วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 174 ขอเปิดห้องพัก 3


ชุยเฉ่าซีถอนหายใจออกมายาวเหยียด  พลางยกมือนวดหัวคิ้วแล้วเอ่ยยิ้มๆ “ข้าพักที่บ้านฟางโจวยังสะดวกใจเสียกว่า   ยกเว้นคนบ้านนางแล้ว  คนพวกนี้ก็ล้วนเหมือนๆที่ข้าเคยเจอมาทั้งหมด”
ชุยอี้กำลังปูที่นอนและจัดข้าวของอย่างคล่องแคล่ว  ขณะที่เงี่ยหูฟัง มือก็ยังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด  ส่วนปากก็พร่ำพูดไปด้วย  “ก็เพราะท่านมีชาติตระกูลสูงศักดิ์ นี่ขอรับ  ใครๆเขาย่อมต้องให้ความเคารพนบนอบในฐานะท่านชาย  
ชุยเฉ่าซีแค่นเสียงเบาๆ  พลางเอ่ยว่า “ฟางโจวหาได้เป็นเช่นนี้เสียหน่อย”

“แม่นางเหลียนรึ”  ชุยอี้ชะงักไป  เดิมทีเขาคิดจะพูดว่านางจัดเป็นคนแปลก  ด้วยที่นางห้าวหาญเกินคนและเจ้าหลักการเกินใคร  แต่พอนึกถึงที่ท่านชายของตนมองว่านางไม่เหมือนใคร  บ่าวหนุ่มจึงพลันหันหน้ามาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ในใต้หล้านี้คนที่มีนิสัยคล้ายแม่นางเหลียน  คงมีแทบนับนิ้วได้ ขอรับ”
วาจาของชุยอี้ถูกใจชุยเฉ่าซีนัก  ชายหนุ่มจึงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง  พลางเอ่ยแย้มยิ้ม  “ในสายตาของข้า  พูดได้เลยว่า ไม่มีผู้ใดในใต้หล้านี้จะเทียบชั้นฟางโจวได้  แม้แต่เปี่ยวเส้าเอง (ภรรยาของญาติชายผู้พี่ทางฝั่งมารดา)  ผู้เป็นยอดหญิงในหมู่สตรีทั้งหลาย  พอมาเทียบกับฟางโจวแล้ว  ก็ยังสู้ฟางโจวมิได้”
ชุยอี้ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้   สำหรับเขาเอง เขาเห็นว่า  นายหญิงน้อยซูเก่งกาจเลอเลิศที่สุดแล้ว  ไหนเลยจะยังมีผู้อื่นเหนือกว่านางได้อีก
ทว่าปากเขากลับเอ่ยว่า “ที่ท่านชายกล่าวมาถูกต้องแล้วขอรับ”
ชุยเฉ่าซีหาได้ยินที่วาจาของข้ารับใช้ของตนไม่  ยามนี้บุรุษรูปงามกำลังนั่ง เอามือท้าวคางบนโต๊ะ  ดวงตาเคลิบเคลิ้มเหม่อลอยราวกับอยู่ในห้วงฝัน
เขาแอบคิดในใจว่า ทีคู่เปี่ยวเกอกับเปี่ยวเส้านั้น ทั้งฐานะและชาติตระกูลแตกต่างกันยิ่งนัก  กล่าวได้ว่ามิคู่ควรกันเลย   เปี่ยวเกอที่สูงส่งกว่าก็ยังเอาเปี่ยวเส้าตบแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ของตระกูลได้เลย  จริงๆแล้ว อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
            พอคิดได้เช่นนี้แล้ว   ความเบิกบานยินดีที่อธิบายไม่ได้พลันผุดวาบขึ้นมาจางๆในใจของบุรุษรูปงามผู้นี้  ซ้ำยังแฝงไว้ซึ่งความตื่นเต้นดีใจเล็กๆปนมาด้วย  ริมฝีปากของชายหนุ่มจึงค่อยๆแย้มขึ้น  จนกลายเป็นรอยยิ้มบางอย่างอดใจไม่อยู่
            “ท่านชาย...ท่านชาย”  ชุยเฉ่าซีพลันสะดุ้งตื่นจากภังค์   และแล้วจึงได้สังเกตเห็นชุยอี้ ซึ่งไม่รู้ว่ามายืนอยู่ตรงหน้าตนตั้งแต่เมื่อใด  สายตาของคนสนิทมองมาที่เขาด้วยความงุนงงสงสัย
            ชายหนุ่มจึงพึ่งรู้ตัวว่าตนเองใจลอยไปใกล  เมื่อโดนข้ารับใช้มองมาอย่างจับผิด  คล้ายอยากรู้ว่าตนกำลังคิดอะไรอยู่  ชายหนุ่มจึงค่อนข้างโมโหและขัดเขิน  เขาจึงยกมือป้องปาก แล้วแสร้งทำเป็นกระแอมไอเบาๆ  พลางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์  “มีอะไรก็พูดมาสิ   เจ้าอยากแอบไปทำอันใดรึ”
            ชุยอี้รู้สึกน้อยใจนัก  บ่าวจะแอบไปลักลอบทำอะไรที่ไหนได้เล่า  เห็นอยู่ชัดๆว่าบ่าวเรียกท่านชายตั้งหลายครา  แต่ท่านชายมิได้ยินเสียที
            “ท่านชาย...จะล้างหน้าล้างตาก่อนเข้านอนหรือไม่  ประเดี๋ยวบ่าวจะไปเอาน้ำร้อนมาให้นะขอรับ”  ชุยอี้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
            “เช่นนั้น..ก็ไปเถิด  นึกว่ามีเรื่องสำคัญอะไร  แค่นี้ยังต้องมาถามข้าอีก”  ชุยเฉ่าซียิ่งอารมณ์เสียมากขึ้น  ชายหนุ่มถลึงตาใส่คนสนิท พลางเอ่ยสำทับอีกครา  แล้วอย่าลืมตบรางวัลให้คนบ้านนี้มากๆด้วยเล่า”  จะได้ไม่มีใครมาดูถูกเหลียนฟางโจวได้
            “อ้อ บ่าวทราบแล้วขอรับ”  ชุยอี้รับคำ  ครั้นแล้วจึงเดินออกไป  เพื่อมอบเงินให้จางลี่เจิ้งห้าตำลึง  บ่าวหนุ่มยิ้มแย้มและเอ่ยว่ามีเรื่องรบกวน
            จางลี่เจิ้งยิ้มแย้มขอบคุณ  พอได้ยินบ่าวหนุ่มของท่านชายบอกว่าอยากได้น้ำร้อน  จึงเรียกลูกสะใภ้ให้ไปต้มน้ำ  เขาหันกลับมาบอกชุยอี้ว่า ถ้าน้ำร้อนได้แล้วจะไปส่งที่ห้องให้เอง   จากนั้นจึงเชิญให้ชุยอี้กลับไปรอที่ห้อง
            พอชุยอี้คล้อยหลังไปแล้ว  หนิวซื่อก็อดรนทนไม่ได้  เร่งให้จางลี่เจิ้งเปิดดูว่าท่านชายชุยให้เงินมาเท่าใด  พอเห็นว่าเป็นเงินมากมายตั้งห้าตำลึง  หนิวซื่อให้ดีใจเหลือจะกล่าว  ยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิง พลางเอ่ยว่า “ฟางโจวช่างใจกว้างยิ่งนัก  แบ่งปันเรื่องดีๆเช่นนี้มาให้บ้านเรา  นับจากนี้ไป หากนางมีเรื่องอันใดให้ช่วย  แล้วไม่เหลือบ่ากว่าแรง  ท่านต้องช่วยนางนะ  พี่น้องกำพร้าเหล่านี้ ช่างน่าเวทนาแท้ๆ”
            “หุบปากแล้วเงียบสักที   พร่ำเพ้ออันใดก็ไม่รู้”  จางลี่เจิ้งได้ยินวาจาพร่ำเพ้อของภรรยาแล้ว  พลันไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
            ครั้นแล้วเขาก็หันไปสั่งสอนบุตรชายตน  “สกุลชุยเป็นตระกูลระดับไหน  ข้าก็ได้บอกกับเจ้าไปแล้ว  ต่อให้ข้าไม่บอกเจ้า   แค่ดูจากอาภรณ์ที่สวมใส่และกิริยามรรยาทของท่านชายชุยก็น่าจะตระหนักได้แล้ว  พรุ่งนี้เจ้าตื่นให้เช้ากว่านี้อีกนิด  ไปรอเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า  ไปดูสิว่ามีอันใดขาดเหลือ หรือจำเป็นต้องให้ช่วยไหม  หากเจ้าสามารถดูแลท่านชายชุยได้ดี  มิให้ขาดตกบกพร่อง  แค่ผู้อื่นพูดมาคำเดียว  ชีวิตนี้เจ้าก็ไม่ต้องห่วงกังวลอันใดอีกแล้ว”
            จางฉิง..บุตรชายจางลี่เจิ้งรีบรับคำทันที
ราตรีนี้ผ่านไปอย่างเรียบร้อย  
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น  เพราะเชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดาอย่างเคร่งครัด  จางฉิงจึงมายืนคอยท่าที่หน้าประตูห้องปีกข้างซึ่งชุยเฉ่าซีพำนักอยู่  พอชุยอี้ผลักประตูห้องออกมา ก็พบเขาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าแล้ว  บ่าวหนุ่มเกือบสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
พอได้รับรู้จุดประสงค์การมาของเขา  ชุยอี้ดีใจที่มีคนมาช่วยแบ่งเบาภาระ  จึงขอร้องเขาอย่างสุภาพให้ช่วยไปเอาน้ำสำหรับล้างหน้ามาให้
จางฉิงเห็นผู้อื่นยินดีให้เขาช่วย  จึงรีบเดินไปเอาน้ำอย่างรื่นเริงใจ
ชุยเฉ่าซีขมวดคิ้วนิดหนึ่ง  บังเกิดความรู้สึกอึดอัดขึ้นไปอีก
หลังจากล้างหน้าบ้วนปากแล้ว   ชุยเฉ่าซีจึงไปกล่าวอำลาจางลี่เจิ้ง  เดิมทีชายหนุ่มคิดจะพูดเปรยเป็นนัยๆกับจางลี่เจิ้ง  จนจางลี่เจิ้งต้องหลุดปากออกมาว่าอยากให้เขาอยู่พำนักต่ออีกสักสองวัน  พอเขาตกลงพักอยู่ที่บ้านจางลี่เจิ้งต่อแล้ว  ทีนี้ฟางโจวจะได้หมดข้ออ้างมาผลักไสให้เขากลับไปเสียที
ทว่าคนอย่างบ้านสกุลจางที่จริงๆเลย   กลับไม่เปิดช่องให้เขาได้เปิดปากพูดตามแผนที่ตนวางไว้เลย
จางลี่เจิ้งพอเห็นท่านชายรูปงามเตรียมจะกลับแล้ว  ในใจให้นึกผิดหวังไม่น้อย  ทว่าก็ยังไม่กล้ารั้งเขาให้อยู่ต่อ  จึงได้แต่ยิ้มแย้มแล้วสั่งบุตรชายให้ไปส่งท่านชายที่บ้านเหลียนฟางโจว
ชุยอี้จัดเก็บห่อข้าวของสัมภาระสองห่อที่หอบมาเมื่อวานเรียบร้อยแล้ว   ส่วนผ้าห่มขนแกะทอลายผืนหนาที่ปูรองเตียงให้ท่านชายในห้องพักเมื่อคืน  ตัวท่านชายไม่ต้องการเก็บไว้ใช้แล้ว  หากยามที่ท่านชายพักในเมืองอย่างแต่ก่อน  ตัวชุยอี้จะแอบเอาผ้าห่มขนแกะนี้ไปขายต่อ ได้เงินเข้ากระเป๋ามาสักสองสามตำลึง   ทว่าในหมู่บ้านเล็กๆเช่นนี้  จะเอาไปชายต่อที่ไหนได้เล่า
ลงท้ายก็ต้องยกให้ครอบครัวจางลี่เจิ้งไป
แม้ชุยอี้จะไม่เต็มใจเพียงไหน  แทนที่จะมามัวแต่นึกเสียดาย  สู้ถือโอกาสนี้ซื้อใจผู้คนจะดีกว่า  บรรดาข้าวของที่ท่านชายผู้นี้ใช้  ล้วนเป็นของดีชั้นยอดทั้งสิ้น  พอท่านชายใช้ผ่านมือแล้วก็จะยกให้ผู้อื่นไป  ให้ผู้อื่นเขาได้ชื่นชมบ้าง
ชุยอี้แอบหาจังหวะเหมาะเอ่ยกับจางลี่เจิ้งพร้อมรอยยิ้ม  ข้าวของทั้งหลายที่เรานำติดตัวเดินทางมาด้วย ล้วนเป็นของใหม่ดีเลิศทั้งสิ้น  หากท่านลี่เจิ้งไม่รังเกียจ  ลองเอาไปใช้ดูหน่อยเป็นไร  เก็บไว้ใช้เถิดท่าน ของดีๆทั้งนั้น”
จางลี่เจิ้งย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว  จึงคำนับขอบคุณด้วยรอยยิ้ม
หนิวซื่อพอได้ยินคำกล่าวนี้แล้ว   รอจนชุยเฉ่าซีพร้อมบริวารคล้อยหลังไป  นางคันไม้คันมือนัก  รีบบึ่งไปที่ห้องปีกข้างทันที  พอเห็นผ้าห่มขนแกะทออย่างปราณีตผืนหนานุ่มมือ  นอนแผ่อยู่บนเตียงเท่านั้นแหละ  นางก็ตรงเข้าไปลูบไล้ด้วยความชื่นชมไม่หยุด  ยิ่งเห็นจางลี่เจิ้งก้าวเข้ามาในห้อง  นางก็ยิ้มจนตาหยีเอ่ยด้วยความปลาบปลื้ม  “จุ๊ๆ..ท่านชายชุยผู้นี้ทิ้งสิ่งนี้ให้เรา  ช่างใจกว้างยิ่งกว่ามหาสมุทรนัก  ดูสิ...ของดีเลิศปานนี้  จุ๊ๆ...ต่อให้เอาคหบดีในรัศมี 8-10 ลี้รอบหมู่บ้านเรามารวมกัน  เกรงว่าก็คงไม่มีปัญญาซื้อหามาได้  ดูสิ...ยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย  สกุลชุยนี่ช่างมั่งคั่งร่ำรวยเสียเหลือเกิน”
จางลี่เจิ้งเห็นนางพร่ำเพ้อถึงขนาดนี้แล้ว  ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  พลางโบกมือไล่ “พอได้แล้ว   เจ้าถือโอกาสวันนี้เอาผ้าห่มไปซักเสียให้สะอาด  แล้วพับเก็บไว้ ห่อให้ดีล่ะ”
หนิวซื่อชะงักไปนิด  “ได้”  พลางรับคำแข็งขัน  แล้วนึกในใจว่านางจะลองเอาไปใช้เองก่อน  แล้วค่อยเอากลับไปซัก  ได้ข้าวของดีเลิศปานนี้มา  แล้วยังไม่ลองใช้ดู  ก็นับว่าเสียชาติเกิดแล้ว
ยามนั้นหญิงชราแทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่
จางฉิงส่งชุยเฉ่าซีพร้อมบริวารถึงหน้าประตูบ้านเหลียนฟางโจวในที่สุด  ขณะนั้นเหลียนฟางโจวและป้าสามกำลังทำอาหารเช้าง่วนอยู่ในครัว 
พอได้ยินเสียงคนมา  เหลียนฟางโจวก็รีบเช็ดมือไม้ทันที  แล้วจึงผละออกมาจากในครัว
 ชุยเฉ่าซีพอเห็นเหลียนฟางโจวออกมา   ดวงตาพลันทอประกายเจิดจ้า  รีบฝีปากคลี่ยิ้มอย่างหยุดไม่อยู่   มีเพียงรอยยิ้มประดับอยู่เต็มใบหน้าของชายหนุ่ม   เขาร้องทักขึ้น  “ฟางโจว  อรุณสวัสดิ์”
เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้มให้บุรุษรูปงาม พลางพยักหน้าเล็กน้อย  หญิงสาวหัวเราะแล้วเอ่ยถามขึ้น  “เมื่อคืนหลับสนิทหรือไม่”
“อืม ดี  ไม่เลวเลย”  นางอุตส่าห์ถามเขา  เขาย่อมไม่พูดว่าไม่ดีอยู่แล้ว
“พี่จาง  ลำบากท่านแล้ว”  เหลียนฟางโจวหันไปยิ้มคำนับขอบคุณจางฉิง
จางฉิงพอเห็นท่าทางของชุยเฉ่าซีที่มีต่อเหลียนฟางโจวเช่นนี้  จึงแอบนึกในใจ  ฟางโจวช่างมีน้ำหนักในใจท่านชายชุยนัก  บ้านสกุลเหลียนคงถึงคราวรุ่งเรืองกันล่ะคราวนี้
ปกติหากเหลียนฟางโจวทักทายเขา  เขาก็เพียงแค่ทักทายกลับไปธรรมดา  ทว่ายามนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว  เขาจึงรีบเอ่ยแย้มยิ้ม “ไม่ลำบากเลย  ไม่รบกวนอันใดเลย  ฮ่าฮ่า  ถือว่าเป็นเกียรติแก่บ้านข้าแล้ว” 
---------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ ^_^
  

8 ความคิดเห็น: