“ตกลง !” เหลียนฟางโจวสบตาป้าจาง พลางหันไปยิ้มพยักหน้าให้จ้าวชื่อ ซ้ำยังกระตุกแขนเสื้อป้าจาง
แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ป้าจาง ท่านป้าไปด้วยกันนะเจ้าคะ ! อาจวน..ไปด้วยกันนะ ไปกันหลายๆคนจะได้สนุกสนานครึกครื้นกัน !
“
“เช่นนั้นแล้ว..จะดีได้อย่างไรกัน บ้านเจ้าก็ไปกันตั้งหลายคน ซ้ำเมื่อไปถึงก็ซื้อของใช้ในวันปีใหม่อีกเป็นพะเรอเกวียน
คนเป็นอันมากจะนั่งรถเกวียนเทียมลาได้หมดเสียที่ไหน
? มิสู้พวกข้าค่อยไปกันเองภายหลังน่าจะดีกว่านะ!” ป้าจางหัวเราะ
พลางเหลือบมองจ้าวชื่อแวบหนึ่ง
ลูกสะใภ้นางผู้นี้ก็ช่างเหลือเกินจริงๆ .....
ป้าจางลอบถอนหายใจเบาๆ
ต่อหน้าเหลียนฟางโจว นางไม่สะดวกจะสั่งสอนสะใภ้ตัวดีเสียด้วย
“เรื่องนี้..ป้าจางมิต้องวิตกไป เมื่อถึงตอนนั้น ข้าย่อมหาวิธีแก้ไขได้แน่นอน
!”
เหลียนฟางโจวอมยิ้ม
พยายามเชื้อเชิญป้าจางสุดแรง
เดิมทีป้าจางคิดจะไปอยู่แล้วด้วย หนำซ้ำหลี่จวนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ก็ชำเลืองมองนางมาเป็นระยะ
ลงท้ายป้าจางก็พยักยิ้มให้จนได้
เหลียนฟางโจวพลันลุกขึ้นยืนด้วยความดีใจ
แล้วจากไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นคนบ้านสกุลเหลียนตื่นขึ้นมากินข้าวเช้าเร็วกว่าปกติ สี่พี่น้อง อาสาม และพวกป้าจางรวมสามคน โดบมีอาเจี่ยนทำหน้าที่สารถี
พากันบ่ายหน้าเข้าเมืองกันอย่างคึกคักเอิกเกริก
คนทั้งหลายนั่งกันจนเต็มแน่นรถเกวียน ส่งเสียงคุยจ้อกแจ้กกันอย่างอบอุ่นครึกครื้น
คุยกันไปหัวเราะกันไปตลอดทาง เผลอแผลบเดียวทั้งคณะก็อยู่ในตัวเมืองเสียแล้ว
เนื่องจากเป็นช่วงเข้าสู่เทศกาลปีใหม่
ในเมืองจึงคึกคักมากเป็นพิเศษ ทั้งเมืองคาคล่ำไปด้วยฝูงชนเป็นอันมาก
เดินกันเบียดเสียดยัดเยียด พอทอดมองไปไกลๆ
เห็นแต่หัวคนขวักไขว่เต็มไปหมดจนสุดลูกหูลูกตา
หูได้ยินแต่เสียงดังจ้อกแจกจอแจดังเซ็งแซ่
ยามนี้ใกล้สิ้นปีเต็มที ภาพคึกคักเช่นนี้จะได้เห็นกันไปอีกตลอดสามวันเต็ม
ซึ่งยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมานานช้า
ร้านรวงทุกร้านตลอดสองฟากถนนเปิดประตูกว้าง ซ้ำยังตั้งชั้นวางสินค้ามากมายเพิ่มบริเวณประตูเป็นการชั่วคราวอีกต่างหาก โดยเอาสินค้าที่ดีที่สุดในร้านมาจัดวางเป็นแถวๆ
เพื่อเตะตาลูกค้าทุกคนที่เดินผ่านไปมา ประตูของทุกอาคารสถานที่ล้วนถูกขัดถูทำความสะอาด
และถูกทาสีสดใสจนดูใหม่เอี่ยมอ่อง บางร้านก็พยายามดึงดูดสายตาลูกค้า โดยการแขวนโคมไฟสีแดงสดมีริ้วทองติดพู่ห้อยระย้าสีทองประดับตามเฉลียงทางเดิน
ซึ่งช่วยเพิ่มสีสันบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองให้ทวีขึ้นไปอีก
![]() |
ร้านค้าปีใหม่ |
พร้อมกันนั้นก็มีบรรดาแผงลอยตั้งเรียงราย ขายกระดาษชุนเหลียนสีแดงสด (กระดาษคำกลอนคู่สำหรับเทศกาล
ไว้ใช้ติดที่ฝั่งซ้ายและขวาของประตูหน้าบ้าน) ฝูจื้อ(ตัวอักษรคำอวยพร) หวู่ไช่เหนียนฮว่า (ภาพวาดปีใหม่ 5 สี ได้แก่
สีขาว ดำ แดง เหลือง น้ำเงิน) สะท้อนถึงบรรยกาศปีใหม่กันอย่างเต็มภาคภูมิ
![]() |
กระดาษชุนเหลียน |
![]() |
กระดาษฝูจื้อ |
![]() |
ภาพวาดปีใหม่ห้าสี(หวู่ไช่เหนียนฮว่า) ภาพเด็กทารกขี่ปลาหลี่หยู หรือปลาคาร์ฟ |
นอกจากนี้ยังมีพ่อค้าแม่ค้าเร่เข็นรถเข็นมาตั้งเรียงรายเป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน บางผู้ค้าเร่ก็เป็นเพียงร้านขายของแบกะดินเจ้าเล็กๆ ซึ่งเป็นบรรดาชาวหมู่บ้านที่เอาผลผลิต จำพวก
เป็ด ไก่ นก ผักและผลไม้ทุกชนิดมาวางขายกับพื้น ซึ่งต่างก็จับจองพื้นที่กันเต็มแทบทุกจุดของสองฟากข้างถนน
พลางตะโกนร้องเรียกลูกค้าไปด้วย สินค้าต่างๆมีมากมายละลานตา มีครบทุกชนิดให้เลือกซื้อพร้อมสรรพ
ดูแล้วชวนให้ลายตายิ่งนัก เพียงมองดูเฉยๆโดยยังมิได้ซื้ออันใด ในใจก็พองฟูด้วยความตื่นเต้นยินดีมากแล้ว
เมื่อรถเกวียนเทียมลาจอดสนิท
ทุกคนจึงลงจากรถ
“ช่างคึกคักจอแจเสียจริงๆ ! ไอ้หยา ขนาดตาสองข้างของข้ายังมองไม่ทั่วเลย !” อาสามกระพริบตาปริบๆ
แล้วอุทานออกมา
ทุกคนต่างหัวเราะกันครืน
“วันนี้พวกเราจะซื้ออะไรกันดีล่ะ หนึ่งปีมีแบบนี้หนเดียวน๊า มีอันใดอยากได้เป็นพิเศษก็อย่าได้เหนียม
อย่าได้ลังเลล่ะ!” เหลียนฟางโจวหัวเราะเอ่ยกับน้องๆอย่างใจปล้ำ
เหลียนฟางฉิง และเหลียนเช่อย่อมโห่ร้องดีใจไม่หยุด อาสามหัวเราะคิกคักไปด้วยอีกคน
จ้าวชื่ออดชำเลืองมองป้าจางไม่ได้ เห็นแม่สามีจูงหลี่จวน ขณะกำลังหัวเราะมองดูเหลียนฟางโจวและน้องๆด้วยความเอ็นดู แต่ไม่ได้เออออกับถ้อยคำของเหลียนฟางโจว จ้าวซื่อจึงอดลอบผิดหวังแกมอิจฉาไม่ได้
นางอยากจะปลีกตัวไปซื้อคนเดียวใจจะขาด แต่ถึงอย่างไร แม่สามีนางคงไม่อนุญาตเป็นแน่
เมื่อคิดใคร่ครวญอีกที สภาพความเป็นอยู่ปีนี้มันดีกว่าปีที่แล้วเทียบกันอย่างชนิดไม่เห็นฝุ่นมิใช่หรือ? ได้แต่ซื้ออาภรณ์ดีๆสองชุด
ดอกไม้ประดับผมสวยๆสองดอกแค่นั้นหรือ?
จะมองหาซื้อข้าวของอื่นๆอีกก็ทำมิได้แล้วหรืออย่างไร ?
เมื่อเห็นท่าทีตื่นเต้นกระหายใคร่ลองของทุกคนแล้ว พาให้เหลียนฟางโจวออกจะแตกตื่นขึ้นมาโดยพลัน กลัวว่าคลื่นมหาชนที่หลั่งไหลไม่หยุด จะเบียดเสียดแต่ละคนให้หลงทางกัน หญิงสาวจึงหันไปเอ่ยกับอาเจี่ยนด้วยรอยยิ้ม “อาเจี่ยน
รบกวนท่านช่วยข้าดูเช่อเอ๋อร์ กับอาเซ่อให้หน่อยสิ ข้าจะคอยเดินตามอาสามกับฉิงเอ๋อร์ไป หากพวกเราคลาดกัน อย่างไรเสียก็ให้มาเจอกันที่นี่นะ!”
“วางใจเถอะ มีข้าอยู่ด้วย พวกเขาไม่เป็นไรหรอก !” อาเจี่ยนพยักหน้าแย้มยิ้ม
เหลียนเซ่อผู้มีใบหน้างอง้ำเหลือบขึ้นมองด้วยความไม่พอใจ “พี่ใหญ่...ข้าหาใช่เด็กอมมือนะ! แถมนี่ยังมิใช่ครั้งแรกที่ข้าเข้าเมืองเสียด้วยซ้ำ!”
“จ้าๆ เจ้ามิใช่เด็กน้อยแล้ว!” เหลียนฟางโจวหัวเราะขำ ซ้ำยังหันไปตกลงกับป้าจางในแบบเดียวกัน
ในกรณีที่เกิดคลาดกันขึ้นมา
แต่ละคนเดินไปพลาง ชมดูสินค้ากันไปตลอดทาง
ทุกคนเริ่มเดินช้าลง พอทอดมองไป พวกป้าจางกับอาสามซื้อของไม่มากนัก แต่น้องๆหลียนฟางโจวกลับซื้อของกันยกใหญ่
ของกินนานาชนิดๆเป็นสิ่งแรกที่ขาดไม่ได้ ขนมน้ำตาลดอกกุ้ยฮวา ถั่วลิสง
เมล็ดสน และเม็ดแตงโมอย่างละถุงใหญ่ พอๆกับขนมน้ำตาลงา เมล็ดซิ่งแห้ง
(อัลมอนด์) องุ่นแห้ง พุทราแห้ง ลูกพลับแห้ง อีกทั้งผมไม้เชื่อมต่างๆ ซ้ำยังมีส้มสีทอง ลูกสาลี่อวบอิ่มที่ปลูกในท้องถิ่น อ้อยและของกินเล่นอื่นๆที่ขนมาจากเมืองใกล้ๆ ซึ่งนับว่าเป็นของกินที่หอบซื้อมาทั้งหมด
![]() |
ผลไม้เชื่อมแห้ง |
อีกประการหนึ่ง เพราะบ้านเธอต้องซื้อของมาเผื่อบรรดาข้าทาสทั้งหลายด้วย เหลียนฟางโจวเองจึงซื้อของมามากมายไม่น้อยหน้า
ลงท้ายคนทั้งบ้านก็ออกันอยู่ที่ร้านขายผลไม้
ตกลงกันว่าจะอยู่รอช่วยกันหิ้วของ
พอผ่านแผงขายเครื่องประทินผิว อาทิชาด ที่มีทั้งแบบน้ำและแบบผง ดอกไม้ผ้าทุกแบบ
ปิ่นเงิน กำไลเงิน อีกทั้งเครื่องประดับหินสีต่างๆ ทั้งหมดล้วนเป็นข้าวของที่บรรดาแม่นางน้อยทั้งหลายต่างชมชอบกันทั้งนั้น
จึงทำให้การเดินซื้อของช้าลงไปอีก
![]() |
ชาดแบบผงหรือน้ำ |
![]() |
ปิ่นเงิน |
เหลียนฟางโจวเองมิได้ให้ความสนใจกับของพวกนี้มากมายนัก จึงตรงเข้าไปดูแผงข้างๆที่ขายกระดาษชุนเหลียน
และภาพวาดสำหรับเทศกาลปีใหม่ ขณะที่มองดูอยู่นั้น
พบว่าตัวอักษรที่เขียนบนกระดาษชุนเหลียนไม่เลวนัก เมื่อแผ่ภาพวาดปีใหม่บนพื้นกระดาษสีแดงสดดู ก็พบว่าเป็นภาพวาดปลาหลี่หยู (ปลาคาร์ฟ) ตัวใหญ่ที่ถูกกอดโดยเด็กทารกอ้วนจ้ำม่ำสวมตู้โตว
(ชุดชั้นในที่ปิดหน้าอกและพุง) มีตัวอักษรเขียนว่าโชคดีมั่งมีศรีสุข มีภาพวาดเด็กผู้ชายดึงดูดทรัพย์และโชคดี ซ้ำยังมีภาพวาดไช่เฉินเย๋(เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง)ด้วย
จากนั้นก็มีภาพวาดเทพเจ้าอายุยืน
หรือโช่วซิงเป็นรูปผู้เฒ่ายืนถือลูกท้อศักดิ์สิทธิ์มีนกกระยางยืนเคียงข้าง และที่มีให้เห็นดาษดื่นมากที่สุดเห็นจะเป็นภาพวาดเด็กทารกอวบอ้วนสุขภาพดีอีกหลากหลายรูปแบบจนจาระไนไม่หมด
บ้างก็มัดผมแกละชี้ขึ้น แต้มจุดสีแดงสดกลางหว่างคิ้ว สวมตู้โตว สวมกำไลข้อมือข้อเท้า และย่อมไม่ขาดกองเงินกองทองของมีค่า
วางกองอยู่ข้างตัว ช่างดึงดูดสายตาผู้มองนัก
![]() |
ภาพเทพแห่งอายุยืนและนกกระเรียน |
เหลียนฟางโจวบังเกิดความคิดสว่างแวบขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวนับจำนวนประตูที่บ้านและหมู่ตึกในใจเงียบๆ
ผ่านไปชั่วอึดใจก็นับได้20บาน ซึ่งแต่ละบานมีสองข้าง ใช้ภาพวาดปีใหม่มากกว่าสองโหล พร้อมทั้งกระดาษคำอวยพรอีกราว 40-50 แผ่น
และยังมองหาเจี่ยนจื่อ(กระดาษฉลุลายสีแดงสด) อันอ่อนช้อยปราณีตพวกนั้นเพิ่มอีก
ซึ่งมีทั้งลายบุปผาเบ่งบาน ลายสมบูรณ์พูนสุขไปอีกหลายปี
ลายเงินทองเต็มคลัง ลายสามสุภาพชน ลายไม้มงคล ลายเทพฝูลู่โช่ว(เทพฮกลกซิ่ว) ลายเทพหลิวไห่ฉาน(เซียนพร้อมคางคกผู้ประทานเงินทอง
เวลาเซียนก้าวเดิน เงินทองจะไหลจากปากคางคก) ลายสัตว์นักษัตรตามปีนั้นๆ รูปทรงของกระดาษ นอกจากรูปวงกลมแล้ว ก็ยังมีรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
รูปคล้ายดอกกุ๋ยฮวา(ทานตะวัน)
เหลียนฟางโจวถูกลวดลายอันอ่อนช้อยปราณีตดึงดูดสายตาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวหยิบขึ้นมาถือไว้เสียแทบทุกรูปแบบ
ซ้ำยังตัดใจวางชิ้นใดไม่ลง
![]() |
กระดาษเจียนจื่อลายบุปผาเบ่งบาน |
![]() |
กระดาษเจี่ยนจื่อลายเทพหลิวไห่ฉาน |
แค่ชั่วเวลาสั้นๆ หญิงสาวหอบภาพวาดปีใหม่แบบละคู่มามากมายจนแทบล้นมือ
เถ้าแก่เจ้าของแผงจับจ้องเธออยู่ก่อนนานแล้ว
เห็นหญิงสาวหอบกระดาษเต็มสองมือด้วยความชื่นชอบ ไม่กล้าทิ้งใบไหนลงคล้ายรักพี่เสียดายน้อง เถ้าแก่เลยยิ้มแฉ่งกุลีกุจอเข้ามาคุยด้วย “แม่นางช่างตาถึงจริงๆ
กระดาษเจี่ยนจื่อทั้งหมดของข้านี้ล้วนเป็นของชั้นดีทั้งสิ้น ! แม่นางอยากให้ข้าลดราคาอย่างไรล่ะ? เมื่อซื้อกลับไปแปะหน้าต่างเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาล ยิ่งแปะมาก ก็ยิ่งดูเพลิดเพลินเจริญตานัก !
แถมยังสามารถเอามาแปะต่อกันเป็นรูปแบบต่างๆได้อีกด้วยนะ
!”
เหลียนฟางโจวถามเถ้าแก่ว่าราคาเท่าไร?
เถ้าแก่หัวเราะออกมาทันใด
รีบเอ่ยแย้มยิ้ม “ปกติราคาแต่ละชิ้น บางชิ้นก็ถูก บางชิ้นก็แพง แม่นางเป็นลูกค้าใหญ่ หนำซ้ำยังชื่นชอบสินค้าข้าจริงๆ ข้าเองก็หาใช่คนคิดเล็กคิดน้อยไม่ เช่นนั้นก็คิดราคาถูกที่สุด
คิดไปชิ้นละ 3 อีแปะก็แล้วกัน !”
ราคานี้นับว่าไม่แพงจริงๆเสียด้วย
เหลียนฟางโจวยิ้มพราย เธอดีใจยิ่งนัก สั่งซื้อไปมากกว่า 30 ชิ้น
ลงท้ายก็จ่ายเงินรวมทั้งสิ้น 900 อีแปะ
เหลียนฟางโจวเห็นพวกอาสามยืนเลือกซื้อสินค้าอยู่แผงข้างๆเหมือนกัน ที่ข้อมือเหลียนฟางฉิงสวมกำไลเงินคู่หนึ่งซึ่งห้อยกระดิ่งเล็กๆหลายอัน
หญิงสาวจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อันนี้เอาใช่ไหม? รีบหยิบขึ้นมาสิ
จะได้ไปที่อื่นกันต่อ ดีหรือไม่? อืม ไปแถวๆร้านขายผ้ากันดีกว่า จะได้ไปเลือกผ้าตัดชุดกัน!”
ทุกคนขานรับกันพร้อมเพรียง พอเห็นเหลียนฟางโจวหอบของมาเต็มแขน
ก็ทำตาโต
อาสามถึงกับร้องลั่น “โอ สวรรค์! ทำไมซื้อมาเยอะแยะแบบนี้ จะเอาไปทำอันใดกัน?”
-------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามนะคะ
ต้องขออภัยที่ลงช้า พอดีเพิ่งหายป่วยค่ะ ช่วงนี้อากาศแปรปรวน ผู้อ่านรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ป.ล. บทนี้ภาพเยอะไปหน่อยนะคะ คงไม่ว่ากัน ^_^
..ขอให้สุขภาพแข็งแรง..ไม่เจ็บไม่ป่วยอีกนะคะ
ตอบลบ..ภาพประกอบสวยมาก บางทีอ่านไปก้อจินตนาการไม่ออก ....กระดาษฉลุลายนี่สวยจริงๆ ขอบคุณในความตั้งใจของผู้แปลมากๆค่ะ..
ไม่ว่ากันค่ะ ภาพประกอบสวยมาก
ตอบลบสวยมากกกกกกกก แปลดีมากคะ เหมือนหลุดไปตลาดกับอาเหลียนเลยคะ
ตอบลบมาช่วงปีใหม่เหมือนกันเลย
ตอบลบขอบคุณค่ะ หายไวๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วได้บรรยากาศของวันใกล้เทศกาลดีค่ะยิ่งมีรูปภาพประกอบอีกรู้สึกอินจริงๆ รักษาสุขภาพนะค่ะ
ตอบลบขอบคุณนะคะ และรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ^^
ตอบลบขอบคุณค่ะ ..ขอให้สุขภาพแข็งแรง..
ตอบลบขอบคุณคนแปลค้ะ ภาษาสวย อ่านเข้าใจว่าย มีรูปภาพประกอบช่วยให้เข้าใจง่าย เพิ่มอรรถรสในการอ่านได้อย่างดี จอบคุณมากๆ ค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะได้ภาพปลากรอบ เข้าใจขึ้นเยอะเลยค่ะ😊😊
ตอบลบชอบภาพประกอบดูเป็นปีใหม่ที่คึกคักดีค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะภาพประกอบสวยมากเลยรู้สึกถึงความอรังการของปีใหม่จีนในยุคนั้นเลยค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบดูแลสุขภาพนะคะ
ขอให้ผู้แปลมีความสุขใจ สุขกาย นับแต่วันนี้สืบไปนะคะ
ขอบคุณค่ะ มีภาพทำให้เข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้น
ตอบลบรักษาสุขภาพด้วยนะคะ