วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2567

จับแม่ทัพไปไถนา-บทที่ 790 พบกันโดยบังเอิญ

       เหลียนฟางโจวเองก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ยิ่งนักที่ต้องแยกห่างจากคนรัก  ตั้งแต่รู้จักเขามา ดูเหมือนว่านี่เป็นครั้งที่สองที่เธอกับเขาต้องแยกจากกันเป็นเวลานานกระมัง? แล้วเธอจะทําใจให้คุ้นเคยกับเรื่องนี้ได้อย่างไร!


     เมื่อคิดถึงเรื่องงานในตําแหน่งของเขา ต่อไปเกรงว่าคงจะมีวันเช่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ! บางทีวันที่อยู่ห่างกัน อาจจะยาวนานขึ้นด้วยซ้ำ!

    แม้ว่าจะรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ และก็ออกจะโหดร้ายเกินไป ที่จะกักขังคนอย่างเขาในโลกแคบๆ เพราะว่าโลกของเขานั้นถูกชะตาลิขิตให้กว้างใหญ่ไพศาล

   "ในเมื่อท่านต้องไปที่ค่ายทหาร ท่านก็ทำภารกิจของท่านอย่างสบายใจเถิด! ที่จวนเต็มไปด้วยสาวใช้ มีทั้งปี้เถา ชุนซิ่งและคนอื่นๆอีก นอกจากนี้ ข้าไม่ใช่คนที่ชอบตีโพยตีพาย หรือมีปัญหาง่ายๆ ท่านไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องข้าหรอก! เหลียนฟางโจวคลี่ยิ้ม  ขณะซุกซบอยู่ในอ้อมอกของเขาอย่างอุ่นสบาย

   หลี่ฟู่กระชับอ้อมแขนของตนให้แน่นขึ้น ชายหนุ่มรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย ครั้นแล้วจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ฮูหยินของข้ามากความสามารถ นางไม่เคยต้องให้ข้าเป็นกังวลเลย!" 

   เหลียนฟางโจวยิ้มแย้ม "ในเมื่อท่านเชื่อมั่นในตัวข้า ท่านจะพาลั่วกว่างไปกับท่านก็ได้นะ!  ถึงอย่างไรลั่วกว่างก็เป็นองค์รักษ์ส่วนตัวของท่าน และในเมื่อท่านไปประจำที่ค่ายทหาร การทิ้งเขาไว้ในจวนก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลนัก! แม้ว่าข้าจะไม่สนใจเรื่องที่ผู้คนซุบซิบนินทา แต่ข้าก็ไม่อยากตกเป็นขี้ปากของชาวบ้านโดยไม่จำเป็น เพราะมันน่าเบื่อจะตาย! ข้าอยู่ในจวนกับลูกในครรภ์ ใครเล่าจะมาทำอะไรข้าได้! ก่อนที่จะจัดการกับข้า ก็ต้องคิดถึงผู้ชายของข้าก่อน! "

   ทีแรกหลี่ฟู่ปฏิเสธ  แต่ก็อดฝืนใจพยักหน้าตอบตกลงไม่ได้  ทว่าชายหนุ่มก็ยังยืนยันที่จะทิ้งทหารองครักษ์สี่คนไว้ในจวนอยู่ดี เหลียนฟางโจวขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตอบตกลง

    ทั้งสองคนพร่ำพูดคำรักจนถึงกลางดึก จึงได้พักผ่อนกัน

    ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นก่อนที่เหลียนฟางโจวจะตื่นขึ้นมา หลี่ฟู่ก็ลุกขึ้นอย่างแผ่วเบา 

     ชายหนุ่มแต่งตัวอย่างรวดเร็ว  แล้วยืนอยู่หน้าเตียง พลางก้มมองภรรยาอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงหมุนตัวค่อยๆย่องเดินออกจากห้องไป

      ชุนซิ่ง ปี้เถา และคนอื่นๆ รู้ว่านายท่านจะออกไปข้างนอกในวันนี้ พวกนางจึงตื่นขึ้นมา เตรียมมารอรับใช้แล้ว

     หลี่ฟู่อดสั่งการบางอย่างกับพวกนางไม่ได้ จากนั้นจึงสั่งให้ใครบางคนไปที่เขตเรือนด้านนอก ไปสั่งลั่วกว่างให้เตรียมตัวให้พร้อม และทิ้งทหารสี่คนไว้ที่จวน และส่วนที่เหลือก็ให้ติดตามไปที่ค่ายทหารพร้อมกับเขา

    ชุนซิ่งและปี้เถาต่างน้อมรับคำสั่ง

   แม้ว่าเหลียนฟางโจวจะเป็นผู้ดูแลจวนมาโดยตลอด  และหลี่ฟู่ก็ไม่ได้ยุ่งกับงานในจวน แต่ก็ไม่มีใครสงสัยเลยว่าเขาเป็นเสาหลักของจวนหลังนี้

   ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ปัญหาทางฝั่งของตระกูลจูเพิ่งสงบลง ยามนี้เหลียนฟางโจวตั้งครรภ์มานานกว่าแปดเดือนแล้ว อีกเดือนกว่าๆ เด็กก็จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว  แต่เขาออกนอกจวนไปครั้งนี้ กินเวลานานมากกว่าหนึ่งเดือน ไม่ต้องพูดถึงชุนซิ่งและปี้เถาเลย   ข้าทาสบริวารคนอื่นๆก็รู้สึกวูบโหวงในใจหน่อยๆ

   "นายท่าน" ในที่สุดปี้เถาก็อดรนทนไม่ได้ จึงเอ่ยถามเบาๆ "หากว่าทางเรือนถือศีลภาวนาทางโน้น... ไม่ใช่ฮูหยินที่ขอให้บ่าวถาม แต่เป็นตัวบ่าวตัวเองที่ต้องการถาม! บ่าวรู้สึกกังวล ว่าถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น —"

    ต่อหน้าหลี่ฟู่ผู้ซึ่งรู้เหตุและผลที่ตามมาอย่างแจ่มแจ้ง แค่ปี้เถาเอ่ยมาครึ่งประโยค ก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว

   ใบหน้าของหลี่ฟู่แข็งทื่อตามคาด เขาใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยขึ้น "บอกฮูหยินให้พิจารณาและจัดการไปตามสมควรเลย! ทุกอย่างให้แล้วแต่ฮูหยิน! พวกเจ้าต้องปกป้องฮูหยิน และเด็กในครรภ์ของนาง! หลังจากเด็กคลอดแล้ว ข้าจะตบรางวัลให้ทุกคนอย่างงาม! "

   ซุนชิ่ง ปี้เถาและคนอื่นๆ ต่างรีบรับคำ

    ปี้เถารู้สึกโล่งใจ จึงรีบเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ด้วยคําพูดของนายท่าน บ่าวรู้สึกวางใจแล้วเจ้าค่ะ!"

   หลี่ฟู่จึงยิ้มออกมา แล้วจึงเดินออกไป

   ในเขตเรือนส่วนหน้าลั่วกว่างและ ทหารองครักษ์หลายคนเตรียมพร้อมและรออยู่ที่นั่น

   เมื่อวานนี้หลี่ฟู่สั่งให้เขาอยู่ปกป้องฮูหยิน แม้ในใจลั่วกว่างจะอดผิดหวังเล็กน้อยไม่ได้  เขาก็ยังรับคําสั่งโดยไม่ลังเล

    เดิมทีเขาเป็นพรานป่าในภูเขาทางตอนเหนือ และครอบครัวของเขาต่างเสียชีวิตหมดแล้ว เมื่อทั้งครอบครัวถูกชาวหูลักพาตัวไปจากชายแดน กระทั่งชีวิตน้อยๆของเขา ก็ได้หลี่ฟู่ช่วยเหลือมาจนรอดจากความตายมาได้

    นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ติดตามหลี่ฟู่อย่างยอมตายถวายชีวิต

    หลี่ฟู่บอกให้เขาไปทางตะวันออก เขาจะไม่มีทางไปทางตะวันตก หลี่ฟู่สั่งให้เขาโดดลงหลุม เขาก็ไม่สนใจว่า เบื้องล่างจะเป็นน้ำ หรือไฟ

   ดังนั้น เมื่อเจ้านายบอกให้เขาอยู่ เขาก็อยู่อย่างเชื่อฟัง

   เมื่อได้ยิน สาวใช้รุ่นเล็กมาแจ้งข่าว บอกให้เขาเตรียมตัวเดินทางไปที่ค่ายทหารกับท่านแม่ทัพ ก็ทำให้เขาประหลาดใจและดีใจในทีแรก จากนั้นก็อดถามสาวใช้ ด้วยสีหน้าดีใจไม่ได้  "เมื่อวาน ท่านแม่ทัพสั่งให้ข้าอยู่คุ้มครองฮูหยินที่จวน แล้วไฉนนายท่านถึงเปลี่ยนใจเสียเล่า? น้องสาวไม่ได้บอกผิดใช่ไหม? "

    สาวใช้รุ่นเล็กเหลือบมองเขาและพูดขึ้นว่า "มันจะผิดได้อย่างไร?  ท่านแม่ทัพยังบอกอีกว่า ถ้าหัวหน้าองค์รักษ์ลั่วกว่างถาม ให้บอกว่าเป็นความต้องการของฮูหยินเจ้าค่ะ"

   ลั่วกว่างจึงพลันตระหนักขึ้นได้ทันใด ก่อนจะยิ้มขอบคุณอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าสาวใช้รุ่นเล็กจากไปแล้ว เขาก็แอบตำหนิตัวเองที่โง่เขลา

    คำถามนี้ เขายังต้องถามอีกหรือ? จะมีใครที่สามารถเปลี่ยนใจท่านแม่ทัพได้ นอกจากฮูหยินของเขา

   ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ฮูหยินยังสามารถทำแบบนี้ได้ ลั่วกว่างก็อดรู้สึกยกย่องนางในใจขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้

    เขานึกถึงแม่นางฉิน ซึ่งอยู่ที่เรือนถือศีลภาวนาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

    ในท้ายที่สุด ท่านแม่ทัพก็มีสายตากว้างไกล ฮูหยินเหนือกว่าแม่นางฉินหลายขุมนัก

     แม้ว่าแม่นางฉินจะดีต่อท่านแม่ทัพยิ่งนัก แต่ข้อดีของนางนั้นแตกต่างจากฮูหยินอย่างชัดเจน! นางไม่มีความสามารถแม้แต่จะปกป้องตัวเอง และเขาได้ยินมาว่า นางเคยตกระกำลำบากอย่างหนัก ตอนที่อาศัยอยู่ในจวนตระกูลหลี่สายรองมาก่อน ไม่ต้องพูดถึงการดูแลพี่สะใภ้ม่าย และหลานชายของท่านแม่ทัพเลย!

    โชคดีที่นางยังคงมีข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียว นั่นคือการยิ้มแย้มเสมอ ไม่เคยบ่นต่อหน้าท่านแม่ทัพเลย มิฉะนั้นต่อให้ท่านแม่ทัพจะออกไปทำสงคราม  จิตใจคงไม่มั่นคง และห่วงหน้าพะวงหลังเป็นแน่

    ส่วนฮูหยินนั้นแตกต่าง นางจะปล่อยให้ท่านแม่ทัพปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสบายใจ หลังจากที่พี่สะใภ้ม่ายและหลานชายกลับมา  ก็ได้ฮูหยินคอยดูแลปกป้อง ใครเล่าจะรังแกพวกเขาได้แม้แต่ครึ่งส่วน ไม่มีเลย!

    จวนสายรองทางโน้นมาวอแวหาเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ถูกฮูหยินกำราบจนกลัวหัวหดอยู่หลายครั้ง จนไม่กล้าหยิ่งผยองอีกต่อไป!

    ซึ่งแตกต่างจากในอดีต ข้าวของทรัพย์สมบัติของท่านแม่ทัพทั้งหมด ถูกจวนสายรองเอาไปจนหมด แม่นางฉินที่อ้างว่าตนเป็นคนสนิทกับท่านแม่ทัพมากที่สุด นางยังไม่สามารถรักษาทรัพย์สินทั้งหมดของท่านแม่ทัพได้เลยแม้สักนิด!

    ลั่วกว่างยังไม่รู้ว่า แม้ว่าแม่นางฉินจะไม่เคยบ่นถึงความคับข้องใจต่อหน้าหลี่ฟู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า นางไม่ต้องการให้หลี่ฟู่รู้ถึงความเจ็บปวดและความยากลําบากของนางเสียหน่อย

    เพียงแค่นางไม่อยากพูดด้วยตัวเอง และคิดว่าหลี่ฟู่ควรจะรู้ได้ ผ่านความอดทนอดกลั้น ความมีจรรยามรรยาท และความมีเหตุผลของนางที่สะท้อนออกมา แล้วนางก็สามารถพูดได้ว่า นางไม่ต้องการให้เขากังวล นางจึงปิดบังเรื่องราวจากเขาเอาไว้!

    ยิ่งนางเป็นทุกข์มากเท่าไหร่ ก็ไม่ใช่เป็นการแสดงว่า นางทำเพื่อเขามากขึ้นหรอกหรือ?

    แต่นางก็นึกไม่ถึงว่า เส้นประสาทของหลี่ฟู่จะใหญ่มากถึงเพียงนี้ และเมื่อใดก็ตามที่เขาได้ยิน นางบอกเขาด้วยรอยยิ้ม ว่านางสบายดี เขาก็ไม่ได้สงสัยเลยแม้แต่นิด  แล้วคิดว่านางสบายดีจริงๆ!

    หากนางไม่ได้ถูกเหลียนฟางโจวเปิดโปงในท้ายที่สุด เกรงว่าหลี่ฟู่ก็คงจะไม่รู้ว่านางต้องทนทุกข์ทรมานอะไรบ้าง ลำพังความทุกข์ยากของพี่สะใภ้ม่ายและหลานชาย เขาก็คงไม่สามารถรู้ได้ และคงไม่สามารถรู้ธาตุแท้ของครอบครัวลุงรองและอาสะใภ้รองแน่!

    เมื่อเหลียนฟางโจวตื่นขึ้นมาและเอื้อมมือออกไปแตะยังที่นอนด้านข้างโดยไม่รู้ตัว ก็พบว่ามันว่างเปล่า แม้หลายครั้งที่ที่นอนด้านข้างจะว่างเปล่าเมื่อนางตื่นขึ้นมา แต่มันก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกลับสถานการณ์ในวันนี้

   หัวใจเธอรู้สึกว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว

   เมื่อหลับตาลงและถอนหายใจเบา ๆ ผู้ชายคนนั้น เกรงว่า เขาคงขี่ม้าออกนอกประตูเมืองไปแล้ว!

   หญิงสาวนอนลงสักพัก พลางมองด้านบนของม่านมุ้งด้วยความงุนงงง จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นช้าๆ

    หลังจากรับสำรับมื้อเช้าแล้ว เหลียนฟางโจวก็ไปเดินเล่นในสวนเพื่อผ่อนคลาย และไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับ แม่นางฉินและสาวใช้คนสนิท ที่ข้างพุ่มดอกกุหลาบ

   "เหลียน ฮูหยินเหลียน..." แม่นางฉินฝืนยิ้ม พลางก้าวเข้าไปหา "ข้าไม่ได้เจอท่านมานานแล้ว  ฮูหยินเหลียนคงสบายดีนะ!" 

    เหลียนฟางโจวขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ส่วนปี้เถาและหงอวี้ ก็รีบเดินไปอยู่ข้างกายเหลียนฟางโจวอย่างเป็นกังวล พลางมองอีกฝ่ายด้วยสายตาระแวดระวัง


6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ4 มีนาคม 2567 เวลา 00:15

    ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  2. ได้จังหวะของแม่นางฉิน ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ4 มีนาคม 2567 เวลา 07:27

    ขอบคุณผู้แปลค่ะ ยังรอติดตามต่อไป

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ4 มีนาคม 2567 เวลา 10:37

    ออกมาอีกแล้วรอยนี้จะก่อปัญหาอะไรอีก

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ6 มีนาคม 2567 เวลา 07:16

    ออกมาทันที่เลยนะแม่นางฉิน

    ตอบลบ
  6. แม่ดอกบัวขาวกับลูกคู่จะทำอะไรกันล่ะ

    ตอบลบ