วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 185 ชื่อเสียงป่นปี้ 1


            “ไยข้าจะไม่กล้าเล่า!” เฉียวซื่อแสยะยิ้ม ขณะล้วงมือเข้าไปควานหาในอกเสื้อ ก็เอ่ยด้วยโทสะ “ไม่ต้องให้ใครมาค้น ข้าค้นของข้าเองได้!”
            สีหน้านางพลันแข็งทื่อนิ่งขึงไปทันที เมื่อรู้สึกว่ามือไปแตะโดนอะไรบางอย่างในอกเสื้อเข้า
            ท่าทางนางตกอยู่ในสายตาของทุกคน จะไม่รู้ได้อย่างไร? เสียงฮือฮาดังขึ้นแทบจะทันที ชาวบ้านทุกคนต่างพากันกดดัน โดยพากันร้องตะโกนเสียงขรมให้นางรีบล้วงของออกมาให้ดูโดยเร็วเสียดีๆ  ถึงปากพูดปาวๆว่าจะค้นตัวเอง หากนางมาบอกว่าหาไม่พบ พวกเขาก็ไม่ยอมรับนะ?  ให้ผู้อื่นค้นตัวดีนางกว่า ทำเช่นนี้ถึงจะยืนยันความบริสุทธิ์ได้!

            เฉียวซื่อหน้าเขียวหน้าเหลืองขึ้นทันใด  ถลึงตาตวาดแหวใส่เหลียนฟางฉิง  “เป็นเจ้า!  เป็นพวกเจ้า..เจ้าเด็กตัวจ้อยสองคนนี้ที่บังอาจวางกับดักข้า! เป็นพวกเจ้าที่เอาของมาใส่ในตัวข้า!”
            ขณะที่เฉียวซื่อกำลังกรีดร้องอย่างคุ้มคลั่ง  มือก็ล้วงถุงผ้าปักสีน้ำเงินออกจากอกเสื้อโยนลงพื้น ได้ยินเสียงดังกราวใหญ่จากข้างในถุง  คล้ายว่าข้างในจะมีของอยู่แน่ๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ จะเป็นสิ่งใดไปไม่ได้นอกจากเหรียญตำลึงเงิน
      “ช่างใจไม้ไส้ระกำจริงๆ !”
  “ถึงขั้นริอ่านเป็นขโมย !”
“ไอ้หยา..ทั้งๆที่เป็นสายเลือดเดียวกันแท้ๆ !”
“นี่เขาเรียกว่ารู้หน้าไม่รู้ใจชัดๆ !”
  เสียงถอนหายใจ เสียงอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อของชาวบ้านทุกคนดังอึงอลไปทั่ว          พิจารณาจากคำพูดและสิ่งของที่ร่วงหล่นจากตัวแล้ว  สายตาชาวบ้านที่มองมาก็ยิ่งทวีความดูแคลนมากขึ้น!  ยามนี้สีหน้าของเฉียวซื่อแลดูดุร้ายจนใกล้จะสังหารคนอยู่รอมร่อ!
        เฉียวซื่อมักดูถูกเหลียนฟางโจวและน้องๆอยู่เนืองๆ  ต่อให้นางทำเรื่องพวกนี้จริง นางก็คิดว่าตัวนางคือญาติผู้ใหญ่ที่มีสิทธ์จะทำอะไรก็ได้  แต่นี่เป็นคราแรกที่นางถูกใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรมจริงๆใช่ไหม?
            ยามนี้เหลียนฟางฉิงหวาดกลัวหัวหดจนผงะถอยหลัง  ร่างน้อยๆสั่นเทา ดุจใบไม้ที่ปลิดปลิวร่วงหล่นในฤดูใบไม้ร่วง
            ยิ่งต่อมาเด็กน้อยได้ยินเฉียวซื่อตะโกนสาบแช่งขึ้นอีกครา  เหลียนฟางฉิงที่ใจจริงอยากจะร้องไห้ตั้งแต่ที่เห็นป้าทำหน้าโหดในคราแรกแล้ว  แต่ก็พยายามฝืนกลั้นไว้  สุดท้ายเหลียนฟางฉิงก็หวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ จนปล่อยโฮดังลั่น
            ป้าจางรีบตรงเข้าไปกอดปลอบเหลียนฟางฉิง ด้วยถ้อยคำและน้ำเสียงอ่อนโยน  นางจับจ้องเฉียวซื่อด้วยสายตาเย็นชา พลางเอ่ยขึ้น  “อาซ้อเฉียว ท่านทำผิดแล้ว ยังไม่วายขู่เด็กจนหวาดกลัวถึงเพียงนี้อีก ท่านคิดจะทำอันใดกันแน่ ห๊ะ!”
            “ก็นางใส่ร้ายข้านี่!  นังเด็กน่าตายมันใส่ร้ายข้า! เจ้าพวกเด็กๆบ้านรองนี่มันหาใช่คนดีไม่! แต่ละคนมันก็พวกเด็กสักแต่ว่าเกิดจากท้องแม่ แต่ไม่มีแม่คอยดูแลสั่งสอน!”
            เฉียวซื่อรู้สึกโกรธจนหน้ามืดตาลาย  ในอกแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ  หญิงวัยกลางคนสาดถ้อยคำร้ายกาจออกมาไม่ยั้ง โดยไม่สนใจใครหน้าไหนอีกแล้ว
            เหลียนเช่อฟังถ้อยคำนั้นแล้วราวกับตนเองโดนหนามทิ่มตำใจอย่างร้าวลึก  เด็กน้อยหน้าซีดเผือด พลันเงยหน้าขึงตาใส่เฉียวซื่ออย่างกราดเกรี้ยว ซ้ำยังปล่อยโฮออกมาด้วยอีกคน
           เมื่อผสมกับเสียงร่ำไห้ของเหลียนฟางฉิง ก็ยิ่งทำให้เสียงร้องไห้ดังระงมลั่นขึ้นไปอีก
“ไอ้หยา อาซ้อเฉียวเอ๋ย  ถ้อยคำพวกนี้ท่านไม่ควรเอ่ยออกมานะ! ท่านดูสิ แค่ท่านทำหน้าดำยังกับยักษ์ เด็กๆก็ขวัญเสียแล้ว!  ยิ่งมาโดนด่าว่าไม่มีบิดามารดาสั่งสอนอีก พวกเขาก็ยิ่งขวัญเสียยกใหญ่  ไฉนถึงทำได้ลงคอ!” หนิวซื่อเอ่ยขึ้นมาอีกคน
 “นี่มันเกิดอันใดขึ้น  ตกลงมันเกิดอันใดขึ้นกัน! “ ป้าสามกำลังกระเตงตระกร้าผักกลับมาจากข้างนอก พอเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเข้า ก็มีสีหน้างงงงัน  ตระกร้าผักในมือร่วงลงพื้นดังตุ้บ
“ฉิงเอ๋อร์! เช่อเอ๋อร์! เป็นอะไรไป!”  ป้าสามได้ยินเสียงร่ำไห้ดังระงมของหลานทั้งสองไม่คล้ายเป็นการแสร้งแสดงละครเลย  จึงรู้สึกใจไม่ดีขึ้นมา ประหนึ่งมีใครมาฉีกอกนางให้แยกเป็นเสี่ยงๆ  นางรีบปราดมาดึงตัวเด็กน้อยทั้งสองมาลูบหลังลูบไหล่
ป้าสามเงยหน้าขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว พลางถลึงตาใส่เหลียนลี่และเฉียวซื่อ พร้อมกับเอ่ยว่า “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ พวกท่านต้องมาหาเรื่องพวกเราทุกสามวันให้ได้เลยใช่ไหมถึงจะพอใจกัน  ชีวิตของพวกเด็กๆก็ลำเค็ญพออยู่แล้ว  พวกท่านยังไม่ละวางปล่อยมืออีกหรือ!”
“นี่ให้มันน้อยๆหน่อย  พูดจาประสาอะไรกัน เพ้ย !” เฉียวซื่อให้ชิงชังน้องสามียิ่งนัก  จึงถ่มน้ำลายเสียหนึ่งครา เดิมทีเฉียวซื่อก็เสียดแทงใจพออยู่แล้ว ยังต้องมาเสียดหูอีก เหนืออื่นใด นางพยายามคำนึงถึงเหตุผลเพิ่มขึ้นสองส่วน เพราะรู้ว่ายามนี้ไม่เหมาะนักที่จะทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับผู้อื่นมากเกินไป และนางไม่ควรพูดอะไรให้มากนัก  แต่สำหรับสีหน้านั้น นางไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกมิให้ปรากฏได้
ป้าจางเอ่ยเสียงหยามหยัน “ป้าสามท่านยังไม่รู้อะไร  สองคนนี้เลื่อนชั้นถึงขั้นเข้ามาค้นหาข้าวของในบ้านผู้อื่นแล้ว! ทีแรกก็มาหาคนเดียว ครั้งนี้มาค้นหากันทั้งสามีภรรยาเชียว!  ถุงผ้าปักนี้ถูกค้นได้จากตัวของสะใภ้ใหญ่ท่านไงเล่า!”
  “พี่สะใภ้!” ป้าสามตวาดแว๊ด “ท่านนี่ไม่รู้จักสำนึกตัวเลยจริงๆ!”
ป้าสามกำลังจะเอ่ยถึงวีรกรรมอันน่าขายหน้าในคราก่อนที่เฉียวซื่อก่อขึ้นที่บ้านเหลียนฟางโจว ฉับพลันนั้นเหลียนลี่ก็เอ็ดตะโรลั่น “เจ้า..นังหญิงชั้นต่ำนี่ ช่างขวัญกล้าเทียมฟ้าแท้ๆ!” คนทั้งผองล้วนตกใจจนสะดุ้งโหยง และก็สายไปเสียแล้ว พอสติคืนกลับมา ทุกคนจึงได้ยินเฉียวซื่อแผดเสียงร้องลั่น “โอ๊ย!” ปรากฏว่าบนใบหน้านางมีรอยฝ่ามือเหลียนลี่
“ท่าน ท่านกล้าตบข้ารึ!”  วันนี้กล่าวได้ว่าเฉียวซื่อซวยซ้ำซวยซ้อนไม่เลิก  คราแรกก็ตบประตูรั้วเรียกคนให้มาเปิดอยู่เป็นนานสองนาน  ตามมาด้วยโดนทั้งเหลียนฟางฉิงกับเหลียนเช่อพูดจาสบประมาท นางจึงตบหน้าเหลียนเช่อระบายความแค้นไปหนึ่งที พริบตาเดียวการระบายแค้นนั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นหายนะ และแล้วก็โดนทุกคนเหยียดหยาม เข้าใจผิด โดนมองว่าเป็นคนขี้ขโมย!
ยามนี้ แม้แต่สามี คนของตนเองแท้ๆก็ยังประเคนฝ่ามือบนใบหน้าตนต่อหน้าสาธารณชน  ทั้งหมดนี่ล้วนบ้าบอสิ้นดี!
“ข้าสู้เพื่อท่านมาตลอด  แต่ท่านกลับมาตบหน้าข้ารึ!” เฉียวซื่อหน้าเขียวหน้าเหลือง เบิกตากว้าง สีหน้าตื่นตระหนกสุดขีด นางแผดเสียงร้องลั่นพลางกระโจนเข้าใส่เหลียนลี่
เหลียนลี่หรือจะไม่เตรียมพร้อมไว้ก่อน ?  เขาเบี่ยงตัวหลบทันควัน พลางร้องตะโกนด่า “นังหญิงชั้นต่ำไร้ยางอายยิ่งนัก  ก่อเรื่องทำผิดไม่พอ แล้วยังกล้าอาละวาดอีก! ตระกูลข้าช่างโชคร้ายจริงๆ!”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงด่า ใบหน้าเฉียวซื่อก็โดนกระหน่ำด้วยฝ่ามือพิฆาตอีกสองฉาด หญิงวัยกลางคนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดล้มกลิ้งโค่โล่ไปบนพื้น
  แก้มทั้งสองของเฉียวซื่อนั้นปวดแสบปวดร้อนไปหมด เจ็บจนจี๊ดขึ้นสมอง  เพลิงโทสะพวยพุ่งในใจ นางถลึงตาใส่เหลียนลี่ พลางกรีดร้อง ขณะที่นางกำลังพยุงตัวลุกขึ้นเตรียมจะกระโจนใส่ เหลียนลี่ก็ด่าประนามว่า “เจ้ากล้าทำเรื่องไม่คิดหน้าคิดหลัง  ข้าก็ต้องหยุดเจ้าสิ! เจ้าทำเรื่องไร้คุณธรรมเช่นนี้ แล้วยังกล้ามาอาละวาดอีกนะ!”
ไม่รู้ว่าเพราะเกรงกลัวในวาจานี้ หรือเพราะสีหน้าของเหลียนลี่ เฉียวซื่อแม้จะแค้นเคืองทั้งขมขื่น กระนั้นก็ทำเพียงขบกรามแน่น ไม่กล้าส่งเสียงอันใดอีก ได้แต่หมอบหน้าร่ำไห้สะอื้นกับพื้น
ทุกๆคนสะดุ้งตื่นจากภวังค์ พลางพึมพำทอดถอนใจเบาๆ  แล้วเริ่มซุบซิบถกเถียงกัน
เหลียนลี่ยืนอยู่ข้างๆภรรยา  ขณะที่ทอดมองใบหน้าเฉียวซื่อด้วยความเจ็บปวดปนขมขื่น ชายวัยกลางคนพลางพรูลมหายใจออกมา “ฟู่เรินของข้าคนนี้  เจ้า..เฮ้อ..เจ้า เจ้าจะให้ข้าพูดอะไรดีๆกับเจ้ากันๆ! พวกฟางโจวเขาไม่อยู่บ้าน มีเรื่องอันใดค่อยกลับมาเจรจากันใหม่ก็ได้ มันต่างกันหรือไร? เจ้าดูตัวเองสิว่าหุนหันพลันแล่นเพียงไหน  เลยต้องมาเกิดเรื่องเอะอะเอ็ดตะโรกัน! ข้าเคยบอกเคยเตือนเจ้าไว้แล้วอย่างไร! กับเด็กเล็กๆ เจ้าก็ยังจะเอาชนะคะคานให้ได้ ข้าเห็นเจ้าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้แล้ว ไหนเลยจะทนไหว!”
เหลียนลี่บริภาษเฉียวซื่อไม่ยั้ง น้ำเสียงเขาแสดงความขมขื่นเจ็บปวดล้นเหลืออย่างไม่เก็บงำ
หากเหลียนฟางโจวยืนอยู่ใกล้ๆ  คงต้องแอบพูดในใจเป็นแน่ว่า นี่ก็แค่แผนสละเบี้ยเพื่อเก็บเรือไว้!
ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่  ทุกคนต่างเชื่อว่าถ้อยคำนี้ล้วนเป็นของจริง!  ต่อให้ไม่เชื่อ ก็อดหวั่นไหวในใจมิได้ แต่ละคนรู้สึกว่า แม้เฉียวซื่อจะมิใช่สตรีดีงาม แต่ลุงใหญ่สกุลเหลียนผู้นี้น่าเชื่อถืออยู่มิใช่น้อย
“ฉิงเอ๋อร์เอ้ย เช่อเอ๋อร์เอ้ย ทั้งหมดล้วนเป็นป้าพวกเจ้าที่ผิด แน่ใจเถิดว่าลุงใหญ่จะอบรมนางให้ดีเอง ลุงใหญ่ขอเอาหัวเป็นประกัน ภายหน้าจะมิให้มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก..นะ?” เหลียนลี่เอ่ยกับเหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่ออย่างมีเมตตา  ซ้ำยังยื่นมือมาหมายจะลูบหัวเหลียนเช่อ
เหลียนเช่อหุบหัวร้องไห้ออกมาอย่างตื่นตระหนก ใบหน้าของเด็กน้อยฉายความหวาดกลัว พลางซุกตัวเข้าสู่อ้อมอกของป้าสามโดยไม่รู้ตัว
“พี่ใหญ่!” ป้าสามตวาดแว๊ด พลางตื่นตัวเตรียมพร้อม  นางเบี่ยงตัวบัง พลางยกมือขึ้นกั้นเหลียนลี่อย่างไม่ลังเล
ดวงตาเหลียนลี่มีประกายโทสะพาดผ่านแวบหนึ่ง มือที่ยื่นออกมานั้นชะงักค้างกลางอากาศ
“พี่ใหญ่ ท่านช่างเจรจาเก่ง แถมยังเสนาะหูนัก! พูดได้เสนาะหูแล้วอย่างไร?  ท่านก็ดีแต่โยนความผิดทุกอย่างให้พี่สะใภ้รับเละ ท่านเองเป็นหัวหน้าครอบครัว หากท่านไม่ให้ท้าย ไหนเลยพี่สะใภ้จะขวัญกล้ามาก่อเรื่องเดือดร้อนถึงเพียงนี้! ข้ามันคนใจแคบ ข้าไม่เชื่อท่าน!  ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้เลย  แค่เรื่องที่ท่านจ้างพวกอันธพาล ที่มีเอ้อร์โก่วจือเป็นหัวโจก พาพรรคพวกไปก่อเรื่องดูหมิ่นฟางโจวถึงในไร่  แล้วตอนนั้นพี่สะใภ้ไม่ได้ไปด้วย ตอนนั้นท่านพูดว่าอย่างไร? อ๋อ ข้าลืมไป ในตอนนั้นพี่สะใภ้กำลังบุกเข้าไปค้นหาเงินและโฉนดที่ในบ้านฟางโจวนี่นะ!”
---------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามนะคะ ^_^
·ต้องขออภัยผู้อ่านอย่างสูงที่อัพช้าค่ะ พอดีช่วงนี้มีงานติดพันค่ะ Sorry ja..

11 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ16 สิงหาคม 2561 เวลา 22:30

    ขอบคุณมากค่ะสำหรับนิยายสนุกๆเรื่องนี้

    ตอบลบ
  2. เมื่อไรลุงกับป้าสะใภ้จะรับกรรมเสียทีน่ารำคราญจริง

    ตอบลบ
  3. แฉให้หมดเลย ดูซิ ลุงป้าจัทำยังไงต่อ

    ตอบลบ
  4. แหม...กำลังฉะกันมัน อ่านสนุกมากค่ะยังฉะกันไม่เสร็จรอตอนต่อไปนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณค่ะ เมื่อไหร่จะไปจากชีวิตซะที ลุงป้ามหาภัย

    ตอบลบ
  6. ลุ้นค่ะฝ่ายไหนจะกำชัยในศึกครั้งนี่เหลียนลี่ก็เจ้าเล่ห์เหลือนเกินเอาความผิดทุกอย่างให้เมียให้ตัวเองดูดี

    ตอบลบ
  7. รอลุ้นลุงใหญตอนหน้า อ่านไปเห็นภาพด้วย คนแต่ง คนแปลเก่งมากๆๆ

    ตอบลบ
  8. เบื่อลุงป้าคู่นี้จริงๆ เมื่อไหร่ มันจะตายๆไปซักที เอาให้เด็จขาดซักทีสิ แจ้งความ ร้อง ทุก ฆ่าเงียบ อะไรก็ทำไปเถอะ

    ตอบลบ
  9. สงสารเด็กๆ ถึงจะเป็นแผนแต่ก็สงสาร เสียขวัญแย่เลย ลุ้นให้แผนนี้ปราบลุง้ามหาภัยได้อยู่หมัด

    ตอบลบ
  10. ขอบคุณมากค่ะ ระอาใจกับคู่ผัว-เมียแห่งชาติจัง

    ตอบลบ