้อะไร”   จางลี่เจิ้งเอ่ยขึ้นประดุจผู้พึ่งบรรลุธรรมมาเอง “นางฟู่เหริน(สตรีที่แต่งงานแล้ว)ตาต่ำ  โง่เขลาไม่รู้ความเอ๋ย  เจ้าไม่ได้ยินที่ฟางโจวพูดหรือไร  แขกผู้นั้นน่ะ  แท้จริงแล้วคือท่านชายชุยแห่งเมืองเต๋อซิง ราชนิกุลที่มั่งคั่งและทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งแห่งภาคตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นเชียวนะ  ท่านผู้นั้นจะมาพักบ้านเราคืนนี้  แน่นอนว่าเป็นเกียรติอย่างหาที่สุดไม่ได้ของบ้านเรา  เข้าใจหรือไม่”
“ฮ้า” หนิวซื่อพอโดนสามีเอาคำว่าราชนิกูลที่มั่งคั่งและทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งเข้ามาล่อ  ฟู่เหรินวัยกลางคนถึงกับอุทานออกมา  “จริงๆรึ  สกุลชุยนี่นะ จะมาเกี่ยวดองเป็นญาติกับสกุลเหลียนได้อย่างไร  ฟางโจวมิได้ปดพวกเราใช่ไหม”
“เฮอะ” จางลี่เจิ้งสะบัดแขนเสื้อ  สีหน้าเปี่ยมด้วยความดูแคลน พลางเอ่ยขึ้น “ก็เพราะอย่างนี้ไง ข้าบอกได้เลยว่าเจ้าคือฮ่องเต้ผู้โง่เขลาเบาปัญญา  จนป่านนี้ถึงได้ยังมีแต่ญาติมิตรที่ยากจนรายล้อมอยู่นะสิ   เจ้ามิได้ยินที่ฟางโจวบอกรึ  ว่าสกุลชุยกับสกุลซูแห่งเมืองชวงหลิวเป็นญาติกัน  นี่แหละข้อดีที่ความสัมพันธ์ฉันท์เครือญาตินำพามาให้”
เขาหมดความอดทนจะอธิบายให้หนิวซื่อฟังแล้วจริงๆ   ขนาดเขาจาระไนไปตั้งหลายอย่างแล้ว หนิวซื่อก็ยังไม่เข้าใจเสียที  ชายชรานึกตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง  จึงเอ่ยสรุปสั้นๆ  “เห็นขนมและใบชาที่ฟางโจวนำมามอบให้เราไหม  ลำพังกระป๋องใส่ใบชาก็ทำด้วยเงินแท้แล้ว  ของมีค่าปานนี้มีแต่คุณชายจากสกุลอภิมหาคหบดีผู้มั่งคั่งร่ำรวยเท่านั้น  ถึงจะมีปัญญาซื้อของหรูหราเลอค่านั้นมาได้  เขาจะไม่มาพักที่บ้านเราเปล่าๆปลี้ๆ   เขาย่อมต้องสมนาคุณเป็นเงินตำลึงให้แก่เจ้าเป็นแน่  อย่างไรก็ไว้หน้าข้าด้วยล่ะ  อย่าได้ไปเอ่ยปากขอใครเขา  ใจเย็นๆรอคอยไปเดี๋ยวก็ได้เอง”
ดวงตาหนิวซื่อเปล่งประกายวาววับ  เอ่ยด้วยความดีใจและประหลาดใจปนกัน  “จะมีการให้รางวัลเป็นเงินตำลึงด้วยรึ”
“แน่นอน รีบไปเถิดน่า”  จางลี่เจิ้งเอ่ย
“อ๋า..ไปแล้วๆ  ไปเดี๋ยวนี้เลย”    พอได้ยินคำกล่าวแล้ว  หนิวซื่อจึงกุลีกุจอคว้าไม้กวาดทันที  พร้อมกับตะโกนเรียกหาลูกสะใภ้เสียงขรม
ฝ่ายจางลี่เจิ้งอดตะโกนสำทับอีกคราไม่ได้ “ทำตามที่ข้าสั่งไปเมื่อครู่นะ  อย่าให้ข้าต้องมาปากเปียกปากแฉะอีกล่ะ”  พอกล่าวจบก็เดินออกไป
แต่แล้วชายชราก็หยุดชะงัก คิดใคร่ครวญอีกครา  ครั้นแล้วจึงถอนหายใจดังเฮือก  พลางสั่นศีรษะ  แล้วรำพึงว่า “ข้าไปดูและกำกับเองจะดีกว่า”
ฝ่ายเหลียนฟางโจวได้บอกให้ชุยเฉ่าซีไปพักที่บ้านจางลี่เจิ้งคืนนี้  คราแรกชุยเฉ่าซีอิดออดไม่เต็มใจ  เอาแต่ยืนกรานไม่ยอมไปท่าเดียว
ลงท้ายเหลียนฟางโจวชักเริ่มออกอาการโมโห  ชุยเฉ่าซีผู้ซึ่งรู้สึกไม่เต็มใจอย่างที่สุด  จึงจำต้องตกลง
เหลียนเซ่อและอาเจี่ยนจึงพาเขาไปส่ง
ชุยอี้รีบเอาสัมภาระสองห่อใหญ่ลงมาจากรถม้า และวานให้อาเจี่ยนกับเหลียนเซ่อช่วยขนไปด้วย   ซ้ำยังเอาผ้านวมขนแกะทอลายผืนหนาที่ท่านชายไว้ห่มนอน  ม้วนหอบออกมาด้วย  แล้วเดินดุ่มๆตรงไปยังบ้านจางลี่เจิ้ง
จางลี่เจิ้งยืนอยู่ใต้ชายคาหน้าประตูรั้วรอท่าอยู่แล้ว   ทั้งสองฟากของประตูนั้นแขวนโคมไฟขนาดใหญ่ใหญ่สองดวง    ทำให้บริเวณนั้นสว่างจ้าตัดกับท้องฟ้ามืดมิดยามราตรี
ชัดเจนว่า  เจ้าของบ้านเตรียมไว้เพื่อต้อนรับชุยเฉ่าซีโดยเฉพาะ
พอเห็นคนทั้งหลายมากันแล้ว  จางลี่เจิ้งจึงรีบก้าวมาข้างหน้าพร้อมประสานมือคารวะ พลางเอ่ยทักทายท่านชายด้วยรอยยิ้ม  หากเหลียนฟางโจวอยู่ที่นี่ในตอนนี้ด้วย  จะรู้เลยว่าจางลี่เจิ้งได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เดิมมาเป็นชุดใหม่เอี่ยมอีกด้วย
ชุยเฉ่าซีมิได้เป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่างอันใด   ชายหนุ่มเห็นจางลี่เจิ้งผู้พ่อและบุตรชายต้อนรับแขกด้วยมรรยาทงดงาม  จึงแย้มยิ้มและประสานมือคารวะกลับไป
หนิวซื่อและลูกสะใภ้ซึ่งอุ้มบุตรชายมาด้วย ชะโงกหน้าเมียงมองออกมาจากในบ้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น  อาศัยแสงจากโคมไฟ  เมื่อห็นรูปร่างหน้าตาและอาภรณ์อันงดงามตระการตาของชุยเฉ่าซีแล้ว   สตรีทั้งสองจึงพากันยืนนิ่งเป็นรูปปั้นไปในบัดดล
หนิวซื่อถึงกับจุ๊ปากอุทานออกมาด้วยความชื่นชม “ข้าหมดความกังขาแล้ว กับคำกล่าวราชนิกูลที่มั่งคั่งและทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งแห่งภาคตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้น  ดูกิริยามรรยาทอันสง่างามนี่สิ  จุ๊ๆ  จริงๆเลย..อา  บ้านเราเลยดูต่ำต้อยซอมซ่อไปเลย  หากไม่โดนตำหนิก็นับว่าประเสริฐแล้ว”
คราแรกนางรู้สึกไม่เต็มใจที่อีกฝ่ายจะมาเอาเปรียบบ้านตน  แต่พอทอดตามองในยามนี้แล้ว หนิวซี่พลันเปลี่ยนความคิดที่มีอยู่ในใจไปสิ้น
“เชิญท่านชายชุยเข้าไปนั่งข้างใน  ดื่มชาสักถ้วยเถอะขอรับ”  จางลี่เจิ้งยิ้มแย้มเชื้อเชิญ
ไปพักบ้านผู้อื่น  จะไม่เข้าไปนั่งในโถงรับรองคงไม่ได้  ชุยเฉ่าซีจึงเอ่ยแย้มยิ้ม “รบกวนท่านแล้ว”  พลางเดินตามจางลี่เจิ้งไป
จางลี่เจิ้งจึงเรียกหนิวซื่อไปชงชา
ชุยเฉ่าซีรับน้ำชามา  จิบเพียงสองอึก แล้วจึงวางลง
จางลี่เจิ้งตื่นเต้นยิ่งนัก  ไม่รู้ว่าจะชวนชุยเฉ่าซีพูดคุยอย่างไรจึงจะดี  ชุยเฉ่าซีชินเสียแล้วกับท่าทีของผู้อื่นที่ปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้  จึงตอบรับแบบไม่ยินดียินร้าย
เพียงไม่นาน  อาเจี่ยนและเหลียนเซ่อก็ลุกขึ้นขอตัวกลับ  ชุยเฉ่าซีจึงถือโอกาสลุกขึ้นแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่าดึกแล้ว จะขอตัวไปพักผ่อนด้วย
จางลี่เจิ้งพร้อมด้วยบุตรชายจึงรีบนำทางชุยเฉ่าซีพร้อมบริวารไปห้องปีกข้างด้วยตนเอง   ระหว่างทางที่เดินไปย่อมพูดคุยยกยออาคันตุกะอีกหลายคำ
พอพาชุยเฉ่าซีไปถึงห้องพักแล้ว   จางลี่เจิ้งและบุตรชายจึงเอ่ยขอตัวอย่างรู้กาละเทศะ  ชายชราเอ่ยแย้มยิ้ม  เปี่ยมด้วยมรรยาทงดงาม “บ้านนี้ซอมซ่อไปหน่อย  ต้องขออภัยท่านชายชุยด้วย  หากประสงค์สิ่งใด  ได้โปรดบอกมาเลยนะขอรับ”
ชุยเฉ่าซีเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้ม  พอเห็นสองคนพ่อลูกคล้อยหลังไปแล้ว   จึงสั่งให้ชุยอี้ปิดประตูห้องพักรับรอง
--------------------------------------
ขอบคุณทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ^_^
ต้องขออภัยที่อัพช้าอีกแล้ว

12 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณผู้แปลค่ะ...สนุกมากรอตอนต่อไปนะค่ะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากค่ะ
    ดีใจทุกครั้งที่มีตอนใหม่ให้อ่าน

    ตอบลบ
  3. เพียบพร้อมปานน้ มิน่าถึงได้เป็นพระรอง

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณค่ะ สงสารพระรองจัง

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณไรท์ค่ะมาส่งกำลังใจค่ะ😍

    ตอบลบ
  6. คุณชายชุยจะมีคู่มั้ยนะ หล่อตั้งแต่เปิดตัว จนตอนนี้ก็หล่อแบบอยู่เหนือตัวละครในเรื่องทุกตัวเลยอ่ะ

    ตอบลบ