วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567

จับแม่ทัพไปไถนา-บทที่ 795 ลงโทษ

     โดยไม่จําเป็นต้องให้เหลียนเจ๋อมาบ่นกับเหลียนฟางโจว ยามที่ชุนซิ่งไปเก็บดอกไม้ในสวน เพื่อเอามาปักแจกัน นางได้ยินสาวใช้มีอายุสองคนที่กำลังกวาดทางเดินในสวน กำลังกระซิบกระซาบกันโดยบังเอิญ


    ชุนซิ่งนิ่งงันไปในตอนนั้น และออกมาตวาดโดยทันทีโดยไม่สนใจสาวใช้มีอายุทั้งสองที่กําลังคุกเข่า และขอร้องให้ให้อภัย จากนั้นนางได้นําตัวคนทั้งสองมาอยู่ตรงหน้าเหลียนฟางโจว

    แม้จะเป็นการดีที่สุดสำหรับเหลียนฟางโจว ที่จะไม่รู้เรื่องเลวร้ายเหล่านี้ ระหว่างตั้งครรภ์ แต่ชุนซิ่งรู้นิสัยของเหลียนฟางโจวเป็นอย่างดี นางจะต้องไม่พอใจเป็นแน่ หากตนเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ

    ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากสาวใช้มีอายุสองคนนี้กล้าซุบซิบนินทากัน แสดงว่ายังมีคนอื่น ๆที่นินทาด้วยเช่นกัน และเหลียนฟางโจวก็อาจเคยได้ยินมาบางส่วนแล้ว หากจะซ่อนเรื่องนี้เอาไว้ ก็คงไม่สามารถซ่อนได้!

   ยามที่เหลียนฟางโจวไต่สวนเหตุผลสาวใช้สองคนนั้น นางก็แค่นเสียงไม่หยุด

   เมื่อสาวใช้มีอายุทั้งสองเห็น สีหน้าที่กระด้างเย็นชาราวน้ําแข็งของเจ้านาย พวกนางต่างก็วิงวอนขอร้องอย่างขมขื่น "บ่าวชราสมควรตาย !  บ่าวชราไม่กล้าอีกแล้วเจ้าค่ะ!" รวมทั้งคำพูดอื่นๆ เหลียนฟางโจวจึงกล่าวอย่างเย็นชาว่า "สมควรตายรึ? ไม่กล้าอีกแล้วเหรอ?  แล้วเหตุใดพวกเจ้าถึงไม่คิด ก่อนจะเอ่ยคำพูดพวกนี้ออกมา? ข้าไม่รู้ว่าข้าได้พูดไปกี่ครั้งแล้วว่า ตั้งแต่ที่พวกเจ้าเข้ามาอยู่ในจวน ตราบใดที่พวกเจ้าทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ข้าและนายท่านจะไม่ปฏิบัติเลวร้ายต่อพวกเจ้า! พวกเจ้าทุกคนทำดีที่สุดแล้วเหรอ? ลับหลังก็วิจารณ์เจ้านายของพวกเจ้าอย่างสนุกปาก ช่างขวัญกล้าอะไรเยี่ยงนี้! "

    น้ำเสียงของเหลียนฟางโจวพลันเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดอย่างกระทันหัน สายตาเย็นชาจ้องมอง คนสองคนที่กำลังคุกเข่าตัวสั่นอยู่ที่พื้น

   หนึ่งในนั้นโขกศรีษะสองครั้งติดกัน และกล่าวว่า "ฮูหยิน ให้อภัยความผิดของบ่าวชราด้วยเถิดเจ้าค่ะ  คำพูดเหล่านี้บ่าวชราไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าว เพียงได้ฟังคนอื่นพูดมาอีกที ! บ่าวชราก็เลย —"

    "ตบปาก!" เหลียนฟางโจวตวาดลั่น

    ฉินหมัวมัว ผู้ซึ่งมีหน้าที่ดูแลสาวใช้ที่ทำงานใช้แรงในสวน สาวเท้าเข้าไปตบหน้าสาวใช้ผู้นั้นทันทีโดยไม่ลังเล ทําให้นางกรีดร้องอย่างเจ็บปวดด้วยความมึนงง ขณะที่หูอื้อและชาไปครึ่งหน้า

   "อุดปากทั้งสองคนไว้! แล้วเอาเชือกมัดตัวไว้ด้วย!” เหลียนฟางโจวตวาดอีกครั้ง

   หลังจากที่สาวใช้มีอายุสองนาง ถูกมัดตัวและอุดปากแล้ว ก็ถูกโยนไว้ข้างๆ เหลียนฟางโจวสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะพูดว่า"ไปเรียกพ่อบ้านเฉียนให้มาหาข้าเดี๋ยวนี้!" 

   หญิงสาวจะไม่รู้ได้อย่างไรว่า ตั้งแต่ข่าวเนื่องจากข่าวลือดังกล่าว แพร่สะพัดในจวน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนร่วมนินทาเพียงแค่สอ

งคน แต่ถ้าเธออยากจะสอบสวนพวกเขาจริงๆ ก็เกรงว่าบ่าวไพร่ที่มีไม่กี่คนในจวน จะหายไปจนเกลี้ยงจวน เพราะคงมีส่วนพัวพันเกือบทุกคน และเมื่อมีคนเกี่ยวจํานวนมาก เรื่องราวนี้มันจะจบลงอย่างไร? แล้วจะลงโทษพวกเขาอย่างไร?

    ลงท้ายแล้ว คงจะมีมีเพียงครอบครัวเธอเท่านั้นที่ถูกตําหนิ เป็นเพราะตนเองมีรากฐานตระกูลที่อ่อนแอ ไม่มีคนรับใช้ที่รับใช้มาหลายชั่วอายุคนในจวนเช่นตระกูลอื่น พวกเขาจึงไม่มีความจงรักภักดีและความรู้สึกสำนึกในชื่อเสียงของตระกูลใด ๆเลย!

   มีคนที่ไม่ชอบเรื่องซุบซิบกี่คนกัน? หากเป็นคนชอบนินทา จะไม่แพร่เรื่องนินทาได้อย่างไร?

   นั่นเป็นเหตุผลที่เธอจะหยุดสาวใช้สองคนนี้ให้ทันเวลา แล้วเชือดไก่ให้ลิงดู ก่อนจะยุติทุกอย่างลงตรงนี้! เธอคาดหวังว่าคนที่เหลือส่วนใหญ่จะได้รับบทเรียนนี้ และไม่กล้าแพร่เรื่องซุบซิบนินทาส่งเดชอีก และจะได้จำว่าทุกคนจะต้องสำรวมและระมัดระวังตัว  หากคราวหน้าเกิดเรื่องนินทาทำนองนี้ขึ้นอีก

   แน่นอนว่า เรื่องนี้ไม่อาจปล่อยผ่านไปเงียบๆได้

   หากเผยแพร่เรื่องนินทาโดยไม่ตั้งใจ ก็ไม่กระไรนัก  เธอเกรงว่าจะต้องมีใครบางคนที่มีแรงจูงใจแอบแฝง  จงใจยุแยงให้เกิดเรื่องนินทานี้ขึ้น! และเรื่องนี้ เธอจะต้องตรวจสอบให้กระจ่าง

   เพียงแต่ว่าการตรวจสอบนี้ จะทำอย่างกระโตกกระตากไม่ได้ จะต้องตรวจสอบกันอย่างลับๆเท่านั้น

   ข่าวเหลียนฟางโจวจับคนที่นินทาเจ้านายได้ และจะทำการสอบสวน ได้แพร่สะพัดไปทั่วจวนอย่างรวดเร็วปานลมพัด

   พ่อบ้านเฉียนคาดการแล้วว่า นางจะต้องตามตัวเขาไปพบ พอได้ยินคำสั่ง เขาจึงปรับจิตใจให้เยือกเย็น และจัดระเบียบเสื้อผ้า ก่อนจะรีบตามสาวใช้รุ่นเล็กไป

    "การกํากับดูแลจวนของบ่าวชรา ทำให้ฮูหยินโกรธแล้ว เป็นบ่าวชราที่ละเลยหน้าที่ขอรับ ฮูหยิน ได้โปรดลงโทษด้วย เพียงแต่ฮูหยินกำลังตั้งครรภ์ ได้โปรดระวังด้วยขอรับ! 

    ทันทีที่พ่อบ้านเฉียนเข้ามา เขาไม่รอให้เหลียนฟางโจวถาม ตัวเขาก็คุกเข่าลง และเป็นฝ่ายขออภัย

    เมื่อเหลียนฟางโจวเห็นเขาเป็นแบบนี้ ความโกรธในใจก็ทุเลาลงไปสองส่วน พลางถอนหายใจ: "เจ้าลุกขึ้นแล้วคุยกัน  ห้ามปากคนเป็นเรื่องยาก และเรื่องนี้ข้าก็ไม่อาจตําหนิเจ้าได้! อย่างไรก็ตาม คงจะพูดไม่ได้ว่า เจ้าไม่มีส่วนรับผิดชอบเลย! หลังจากจบธุระตรงนี้ของเจ้าแล้ว ข้าจะเรียกเจ้ามาคุยในภายหลัง ที่ข้าเรียกเจ้ามาครั้งนี้ ก็เพื่อให้เจ้า เอาสุนัขสองตัวที่บังอาจนินทาเจ้านายลับหลังไปเสีย แล้วไปเรียกบ่าวไพร่ในจวนทั้งหมด ให้มาชุมนุมกัน ประกาศความผิด และลงโทษสุนัขสองตัวนี้โดย ตบปากสามสิบครั้ง แล้วโบยอย่างหนักสามสิบไม้ จากนั้นส่งพวกนางให้พวกนายหน้า เอาไปขายให้ไกลจากเมืองหลวง! ประกาศไปว่า หากมีคนกล้าทำในครั้งต่อไป โทษจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และถ้าหากไม่เชื่อ ก็ลองดูได้! "

     พ่อบ้านเฉียนรู้สึกหนาวเหน็บที่แผ่นหลัง หากโดนโบยสามสิบไม้ ถึงสาวใช้มีอายุสองคนนี้จะแข็งแรงเพราะทำงานใช้แรง ที่จริงแล้วก็ยากจะรอดชีวิต

    แต่เขาไหนเลยจะกล้าขอร้องไกล่เกลี่ย ในขณะที่เหลียนฟางโจวกำลังโกรธจัดอยู่เล่า?

    ยิ่งไปกว่านั้น สองคนนี้ก็สมควรได้รับโทษแล้ว มีทาสคนไหนที่สามารถวิจารณ์เจ้านายได้ด้วยเหรอ?

    พ่อบ้านเฉียนรีบรับคำ

    เหลียนฟางโจวพูดเสริมว่า "สําหรับตัวเจ้าด้วย หากการควบคุมดูแลบ่าวไพร่ในจวนไม่มีประสิทธิภาพพอ เจ้าจะถูกปรับเงินเป็นเงินเดือนสองเดือน และพ่อบ้านทั้งหมดที่เป็นลูกน้องของเจ้า จะถูกปรับเงินเท่ากับเงินเดือนหนึ่งเดือน!  หากเจ้ายังขืนเป็นแบบนี้ต่อไป   ต่อไปข้าจะดูแลเรื่องพวกบ่าวไพร่เอง ยามนี้นายท่านไม่อยู่ ข้าไม่อยากให้เกิดปัญหาใดๆ เพราะการไม่ค่อยเข้มงวดกวดขัน การควบคุมหย่อนยาน! "

   พ่อบ้านเฉียนหน้าเปลี่ยนสีด้วยความตกใจ เขารีบรับคำ แล้วสั่งให้คนคุมตัวสาวใช้มีอายุสองคนนี้ไปพร้อมกัน

    ในไม่ช้า บ่าวไพร่ทั้งเขตเรือนชั้นนอกและชั้นในทั้งหมด เว้นเพียงสาวใช้รุ่นเล็กสองคนที่คอยอยู่ปรนนิบัติข้างกายเหลียนฟางโจว ทุกคนมาชุมนุมในลานสี่เหลี่ยมกว้างที่เขตเรือนด้านหน้า ต่างคนต่างกระซิบและถกเถียงกัน

     คนส่วนใหญ่คาดเดาได้แล้วว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และมีคนสองสามคนที่ทำงานดี ถูกเรียกตัวเข้าไป ทุกคนงุนงงสับสน

   บางคนพอเข้าใจแล้ว บางคนเชื่อแน่ว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่ และบางคนที่ไม่ชอบกฏระเบียบ แต่ชอบความครึกครื้น ก็มาตั้งตารอคอยดูความตื่นเต้น

    เหลียนฟางโจวเองก็ไม่อยากให้เรื่องขยายไปใหญ่โต เธอจึงไม่สนใจจะลงโทษทุกคนที่ทําผิด และก็อดคิดไม่ได้ว่า หากทุกคนถูกเตะโด่งออกจากจวนไปพร้อมๆกัน แล้วเธอจะหาใครมาเติมตำแหน่งที่ว่างลงดี  ดังนั้นการส่งคำเตือนครั้งนี้อาจเป็นสิ่งที่ดีกว่า

    เมื่อพ่อบ้านเฉียนเห็นว่าทุกคนมาถึงแล้ว เขาจึงสั่งให้นําสาวใช้มีอายุทั้งสองนั้นขึ้นมา และหลังจากประกาศความผิดแล้ว เขาก็ประกาศการลงโทษ จากนั้นก็สั่งให้คนตบปากคนทั้งสองทันที

    บ่าวชายสี่คน จับตัวสาวใช้สองคนนั้นให้คุกเข่า และหญิงรับใช้ที่ใหญ่โตบึกบึนสองคน ก็ก้าวเข้ามาเอาผ้าที่อุดปากออกจากปากสาวใช้สองคนนั้น  ก่อนที่คนทำผิดจะร้องอ้อนวอน ก็ถูกมือหนึ่งของอีกฝ่ายจับคางไว้แน่นจนหน้าหงาย แล้วก็โดนอีกมือตบลงไปอย่างแรงไม่หยุด

    สาวใช้มีอายุทั้งสองกรีดร้องเหมือนหมู เสียงเนื้อที่กระทบกันดังสนั่น สะเทือนในหัวใจของผู้คน จนทุกคนขนลุกขนชัน

    หลังจากโดนตบไปสามสิบฝ่ามือ เมื่อทุกคนมองไปที่สาวใช้ทั้งสองคนนั้น พวกนางผมเผ้ายุ่งเหยิงมวยผมหลุดรุ่ย ดูคล้ายวิญญาณเร่ร่อน  แก้มทั้งสองข้างบวมเป่ง ที่มุมปากมีเลือดไหลซิบๆ  ทั้งสองร้องไม่ออก ได้แต่ส่งเสียงครางเบาๆด้วความเจ็บปวด จนคนรู้สึกถึงความเจ็บของพวกนางอย่างชัดแจ้ง

    ฝูงชนเงียบกริบ แทบไม่กล้าหายใจออกมา บางคนที่ขี้กลัว ก็หน้าซีด ขาสั่น จนแทบทรงตัวยืนไม่ได้

     และบรรดาคนที่เคยแอบซุบซิบนินทามาก่อนหน้า หัวใจพวกเขาก็เต้นโลดมาจนถึงคอหอย  นอกจากความรู้สึกโชคดีแล้ว ที่เหลือก็คือความหวาดกลัว

    พ่อบ้านเฉียนจ้องมองสาวใช้มีอายุทั้งสองคน ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ แล้วจึงกล่าวอย่างเย็นชาว่า "ยังมีโทษโบยสามสิบไม้กระดานใหญ่อีก เรามาทำให้เสร็จกันเถอะ!" 

    มีเสียงครางฮือฮาเบาๆ จากในฝูงชน

    สาวใช้มีอายุสองคนนี้ ทุกข์ทรมานใจนัก ดวงตาพวกนางเลื่อนลอย  คำพูดโบยสามสิบไม้กระดานใหญ่  พ่อบ้านเฉียนพูดออกจากปากราวกับเป็นเรื่องธรรามดาทั่วไป กระทั่งเปลือกตาก็ไม่กระตุกสักนิด!




1 ความคิดเห็น: