วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

จับแม่ทัพไปไถนา - บทที่ 214 อาเจี่ยนคิดถึงบ้าน


เหลียนไห่ทราบดีว่าเหตุใดหญิงสาวจึงปฏิเสธ  ญาติหนุ่มจึงยิ้มอย่างจนใจและขออภัย และไม่เชิญชวนอีกต่อไป  ชายหนุ่มเพียงแต่เตือนว่าให้นางคอยเฝ้าระแวดระวังเทียนที่จุดไว้ ในช่วงสองสามคืนนี้ด้วย
เหลียนฟางโจวแย้มยิ้มรับคำ
วันนี้ทุกคนมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกันตั้งแต่รุ่งสาง ยามนี้ได้เวลาทำอาหารเช้ากินกันได้แล้ว
 “ไฉนอาเจี่ยนยังไม่กลับมาล่ะ? ข้าไปดูดีกว่า พวกเจ้าเข้าไปผิงไฟในบ้านเสีย อย่าได้ออกมาล่ะ!  เหลียนฟางโจวบอกกล่าว

หญิงสาวเดินจ้ำอ้าวจนมาถึงบริเวณริมแม่น้ำที่พาวัวมากินน้ำเป็นประจำ  แน่นอนย่อมเห็นอาเจี่ยนยืนพิงต้นหลิว ที่พุ่มใบของมันทิ้งตัวลู่ลงเหนือริมฝั่งแม่น้ำ  ชายหนุ่มเงยหน้าเล็กน้อย ขณะที่ดวงตาเหม่อมองไปข้างหน้า  สายลมปัดผ่านเส้นผมเขาปลิวสะบัดเป็นครั้งคราว  รวมทั้งชายเสื้อคลุม ที่โบกสะบัดประหนึ่งผีเสื้อที่ได้ยินเสียงศัตรูกำลังไล่ล่ามาติดๆ
ภาพด้านหลังของเขาดูเปล่าเปลี่ยวและอ้างว้าง
เหลียนฟางโจวเบนสายตาไปยังพวกวัว ที่กำลังกินหญ้าอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ  แล้วจึงค่อยๆเยื้องย่างตรงไปหาอาเจี่ยน
วรยุทธ์ของอาเจี่ยนนับว่าอยู่ในระดับยอดเยี่ยม ตามปกติ เวลาที่เธอหรือใครก็ตาม เข้ามาใกล้ตัวเขา ต่อให้อยู่ห่างกันมาก  สุดท้ายเขาก็สามารถจับสัมผัสได้  จนสามาถหันหน้าไปหาได้ถูกทิศ
แต่นี่นับเป็นครั้งแรก  ที่เหลียนฟางโจวเดินตรงมาจนถึงด้านหลังของชายหนุ่มแล้ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเขาจะหันหน้ามาหาเลย
 “อาเจี่ยน” เหลียนฟางโจวเรียกชายหนุ่มเสียงแผ่ว
อาเจี่ยนพลันเอนตัวขึ้นยืนตรง แล้วหันหน้ามาหา  ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ขณะจ้องมองหญิงสาว พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้ามาทำไมกัน ?  เซ่นไหว้เสร็จแล้วรึ?
 “อื้ม” เหลียนฟางโจวพยักหน้าเบาๆ แล้วเอ่ยเสียงแผ่ว “ท่านคงคิดถึงบ้านละสิ?
 “คิดถึงบ้าน?” อาเจี่ยนชะงักไป  ชายหนุ่มเอามือนวดขมับ แล้วหลุดหัวเราะเบาๆออกมา  “ข้ายังไม่รู้เลย ว่าหน้าตามันเป็นยังไง!”
หลังจากตื่นขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำแห่งหนึ่ง จนบัดนี้ผ่านมาครึ่งปีแล้ว เขายังนึกอะไรไม่ออกเลยด้วยซ้ำ  พาลให้อาเจี่ยนหงุดหงิดเล็กน้อย
เหลียนฟางโจวเห็นเขาเป็นเยี่ยงนี้ หญิงสาวอดแอบเศร้าใจมิได้ แม้เธอจะฉลาดปราดเปรื่องเพียงได แต่กับเรื่องแบบนี้ เธอยอมรับว่า ไร้สามารถจริงๆ
เธอทำได้แต่เพียงปลอบใจเขา  ถึงแม้จะรู้ว่าการปลอบใจแบบนี้  บางครั้งมิได้ช่วยอันใด แต่ถึงอย่างไร มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเสียเลย
 “อาเจี่ยน  ถ้าท่านคอยเพียรนึก  สักวันหนึ่งก็จะต้องนึกออก !”  เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้มบาง แล้วเปล่งเสียงนุ่ม “ข้าเชื่อว่า  มันก็แค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง !”
 “ยังไม่ถึงเวลา?”  อาเจี่ยนจัดเป็นคนมองโลกในแง่ดีผู้หนึ่ง  แค่เหลียนฟางโจวมาตามหาเขา  ก็ทำให้ความเศร้าความกังวลในใจเขา เจือจางไปบางส่วนแล้ว พอมาได้ยินคำกล่าวนี้ของเหลียนฟางโจว  ชายหนุ่มจึงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้  ประกายแวววาววาบขึ้นในดวงตาของเขา  ครั้นแล้วจึงเอ่ยแย้มยิ้ม “เรื่องแบบนี้ มันมีจังหวะเวลาของมันด้วยหรือ?
 “แน่นอน “ เหลียนฟางโจวพยักหน้าจริงจัง แล้วเอ่ยว่า “ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ในอดีตก่อนหน้าที่ท่านจะสูญเสียความทรงจำ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ลึกเป็นพิเศษ บังเอิญกลับมาเกิดตรงหน้าอีกครั้ง  ไม่แน่  มันอาจไปกระตุ้นให้ท่านนึกออกก็เป็นได้ ! เพียงแต่น่าเสียดายนัก  บรรดาเหตุการณ์ที่ว่านี้ พวกเราล้วนไม่มีใครทราบเลยว่าคืออะไรบ้าง  ดังนั้น พวกเราคงทำได้เพียงแต่รอเท่านั้น ! ”
อาเจี่ยนเอียงคอครุ่นคิด แล้วจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม  “ที่เจ้าพูดมา ดูแล้วก็มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน !”
สำหรับเหลียนฟางโจว ไม่ว่าชายหนุ่มจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องหลอก  พอได้ยินเขาพูดมาเช่นนี้ หญิงสาวให้รู้สึกสบายใจขึ้น  ครั้นแล้วจึงแย้มยิ้มเอื้อนเอ่ย “ไปเถิด กลับไปกินข้าวกัน !  ข้ารู้สึกสังหรณ์ใจว่า ท่านต้องสามารถนึกเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาออกอย่างแน่นอน !  จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่ๆ !  ต่อให้..ต่อให้ท่านนึกไม่ออก ข้าก็เชื่อว่า อีกไม่นานคนในครอบครัวของท่าน ก็จะตามมาหาท่านจนพบ พวกเขาจะช่วยทำให้ท่านนึกออกเองแหละ !”
 “ไม่แน่ พวกเขาอาจคิดว่าข้าตายไปแล้ว ! “ อาเจี่ยนยิ้มเนือย พลางทอดถอนใจ
 “ไม่หรอก ไม่มีทาง !  ใจของเหลียนฟางโจวทั้งร้อนร้นและเจ็บปวดโดยไม่ทราบสาเหตุ  หญิงสาวโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว
อาเจี่ยนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ  เขานึกไม่ถึงว่าเหลียนฟางโจวจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวอย่างตื่นตะลึงไปชั่วขณะ
ในใจของเหลียนฟางโจว พลันท่วมท้วนด้วยความรู้สึกสายหนึ่ง ซึ่งเธอเองก็ไม่เข้าใจ  และไม่สามารถอธิบายได้  ความรู้สึกประเภทนี้ พาให้เธอรู้สึกไม่ดีเอามากๆ  เธอฝืนบังคับตัวเองให้พูดต่อ “ไปเถิด กลับกันเถิดนะ !”
อาเจี่ยนระบายยิ้ม  พลางหันไปมองแม่น้ำสายตื้นๆ ที่ไหลคดเคี้ยวใสกระจ่างนั่น  ครั้นแล้วจึงเอ่ยอย่างครุ่นคิด “ข้าว่า  ไม่เช่นนั้น ข้าจะลองกระโดดลงไปในแม่น้ำดูดีหรือไม่ ?   ยามข้าฟื้นขึ้นมาตอนนั้น  ข้าอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหยูเหอส่วนต้นของเมืองชวงหลิว “
 “ท่านพูดจาเหลวไหลอันใดกันเนี่ย!  จะลองทำดูตอนนี้ไม่ได้นะ !”  เหลียนฟางโจวถลึงตาใส่ชายหนุ่มอย่างหงุดหงิด  หญิงสาวเหลือบมอง แม่น้ำที่ใสเป็นพิเศษในฤดูหนาว ดูเหมือนว่าน้ำในแม่น้ำดูเย็นจัดผิดธรรมดา จากนั้นจึงขึงตาใส่ชายหนุ่มอีกครา
อาเจี่ยนหัวเราะ  แล้วจูงพวกวัวเดินไปพร้อมกับหญิงสาว
หนึ่งคืนผ่านไปอย่างเงียบสงบ
วันรุ่งขึ้นทุกคนตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่  รู้สึกได้ถึงความหนาวยะเยือกเกินธรรมดา คล้ายร่างกายกำลังโดนอากาศเย็นจัดกลุ้มรุมไปทุกทิศทาง แน่นอนเป็นแบบที่เรียกว่าหนาวบาดลึกไปถึงขั้วกระดูกกันทีเดียว
พอกระแทกประตูเปิดผัวะออกมา ก็ให้ประหลาดใจเหลือแสน เมื่อพบว่า บนพื้นดินมีชั้นน้ำแข็งหนาฉาบอยู่  ใต้ชายคาระเบียงทางเดินมีแผ่นน้ำแข็งห้อยย้อยลงมาเป็นซี่ๆ ที่เรียกกันว่า เขี้ยวสุนัข
 “ที่แท้เกิดน้ำค้างแข็งนี่เอง มิสังสัยแล้วว่า ไยถึงได้หนาวแทบจะแข็งตายปานนี้ !” อาสามสั่นไปทั้งตัว  แล้วพรูลมหายใจใส่มือ ขณะถูมือทั้งสองไปด้วย
เหลียนฟางโจวรับรู้ความทรงจำจากร่างที่เธอถือครองอยู่  หญิงสาวหายใจออกมาเป็นไอสีขาวพวยพุ่ง แล้วเอ่ยขึ้น  “เกือบสองสามปีมานี่   ต่อให้หนาวหนักขนาดนี้หลายวันก็มิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด !  แต่ไฉนถึงได้เกิดน้ำค้างแข็งขึ้นมาได้เล่า !   น้ำค้างแข็งมากมายมหาศาลปานนี้  มิรู้ว่า ต้นไม้เป็นอันมากจะเย็นจนเป็นน้ำแข็งไปด้วยไหม !”
เหลียนฟางโจวผู้ซึ่งจบการศึกษาคณะเกษตรจากมหาวิทยาลัย ย่อมกระจ่างแจ้งเรื่องอันตรายของน้ำค้างแข็งต่อการเพาะปลูกดีกว่าผู้อื่น อุณหภูมิที่ลดฮวบฮาบลงอย่างกระทันหัน  สามารถทำให้พืชผลทางการเษตรมากมาย  ต้องทนรับกับสภาพอากาศอันทารุณต่อเนื่อง  จนเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วค่อยๆเฉาตายลงในที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่หลังเกิดน้ำค้างแข็งแล้ว  อากาศดันอุ่นขึ้นมาอย่างกระทันหัน  ความเสียหายจะยิ่งเพิ่มทวีคูณ
อาสามได้ฟังคำเตือนจากเหลียนฟางโจว พลันอุทานขึ้น ไอ้หยา   พลางเอ่ยละล่ำละลัก “ข้าไม่รู้เลยว่าผักในสวนพวกนั้น จะทนไม่ไหว !  เดี๋ยวข้าเข้าไปดูก่อนล่ะ !”
เหลียนฟางโจวจู่ๆก็นึกถึงต้นซี่หยุนพวกนั้นขึ้นมาได้  หญิงสาวแอบทอดถอนใจ
ต้นซี่หยุนที่ปลูกในที่ดินไม่กี่หมู่นั่น เจริญงอกงามดีมาก  ยามนี่เติบโตสูงราวๆครึ่งฉื่อ ขึ้นดกหนาเป็นพุ่มเขียวแน่นขนัด มองดูแล้วช่างน่าชื่นใจอะไรเช่นนี้ ( 1 ฉื่อ =10 นิ้ว)
รอจนอากาศอุ่นขึ้นในตอนต้นฤดูใบไม้ผลิ  มีลมตะวันออกพัดผ่านมา อย่างน้อยคงจะโตสูงได้ราวหนึ่งฉื่อแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปุ๋ยพืชสดชั้นเยี่ยมเชียวล่ะ  แล้วยังสามารถตัด แล้วขนไปใส่ที่แปลงเพาะแห่งอื่นได้ด้วย
เพียงแต่ว่าดันเกิดน้ำค้างแข็งขึ้นมานี่สิ   พืชพวกนี้ยังจะมีเหลือรอดอยู่สักเท่าไร เป็นเรื่องที่บอกได้ยาก
อาสามผู้ซึ่งรีบร้อนเข้าไปดูสวนผัก สักพักก็กลับมา นางถอนหายใจ “เสียหายมากมายนัก เฮ้อ น่าเสียดายจริงๆ  ใครจะกินหมดในคราวเดียวได้กัน !  ไว้รอเอามากินเป็นอาหารมื้อเช้าก็แล้วกัน ส่วนที่ช้ำเสียหายนั่น ก็เอากลับไปเลี้ยงไก่  อ้อ เอาไปให้พวกวัวกินได้อีก !”
 “หากยังกินได้   พอกลับมาแล้ว  เราค่อยเอาไปแจกจ่ายให้พวกหมู่ตึกที่โน่นด้วยแล้วกัน !”  เหลียนฟางโจวรีบบอกกล่าว
 “จริงด้วยๆ  ข้าลืมไปได้อย่างไรเนี่ย! จะได้เป็นการประหยัดค่าซื้อผักด้วย!” อาสามตบหน้าผาก แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
หลังมื้อเช้า ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาทีละน้อย  เหลียนฟางโจว กับพวกน้องๆ อาเจี่ยน รวมทั้งอาสาม ทั้งหมดต่างมุ่งหน้าเข้าสวนผัก
ขณะที่ใบผักยังคงดูเขียวตามธรรมชาติอยู่ ทว่ากิ่งและก้านใบ กลับดูคล้ายวุ้นเละๆ  ผักทั้งหมดนี้ปล่อยทิ้งเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว  ทุกคนจึงต้องเก็บผักทั้งหมดกลับมา  ซึ่งเก็บมาได้มากมายเป็นกองพะเนิน  แบ่งบรรจุลงในตระกร้าทรงสี่เหลี่ยมใบใหญ่ 2 ใบ แล้วส่งไปที่หมู่ตึก
เหลียนฟางโจวไปกับอาเจี่ยน พร้อมด้วยเหลียนเซ่อ เธอกะจะแวะไปดูด้วยว่า  บ่อน้ำที่เพิ่งขุดใหม่นั้น เป็นอย่างไรบ้าง  จะเย็นจนเป็นน้ำแข็งหรือไม่
มิหนำซ้ำยังมีตอไม้พวกนั้นบนเขาเสี่ยวฮวากั่วซานอีก ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นเช่นไรบ้าง
พอนึกขึ้นมาได้ เหลียนฟางโจวชะงักไปอย่างค่อนข้างตื่นตระหนก แล้วเช่นนี้  การที่พวกเขาอุตส่าห์ทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกายขนตอไม้กลับมาจากป่าเล่า จะทำอย่างไรดี !
ในที่สุดผักก็ถูกส่งผักไปจนถึงหมู่ตึก หลี่ชื่ออกับจางซิ่วเอ๋อร์เป็นฝ่ายออกมาต้อนรับ หลี่ชื่อเอ่ยแย้มยิ้ม “วันนี้ตอนย่ำรุ่งเปิดประตูออกมา ก็เห็นน้ำค้างแข็งมากมาย วันที่อากาศหนาวจัดแบบนี้ คุณหนู นายท่านรอง และท่านเจี่ยน ไฉนถึงมาด้วยตัวเองล่ะเจ้าคะ  บอกให้พวกบ่าวมารับเองที่บ้านท่านก็ได้ !”
-----------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และการติดตามค่ะ 
ขอผู้อ่านให้มีความสุขสมหวังเฮงๆ รวยๆ ในวันตรุษจีนทุกท่านนะคะ  ^_^

6 ความคิดเห็น:

  1. ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้นะคะคุณชัญภัทร

    ตอบลบ
  2. อาเจียนจะจำได้ตอนไหนน้าาา

    ตอบลบ
  3. ชอบค่ะอยากให้มีอาเจี่ยนทุกตอนยิ่งดี

    ตอบลบ
  4. ติดตามค่ะ ชอบมาก ๆ จะผ่านอุปสรรคธรรมชาติได้หรือไม่คะ

    ตอบลบ
  5. สวัสดีวันตรุษจีนค่ะไรท์ ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ค่ะ

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณค่า ขอให้ไรท์เฮงๆเช่นกัน

    ตอบลบ