วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2562

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 210 หวางซานมาเยือน (2)


หากเหลียนฟางโจวนำถ้อยความนี้ไปถามที่สกุลจ้าวขึ้นมา  หรือบางทีหากมีคนเอาถ้อยความนี้ไปลือกันต่อ  ไม่แน่คุณหนูจ้าวอาจตัดสินใจไม่เลี้ยงเขาไว้ก็เป็นได้
หลังเหลียนฟางโจวสั่งการยาวเหยียดจนเสร็จสิ้น  หญิงสาวได้ปัดเส้นผมเงางามเป็นประกายที่ระบนใบหน้าเพราะแรงลมพัดออก ขณะเฝ้ามองอาสามและเหลียนเช่อผละจากไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม  “อ๋อ” จู่ๆหญิงสาวก็ลากเสียง แล้วค่อยๆหันมามองจ้าวซานเต็มสองตา  “ที่แท้คุณหนูใหญ่สกุลจ้าว ไปซื้อเจ้ากลับมาน่ะเอง !”

หญิงสาวยืนเอ้อระเหยอย่างเกียจคร้านอยู่ตรงนั้น  พลางไล่สายตามองสำรวจจ้าวซานขึ้นลงคราหนึ่ง  ครั้นแล้วจึงคลี่ยิ้ม เปล่งเสียงเรียบเรื่อยคล้ายคนไร้ซึ่งความไม่สบายใจทั้งปวง  “ดูท่าเจ้าคงมีดีอยู่บ้างละนะ ถึงได้รอดมาได้ !”
พอหญิงสาวกล่าวจบ ก็เงยหน้าขึ้นมานิดหนึ่ง  พลางเอ่ยเสียงเนือยอย่างคนที่มีสถานะสูงกว่า  “คุณหนูจ้าวสั่งให้เจ้ามาทำอะไรรึ?  ไหนว่ามาสิ !”
จ้าวซานโกรธแทบหน้าคว่ำ !
นี่จะเรียกว่าอะไรดี
ไยช่างแตกต่างจากที่เขาอุตส่าห์คิดฝันไว้อย่างหน้ามือเป็นหลังมือเล่า !
สกุลจ้าวจริงๆแล้วเป็นชนชั้นระดับใด? สกุลแสนต่ำเตี้ยเรี่ยดินอย่างสกุลเหลียนนับเป็นอะไรได้?  คราก่อนยาโถวชั้นต่ำผู้นี้กระทำการหมิ่นเกียรติตัวเขา อย่าบอกนะว่านางไม่กลัว? ไม่กลัวจะมีปัญหากับตัวเขาผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนของจวนสกุลจ้าวอย่างเต็มตัวแล้ว?
ต่อให้เปลี่ยนเป็นนางมีปัญหากับสกุลจ้าวโดยตรง  ด้วยเครือข่ายอันกว้างขวางในเมือง ซึ่งมีมากกว่าสกุลเหลียนบ้านนอกไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า !  อยากจะบี้สกุลเล็กๆอย่างสกุลเหลียน  เพียงเอ่ยปากไม่กี่คำ เรื่องก็เรียบร้อย !
แล้วไยเขาถึงไม่เห็นความหวาดหวั่นในตัวนางสักเสี้ยวเลยเล่า? 
“พี่สาวข้ากำลังถามเจ้าอยู่นะ  หากไม่มีเรื่องอันใด ก็รีบไสหัวไปซะ!” เหลียนเซ่อเอ่ยขึ้นอย่างหมดความอดทน
จ้าวซานแบกความคลั่งแค้นไม่ยอมรับไว้เต็มอก เฝ้าปลอบใจตัวเองว่าแก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย จึงแค่นเสียงเย็น น้ำเสียงหยิ่งยะโสไม่น้อย “แม่นางซี่เชวี่ยมาหา คุณชายเจี่ยนอยู่หรือไม่?”
อาเจี่ยนถือเป็นหวานใจของซี่เชวี่ย ยามพูดถึงอาเจี่ยน จ้าวซานจึงเจือความสุภาพขึ้นหนึ่งส่วน
เหลียนฟางโจวพลันเข้าใจเรื่องราวขึ้นมาทันใด  ครั้นแล้วจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อ้อ...ที่แท้ซี่เชวี่ยมาอีกแล้ว  อาเซ่อ เจ้าพาแม่นางซี่เชวี่ยไปหาอาเจี่ยนที่ลานหลังบ้านสิ ข้ายังมีงานที่ต้องเร่งมืออีกมาก คงไปเป็นเพื่อนด้วยไม่ได้!”
เหลียนฟางโจวสั่งความ โดยไม่มีการเหลือบสายตามองจ้าวซานแม้แต่แวบเดียว  จากนั้นจึงผละจากไป
ช่างน่าขำ! เป็นแค่ทาสที่เธอขายทิ้งไปกับมือ ถึงยามนี้จะไปอยู่ในจวนผู้อื่นแล้ว ก็ยังนับว่าเป็นเพียงทาสคนหนึ่งอยู่ดี  ทาสเลวๆผู้นี้กล้าบุกมาต่อปากต่อคำกับเธอถึงที่ !  คิดว่าเธอจะเกรงกลัวกระนั้นหรือ  ช่างใสซื่อเสียจริง  กล้าเผยอมาเทียบชั้นกับเธอ  คิดว่าจะทำได้รึ?
หากเธอยังกลัวแม้แต่คนผู้นี้   เชื่อได้เลยว่า จากนี้ไปจะยังควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาได้กระนั้นหรือ ? ภายภาคหน้าจะยังหวังทำสิ่งใดสำเร็จเล่า?
เหลียนฟางโจวไม่รู้ว่าจ้าวหรูจุนผู้นั้นลึกๆแล้วคิดอะไรอยู่ในใจ ถึงได้ส่งทาสที่นางขับไล่ไสส่งไปแล้ว กลับมาทำท่าจองหองอวดดีต่อหน้าตน !  ว่ากันตามเนื้อผ้า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สกุลจ้าวไม่สมควรกระทำ  ชัดเจนว่า นางจงใจหมิ่นเกียรติตนอย่างจริงแท้แน่นอน  หญิงสาวจึงตอบโต้ วิธีการอันไม่สมควรกระทำสักนิดของสกุลจ้าว !
หากเรื่องนี้ล่วงรู้ไปถึงหูผู้คนทั้งหลายเข้า  ความผิดย่อมตกเป็นของสกุลจ้าวของนางเอง !
อย่าบอกนะว่า ชื่อเสียงด้านข่มเหงรังแกชาวบ้านของสกุลจ้าวยังฉาวโฉ่ไม่พอ?
 “เจ้า !”  จ้าวซานถึงกับถลึงตาไล่หลังเหลียนฟางโจว พลางสาวเท้าตามไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว  แต่สุดท้ายก็หยุดยืนนิ่ง ด้วยไม่อาจทำอันใดได้ เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เหลียนฟางโจวจะไม่เห็นแก่หน้าของสกุลจ้าวเช่นนี้!
ทว่าแม่นางซี่เชวี่ยผู้นั้น ถือเป็นคนสนิทข้างกายคุณหนูใหญ่สกุลจ้าวเชียวนะ  คนเขาอุตส่าห์ลดตัวมาเยือนที่บ้านสับปะรังเคของหญิงผู้นี้  นับเป็นบุญหัวของนางแค่ไหนแล้ว !  เจ้าของบ้านอย่างนางไม่ควรยิ้มแย้มแจ่มใส  มีไมตรีต่อผู้มาเยือน คอยต้อนรับแม่นางซี่เชวี่ย พาเข้าไปในบ้านเพื่อดูแลรับรองด้วยตนเอง จากนั้นจึงค่อยไปเรียกอาเจี่ยนมาพบแม่นางซี่เชวี่ยหรอกหรือ?
ช่างน่าประหลาดนัก ไยถึงให้แม่นางซี่เชวี่ยไปลานด้านหลังอะไรนั่นเองเล่า !
            ซี่เชวี่ยรู้ว่าจ้าวซานมีเรื่องขัดแย้งกับเหลียนฟางโจวมาก่อน  วันนี้นางบอกว่าจะมาบ้านเหลียนฟางโจว จ้าวซานเป็นฝ่ายกุลีกุจอขออาสาเป็นสารถีขับรถม้า ซี่เชวี่ยเห็นคุณหนูนางอนุญาต นางจึงเห็นดีเห็นงามไปด้วยอีกคน
            ระหว่างเดินทาง จ้าวซานเป็นฝ่ายอาสาจะขอไปเจรจาอำนวยความสะดวกให้แก่นาง   ซึ่งเห็นท่าที่มุ่งร้ายแสดงออกมาบนใบหน้าทาสหนุ่มเต็มเปี่ยม  ซี่เชวี่ยเองไม่ชอบคนสกุลเหลียน โดยเฉพาะเหลียนฟางโจวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยมาเช่นนั้น  ย่อมเห็นดีเห็นงามไม่ขัดขวาง
พอจ้าวซานกระโดดลงจากรถม้า แล้วสาวเท้าเข้าไปยังรั้วบ้าน ซี่เชวี่ยซึ่งอยู่ในรถม้า จึงคอยตะแคงหูฟังอย่างตั้งใจ   ทั้งได้ยินเหลียนฟางโจวพูดเพียงไม่กี่ประโยค ก็เล่นงานจ้าวซานจนต้องยอมศิโรราบ ไม่กล้าหืออือ  ในใจสาวใช้ตระกูลใหญ่อดกล้ำกลืนความหวาดหวั่นที่ผุดขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วนไม่ได้
สาวใช้คุณหนูจ้าวอดก่นด่าความโง่เง่าของจ้าวซานในใจไม่ได้  มิสงสัยแล้วว่าทำไมถึงได้โดนชาวบ้านเขาเล่นงานจนสะบักสะบอม จนต้องถูกขายออกมาเยี่ยงนี้  มิรู้จริงๆเลยว่า คุณหนูซื้อเจ้าคนไร้ประโยชน์สิ้นดีเช่นนี้กลับมาทำซากอันใด !
พอได้ยินว่าเหลียนฟางโจวไปทำธุระ ทั้งยังมอบหมายให้เหลียนเซ่อพานางไปพบอาเจี่ยน  ซี่เชวี่ยจึงลงมาจากรถม้าทันใด
นางรู้ดีว่า การนั่งคอยอยู่ในรถม้า  แล้วรอเหลียนเซ่อมาเชื้อเชิญ คงเป็นเพียงภาพในความฝันเท่านั้น และขืนนางยังลงไปช้า เหลียนเซ่อคงไม่ยอม  เด็กหนุ่มเป็นได้หันหลังรีบไปทำงานที่คั่งค้างในมือต่อทันที !  และเมื่อถึงเวลานั้น คนที่ต้องเจอสถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วนนี้  คงเป็นใครไปมิได้  นอกจากนาง !
ซี่เชวี่ยอดเคียดแค้นในใจมิได้  ลองให้คุณหนูใหญ่มาเองสิ   อยากดูน้ำหน้านัก ว่าพวกนางจะกล้าละเลยเยี่ยงนี้ไหม!
อันที่จริง นางรู้ดีด้วยซ้ำว่า  หากคุณหนูมาด้วยตัวเอง  ไม่ว่าในใจเหลียนฟางโจวผู้นั้นจะคิดอย่างไร  ภายนอก ย่อมต้องต้อนรับขับสู้ด้วยความนอบน้อมเป็นแน่ !
ใครใช้ให้นางหาใช่คุณหนูลูกผู้ดี  เป็นแต่เพียงยาโถวผู้หนึ่ง ?  มีเหตุผลอันใดที่เจ้าของบ้าน จะต้องมาคอยเอาอกเอาใจตนเองด้วย?
เมื่อประจักษ์ชัดในเหตุผลข้อนี้แล้ว  ซี่เชวี่ยให้รู้สึกชังวาสนาอันต่ำต้อยของตนเองนัก
“ขอบคุณ คุณชายเหลียนที่เป็นธุระให้  พี่เจี่ยนอยู่ที่ไหนรึ  รบกวนท่านพาข้าไปทีเถิด !”  ซี่เชวี่ยเดินเข้าไปในลานบ้าน  ขณะที่ยิ้มแย้มอ่อนน้อมให้เหลียนเซ่อ  ซ้ำยังมิวายหันไปถลึงตาใส่จ้าวซานด้วย
จ้าวซานถึงกับนิ่งงันไป
เหลียนเซ่อเองมองนางอย่างแปลกใจไม่น้อย  ครั้นแล้วจึงเอ่ยเสียงเนิบ “เชิญตามข้ามา!”
“ดี!” ซี่เชวี่ยยิ้มแย้ม ขณะเดินตามเหลียนเซ่อไป
            เดินไปได้ไม่กี่ก้าว เหลียนเซ่อก็หยุดปลายเท้า  พลางหันมาเอ่ยกับจ้าวซาน “นี่ จ้าวซาน  เจ้าย้ายรถมาของจวนเจ้าออกไปที  มันเกะกะขวางประตูบ้านข้าอยู่รู้ไหม !”
            จ้าวซานหน้าหงิกขึ้นอีกสองส่วน ทั้งโมโห ทั้งหงุดหงิด ทั้งอับอาย ทั้งเดือดดาล  ทาสหนุ่มเสมองไปทางอื่น  ทำเป็นไม่ได้ยิน
            เหลียนเซ่อจึงโพล่งขึ้น “คนของจวนสกุลจ้าวไม่รู้จักธรรมเนียมมรรยาทถึงปานนี้ จริงหรือนี่?  ในเมื่อเจ้านิ่งดูดาย ข้าจะไปจัดการย้ายเอง !”   ปากพูดไป ตัวก็เดินตรงไปที่ประตูรั้วแล้ว
ซี่เชวี่ยรีบเรียกให้เขาหยุด  พลางหันไปเอ่ยกับจ้าวซานด้วยสีหน้าไม่พอใจ “จ้าวซาน  มัวยืนบื้ออะไรอยู่ รีบไปย้ายรถม้าสิ !”
ฝ่ายจ้าวซานไม่กล้าไม่เชื่อฟังซี่เชวี่ย  ถึงซี่เชวี่ยจะกดขี่พวกเดียวกันให้ได้รับความอับอายต่อหน้าคนนอกเยี่ยงนี้  เขาก็ทำได้แต่ก้มหน้ารับคำ “ขอรับ !” แล้วเดินไปปฏิบัติตามคำสั่ง  แน่นอน  เขาย่อมไม่พลาดถลึงตาใส่เหลียนเซ่อคราหนึ่ง
เหลียนเซ่อคร้านจะใส่ใจ กับสายตาของทาสหนุ่มนัก  เขาจึงเดินนำซี่เชวี่ยเข้าสู่ลานด้านหลัง
เหลียนฟางโจวลอบมองจากในเรือน หญิงสาวแอบหัวเราะขันในใจ  แล้วจึงเอ่ยกับเหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อด้วยใบหน้าระบายยิ้ม “คนอะไร อยากหาเรื่องผู้อื่น แต่ไม่ดูฐานะตนเอง  ช่างโง่เสียจริง !”  เธอใช้โอกาสนี้หยิบยกบทเรียนนี้มาให้ความรู้แก่เหลียนฟางฉิงและเหลียนเซ่อไปด้วย
เมื่อได้ฟังแล้วเหลียนฟางฉิงและเหลียนเช่อพากันพยักหน้าหงึกหงัก น้องชายน้องสาวตัวน้อยสองคนนี้ ล้วนเป็นเด็กฉลาด ซ้ำยังคิดแตกแขนงด้วยตนเองไปได้อีกมากมายนัก
เหลียนเซ่อพาซี่เชวี่ยบรรลุถึงลานด้านหลัง ขณะนั้นอาเจี่ยนกำลังให้อาหารลาอยู่ “พี่เจี่ยน” เหลียนเซ่อเปล่งเสียงเรียก เมื่ออธิบายจุดประสงค์ที่มาเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มจึงกลับออกไป
อาเจี่ยนเมื่อเห็นซี่เชวี่ย  ชายหนุ่มหน้าดำคร่ำเครียดขึ้นทันควัน
“เจ้ามาที่นี่ทำไมอีก !”  น้ำเสียงของอาเจี่ยนไม่มีความอดกลั้นเลยแม้แต่น้อย  อีกนิดเดียว เขาคงได้อาละวาดแน่  มิคิดเลยว่า ซี่เชวี่ยจะหน้าหนาปานนี้ !  คล้ายว่าหญิงสาวเอาแต่แวะเวียนมาหาเขาไม่รู้จักจบจักสิ้นเสียที !
“พี่เจี่ยน !” ซี่เชวี่ยเลือกจะไม่สนใจสีหน้าดำทะมึนที่ชายหนุ่มแสดงออก รวมถึงสายตาชิงชังที่หลุบมองพื้นด้วย สาวใช้มองกระโปรงของตน ขณะจับยกขึ้น  สาวเท้าที่สวมรองเท้าปักลายอ่อนช้อยสีแดงพุทราเจิดจรัสไปหาชายหนุ่ม หญิงสาวย่างเท้าไปก้าวหนึ่ง ก็ส่ายสะโพกไปสามที พลางเปล่งเสียงหวานหยดว่า “พี่เจี่ยน เหตุใดท่าน ถึงต้องทำงานชั้นต่ำเยี่ยงนี้ล่ะ!”
“ข้าพอใจ !”  อาเจี่ยนกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย  พลางเอ่ยเสียงเย็น “มีอะไร ก็ว่ามา!”
แม้แต่การพูดคุยอย่างขอไปที เขาก็คร้านเกินกว่าจะปฏิบัติ   ในใจนึกบ่นเหลียนฟางโจวที่ไม่ใส่ใจอันใดเลย รู้ทั้งรู้ว่าเขารังเกียจยาโถววิปลาสผู้นี่แค่ไหน ไยนางถึงไม่ช่วยสะกัดให้เขาสักหน่อยเล่า !
----------------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ ^_^
ป.ล. ต้องขออภัยที่อัพช้านะคะ พอดีติดงานด่วนค่ะ 

12 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณคะ มาให้หายชื่นใจแล้วคะ

    ตอบลบ
  2. มาแบ้ว หายไปหลายวัน คิดถึงที่ซู้ด ขอบคถณค่ะ

    ตอบลบ
  3. ดีใจที่ซุ๊ดดดด ...ในที่สุดก็มาขอบคุณนะคะ

    ตอบลบ
  4. พี่เจี่ยนน่าจะรับไมตรีบ้างนะคะ ๕๕๕

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณค่ะ ตัวยุ่งยากจามรังควาญถึงบ้านเชียว

    ตอบลบ
  6. คิดถึงไรท์ค่ะแวะมาส่องบ่อยๆ/สงสารอาเจี่ยนโดนตื้ออีกแล้ว555

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณมากค่า ว่าแต่นางช่างตื้อจริง ๆ นะนี่

    ตอบลบ
  8. พี่เจี่ยนน่าจะบ้องหูสาวใช้ไปสักที น่าเบื่อนะตื้อ อยู่ได้
    ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณค่า อาเจี่ยนเจอคนแบบนี้มาติดน่าสงสารจริงๆ

    ตอบลบ
  10. เมื่อไหร่ฟางโจวจะหึงพี่เจี่ยนสักทีเนี๊ยะ

    ตอบลบ
  11. ฟางโจวอาเจี่ยนน้อยใจแล้วนะ

    ตอบลบ