วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2562

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 213 เซ่นไหว้บรรพบุรุษในเทศกาลตงจื่อ (2)


เหลียนฟางโจวและน้องๆมาถึงบ้านเหลียนลี่ในที่สุด เหลียนลี่มีท่าทีอ่อนลงผิดคาด  เขาพยายามฝืนยิ้มบางๆอย่างสุดกำลัง ส่วนเฉียวซื่อนั้นมีใบหน้าเคร่งขรึมบึ้งตึง  นางแค่นเสียงใส่เหล่าพี่น้องเป็นการทักทาย ซ้ำยังทำเป็นเมินไม่มองอีกต่างหาก
เพียงแต่ว่า หลังจากที่เหล่าพี่น้องฝ่าคลื่นอารมณ์แปรปรวน  ทั้งวาจาเชือดเฉือน และสายตาเย็นชาของนางที่สาดใส่พวกตนมาหลายยกแล้ว  การที่เฉียวซื่อแสดงสีหน้าราบเรียบอันหาได้ยากเช่นนี้ พวกเขาล้วนไม่เก็บเอามาใส่ใจนัก

 “ลุงใหญ่  จะเริ่มพิธีกันเลยไหม?”  เหลียนฟางโจวถามเหลียนลี่ด้วยสีหน้าระบายยิ้ม
 “อื้ม เอาของเซ่นไหว้ทั้งหมดมาจัดวางก่อนเถิด !” เหลียนลี่พยักหน้าเกร็งๆ
เหลียนไห่จัดแจงช่วยเหลือ ชี้ให้พวกเหล่าพี่น้องดูว่าจะวางของลงตรงไหน  ซ้ำยังอาศัยทีเผลอ แอบลอบส่งสายตาปรามมารดาตนไปด้วย
เฉียวซื่อพลันอารมณ์บูด อดก่นด่าขึ้นมาไม่ได้ เคราะห์ดีที่เป็นเพียงแค่การก่นด่าในใจ
ก่อนเริ่มพิธีเซ่นไหว้  มีการจัดวางถ้วย ตะเกียบ และรินเหล้าใส่ลงในถ้วยด้วย เหลียนไห่จุดธูป แล้วปักบนกระถางธูป จากนั้นเหลียนลี่จึงนำทุกคนจัดแถว และตำแหน่งนั่งคุกเข่าให้เป็นระเบียบ เสร็จแล้วจึงเปล่งเสียงขอพร ซึ่งไม่พ้นถ้อยคำทำนองที่ว่า ขอให้บรรพบุรุษและเทพเจ้าอวยพรให้ครอบครัวมั่งคั่งรุ่งเรือง ลูกหลานร่มเย็นเป็นสุข
หลังจากไหว้คารวะด้วยเหล้าไปสามรอบแล้ว  แต่ละคนก็ไปเผากระดาษเงินกระดาษทองในกระถางไฟ  
ตามมาด้วยการจุดประทัดที่แขวนไว้ล่วงหน้า ก็เป็นอันเสร็จพิธี
เหลียนฟางโจวพร้อมน้องๆพากันเก็บชามปลา หมูสามชั้น และไก่ต้มที่นำมาจากบ้านของพวกตนขึ้นมา เหลียนไห่ซึ่งยืนช่วยยกอยู่ข้างๆ ได้เอ่ยขึ้น “พวกเจ้าไปเตรียมตัวก่อนเถิด อีกสักเดี๋ยวพวกเราจะตามไป !”
เฉียวซื่อไม่คาดคิดว่าพวกเหลียนฟางโจวจะเอาข้าวของที่นำมาเซ่นไหว้บรรพบุรุษกลับไป โดยไม่ยอมทิ้งไว้ที่บ้านตน จึงอดมีโทสะขึ้นมาไม่ได้ ในใจนางนึกอยากขวางไว้  ไฉนพวกนั้นถึงไม่มีหัวคิดบ้างนะ? ขนของเซ่นไหว้เข้ามาแล้ว ไยยังมีหน้าเอากลับไปอีก? วิ่งแจ้นมาเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่บ้านตน อย่างน้อยก็ควรทิ้งข้าวของไว้ให้คนอื่นเขาบ้างสิ !”
โทสะเรืองรองบนใหน้าเฉียวซื่อมากขึ้นทุกที  นางกำลังจะเปิดปากขุดหาความซวยให้เหลียนฟางโจวพร้อมบรรดาน้องๆ  ให้บังเอิญนัก เหลียนไห่เดินมาประกบข้างกายนาง  พลางคลี่ยิ้มและพูดขัดนางอย่างนิ่มนวล  “ท่านแม่ ท่านไปเก็บข้าวของบนโต๊ะ และล้างมือก่อนเถิด  แล้วค่อยรอพวกเราไปบ้านพวกถางเม่ยด้วยกันนะ !”
เฉียวซื่อแค่นเสียงเฮอะ  แล้วขึงตาใส่เหลียนฟางโจวกับพวกน้องๆด้วยความชิงชัง ก่อนจะหันกายสาวเท้าไปทางอื่น
เหลียนฟางโจวและเหล่าน้องๆเดินมาจนถึงประตูรั้วบ้านบรรพบุรุษ เหลียนเซ่อคลี่ยิ้ม แล้วอดพูดออกมาไม่ได้ “พี่ใหญ่  นึกไม่ถึงเลยว่า วันนี้ป้าใหญ่ไม่ยักจะดุด่าพวกเราเนอะ !”
เหลียนเช่อ จู่ๆก็โพล่งขึ้น “นางน่ะอยากด่า แต่ถางซยงคงห้ามเอาไว้!”
 “มินึกเลยว่านางจะเชื่อฟังถางซยง !”  เหลียนเซ่อแค่นเสียงเบาๆ
เหลียนฟางโจวหัวเราะขำ “จะไปสนใจอันใดนางเล่า !  นางไม่ด่า พวกเราก็อยู่เย็นเป็นสุข ไม่หนวกหู  ต่อให้นางด่า พวกเราก็ไม่สะเทือนหรอก !”
 “จริงด้วยเนอะ !”  พี่น้องทั้งสี่ต่างพากันหัวเราะ
ยามเมื่อหลานๆกลับมา อาสามได้เลิกเศร้าไปเรียบร้อยแล้ว  หญิงวัยกลางคนระบายยิ้มเต็มหน้า ยามเดินออกมาทักทาย และรับตระกร้าจากมือเหลียนฟางโจวมาถือไว้  นางพินิจสีหน้าของพวกเด็กๆ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “สีหน้าไม่เลวนี่ ดูท่าคงไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งกันหรอกกระมัง !  ป้าใหญ่พวกเจ้า ไม่ได้พูดอันใดเลยหรือ?
หลายคนหัวเราะขึ้นมา
            “ป้าใหญ่น่ะ อยากจะด่าพวกข้าเต็มแก่ แต่ต้าถางซยงขวางไว้นะสิ !” เหลียนเซ่อหัวเราะ
 “ข้าก็ว่าแล้วเชียว !”  อาสามตบหน้าขาดังเผียะ  แล้วเปิดทางให้เหลียนเซ่อกับน้องๆเขาไปผิงไฟในเรือน  ขณะที่นางและเหลียนฟางโจวพากันเข้าไปในครัว
พวกปลา เนื้อหมู และไก่ต้มที่เอาไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษแล้ว จำเป็นต้องเอากลับมาต้มและอุ่นให้ร้อนอีกครั้ง จากนั้นจึงสามารถเอาไปเซ่นไหว้บุพการีได้
ทางฝั่งนี้ตระเตรียมเครื่องเซ่นไหว้พร้อมแล้ว เหลียนลี่และเหลียนไห่ที่อยู่บ้านสายหลัก ก็พากันเข้ามาในเรือนพอดี
 “ทางบ้านหลัก มีการงานยิบย่อยที่ต้องจัดกการ ป้าใหญ่พวกเจ้าจึงมาไม่ได้ !”  เหลียนไห่ยิ้มแย้ม พลางเอ่ยกับพวกเหลียนฟางโจว  ดวงตาชายหนุ่มฉายแววขออภัย
เหลียนฟางโจวรีบเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอก !”  การที่เฉียวซื่อไม่มา พวกเขาพี่น้องหาได้รู้สึกเสียใจ หรือขุ่นเคืองเลยสักนิด  ในทางกลับกัน พวกเขารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกมากกว่า
เมื่อถึงเวลาเซ่นไหว้  ได้เริ่มจากจุดธูปก่อน  แล้วจุดเทียน  เหลียนฟางโจวและน้องๆ พร้อมด้วยเหลียนไห่ คุกเข่าลง ขณะที่เหลียนลี่และอาสามยืนนิ่งดูอยู่ข้างๆ
ขณะศรีษะโขกกระทบพื้น เหลียนฟางฉิงอดน้ำตาไหล  สะอื้นไห้เบาๆมิได้
ขณะที่นางร่ำไห้ เหลียนเช่อทนไม่ไหว จึงเอามือปาดเช็ดน้ำตาน้องสาวที่หลั่งรินออกมา  เหลียนฟางโจวและเหลียนเซ่อ ถึงแม้มิได้ร้องไห้ให้เห็น  ทั้งคู่ต่างรู้สึกถึงความเศร้าโศกที่ผุดขึ้นมาในทันทีด้วยเช่นกัน
ความโศกเศร้าที่ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งจิตใจของตนเองนั้น  จู่ๆก็พลุ่งพล่าน แผ่กระจายท่วมท้นขึ้นมาทันทีทันใด  แล้วเข้าโจมตี จนเหลียนฟางโจวรู้สึกเจ็บหนึบในใจโดยพลัน
หญิงสาวรู้สึกแสบจมูก  ในที่สุดก็รับรู้ถึงความทุกข์ระทม และความห่วงหาอาลัย อันเข้มข้นสายหนึ่ง
และนั่นไม่ใช่ความรู้สึกของเธอ  และแน่นอน ความรู้สึกรุนแรงล้ำลึกเช่นนั้น เธอรู้ดีว่า  นี่คือความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่ของเจ้าของร่างคนเดิม  ซึ่งสลักแน่นอยู่ในร่างนี้ ได้ย้อนกลับคืนมา !
เหลียนฟางโจวบอกไม่ได้ว่า  ตนเองรู้สึกตกใจกลัว หรือรู้สึกอะไรอย่างอื่น  ขณะที่ใบหน้าของหญิงสาว จู่ๆก็เหม่อลอยว่างเปล่านิ่งค้างอยู่อย่างนั้น อย่างฉับพลันทันที
จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียก “พี่ใหญ่ !  พี่ใหญ่ !”  ปลุกให้ตื่น
เหลียนฟางโจวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันใด  จึงได้เห็นใบหน้าร้อนใจ และเป็นห่วงกังวลตนเองอยู่รายรอบ รวมไปถึงน้ำตาที่อาบแก้ม น้องน้อยทั้งสองคนด้วย ความอบอุ่นสายหนึ่งผุดขึ้นในใจหญิงสาว  เธอพยายามฝืนยิ้ม แล้วเปล่งเสียงอ่อนโยน “ ข้าไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก “
 “ฟางโจวถางเม่ย  รีบลุกขึ้นเถิด !  อย่าได้เศร้าเสียใจไปเลยนะ! “ เหลียนไห่ทอดถอนใจออกมา  แล้วจึงเอ่ยด้วยความเห็นใจ  “อารอง อาสะใภ้รองคงไม่อยากเห็นเจ้าเศร้าโศกนักหรอก !  ยามนี้พวกเจ้ามีชีวิตที่ดีแล้ว วิญญาณของพวกเขาคงรู้สึกปลื้มปิติเป็นแน่  เลิกเศร้าโศรกเสียเถิดนะ !”
เหลียนลี่ และอาสามก็พยายามพูดปลอบโยนด้วย
เหลียนฟางโจวกล่าวขอบคุณ  จากนั้นเหลียนเซ่อ กับอาสามก็มาช่วยพยุงหญิงสาวลุกขึ้นยืน หญิงสาวอดชำเลืองมองเหลียนไห่ไม่ได้ แล้วแอบเอ่ยในใจว่า แต่ก่อน ถางซยงไม่เคยเรียกข้าว่า ฟางโจวถางเม่ยเลยนี่นา !  คล้ายว่าเขาไม่เคยไปมาหาสู่ข้าโดยตรง  ทั้งไม่เคยสนใจมาเยี่ยมเยียนพวกอาเซ่อเลยด้วยซ้ำ
พอรำพึงถึงตรงนี้ พลันได้ยินเสียงเหลียนลี่ เอ่ยกระซิบกับอาสาม “มีการเซ่นไหว้บรรพบุรุษในเทศกาลตงจื่อนี้  ทำไมเจ้ายังไม่กลับไปบ้านสกุลเทียนเล่า?  อย่างไรเสีย นั่นก็คือบ้านสามีเจ้าด้วยนะ !”
อาสามก้มหน้าแค่นเสียง  พลางเอ่ยเสียงเย็นชากดต่ำ “อ้อ พี่ใหญ่ นี่คือความห่วงใยของท่านใช่หรือไม่ ?  ในเมื่อห่วงใยข้า แล้วไฉนถึงพูดวาจาเช่นนี้ออกมาเล่า?  ข้ากลับไปได้หรือ? หึๆ หากข้ากลับไปแล้ว จะมีพื้นที่ให้ข้ายืนหรือเปล่า?  หากสกุลเทียนอยากให้ข้ากลับไป  คงสั่งคนให้มารับข้าตั้งแต่ช่วงแรกๆแล้วสิ !  ท่าน่ไม่รู้อันใดหรอก ข้ากลับมาตั้งนานสองนานแล้ว ทว่ายังไม่เห็นทางโน้นส่งข่าวคราวอันใดมาเลย คงเฝ้าภาวนาว่า ข้าจะไม่กลับไปตลอดกาลกระมัง !”
 เจ้า !”  ใบหน้าเหลียนลี่เผยความกระอักกระอ่วนออกมาเล็กน้อย  เขาสะบัดแขนเสื้อ  แล้วไม่ปริปากอันใดอีกต่อไป
สมองของเหลียนฟางโจว พลันนึกย้อนถึงสถานการณ์ที่ฟากบ้านสามีอาสาม โดยไม่รู้ตัว
ที่จริงแล้ว มันหนักหนาเกินทนนัก
เธอสะดุ้งขึ้นฉับพลัน ยามนึกย้อนถึงเรื่องราวต่างๆของอาสาม ซึ่งมิใช่สิ่งที่ได้ยินมาเมื่อไม่นานนี้เลย ทว่าดูคล้ายจะได้ยินเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว  ซ้ำเธอยังรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน หาใช่เรื่องที่นางกุขึ้นมาลอยๆไม่
จู่ๆมีแสงสว่างวาบขึ้นมาในหัว ตลอดทั้งร่างของเหลียนฟางโจวสั่นสะท้านขึ้นมาทันที ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ดูเหมือนจะค่อยๆคืนกลับมาทีละน้อยๆ !
พอตระหนักถึงจุดนี้  ความทรงจำที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งฝังลึกอยู่ในสมองนี้ ดูคล้ายจะแจ่มชัดขึ้นมาบ้างแล้ว !
มุมปากเหลียนฟางโจวโค้งขึ้นเล็กน้อย หญิงสาวอดรู้สึกเบิกบานใจเงียบๆไม่ได้
พอเผากระดาษเงินกระดาษทอง  และจุดประทัดเสร็จ  เหลียนไห่และเหลียนลี่  ได้พูดคุยสัพเพเหระอีกสองสามประโยค แล้วจึงพากันกล่าวอำลาจากไป
คำเชื้อเชิญด้วยรอยยิ้มกระตือรือร้นของเหลียนไห่  ที่ให้เหลียนฟางโจวและน้องๆ รวมทั้งอาสาม ไปกินมื้อเย็นที่บ้านสายหลัก ถูกเหลียนฟางโจวปฏิเสธด้วยความสุภาพละมุนละม่อม
ใบหน้าของลุงใหญ่ที่ใจมิได้นึกยินดีด้วย แต่ไม่กล้าแสดงออกชัดนัก รวมถึงใบหน้าของป้าใหญ่ที่แสดงถึงความไม่ยินดีเต็มพิกัด เหลียนฟางโจวหาได้อยากเห็นสีหน้าพวกเขาเลยแม้แต่นิด  พวกน้องๆเธอเอง ต่างก็ไม่อยากไปเห็น
แล้วที่สำคัญ  ไม่มีทางที่บ้านของพวกเธอเอง จะไม่มีอาหารกิน
---------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ และทุกการติดตามค่ะ
ช่วงนี้ pm 2.5 อาละวาด รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ^_^

10 ความคิดเห็น:

  1. คิดว่าไม่น่ามาดีื ต้องมีแผนอะไรแน่ๆ ทำดีหวังผลรึเปล่านะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณค่ะไรท์ก็รักษาสุขภาพเช่นกันนะค่ะ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากค่ะ
    ดูแลสุขภาพนะคะ

    ตอบลบ
  4. เช่นกันนะคะ

    ตอบลบ
  5. ถางซยงนี่แปลกๆแหะ ...มีอะไรแน่ๆเลย

    ตอบลบ
  6. ในที่สุดก็ตามอ่านจนทันแล้ว ขอบคุณผู้แปลมากค่ะ ใจดีที่สุดเลย

    ไอ้คุณถางซยงเหลียนไห่นั่น มันต้องร้ายสุดๆ เชื่อดิ ร้ายกว่าพ่อมันหลายเท่าแน่นอน ฟางโจวสู้ๆ

    ตอบลบ
  7. นางเอกนึกอะไรออกน้าาา

    ตอบลบ
  8. ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้นะคะไรท์ตอนนี้มาพร้อมเทศกาลตรุษจีนเลยค่ะ

    ตอบลบ
  9. ทำไมคิดว่ามาดีไม่ออกเลยยย

    ตอบลบ