วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 197 ซื้อคน


            ช่วงหลังๆในหลายๆปีที่ผ่านมา เมื่อถึงช่วงนี้  กิจการนายหน้าขายคนซบเซานัก นายหน้าผู้นี้มีนามว่าไช่หวู่หลาง เมื่อเห็นคนกลุ่มหนึ่งมาหา ก็พลันยินดีปรีดา เข้าไปเชื้อเชิญพวกเขาให้เข้ามาในบ้าน พลางแนะนำตัวเองกับอีกฝ่ายไม่หยุด
เหลียนฟางโจวยืนฟังเนือยๆ  พูดก็พูดเถอะ กับคนจำพวกนี้  ในส่วนลึกของจิตใจเธอมีแต่ความรังเกียจ
 “ไม่ทราบว่าท่านเจี่ยนและแม่นางเหลียนอยากซื้อคนแบบใด?  อย่าหาว่าข้าโอ้อวดเลย พวกท่านต้องการคนแบบไหน ที่นี่ล้วนมีให้หมดทั้งสิ้น!” ไช่หวู่หลางตบอกตนเองเป็นการรับประกัน

อาเจี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกเราขอดูคนก่อนได้หรือไม่?” ปากพูดไป  มือก็กำเงินราว 3-4 เฉียนยัดใส่มือให้ “ขอบคุณท่านที่เป็นธุระให้!”
ไช่หวู่หลางเห็นว่าพวกเขาหาใช่ตระกูลคหบดีในเมือง อีกทั้งไม่ใช่คหบดี เซียงเชิน (ขุนนางประจำหมู่บ้าน) หรือเจ้าที่ดินในหมู่บ้าน ยามได้ยินอาเจี่ยนร้องขอมาเช่นนั้น เดิมทีเขาไม่นึกยินดีนัก ถึงแม้ไม่เต็มใจ แต่ก็ยังมิได้หลุดปากออกมา เงินที่โดนอาเจี่ยนยัดใส่มือนี้ เมื่อใช้นิ้วมือจิกเพื่อคะเนจำนวนเงินดู  จึงบังเกิดความพึงพอใจ  ความไม่เต็มใจที่มีอยู่แต่เดิมจึงถูกฝืนล้ำกลืนลงไป  ผู้เป็นนายหน้าพยักหน้าหัวเราะฮาๆแล้วเอ่ยว่า “ได้ ได้! มีรอให้เลือกดูอยู่พอสมควร ข้าจะไปเรียกทุกคนออกมาให้หมด!”
เมืองยู่เหอมีนายหน้าอยู่สองคน โดยมีไช่หวู่หลางเป็นตัวหลัก ภายใต้เขามีลูกมือช่วยงานจิปาถะอยู่สามคน จำนวนคนในมือเขานับว่ามีมากที่สุดแล้ว
รอไม่นาน เหลียนฟางโจวจึงได้ยินเสียงฝีเท้าคนสะเปะสะปะดังก้องในลานด้านนอก เมื่อมองออกไป ดูเผินๆในลานด้านนอกมีคนหลากหลายสูงต่ำไม่เท่ากันเป็นอันมากยืนอยู่ ราวๆ 30-40คนเห็นจะได้ มีทั้งหญิงและชายซึ่งต่างสวมชุดสีฟ้าครามที่ซักจนซีด แต่ละคนยืนก้มหน้าอยู่ ดูเซื่องซึมไม่น้อย
สักครู่หนึ่ง ไช่หวู่หลางจึงเดินยิ้มแฉ่งเข้ามาสอบถาม “ท่านเจี่ยนและแม่นางเหลียนไม่ทราบว่าจะซื้อคนกลับไปทำอะไร ? บังเอิญว่าข้าเพิ่งได้คนกลุ่มใหม่เข้ามาเมื่อสองวันก่อน มีทั้งบุรุษและสตรี ไม่ว่าจะเอาไปเป็นอนุ บ่าวชาย บ่าวหญิง ทุกคนล้วนฉลาดเปี่ยมความสามารถ!”
เหลียนฟางโจวและอาเจี่ยนเหลือบมองตากัน แล้วจึงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ครอบครัวชนบทอย่างพวกข้าไม่จำเป็นต้องมีบ่าวหญิง บ่าวชายอะไรหรอก พวกเราขาดแต่แรงงานในไร่นา! หากมีใครเหมาะสม ข้าค่อยเลือกเอาไปสัก 10 คนก่อน หากไม่มีใครเหมาะ ข้าคงต้องขอบอกผ่าน!”
 “เป็นเช่นนี้นี่เอง!” ไช่หวู่หลางผงกศีรษะพลางเอ่ยแย้มยิ้ม  “เพียงขอให้มีความแข็งแกร่งอดทน งานง่ายๆอย่างการทำไร่นี่ ให้ใครไปทำก็ได้! เช่นนี้..ข้าไปเรียกคนมาให้พวกท่านดูเพื่ม อีกสัก 5-6 คนดีไหม พวกท่านเห็นเป็นเช่นไร?”
 “ท่านไปเรียกมาได้เลย!” เหลียนฟางโจวแย้มยิ้ม
 “นี่” ไช่หวู่หลางร้องเรียกเสียงดัง แล้วจึงลุกขึ้น พลางสาวเท้าออกไปกวักมือเรียกลูกน้องที่อยู่ด้านนอกให้เข้ามาเพื่อสั่งความ แล้วจึงเดินกลับมานั่งประจำที่พร้อมรอยยิ้ม
เพียงครู่เดียว ลูกน้องอีกคนของไช่หวู่หลางได้นำกลุ่มคนราว 5-6 คนเดินเรียงแถวเข้ามา ในห้องโถง พวกเขายืนเข้าแถวหน้ากระดานเรียงตามลำดับไหล่  พลางค้อมศรีษะประสานมือไว้ข้างหน้า  พวกเขาหลุบตาลงต่ำ ดูสำรวมเปี่ยมด้วยมรรยาทอย่างสูง
 “ท่านเจี่ยน แม่นางเหลียน คนหนุ่มสาวเหล่านี้  ล้วนยังอ่อนเยาว์อายุเพิ่งย่าง 20ขวบปี ร่างกายบึกบึน  เปี่ยมด้วยพละกำลัง พวกท่านเห็นเป็นเช่นไร?”  ไช่หวู่หลางแย้มยิ้ม ขณะกวาดสายตากวาดมองคนเหล่านั้น ครั้นแล้วจึงตะคอกเสียงเข้ม “พวกเจ้าเงยหน้าขึ้นมาให้หมด!  ยืดอกหลังตรง กระตือรือร้นหน่อย!”
เหลียนฟางโจวและอาเจี่ยนไม่มีใครพูดอะไร เหลียนฟางโจวหันไปเอ่ยยิ้มๆกับฉินเฟิงและซูจื่อจี้  “พวกท่านไปดูหน่อยสิ  ว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ”
ฉินเฟิงและซูจื่อจี้ต่างรับคำสั่ง แล้วสาวเท้าเข้าไปหาคนพวกนั้น
ไช่หวู่หลางขมวดคิ้วน้อยๆอย่างไม่พอใจนัก ถึงกระนั้นก็มิได้เอื้อนเอ่ยอันใด
ฉินเฟิงกับซูจื่อจี้เดินวนรอบตัวคนหล่านั้นไปมา สอบถามเสียหลายคำถามว่าแต่ก่อนเคยทำอะไรมาบ้าง?’ ‘ ทำงานมานานเท่าใดแล้ว?‘ และอื่นๆจิปาถะ  ซ้ำยังสั่งคนทั้งหลายให้ยื่นมือออกมาให้ดู เสร็จแล้วจึงเดินกลับมา
ไช่หวู่หลางคลี่ยิ้มเอ่ยถาม “เป็นอย่างไรบ้าง? ทุกคนไม่เลวเลยใช่หรือไม่? ”
ฉินเฟิงเหลือบมองเหลียนฟางโจว  แล้วจึงส่งยิ้มเอ่ยไปตามเนื้อผ้า “ไม่เลว ทว่า ไม่เหมาะกับงานในไร่”
 “หา” ไช่หวู่หลางร้องออกมาคำหนึ่ง พลางถอนหายใจพูดขึ้น “ไม่เป็นไร เช่นนั้น..ลองดูอีกกลุ่มก็แล้วกัน!  พวกท่านน่ะพิถีพิถันกันเกินไป แค่เพียงร่างกายแข็งแกร่งก็พอแล้ว  ยังมีอันใดไม่เหมาะสมกับงานในไร่เล่า....”
หากไม่เห็นแก่เงิน 2-3 เฉียนที่รับไว้ในมือ ทั้งยังเรื่องที่พวกเขาบอกว่าจะซื้อคนไปสิบกว่าคนแล้วละก็ ไช่หวู่หลางคงจะสิ้นความอดทนเข้าจริงๆ
ฉินเฟิงและซูจื่อจี้หาได้ตอบโต้คำพูดเขา ทั้งสองคนได้แต่หัวเราะ บอกเพียงว่าตนเองต้องคัดสรรอย่างดีเท่านั้น
คนทั้งหกที่ดูมานั้น มีบางคนสายตาลอกแล่กไม่หยุด แค่มองแวบแรกก็รู้แล้วว่า มิใช่คนซื่อสัตย์มีน้ำใจ แล้วมันจะดีได้อย่างไร? ที่เหลืออีกสามคน มีคนหนึ่งเคยเป็นยามเฝ้าประตู คนหนึ่งเคยเป็นเด็กวิ่งรับใช้ ยามเฝ้าประตูนั้นขี้เกียจที่สุด เด็กวิ่งรับใช้ก็กระตือรืนร้นอยู่ไม่นิ่ง ไม่เหมาะทั้งคู่ แถมมือทั้งสองยังบอบบางเกินไปด้วยซ้ำ เกรงว่าคงยกของหนักได้ไม่กี่ชั่ง แม้แต่งานในไร่ก็คงเอาตัวไม่รอด!
ฉินเฟิงค่อยๆสาธยายอย่างเนิบนาบ ถึงเหตุผลที่ไม่เลือกคนพวกนั้นออกมาทีเดียวรวด ไช่หวู่หลางแอบสะดุ้งในใจ  จึงไม่เอ่ยอันใดออกมาอีก
ราวหนึ่งชั่วยามให้หลัง พวกเขาเลือกคนจากคนทั้งหมดที่อยู่ในลาน ลงท้ายฉินเฟิงและซูจื่อจี้เลือกคนที่เหมาะสมมาได้ทั้งหมด 15 คน เหลียนฟางโจวบอกว่าเอาเพียง 12 คนพอ ทั้งสองจึงคัดคนที่เลือกแล้วออก 3 คน
ถึงอย่างไร แม้จะคัดออกเหลือเพียง 12 คน ไช่หวู่หลางก็ยังพอใจอยู่ดี
ต่อมาได้เลือกครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คน ประกอบด้วยคู่สามีภรรยาอายุราว 36-37 ปี พ่วงมาด้วยลูกๆอีกสองคน หญิงคนชายคน ฝ่ายพ่อชื่อจางเสี่ยวจุน ภรรยาชื่อหลี่ซู่เหมย ลูกสาวโตเกือบเท่าเหลียนฟางโจว ชื่อว่าจางซิ่วเอ๋อร์ ลูกชายโตกว่าเหลียนเช่อสองปีชื่อ ชื่อจางเหลียง
ครอบครัวนี้สามารถทำงานบ้านจิปาถะได้ อาทิเช่น ปัดกวาดลาน หุงหาอาหาร เย็บปักถักร้อย หาไม่แล้ว ปัญหาอาหารการกินของบรรดาคนงาน 12 คน คงไม่ได้รับการแก้ไข จะให้ป้าสามมาคอยทำอาหารให้กินทุกวันๆคงไม่ได้
การขายคนจำนวนมากออกไปในครั้งเดียว  ทำให้ราคาค่าตัวต่อหัวลดลง ซึ่งช่วยประหยัดเงินไปได้มาก โดยเฉพาะไช่หวู่หลางที่อารมณ์ดี  คิดราคาเหลียนฟางโจวไม่แพงอีกด้วย  เหตุผลอันหนึ่งคือฉินเฟิงและซูจื่อจี้ตาแหลมมากเรื่องการคัดคน ทำให้ตัวเขาเองเสียความมั่นใจไปไม่น้อย เขาจึงไม่กล้าโก่งราคา
ลงท้ายเขาคิดราคาในข้อสัญญา คือ คนงาน 12 คนคิดค่าตัวคนละ 8 ตำลึง ส่วนครอบครัวสมาชิก 4 คนคิดเป็นเงินรวมกัน 33 ตำลึง โดยมีเพียงจางซิ่วเอ๋อร์คนเดียวที่มีค่าตัวถึง 14 ตำลึง
เมื่อพิจารณาดูแล้ว จางซิ่วเอ๋อร์นั้น มีใบหน้าสะสวยทั้งผิวที่ขาวใสเนียนละเอียด รูปร่างก็อรชรอ้อนแอ้น เหลียนฟางโจวจึงแอบคิดในใจว่า ไช่หวู่หลางคงคิดอกุศลกับนางเป็นแน่  ไม่ต้องถาม ก็รู้ว่าเขาคิดแผนการอะไรอยู่
หลี่ซื่อ มารดาของจางซิ่วเอ๋อร์กับจางเสี่ยวจุนผู้บิดา หน้าซีดเป็นไก่ต้ม กลัวว่าเหลียนฟางโจวจะไม่ซื้อจางซิ่วเอ๋อร์ไป
พอได้ยินที่หลี่ไช่หวู่ร่ายมา เหลียนฟางโจวก็พยักหน้าตกลง สองสามีภรรยารวมทั้งจางซิ่วเอ๋อร์ถอนหายใจดังเฮือกด้วยความโล่งอก หลี่ชื่อร้องอา ออกมาคำหนึ่งพร้อมกับแขนขาอ่อนยวบ จึงทรุดลงกองกับพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้  นางกระเสือกกระสนคลานเข้ามาโขกศีรษะให้เหลียนฟางโจว พร่ำพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก “ขอบคุณแม่นาง! ขอบคุณแม่นาง ช่างเมตตากรุณาแท้ ช่างมีคุณธรรมแท้! พอเห็นแล้ว ทำให้เหลียนฟางโจวรู้สึกสะเทือนใจขึ้นมาโดยพลัน
กว่าจะซื้อคนเสร็จ ก็เข้ายามเชิน (บ่ายสาม - ห้าโมงเย็น) มาหนึ่งเค่อแล้ว (15 นาที) เหลียนฟางโจวจึงให้ฉินเฟิงและซูจื่อจี้พาคนงานกลุ่มนี้ ไปรอที่แผงน้ำชาหน้าประตูเมือง ส่วนตนเอง เหลียนเซ่อ และอาเจี่ยน  ซ้ำยังเรียกหลี่ชื่อกับจางซิ่วเอ๋อร์มาด้วย เพื่อไปหาซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันให้คนงานทุกคน
เสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า ผ้านวม และอื่นๆจิปาถะ พร้อมทั้งถังน้ำ อ่างน้ำ และเครื่องใช้อื่นๆคือทั้งหมดที่ต้องเตรียมไว้ มิฉะนั้น เมื่อคนเหล่านี้กลับไป จะดำเนินชีวิตกันได้อย่างไร?  บรรดาคนที่ผ่านประตูบ้านนายหน้าออกมา เว้นแต่เสื้อผ้าที่ใส่ติดตัวมาแล้ว ที่เหลือก็ไม่มีอะไรทั้งสิ้น มีแต่มือเปล่าโดยแท้!
มิหนำซ้ำ หม้อ ถ้วย ชาม ทัพพี อ่างน้ำ เครื่องปรุงรส ได้แก่ น้ำมัน เกลือ ซีอิ๊ว น้ำส้ม ข้าวสาร อาหาร รวมทั้งสิ่งของอื่นๆทั้งหมดนั้น ล้วนต้องซื้อไปพร้อมกันทีเดียว  หากคืนนี้ไม่มีเวลาพอ ก็ต้องรอซื้อหมั่นโถวที่ขายริมถนน แป้งปิ่ง และอื่นๆกลับมากินเป็นมื้อเย็น  แน่นอนว่าพรุ่งนี้คงต้องให้หลี่ชื่อตื่นขึ้นมาทำอาหารมื้อเช้า!
ข้าวของเหล่านี้ มีแต่สิ่งละอันพันละน้อย แต่ละอย่างก็มีจำนวนไม่น้อย แม้มีคนมาช่วยเพิ่มอีกสองคน  แต่กว่าจะเลือกซื้อ จ่ายเงิน ล้วนกินเวลาไม่น้อย
รถเกวียนเทียมลาที่บ้านเอามาจึงไม่อาจบรรทุกอะไรลงไปเพิ่มได้อีกแล้ว เหลียงฟางโจวจึงจ้างรถเกวียนเทียมลามาอีกสองคัน ซึ่งก็แทบจะบรรทุกข้าวของที่ซื้อมาลงไปไม่หมด
-------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ ^_^
ต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่าน ช่วงนี้อัพช้าเนื่องจากติดงานค่ะ
  

17 ความคิดเห็น:

  1. ว้าว ตอนนี้สนุก อ่านแล้วเห็นภาพเลยค่ะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณค่ะ รอทุกวันเลย
    เห็นตอนใหม่มาก็ดีใจ อ่านจบก็จะร้องไห้ อยากอ่านอีก 55555

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ23 ตุลาคม 2561 เวลา 21:43

    สนุกสมกับที่รอคอยค่ะ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณมากค่ะ ตอนทำงานสนุกกว่าโดนทำร้ายค่ะ

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณค่ะ รอทุกวันเลยค่ะ

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณมากค่ะ ช้าก็ไม่เป็นไรค่ะ สมาชิกรอได้ค่ะ ไม่บ่่่่นสักคำ เพราะนี่คือการส่งความสุขผ่านตัวอักษรด้วยใจรัก
    ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะที่เสียสละเวลาแปลให้อ่านนะคะ

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณไรท์ค่ะที่แวะมาส่งความสุขให้แฟนคลับอย่างพวกเราการอ่านหนังสือที่ชอบเป็นความสุขของเราค่ะ

    ตอบลบ
  8. ขอบคุณค่า อ่านแล้วมีความสุขจริงๆ

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณค่ะอ่านตอนนี้แล้วสงสารคนที่ต้องมาขายตัวเป็นทาสถ้าได้เจ้านายไม่ดีก็เหมือนคกนรกแต่คนที่ฟางโจวซื้อมานับว่าโชคดี

    ตอบลบ
  10. บรรยายได้เห็นภาพเป็นฉากๆชัดมาก​ ขอบคุณค้าา

    ตอบลบ
  11. รอดูว่าตะดูแลกันยังไงต่อไปคนงานเยอะเลย

    ตอบลบ