วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2567

จับแม่ทัพไปไถนา-บทที่ 799 มาคิดบัญชีด้วยความโกรธแค้น

        "คุณหนูบ้านเดิม ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ! อุ๊บส์ ไฉนท่านถึงร้องไห้เสียตาบวมเป่งตาล่ะ เกิดอะไรขึ้นรึเจ้าคะ?  มีใครรังแกท่านเหรอ?”  

      ติงเซียงแสร้งทําเป็นแปลกใจ


      "เจ้ายังมีหน้ามาทำเป็นไม่รู้อีกเหรอ!" เหลียนฟางชิงเอ่ยด้วยความเกลียดชัง "ยาที่เจ้าให้ข้ามา คือยาพิษใช่ไหม? ฮือๆๆ ข้าฆ่าพี่สาวตัวเองเสียแล้ว เจ้าสองคนโกหกข้า! "

   "ท่านพูดเรื่องไร้สาระอะไรของท่านกันเนี่ย!" ติงเซียงเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว "คุณหนูบ้านเดิม อย่ามามุ่งร้ายใส่ความกันสิ! ยาพิษอะไรกัน?  เรื่องน่ากลัวขนาดนี้ ก็พูดออกมาได้! "

   เหลียนฟางชิงตวาดอย่างโกรธแค้น "เจ้าแสร้งทำเป็นไม่รู้เหรอ นั่นคือยาผงที่เจ้าให้ข้า ตอนที่ข้ามาที่นี่ในวันนั้นไง! เจ้าคนหนึ่งบอกให้ข้าเอาใส่ลงในชาให้พี่สาวข้า แล้วบอกว่าพระโพธิสัตว์จะอวยพรให้พี่สาวข้า ให้กําเนิดหลานชายผิวขาวอวบตัวใหญ่ และผลที่ได้ก็คือ-- ฮือๆๆ! เจ้าสองคนมันน่ารังเกียจและไร้ยางอาย ! ข้าจะไม่ละเว้นชีวิตพวกเจ้า!" 

      ติงเซียงและแม่นางฉินแอบแลกเปลี่ยนสายตากันแวบหนึ่งโดยไม่มีใครทันสังเกต ในดวงตาของคนทั้งคู่มีร่องรอยของความตื่นเต้นพาดผ่าน

      ติงเซียงตอบโต้ทันที

      "คุณหนูบ้านเดิม ท่านพูดเรื่องอะไรกันเจ้าคะ? ยาผงอะไรกัน? บ่าวไม่เห็นจะเข้าใจเลยเจ้าค่ะ! "

      "คุณหนูบ้านเดิม ท่านจะมากล่าวหาลอยๆไม่ได้นะ เราสองคนนายบ่าว อยู่กันอย่างสันโดษ ไม่เคยให้ความสนใจเรื่องกับเรื่องราวภายนอก  คุณหนูผู้นี้ ยังเด็กอยู่แท้ๆ ก็รู้วิธีใส่ร้ายพวกเราแล้วรึ! ช่างเหลือเกินจริงๆ —"  แม่นางฉินถอนหายใจ

      เหลียนฟางชิงโกรธจัดจนเอ่ยอย่างแค้นเคือง

     "นี่ไม่ใช่คำพูดที่ท่านพูดในวันนั้นรึ! ไฉนถึงกล้าพูดปฏิเสธได้ตาไม่กระพริบเล่า! ท่านไม่กลัวพระโพธิสัตว์ตําหนิเอาหรือ! “

      ติงเซียงเห็นท่าทีโกรธแค้นของอีกฝ่าย ก็ยิ่งสะใจ นางแบสองมือออก แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ  

     "คุณหนูบ้านเดิม ท่านจะมาพูดแบบนี้ไม่ได้นะ! เห็นอยู่ชัดๆว่าท่านกุเรื่องขึ้นมาเอง แล้วเราจะยอมรับได้อย่างไร? พระโพธิสัตว์รึ?  ต่อให้พระโพธิสัตว์ทรงอยากตําหนิ คนที่ต้องโดน ก็คงเป็นท่าน ไม่ใช่พวกเราหรอกนะเจ้าคะ! "

    "จะไม่ยอมรับเหรอ? ข้ามีหลักฐานนะ! “

    เหลียนฟางชิงแค่นเสียงอย่างเย็นชา พลางหยิบห่อกระดาษใบเล็ก ออกจากแขนเสื้อ แล้วสะบัดไปมา เป็นห่อกระดาษที่แม่นางฉินมอบให้นางในวันนั้น

    เหลียนฟางชิงเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว "ดูซิว่านี่คืออะไร? โชคดีนักที่ข้ายังไม่ทันได้เผา ฮึ่ม! พี่ชุนซิ่งได้ส่งคนไปถามท่านหมอเทวดาเซวียอะไรนั่นแล้ว แล้วเมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้เขา แล้วให้เขาถามพวกเจ้า! "

    แม่นางฉินและติงเซียงตกตะลึง หน้าถอดสีไปทันที

    เมื่อถึงตอนนั้น แม้สามารถปฏิเสธได้ แต่ถึงอย่างไร นี่ก็เป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งที่สืบหาร่องรอยได้

    เหลียนฟางชิงเป็นน้องสาวของเหลียนฟางโจว นางไม่มีทางทำร้ายพี่สาวตนเองอยู่แล้ว เช่นนั้นแล้ว เรื่องนี้ก็ต้องเป็นเพราะใครบางคนหลอกลวงนาง พอเป็นแบบนี้ ถึงคำกล่าวโทษในส่วนของอีกฝ่าย จะเอาผิดพวกนางสองคนไม่ได้  แต่ก็ไม่อาจขจัดความสงสัยในตัวพวกนางสองคนออกไปได้อยู่ดี

    หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ พวกนางไม่มีทางจะบริสุทธิ์ไร้มนทิลอย่างแต่ก่อนแล้ว

    เหมือนอย่างแต่ก่อน ที่ไม่มีเรื่องน้ำชา พอเหลียนฟางโจวแท้งลูกตกเลือด ใครเล่าจะรู้ว่าสาเหตุคืออะไร?

    แต่ด้วยห่อกระดาษนี้ เรื่องทุกอย่างจะแตกต่างออกไป!

   ไม่ว่าจะมองอย่างไร ท่านแม่ทัพจะต้องมีหนามนี้อยู่ในใจเขา!

   "นี่คืออะไรเหรอ? พวกเราไม่เคยทราบมาก่อนเลย  อย่าเอามาใช้ขู่คนอื่นเสียให้ยาก! “

    ติงเซียงพูดพลาง ขณะที่หางตาก็แอบเหล่มองเหลียนฟางชิง พลางค่อยๆเขยิบเข้าหาอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ แล้วพลันเอื้อมมือออกไปทันที เพื่อแย่งห่อกระดาษจากมือของเหลียนฟางชิง 

   นึกไม่ถึงว่า เหลียนฟางชิงจะกำห่อกระดาษไว้ในมือแน่น ติงเซียงจึงแย่งชิงมาไม่ได้

   "เอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้!" 

    เมื่อติงเซียงเห็นว่าการแอบโจมตีทีเผลอไม่สำเร็จ นางจึงไม่สุภาพกับเหลียนฟางชิงอีก ครั้นแล้วเข้าไปใช้กำลังบังคับยื้อแย่งมา

   "ไม่!" 

    เหลียนฟางชิงเบี่ยงตัวกันอย่างแน่นหนา พลางแค่นเสียงเย็นชา "อะไร?  กลัวความผิดเหรอ? เจ้าบอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า! หากไม่เกี่ยวแล้วเจ้าจะมาแย่งทำไม! เจ้ากลัวอะไร! คนสารเลว! ไร้ค่า! ไร้ยางอาย! "

   "หุบปากนะ!" 

    ติงเซียงจะทนฝีปากเผ็ดร้อนของเหลียนฟางชิงได้ที่ไหน จึงเอ่ยออกมาอย่างกราดเกรี้ยว "นังเด็กน้อย ปากดีเหมือนพี่สาวเลยนะ! ในเมื่อเข้ามาแล้ว วันนี้ก็อย่าหวังจะได้ออกไปเลย หากเจ้าไม่ยอมทิ้งของไว้! "

   เหลียนฟางชิงร้องตะโกน ขณะที่ดิ้นรนต่อสู้กับอีกฝ่าย 

    "ข้าไม่ให้เจ้า! นี่คือหลักฐาน! หลักฐานที่บอกว่า พวกเจ้าสองคนทําชั่วกับพี่สาวข้า! คิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าพวกเจ้าคิดอะไรอยู่? คิดจะแย่งหลักฐานไปทำลาย แล้วแกล้งทําเป็นไม่รู้เหมือนตอนนี้ใช่ไหมเล่า! "

   พอเห็นว่านางแย่งของจากมือเหลียนฟางชิงไม่ได้แน่แล้ว ติงเซียงก็อดโกรธแค้นและวิตกกังวลไม่ได้  เมื่อโดนอีกฝ่ายด่าว่าและดูถู  นางจึงร้องตวาด

    "นังเด็กสารเลว หุบปากของเจ้าซะ! ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะบังคับเจ้าไม่ได้! ฮึ่มหลักฐานรึ? ฝันไปเถอะ! ต่อให้มีหลักฐาน แล้วตัวเจ้าเล่า! วันนี้เราจะไม่ปล่อยให้เจ้า ได้เอาสิ่งนี้ออกมาแสดงอีกเลย! "

    "ในที่สุดพวกเจ้าก็ยอมรับแล้วรึ!" 

      เสียงของเหลียนฟางชิงสั่นด้วยความโกรธ และเอ่ยด้วยความเคียดแค้นชิงชัง 

     "ต่อให้พวกเจ้ายื้อแย่งสิ่งนี้ไปได้ พวกเจ้าจะฆ่าข้าได้เหรอ! พอพี่เขยของข้ากลับมา ข้าจะฟ้องเขาอย่างแน่นอน! พี่เขย เขาจะไม่ไว้ชีวิตพวกเจ้าแน่"

     "ฮ่า! หากเจ้าอยากฟ้อง ก็ฟ้องไปเลย! “

     ติงเซียงมีวิธีแก้ไขอยู่ในใจแล้ว จึงทำให้นางเริ่มลำพองใจขึ้นมา แล้วร้องตะโกนขึ้น " เจ้ามันก็แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เมื่อไม่มีหลักฐาน เจ้าคิดว่าเขาจะเชื่อคําพูดของเจ้าหรือ? ใครเล่าจะรู้ เจ้าอาจเห็นว่าพี่สาวตัวเองตายอย่างอนาถ ก็เลยมาใส่ร้ายเราก็ได้ บางที นี่อาจเป็นสิ่งที่พี่สาวสอนเจ้าก่อนจะตายก็เป็นได้! มีใครไม่รู้บ้างว่านางเกลียดชังแม่นางของเรา! "

    จากนั้นติงเซียงก็นึกถึงแม่นางฉิน ที่กำลังทำอะไรไม่ถูกได้ จึงรีบตะโกนขึ้น "แม่นาง ท่านมาช่วยบ่าวเร็วเข้า!" อย่าให้เด็กคนนี้หนีไปได้นะเจ้าคะ! "

    แม่นางฉินตื่นขึ้นจากภวังค์ พลางถอนหายใจ

    "ฟางชิง เจ้าอย่าดื้อดึงไปเลย ทิ้งของนี่ไว้ซะ! เรามีสองคน เจ้ามีคนเดียว เราจะปล่อยให้เจ้าหนีไปแบบนี้ไม่ได้ "

     ขณะที่พูด หญิงสาวก็เดินเข้ามาช่วย

     มือของเหลียนฟางชิงพลันคลายออกอย่างกะทันหัน และในที่สุดแม่นางฉิน และติงเซียงก็คว้าห่อกระดาษไปได้

     ติงเซียงยิ้มอย่างมีชัย "เด็กน้อย ลำบากเจ้าแล้ว!  หากวางของไว้เสียตั้งแต่เนิ่นๆ ป่านนี้ก็สบายไปแล้ว! "

    เหลียนฟางชิงแค่นเสียง แล้วค่อยๆก้าวถอยหลัง

   อย่างไรก็ตาม เมื่อแม่นางฉินคว้ากระดาษออกมาดู นางก็อุทานด้วดวงตาที่เบิกกว้าง "ไม่ใช่นี่! กระดาษที่ห่อยานั่นไม่ใช่แบบนี้! "

   เหลียนฟางชิงแค่นเสียง "พวกเจ้าช่างสายตาดีจริงๆ สามารถแยกแยะได้ดี!" 

   ติงเซียงก็หน้าเปลี่ยนสีไปเช่นกัน คราวนี้นางโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด พลางจ้องเหลียนฟางชิงอย่างเย็นชา "กระดาษอยู่ที่ไหน? เจ้าเผาทิ้งไปแล้วใช่ไหม! "

   เหลียนฟางชิงคำราม "ไม่! พวกเจ้ารอรับโชคร้ายได้เลย! "

    แม่นางฉินซวนเซแทบล้ม

   ติงเซียงย่างสามขุมไปหาเหลียนฟางชิง แล้วตะคอกอย่างไม่เกรงใจ "เอาไปไว้ที่ไหน? ส่งมาให้ข้าเดี๋ยวนี้! "

   แม่นางฉินตัดสินใจ เข้ามากดดันเหลียนฟางชิงอีกคน

   ในเมื่อเหลียนฟางชิงมาคนเดียว แทนที่จะเป็นชุนซิ่ง, ปี้เถา, พ่อบ้านเฉียน และคนอื่นๆ ก็หมายความว่าเหลียนฟางชิงยังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใคร ไม่เช่นนั้น นางคงไม่มาคนเดียวหรอก!

   โชคดีที่เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้หุนหันพลันแล่น และตั้งใจมาคนเดียว การที่นางวิ่งมาที่นี่คนเดียว พวกนางก็ยังมีโอกาสแก้ไขอยู่

   เหลียนฟางชิงเบะปาก แล้วเชิดหน้าขึ้น

   "ไม่! และก็ไม่ คิดจะฆ่าข้าปิดปากเหรอ! หากเก่งจริงก็ลองดูสิ!" 

   เดิมทีติงเซียงและแม่นางฉินไม่มีเจตนาฆ่าคน แต่เมื่อเหลียนฟางชิงพูดแบบนี้ ทั้งสองคนก็มองหน้ากัน ในใจก็เริ่มคิด


1 ความคิดเห็น: