วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 209 หวางซานมาเยือน (1)


เวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลานัด  ท้องแต่ละคนเริ่มร้องครวญครางด้วยความหิวบ้างแล้ว  พวกเขาจึงตกลงสั่งบะหมี่น้ำร้อนๆจากเพิงขายบะหมี่ละแวกใกล้เคียงมาดับความหิว หลังจากอิ่มหนำสำราญดีแล้ว ทั้งสองครอบครัวพากันหาซื้อของกินเล่นกลับบ้านเป็นอันมาก ได้แก่มิ่งจั่วเกา (เค้กพุทราเชื่อม) ที่พึ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆร้อนๆ  เหมียนโวทอด(โดนัทจีนทอด) ม๋าฮวา (โดนัททอดรูปเกลียว) พร้อมทั้งซูปิ่ง (ขนมปิ้งรูปกลม)
มิ่งจั่วเกา

เหมียนโว

ม๋าฮวา
ฝ่ายเหลียนฟางโจวคิดไปคิดมา รู้สึกว่าคืนนี้ไม่อยากทำอาหารมื้อเย็นอีกแล้ว  จึงได้ซื้อเกี๊ยวห่อไส้หนัก 5-6 ชั่งมาเพิ่มอีก เพื่อเอากลับไปเผื่อเหล่าบริวารทางบ้าน

“ข้าวของมากมายนัก แล้วเราจะเอาของที่ซื้อมาไปเก็บกันอย่างไรดีล่ะเนี่ย !”  จ้าวชื่อมองข้าวของพะรุงพะรังในมือของแต่ละคน  นางอดรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้
เหลียนฟางโจวจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “วางใจเถอะ  ข้าพึ่งจ้างรถไปคันหนึ่ง !”
เมื่อเห็นป้าจางทำท่าจะพูดอะไร เหลียนฟางโจวจึงรีบเอ่ยแย้มยิ้ม “ บ้านข้ามีหลายปากหลายท้อง  ย่อมต้องซื้อข้าวของเป็นอันมาก  แม้พวกท่านไม่มา  ข้าย่อมต้องจ้างรถมาช่วยบรรทุกของเพิ่มอยู่แล้ว !  พวกท่านมานับว่าดี  พื้นที่ว่างที่เหลือบนรถจ้างจะได้ไม่เสียไปเปล่าๆด้วย !”
ป้าจางรู้ดีแก่ใจดีว่าเหตุผลส่วนหนึ่งนั้น มาจากน้ำใจอันดีงามของหญิงสาวด้วย  นางจึงได้แต่แย้มยิ้ม มิได้เอื้อนเอ่ยอันใด
อันที่จริง ที่ยังมีที่ว่างเหลือ เป็นเพราะทางเหลียนฟางโจวได้ซื้อของบางส่วนไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานซืน  ซึ่งเป็นข้าวของที่ต้องคอยซื้อเข้ามาเติมให้ทางหมู่ตึกนั่น อันได้แก่ ข้าว แป้งสำหรับทำเส้นหมี่ เกลือ น้ำมัน ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู กานไช่(ผักแห้ง) หาไม่แล้ววันนี้คงได้ซื้อเพิ่มอีก !
ทุกคนในคณะล้วนคุ้นเคยกับการใช้มือหยิบจับทำงาน ต่างคนต่างคุยกันไปหยอกล้อกันไป ในในขณะช่วยกันจัดวางข้าวของที่ซื้อมาใส่รถ เผลอแผลบเดียว ข้าวของทุกชิ้นก็ถูกจัดวางอย่างเป็นระบียบเรียบร้อย ครั้นแล้วพวกเขาก็แบ่งกันไปนั่งรถทั้งสองคัน  เพื่อเตรียมเดินทางกลับบ้าน
เพลานี้ ล่วงเข้ายามฉือแล้ว (15.00-17.00 น)
ช่วงฤดูหนาว ดวงอาทิตย์ตกเร็วกว่ายามปกติ ระหว่างที่เดินทางมา แสงตะวันจางลงไปมากแล้ว  จึงเห็นเงาที่เกิดอยู่ด้านหลังทอดตัวยาวเหยียด
เมื่อคนทั้งหมดบรรลุถึงจุดหมายปลายทาง ตะวันได้ลับขอบฟ้าไปแล้วจนมองไม่เห็น  ท้องฟ้ายามนี้เห็นเป็นเพียงสีเทาหม่น
ทุกคนล้วนยิ้มแย้มช่วยกันขนของลงมาจากรถคนละไม้คนละมือ หลังส่งรถที่จ้างกลับไปแล้ว ต่างคนต่างช่วยกันขนข้าวของไปเก็บ
อาเจี่ยนรีบขับรถเข้าไปในลานด้านหลัง เพื่อปลดรถลากออกจากตัวลา  จากนั้นชายหนุ่มจึงจูงลาเข้าไปขังไว้ในคอก เพื่อให้อาหาร
อาสามเอาไก่เป็นๆที่ซื้อมา ไปขังไว้ในเล้าไก่  นางคอยย้ำเตือนเช่อเอ๋อร์  และโดยเฉพาะเหลียนฟางฉิงว่า ห้ามเปิดประตูเล้าไก่เด็ดขาด “ไก่ที่ซื้อกลับมามันกลัวคนแปลกหน้าเสียที่ไหนกัน  ขืนปล่อยให้มันหลุดออกไปได้ จะตามจับกลับมาคงเล่นเอาเหงื่อตกเลยล่ะ !”
ฝ่ายเหลียนฟางโจวเอาเกี๊ยวดิบพร้อมปลาหลี่หยูเข้าไปเก็บในครัว  หญิงสาวกำลังคิดว่าคืนนี้จะเอาปลาหลี่หยูสองตัวนั้น มาแล่เนื้อชุบแป้งทอดให้หมด  พรุ่งนี้จะได้พร้อมสำหรับการปรุงอาหาร  อีกทั้งยังมีหมูสามชั้นก้อนใหญ่ที่ต้องเอามาต้มให้สุกก่อนนั่นอีก
ส่วนเหลียนเซ่อกับเหลียนเช่อ ช่วยกันลำเลียงเนื้อหมู พร้อมทั้งผักสดและผักแห้งต่างๆเข้าไปเก็บไว้ในครัวด้วย
บรรดาของกินเล่นนานาชนิด เหลียนฟางฉิงเป็นผู้รับผิดชอบทะยอยขนเข้าไปในบ้านอย่างขะมักเขม้นประหนึ่งมดงานแสนขยัน....
ขณะที่ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับงานในมืออยู่นั้น  ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องเรียกอันเฉื่อยเนือยดังลอดประตูมา “มีใครอยู่ไหม? มีใครอยู่ข้างในไหม?”
เหลียนฟางโจวและอาสามกำลังง่วนอยู่กับการจัดวางข้าวของทั้งหมด ที่ซื้อขนกลับมาจนเต็มห้องครัวอยู่  เย็นย่ำป่านนี้แล้วยังมีใครมาหาที่บ้านอีกนะ?
“เอ๋” เหลียนเซ่อประหลาดใจขึ้นมาโดยพลัน  จึงหันไปเอ่ยกับเหลียนฟางโจวด้วยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย “พี่ใหญ่ เสียงนี้  ฟังดูคุ้นหูอย่างไรพิกลนะ?”
เด็กหนุ่มทำท่าครุ่นคิดอย่างหนัก พลางเอามือคลึงขมับแรงๆเผื่อจะทำให้คิดออก ครั้นแล้วจึงเอ่ยขึ้น “ทว่าเหตุใดข้าถึงคิดไม่ออกน๊า !”
“ฟังเจ้าพูดมาแบบนี้แล้ว ข้าเองก็คิดไม่ออกเหมือนกัน “  เหลียนฟางโจวมีสีหน้าฉงนฉงายไม่ต่างจากน้องชายตน ชัดเจนว่าทั้งสองคนต่างยังนึกไม่ออกเสียที
“ข้าไปดูให้เอง !”  เหลียนเช่อวางของในมือลง แล้วจึงรีบรุดออกไป
“พวกข้าไปด้วย !”  เหลียนฟางโจวกับเหลียนเซ่อต่างรีบสาวเท้าตามไปติดๆ
ฝ่ายอาสามไปยืนเปิดประตูเรียบร้อยแล้ว  นางเปิดปากถามผู้มาเยือน “เจ้าเป็นใครเหรอ ?   มาหาผู้ใดกัน?”
ทุกวันนี้เหลียนฟางโจวพบปะผู้คนมากมาย  หากจะมีคนแปลกหน้ามาหาบ้าง ก็มิใช่เรื่องแปลกอันใดนัก อาสามจึงมิได้รู้สึกประหลาดใจ
“คนสกุลจ้าวจากในเมืองมาหา  แล้วคุณหนูบ้านท่านอยู่ไหนล่ะ?  ยังไม่ไปเรียกนางมาพบอีก!”  ผู้มาเยือนถามขึ้นอย่างไม่สนใจคนตรงหน้า  แถมยังชะโงกหน้า สอดส่ายสายตาเข้าไปในรั้วบ้าน  พลางทำท่าจะสาวเท้าเข้าไปด้านใน
ผู้มาเยือนเป็นชายหนุ่มมีแส้ยาวเสียบไว้ข้างเอว น่าจะเป็นสารถีขับรถม้า
“นี่ เจ้าเป็นใครกัน ?  ไฉนถึงไร้มรรยาทเยี่ยงนี้!”  อาสามเห็นผู้มาเยือนมีท่าทางไม่แยแส แถมหยิ่งยโสไม่เห็นนางอยู่ในสายตา จึงบันดาลโทสะ ยื่นแขนมาขวางเขาไว้ พลางถลึงตาใส่อย่างไม่รักษามรรยาทอีกต่อไป
 “เจ้าคือใคร ?
 “หวางซาน !”
เหลียนฟางโจวและเหลียนเซ่ออุทานด้วยความประลาดใจพร้อมกัน
“พี่ใหญ่ พี่รอง  คนนั้นคือหวางซานที่โดนไล่ออกไปเมื่อสองสามวันก่อนนี่นา?”  เหลียนเช่อทำตาโต รู้สึกประหลาดใจเป็นล้นพ้นอีกคน
ดวงตาของหวางซานมีประกายโทสะและแค้นเคืองพาดผ่านวูบหนึ่ง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตาพลางแค่นเสียงเย็นชา “แม่นางเหลียนทักคนผิดแล้ว ข้ามีนามว่าจ้าวซาน !  เป็นคนของจวนสกุลจ้าวในเมืองต่างหาก!”
            ส่วนเหลียนเซ่อ  และเหลียนเช่อสองคนนั้น  เขาไม่เหลือบแลสักนิด
จ้าวซานรึ ?  เหลียนฟางโจวแทบหัวเราะไม่ออก คุณหนูจ้าวหรูจุนแห่งจวนสกุลจ้าวผู้นั้นช่างน่าทึ่งแท้  อุตส่าห์ซื้อคนมา ทว่าตอนตั้งชื่อกับขี้เกียจเสียนี่ !
อย่างไรก็ดี ผู้อื่นอยากจะตั้งชื่อว่าจ้าวซาน ก็มิใช่ว่าจะเป็นไปมิได้  จริงไหม ?
เหลียนฟางโจวมิได้ตอบโต้จ้าวซาน เธอหันไปเอ่ยกับเหลียนเซ่อแทน  “มิคาดว่าไช่หวู่หลางช่างเป็นคนมากฝีมือ  ทำการค้าเพียงอย่างเดียว ก็สำเร็จรวดเร็วปานนี้!”
การค้าอย่างเดียวของไช่หวู่หลาง แน่นอนก็คือการเอาจ้าวซานไปขายต่อ
เหลียนเซ่อพลันหัวเราะและพยักหน้าเห็นด้วยอีกคน “พี่ใหญ่กล่าวถูกต้องแล้ว !”
จ้าวซานแทบหงายเหงิบ  ใบหน้าทาสหนุ่มซีดสลด มือเท้าเย็นเฉียบลงไปสามส่วน  นึกอยากจะพูดจาเหน็บแนมดูถูกหญิงสาวสักสองสามคำ เหลียนฟางโจวพลันหันมาจับจ้องเขา ด้วยสีหน้าตกใจ ก่อนเอ่ยออกมาด้วยความแปลกใจ  “สกุลจ้าวรึ ?  สกุลจ้าวไหนล่ะ ที่ซื้อเจ้าไปเนี่ย ?
อันที่จริง หญิงสาวรู้แจ้งแก่ใจอยู่แล้ว ตั้งแต่เห็นรถม้าที่จอดอยู่นอกรั้วบ้าน  มิจำเป็นต้องถามอดีตทาสให้มากความเลย
เดิมทีจ้าวซานนึกว่าพอพวกเหลียนฟางโจวเห็นเขาแล้ว จะต้องตกตะลึงจนพูดไม่ออกเป็นแน่ ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะ พอนางขายเขาออกไปปุ๊ป ทางสกุลจ้าวก็ซื้อเขากลับมาปั๊ป นั่นแสดงว่านางไม่มีทางรู้เรื่องนี้มาก่อนแน่นอน
ทีแรกเขานึกว่าตนเองจะคุกคามความมั่นใจของนางได้  ทาสหนุ่มเตรียมปลดปล่อยความคลั่งแค้นในอกที่เคยถูกอีกฝ่ายเล่นงานออกมา ที่ไหนได้ เขาแค่เปิดปากพูดออกไปคราเดียว ก็โดนนางพูดจาดูถูกเสียนี่
แม้แต่สกุลจ้าว นางก็ยังแสร้งทำเป็นนึกไม่ออก !
ทุกครั้งที่เอ่ยถึงสกุลจ้าว  เพียงฟังแค่ชื่อสกุล  จะมีใครไม่รู้จักหรือ ว่าหมายถึงสกุลจ้าวใด?
จ้าวซานแค่นเสียง “แม่นางเหลียนนะหรือจะไม่รู้จัก?  สกุลเจ้าคือตระกูลคหบดีที่มั่งคั่งสูงส่ง มีไม่กี่ตระกูลในเมืองยู่เหอ ที่จะร่ำรวยยิ่งใหญ่ปานนี้ !”
เพลานี้  คงสำเหนียกถึงตัวตนของข้าแล้วสินะ?  คงจะกลัวหัวหดกันละสิ?
พอจ้าวซานกล่าวจบ ก็รู้สึกหยิ่งผยองขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
 “ดูไปแล้ว สกุลนี้น่าจะไม่เท่าไรนะ  มีที่ไหน  ส่งทาสกระจอกๆมาติดต่อ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น ช่างทำให้ผู้คนดูแคลนเสียจริงๆ! “  อาสามกลอกตาใส่
เหลียนฟางโจวจึงเอ่ยแย้มยิ้มกับอาสาม “อาสาม พวกข้าวของในครัว ข้ายังจัดเก็บไม่เสร็จเลย ท่านเข้าไปเก็บเถอะ เช่อเอ๋อร์ เจ้าไปช่วยหน่อยสิ !  แล้วยังฉิงเอ๋อร์อีก ไม่รู้ว่าขนของเข้าไปเก็บในบ้านถึงไหนแล้ว  พวกท่านจัดของในครัวเสร็จแล้ว ก็เข้าไปตรวจดูเรื่องนี้ให้ด้วยนะ อืม เย็นมากแล้วล่ะ ใกล้จะได้เวลาจุดเตาไฟทำอาหารแล้ว  ทุกคนคงจะเริ่มหิวกัน......”
เหลียนฟางโจวยังคงร่ายยาวไปเรื่อย  ด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ ไม่เร็วไม่ช้า แต่ฟังดูแล้ว  คล้ายว่าจะไม่มีทางจบง่ายๆ
จ้าวซานจึงโดนหญิงสาวทิ้งขว้างอย่างไม่ใยดีเช่นนี้นี่เอง  โทสะของทาสหนุ่มพุ่งพล่านจนอกแทบระเบิด
ในที่สุดฟางเส้นสุดท้ายของเขาก็ขาดสะบั้นลง  ทาสหนุ่มจึงเปล่งเสียงร้องดังขึ้น “แม่นางเหลียน....”
 “หุบปาก !”  เขาพูดยังไม่ทันจะจบ เหลียนเซ่อผู้มีใบหน้าเคร่งขรึม ก็ด่ากราดเสียงดัง “เจ้าเป็นทาสประสาอะไร ทำไมหยาบคายเช่นนี้  ไม่เห็นหรือว่าพี่สาวข้ากำลังพูดอยู่ ?  อย่าบอกนะว่าสกุลจ้าวชอบใช้กำลังข่มขู่ผู้อื่น !  ปล่อยให้ทาสคนหนึ่งมาล้อเล่นกับเจ้านายคนก่อนได้ !”
จ้าวซานนิ่งขึงโดยฉับพลัน  จำต้องยอมยืนสงบปากสงบคำ  ทำหน้าบูดบึ้งอยู่ตรงนั้น
แม้เขาไม่เคยเห็นพวกน้องๆเหลียนฟางโจวอยู่ในสายตา แถมยังคิดจะแก้แค้นเอาคืน  แต่ทาสหนุ่มก็ยังรู้หนักเบา  รู้ดีว่าเรื่องไหนลงมือได้ เรื่องไหนลงมือไม่ได้
----------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ กำลังใจ และการติดตามค่ะ
และพร้อมกันนี้ ก็ขออัพนิยาย เป็นของขวัญเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2019 แด่ผู้อ่านทุกท่าน และขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ มั่งคั่งร่ำรวย สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์  พบแต่สิ่งดีๆในชีวิตตลอดไปนะคะ ^_^

31 ความคิดเห็น:

  1. สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ ขอให้มีสุขภาพกายสุขภาพจิตที่ดี ร่ำรวยเงินทอง มีความสุขตลอดปีและตลอดไปค่ะ ^3^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณนะคะ สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ

      ลบ
  2. ขอบคุณในน้ำใจผ้แปลค่ะ ขอให้สมหวังในสิ่งปรารถนานะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณค่ะ ขอให้มีความสุขในเช่นกัน
      ค่ะ

      ลบ
  3. ขอบคุณและสวัสดีปีใหม่ค่ะขอให้ผู้แปลสุขสมหวังสมปรารถนาในทุกด้าน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้ผู้อ่านมีความสุขความเจริญตลอดไปค่ะ

      ลบ
  4. สวัสดี​ปีใหม่​ มีความสุข​มาก​นะคะ
    ขอบคุณ​สำหรับนิยายดีๆค่ะ❤️❤️❤️❤️

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ขอให้ผู้อ่านประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดไปค่า

      ลบ
  5. สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะไรท์เป็นของขวัญวันขึ้นปีใหม่ที่ทำให้มีความสุขมากเลยค่ะดีใจที่เป็นแฟนคลับไรท์ยาวนานขึ้นอีกปีแล้วขอบคุณมากนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้เสมอนะคะ ขอให้ผู้อ่านมีแต่ความสุข และโชคดีตลอดไปค่ะ

      ลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ1 มกราคม 2562 เวลา 16:13

    ขอบคุณสำหรับของขวัญวันปีใหม่บทนี้ค่ะ
    สวัสดีปีใหม่คุณชัญ ภัทรค่ะ

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณมากค่ะ
    มีความสุขมาก ๆ นะคะ

    ตอบลบ
  8. สวัสดีวันปีใหม่ค่ะไรท์ ขออวยพรให้มีความสุขมีสุขภาพแข็งแรงและสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาทุกประการตลอดปีนี้นะค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สุขสันต์ปีใหม่ค่ะ ขอให้ผู้อ่านสุขภาพแข็งแรง มีความสุข ความเจริญตลอดไปค่ะ

      ลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ1 มกราคม 2562 เวลา 19:21

    สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง ทำสิ่งใดก็ให้สมดังใจค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้พบแต่สิ่งดีๆตลอดปีนะคะ

      ลบ
  10. สวัสดีปีใหม่ค่ะขอให้มีแต่ความสุขทำสิ่งใดก็ขอให้ราบรื่นสมหวังทุกอย่างนะค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สุขสันต์ปีใหม่ค่ะ ขอให้สุขสมหวังทุกประการค่ะ

      ลบ
  11. สวัสดีปีใหม่ผู้แปลด้วยค่ะ ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะคะ

    ตอบลบ
  12. สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณค่ะ ขอให้สุขสมหวังตลอดปีนะคะ

      ลบ
  13. เราปีใหม่ ในเรื่องก็เข้าปีใหม่เหมือนกัน ชักอยากจะหาซื้อกระดาษแดงมาติดบ้านบ้างละนะเนี่ย...สวัสดีปีใหม่ค่ะ Empty Mind

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ ขอให้โชคดีตลอดปีนะคะ

      ลบ
  14. ขอบคุณที่เสียสละเวลาแปลให้อ่านนะคะ สนุกมากค่ะ

    ตอบลบ