วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567

จับแม่ทัพไปไถนา-บทที่ 793 น้องชายและน้องสาวเข้าเมืองหลวง

       เหลียนฟางโจวยิ้ม "ชุนซิ่งและหงอวี้ไปที่จวงจื่อนอกเมืองหลวงเพื่อจัดการธุระสองเรื่อง ส่วนปี้เถา ข้าส่งนางออกไปซื้อของ! ยามนี้สามีข้าไม่ได้อยู่ที่จวน หากข้าไม่สนใจดูแลจวนให้เขา แล้วใครเล่าจะดูแล พี่สะใภ้ใหญ่วางใจเถอะ  ข้าหาได้บอบบางมากถึงเพียงนั้น และนี่ก็ลงแรงเล็กน้อยเท่านั้นเอง! นอกจากนี้ ไม่ใช่เพราะมีพี่สะใภ้ใหญ่อยู่ด้วยหรอกหรือ ข้าถึงโล่งใจนัก! "


    ถ้าอยู่ในยุคสมัยใหม่  เธอก็ยังคงเบียดเสียดขึ้นรถบัส หรือรถไฟใต้ดิน เพื่อเดินทางไปทำงานพร้อมครรภ์แก่แปดเดือนไปทำงาน แล้วนี่นับเป็นอะไรสำหรับเธอ!

    โจวซื่อยังคงส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างจนใจ พลางถอนหายใจ "เจ้านี่น๊า! พอแล้ว! ข้าเองก็สมควรจะบอกเหตุผลอะไรกับเจ้าบ้างใช่ไหม? แล้วเมื่อไรข้าจะได้ชี้แนะเจ้าสักทีเล่า! "

    พอกล่าวจบ  ทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน

    กิจการทั้งหมดไปได้ดี ร้านค้าดำเนินการได้ตามปกติ และมีแต่เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ เหลียนฟางโจวจึงวางใจลง

    ขณะคิดว่า ต่อไปถุงเงินของครอบครัว จะเพิ่มพูนขึ้นทุกวันทุกคืน    หญิงสาวก็ยิ่งเบิกบานยินดี

    พอถึงปลายเดือนสาม เหลียนเจ๋อและเหลียนฟางชิงก็เดินทางมาเมืองหลวง จู่ๆ ก็ได้เห็นน้องๆทั้งสองคน ซือซือ เสี่ยวเหนียน จางเหลียง และคนรับใช้เก่าแก่คนอื่นๆที่คุ้นเคย รวมทั้งเสี่ยวฮุย หมาป่าแก่ๆ เหลียนฟางโจวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย

    จนกระทั่งเหลียนฟางชิงฉีกยิ้มหวานราวกับดอกไม้ และร้องเรียก "พี่ใหญ่!” ออกมา ก่อนจะวิ่งไปหาตัวนาง เหลียนฟางโจวถึงเพิ่งตระหนักว่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความฝัน!

     "ชิงเอ๋อร์!"  หญิงสาวอ้าแขนรับ เพื่อโอบกอดเหลียนฟางชิง

     โจวซื่อที่อยู่ข้างๆกัน ก็หวาดกลัวยิ่งนัก พยายามจะหยุดอีกฝ่ายไว้  เพราะนางไม่ต้องการให้เหลียนฟางชิงรีบพุ่งถลาไปหาเหลียนฟางโจว เด็กน้อยจึงหยุดอย่างกระทันหันที่ระยะห่างออกไปหนึ่งหมี่

     "ชิงเอ๋อร์!" ยามนี้เหลียนฟางโจวเพิ่งได้สติ ว่าเธอไม่สะดวกจะกอดน้องสาว ดังนั้น เธอจึงลดแขนลงพร้อมรอยยิ้ม

     เหลียนฟางชิงแลบลิ้นแผลบ แล้วส่งยิ้มน่ารัก "พี่รองบอกว่า พี่สาวของข้าตั้งครรภ์ แล้วไม่อนุญาตให้ข้าแตะตัวพี่ใหญ่! ข้าอดทนไม่ไหว จนเกือบจะสร้างปัญหาเสียแล้ว! "

     เหลียนฟางโจวหลุดหัวเราะ  "น้องรองสอนเจ้าอย่างนั้นหรือ?" 

    "ใช่แล้ว!" เหลียนฟางชิงพยักหน้า พลางมองไปที่ท้องของเหลียนฟางโจว แล้วเอ่ยอย่างสนใจใคร่รู้ “พี่รองบอกว่า มีหลานชายตัวน้อยอยู่ในท้องของพี่ใหญ่ด้วย!" 

    "ใช่แล้ว" เหลียนฟางโจวกล่าวด้วยรอยยิ้ม "รอจนกว่าหลานชายตัวน้อยเกิดมา แล้วข้าจะเล่นกับเจ้านะ!" 

    ในระหว่างที่สนทนากันอยู่ เหลียนเจ๋อได้ก้าวเข้ามาหา พลางเลิกคิ้วและคลี่ยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาวราวหิมะ ก่อนจะร้องเรียกผู้เป็นพี่สาว

    เมื่อมองน้องชายที่ดูมั่นคงและแข็งแกร่งบึกบึนขึ้นเรื่อยๆ เหลียนฟางโจวก็ได้แต่โล่งอกและภาคภูมิใจ "เดินทางราบรื่นกันดีไหม? เร็วเข้า เข้ามาในเรือน แล้วค่อยมาคุยกันอีกที! "

    ขณะที่พูดไป หญิงสาวก็เอื้อมมือไปแตะมือของเหลียนฟางชิง

เหลียนฟางชิงลังเลเล็กน้อย พลางหันไปมองเหลียนเจ๋อโดยไม่รู้ตัว

    เหลียนฟางโจวอดหัวเราะไม่ได้ แล้วจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม  "เด็กโง่เจ้ากลัวเวลาจับมือพี่สาวเจ้าเหรอ? วางใจเถอะ ขอเพียงเจ้าไม่ได้แตะท้องของพี่สาวเจ้า ก็ไม่เป็นไรแล้ว! "

    เมื่อเหลียนฟางชิงเห็นว่าเหลียนเจ๋อไม่ได้ห้าม ดังนั้นนางจึงยิ้มออกมา "เจ้าค่ะ! “ แล้วจึงเดินจับมือเหลียนฟางโจวเข้าไปด้านในด้วยกัน

   หลังจากนั่งลงแล้ว เหลียนฟางโจวจึงสั่งให้น้องสาวและน้องชาย ไปหาโจวซื่อ เมื่อสองพี่น้องไปหาโจวซื่อแล้ว ก็เรียก "ฉิ้นเจียต้าเส้า[1]"

    เมื่อเห็นเหลียนฟางชิงที่ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ทั้งอ่อนหวานและน่ารัก ดวงตางดงาม คิ้วเงางาม รวมถึงรอยยิ้มสดใส โจวซื่อก็นึกชอบเด็กน้อยในใจยิ่งนัก  จึงอดจับมืออีกฝ่ายไม่ได้ พร้อมทั้งพูดด้วยอีกสองสามคํา

    เมื่อรู้ว่าพี่สาวและน้องสาวทั้งสองคงต้องมีอะไรพูดคุยกันมากมาย นางจึงลุกขึ้นแล้วกล่าวขอตัวพร้อมรอยยิ้ม แล้วบอกว่า นางจะไปบอกห้องครัวให้เพิ่มกับข้าวมื้อเย็นอีกสองสามอย่าง แล้วก็หันไปถามเหลียนฟางชิงว่า อีกฝ่ายชอบกินอะไร

    เหลียนฟางโจวยิ้ม "พี่สะใภ้ใหญ่ดูแลจัดการไปเลยเถิด มาถามนางทำไม! เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆจะไปรู้อะไร! "

   โจวซื่อยิ้ม "ชิงเอ๋อร์สวยและก็น่ารักยิ่งนัก เห็นทีแรกข้าก็ชอบนางเลย ข้าเลยต้องถามนางซักหน่อย!" 

    เหลียนฟางชิงส่งยิ้มหวาน และขอบคุณอีกฝ่าย ก่อนจะบอกกับข้าวที่ชอบไปสองอย่าง  จากนั้นโจวซื่อจึงออกไป

   ผ่านไปครู่หนึ่ง ซือซือกับคนอื่นๆที่มาด้วยกัน ก็เข้ามาคุกเข่าคารวะอีกครั้ง เหลียนฟางโจวสั่งให้ชุนซิ่งและปี้เทาตบรางวัลให้พวกเขา แล้วสั่งคนให้พาพวกเขาไปพักผ่อน

   เหลียนเจ๋อเอ่ยด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง "นอกจากนี้ยังมีหลงจู๊และพวกอีกหลายคนที่เข้ามาในกรุงปักกิ่งกับข้าด้วย และเนี่ยเอ้อหลางก็มาด้วย กำลังรออยู่ที่เขตเรือนชั้นนอก บอกว่าอยากมาคารวะและอวยพรพี่ใหญ่ด้วยขอรับ!" 

   เหลียนฟางโจวยิ้มแย้ม "เขามีน้ำใจ! ในเวลานี้ยังไม่สะดวกจะพบกัน เอาไว้ก่อนเถอะ!  ในเมื่อพวกเราอยู่ที่นี่กันแล้ว ต่อไปก็คงจะมีโอกาสได้พบกันอีก! "

    ขณะที่พูดไป  ก็สั่งให้ปี้เถาเอาซองอั่งเปาออกมา แล้วให้นางเอาไปมอบให้พ่อบ้านเฉียน ที่ดูแลจัดการที่พักให้กลุ่มคนที่มาได้ดี

    ปี้เถารับคําสั่งแล้วจึงไป

    เหลียนฟางโจวจึงรีบถาม น้องสองคน "ทําไมมีแค่พวกเจ้าสองคนที่มาเล่า? แล้วอาหญิงสามกับเช่อเอ๋อร์ล่ะ? "

    เหลียนเจ๋อจึงกล่าวว่า "เช่อเอ๋อร์ยังร่ำเรียนกับท่านราชครูติงอยู่  ตอนนี้เขาคงมาไม่ได้! ส่วนอาหญิงสามลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่ในที่สุดก็รู้สึกว่ายากที่นางจะจากบ้านเกิด นางจึงไม่ได้มา และบอกว่านางจะรั้งอยู่ที่นั่น เพื่อดูแลเช่อเอ๋อร์! เราคงบังคับนางไม่ได้ ก็เลยต้องพอแค่นั้น! "

    เหลียนฟางโจวพยักหน้า แล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม "แบบนี้ก็ดีเช่นกัน เหนืออื่นใด อาหญิงสามก็เป็นผู้สูงอายุ!  นางอยู่อย่างสงบสุขเงียบๆที่บ้านเดิมก็ดีเช่นกัน! "

    ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วใต้หล้า เพื่อชมความงามตามธรรมชาติ

   "ข้ากลัวว่าอีกไม่นาน พี่ใหญ่ใกล้จะคลอดหลานแล้ว พอคิดถึงเรื่องนี้ ข้าจึงเร่งรีบเดินทางมา และก็มาถึงในที่สุด!” เหลียนเจ๋อหัวเราะอีกครั้ง

   เหลียนฟางโจวรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ “เอ่อ กำหนดคลอดก็น่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือนสี่! พอมีพวกเจ้ามาอยู่ที่นี่ ข้าเองก็รู้สึกสบายใจขึ้น! "

   เหลียนเจ๋อและเหลียนฟางชิงก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น

   เหลียนฟางชิงยิ้มแล้วพูดว่า "ข้าจะอยู่กับพี่ใหญ่ทุกวัน พี่ใหญ่ของข้าคงจะเบื่อ ดังนั้นน้องสาวอย่างข้าจะบรรเทาความเบื่อให้เองนะเจ้าคะ!" 

    "เอ่อ เจ้าก็อย่ารู้สึกเบื่อตัวเองไปเสียก่อนล่ะ!" พอเหลียนฟางโจวพูดจบ เหลียนเจ๋อก็หัวเราะ

     หัวเราะหนักจนใบหน้าของเหลียนฟางชิงแดงเรื่อหน่อยๆ พลางเอามือบิดชายเสื้อตนเอง แล้วยู่ปากใส่ "พี่ใหญ่ พี่รองชอบแกล้งผู้อื่นอยู่เรื่อยเลย!" 

    เหลียนฟางโจวและเหลียนเจ๋อจึงหัวเราะขบขันหนักขึ้นเรื่อยๆ

    ขณะเดียวกัน ปี้เถาที่กลับมาจากข้างนอก ได้เข้ามารายงานว่าได้มอบของให้พ่อบ้านเฉียนเรียบร้อยแล้ว ขอให้ฮูหยินวางใจ

   เหลียนฟางโจวพยักหน้ายิ้มให้ "เจ้ามาได้จังหวะพอดี ช่วยพาชิงเอ๋อร์ไปเก็บข้าวของสัมภาระให้เรียบร้อย! ให้นางพักที่เขตเรือนข้างๆเขตเรือนตะวันออกของข้าก็แล้วกัน มีเสี่ยวฮุยด้วยนี่" เหลียนฟางโจวใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า "เจ้าก็ช่วยจัดเตรียมสถานที่ของเขตเรือนข้างๆเขตเรือนตะวันออกด้วยนะ! จากนั้นพานางไปเดินเล่นในสวน แล้วพาเดินชมทําความคุ้นเคยกับทุกซอกทุกมุมของจวนด้วย"

    เหลียนฟางชิงที่โดนพี่ๆหยอกล้อตัวเองก่อน นางจะยอมไปไหนได้ในตอนนี้?

    เด็กหญิงจึงส่ายหน้า และกล่าวว่า "พี่ปี้เถา ท่านพาซือซือ กับเสี่ยวเหนียน ไปเก็บข้าวของสัมภาระก่อนเถอะ แล้วช่วยพาเสี่ยวฮุยไปด้วย ข้าอยากจะอยู่กับพี่สาวของข้าสักหน่อย!" 

     เหลียนเจ๋อรีบเอ่ย "พี่ใหญ่ ให้เสี่ยวฮุยอยู่ที่เขตเรือนนี้ มันไม่เหมาะสมเลย  พี่สาวหาสถานที่ไกลๆในจวนให้มันอยู่ ขังมันไว้ชั่วคราว! และขอให้ใครมาดูแลมันก็พอ! "

    เหลียนฟางชิงอ้าปากจะพูด แต่พอคิดได้ว่า พี่สาวของนางกําลังจะคลอดหลาน ดังนั้นนางจึงไม่พูดอะไร…

   แต่เหลียนฟางโจวกลับส่ายหน้ายิ้มๆ "ไม่มีปัญหาหรอก ข้าเชื่อในชิงเอ๋อร์ ชิงเอ๋อร์จะดูแลมันได้ดีอย่างแน่นอน!" 

   เหลียนฟางชิงพลันยินดีปรีดาขึ้นมาทันที ร่างเล็ก ๆ ก็ยืดตัวขึ้นอย่างภาคภูมิใจ  แล้วรีบเอ่ย "พี่ใหญ่วางใจเถอะ! ข้ามองว่ามันเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย หากมันกล้าสร้างปัญหา ข้าจะทำโทษมันเอง! "

   เหลียนเจ๋อเบะปากอย่างไม่เห็นด้วย พลางคิดว่า เจ้าเองก็เป็นตัวสร้างปัญหาเช่นกัน ไม่ได้ต่างจากเสี่ยวฮุยเลย!

   เขายังอยากโน้มน้าวอีกครั้ง แต่เหลียนฟางโจวโบกมือให้เขาแล้วหันไปยิ้มให้กับเหลียนฟางชิง  “เอาเถอะ เจ้าต้องดูแลมันให้ดีนะ! เพราะเสี่ยวฮุยมันคงไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งผู้อื่นหรอก เจ้ารีบไปเก็บข้าวของก่อนเถอะ ! พี่ใหญ่มีบางเรื่องจะหารือกับพี่รองของเจ้าน่ะ "

   เหลียนฟางชิงจึงยอมตกลง แล้วกล่าวขอตัว ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับปี้เถา

**

[1]พี่สะใภ้ใหญ่ของครอบครัวเขย หรือสะใภ้


1 ความคิดเห็น: