วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2567

บแม่ทัพไปไถนา-บทที่ 800 อยากฆ่าคน

        ติงเซียงมีท่าทีดุร้ายยิ่งกว่าแม่นางฉินเสียอีก ดวงตาของนางดุดัน นางจ้องมองเหลียนฟางชิงด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่า "เจ้าไม่ยอมพูดหรือ? คงอยากตายจริงๆใช่ไหม!  เจ้าคิดว่าเราไม่กล้าเหรอ? ก็ลองดูสิ! "


     ไม่ฆ่านางตอนนี้ แล้วจะรอให้นางมาฆ่าตนเองเหรอ? ตอนนี้สถานการณ์ยากลำบากเหมือนขี่หลังเสือ!

     เหลียนฟางชิงคิดไม่ถึงว่า พวกนางตั้งใจจะฆ่าตนจริงๆ ใบหน้าของเด็กหญิงจึงซีดทันตา  ดวงตาฉายแววตื่นตระหนก  แล้วเริ่มก้าวถอยหลัง  

     "พวกเจ้า-"

      "ข้าให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ส่งของมาเดี๋ยวนี้ และข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!" ติงเซียงกล่าวอย่างเย็นชา

     น้ําเสียงของแม่นางฉินนั้นอ่อนโยนกว่า

      "พี่สาวเจ้าก็ตายไปแล้ว เจ้ายังอยากตายอีกคนเหรอ? อย่าโง่ไปหน่อยเลย เร็วเข้า! "

     เหลียนฟางชิงไม่สนใจพวกนาง  เพียงตะโกนเสียงดังลั่นไปถึงข้างนอก 

    "ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย! ใครก็ได้มาเร็ว!  ใครก็ได้เข้ามาเร็ว! "

    ติงเซียงหัวเราะหึๆอย่างมีชัย และพูดอย่างเย้ยหยันว่า 

    "ร้องออกไปเลย!" ร้องให้คอแตก ก็ไม่มีใครได้ยินหรอก! "

     พอกล่าวจบ ก็มีเสียงผลักประตูดังขึ้นด้านหลังเหลียนฟางชิง ซึ่งดังชัดเจนอย่างหาใดเปรียบ

    ก่อนที่สองนายบ่าว จะทันโต้ตอบ พวกนางก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยของปี้เถา "ช่างเป็นงิ้วที่สนุกดีอะไรอย่างนี้ ! แม่นางฉินและพี่ติงเซียง ช่างเก่งกล้าเรื่องกลอุบายจริงๆ! "

    แม่นางฉินและติงเซียงรู้สึกเพียงว่ามีเสียง"หึ่งๆ" ดังขึ้นในหัว  ทั้งสองคนเหลียวหลังกลับไปดูโดยไม่รู้ตัว ก็เห็นกลุ่มคนจํานวนมากที่ประตู มีเหลียนฟางโจว ปี้เถา หงอวี้  โจวซื่อ พ่อบ้านเฉียน เซวียอวี้ชิง เหลียนเจ๋อ หลี่อวิ๋นหัน...

    มากันเกือบครบทุกคน!

    จบเห่แล้ว!

    แม่นางฉินรู้สึกเพียงว่าลูกตาหดเล็กลงอย่างกะทันหัน ใบหน้าซีดเผือดจนไม่เห็นสีเลือด ตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้าง นางจ้องภาพตรงหน้าตาไม่กระพริบตา ทว่าก็เวียนหัวจนมองเห็นภาพตรงหน้าพร่ามัว

    ติงเซียงตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ พลางกัดฟันแน่น

    มันเป็นไปได้ยังไง! มันเป็นไปได้ยังไง! คนพวกนี้มาที่นี่ได้ยังไง! และเหลียนฟางโจว - นางไม่เป็นอะไรได้ยังไง!

    "ท่าน ท่านไม่เป็นอะไรเหรอ?" 

    แม่นางฉินจ้องไปที่ท้องของเหลียนฟางโจว ก่อนจะอ้าปากถามประโยคเช่นนั้นออกมา

    เหลียนฟางโจวมีความสุขกับคําถามนี้ จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

    "ไม่เป็นอะไรเลย ข้าสบายดี! ข้าละอายใจจริงๆที่ทําให้เจ้าผิดหวังนะ! "

    ทำเอาเซวียอวี้ชิงอดระเบิดหัวเราะลั่นไม่ได้

    พ่อบ้านเฉียนจ้องเขม็งด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ใบหน้าของเหลียนเจ๋อเต็มไปด้วยการดูแคลนและความขุ่นเคือง  โจวซื่อถอนหายใจเบา ๆ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย

   เหลียนฟางชิงรีบวิ่งไปอยู่ข้างๆเหลียนฟางโจว แลวเอ่ยขึ้น

   "พวกเจ้าสองคนนายบ่าวช่างโง่จริงๆ พวกเจ้าคิดว่าข้าโง่จริงๆเหรอ? เหตุใดเจ้าต้องสวดขอพรต่อพระโพธิสัตว์เล่า?  ทำไมพี่สาวข้าต้องดื่ม และห้ามข้าบอกนาง?  คิดว่าข้าปัญญาอ่อนจริงๆเหรอ?  ข้าจะเอาอะไรมาให้พี่สาวข้ากินส่งเดชได้รึ! "

   เซวียอวี้ชิงนึกถึงยาผงที่เหลียนฟางโจวขอให้เขาตรวจสอบ จึงพบว่าเป็นยาที่มีผลร้ายแรงต่อหญิงตั้งครรภ์ แล้วเขาก็อดถอนหายใจเบาๆไม่ได้ หากหลี่ฟู่รู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะเสียใจแค่ไหน!

    แม่นางฉินและติงเซียงต่างก็นิ่งงันไป ทั้งสองคนเข้าใจมาตลอดว่าพวกนางวางแผนเล่นงานผู้อื่น แต่กลับกลายเป็นตัวเองที่ถูกวางแผนเล่นงานเสียนี่! เด็กหญิงตัวน้อยผู้นี้ คือนางมารน้อย รูปลักษณ์ที่ไร้เดียงสานั้น ที่จริงแล้ว ต้มพวกนางทั้งสองเสียเปื่อย! ที่ผ่านมา นางเล่นละครทั้งหมด!

     ช่างเป็นช่วงสองสามวันที่ว่างเปล่านัก พวกนางแอบลำพองใจและยินดีปรีดามาตลอด ปรากฎว่าเป็นเพียงแค่ความเพ้อฝันตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว!

   "ฮ่าๆ!" แม่นางฉินอดหัวเราะเสียงต่ำไม่ได้

    ติงเซียงหน้าเปลี่ยนสี แล้วพูดขึ้นว่า 

    "ข้าถูกใส่ร้าย! ข้าถูกใส่ร้าย! ชัดเจนว่าทั้งหมดเป็นแผนการของฮูหยินที่หวังเล่นงานแม่นางของเรา ทุกอย่างเป็นฮูหยินออกแบบมา เพื่อใส่ร้ายและเล่นงานแม่นางของเรา! ท่านหมอเซวีย ฮูหยินใหญ่  พวกท่านต้องให้ความเป็นธรรมแก่แม่นางนะ"

    "จัดการนางซะ" เหลียนฟางโจวเหลือบมองติงเซียง แล้วออกคําสั่งเบาๆ

     เซวียอวี้ชิง โจวซื่อ และคนอื่น ๆ ต่างเหลือบมองติงเซียง ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง และไม่แยแสนาง ราวกับกำลังดูตัวตลกที่กระโดดโลดเต้นบนเวที

     หญิงรับใช้ที่แข็งแรงบึกบึนสองคน ก็ก้าวเข้าไปจับตัวติงเซียงที่เอาแต่กรีดร้องและดิ้นรนไว้

    เมื่อคิดว่านางเอาแต่กรีดร้องและเอะอะโวยวายหนวกหู ก็ล้วงผ้าเช็ดหน้ามาอุดปากนาง โดยไม่ต้องให้ใครสั่ง แล้วพาตัวออกไป

    แม่นางฉินตกใจ พลางเหลือบมองติงเซียงที่ถูกลากออกไป แต่สุดท้ายแล้วนางก็ไม่ได้พูดอะไร

   ตอนนี้ขนาดนางยังไม่อาจปกป้องตัวเองได้เลย แล้วนางจะไปช่วยชีวิตอะไรติงเซียงได้? ไม่ว่านางจะพูดอะไร จะไม่มีใครสนใจนางหรอก

     ถ้าเป็นเช่นนั้น เหตุใดนางควรทำให้ตัวเองขายหน้าด้วยเล่า?

    "ถึงตาข้าแล้ว ไม่รู้ว่าฮูหยินเหลียนจะจัดการกับข้ายังไง?"  แม่นางฉินเงยหน้าขึ้นมองเหลียนฟางโจว แล้วพูดขึ้นช้า ๆ

    เหลียนฟางโจวเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างดูแคลน แล้วแค่นเสียงอย่างไม่แยแส 

   "จัดการกับเจ้าเหรอ? ทําไมข้าต้องจัดการเจ้าด้วย? เจ้าไม่เคยเป็นอุปสรรคต่อข้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว! อย่าได้สำคัญตนผิดไปเลย! "

    พอกล่าวจบ นางก็ออกคำเสียงเย็น ด้วยสีหน้าดำทะมึน  "พวกเจ้าสี่คน ฟังข้าให้ดี จงคอยเฝ้าจับตาดูแม่นางฉินทั้งวันทั้งคืน อย่าให้คลาดสายตา หากแม่นางฉินหายตัวไป ข้าจะถามเอากับพวกเจ้าเท่านั้น! จากนี้ไปให้ปิดประตูลั่นดาลเรือนถือศีลภาวนานี้ และห้ามใครเข้าออกเด็ดขาด! "

  หญิงรับใช้ทั้งสี่คนออกมารับคำพร้อมกัน  "เจ้าค่ะ" จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปหาแม่นางฉิน

  แม่นางฉินหน้าถอดสี พลางตะโกนว่า "เหลียนฟางโจว เจ้า-"

   ก่อนที่นางจะพูดจบ นางก็ถูกหญิงรับใช้ ที่กลัวว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรที่ไม่น่าฟังและไม่เป็นมงคล มาขวางไว้ ขณะที่เหลียนฟางโจวได้หันหลังกลับและเดินออกไปข้างนอก

   เมื่อได้ยินเสียงร้องอู้อี้ดังมาจากเบื้องหลัง ชัดเจนว่าอีกฝ่ายคงโดนอุดปากแล้ว และไม่สามารถส่งเสียงได้อีก  ไม่มีใครเหลียวหลังกลับไปมอง และไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีใครมาขอร้องอ้อนวอนช่วยเหลือเลย

   เมื่อตระหนักได้แล้ว แม่นางฉินก็หดหู่และพ่ายแพ้อย่างที่สุด

    แน่นอนว่านางยังไม่ได้เล่นงานเหลียนฟางโจว โจวซื่อก็ดีต่อนาง และหมอเซวียก็ปฏิบัติต่อนางดีเสมอมา แต่ก็ไม่มีใครพูดดีๆกับนางเลยสักคำ!

    นางทั้งโกรธและเคร่งเครียดจนหายใจไม่ค่อยออก สุดท้ายก็เป็นลม

    "พวกท่านทุกคนคงเห็นสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่แล้ว  และเมื่อหลี่ฟู่กลับมา ได้โปรดเป็นพยานต่อหน้าเขาด้วย!" เหลียนฟางโจวสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และรอคอยเซวียอวี้ชิงตอนที่เขาเดินออกมาจากข้างใน

    เซวียอวี้ชิงพยักหน้า "อ้อ ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว! ไม่มีใครทำให้พี่หลี่สับสนได้หรอก! "

   ดวงตาของโจวซื่อหม่นลง ขณะที่พยักหน้าให้กับเหลียนฟางโจวพร้อมถอนหายใจ ก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆว่า “เจ้าท้องแก่อยู่ เจ้ารีบกลับไปพักผ่อนเถอะ! วางใจเถอะ เราจะไม่ทำให้เจ้าคับข้องใจแน่ !  อาฉิน! เฮ้อ!”

  โจวซื่อเศร้าใจจริงๆ  ด้วยความประทับใจ และรู้จักมักคุ้นกันมานาน แม่นางฉินเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและใจดี ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งที่นางได้ยินและได้เห็นมากับตา นางคงไม่มีทางเชื่อว่าอีกฝ่ายจะเป็นแบบนั้นไปได้ สตรีผู้หนึ่งจะมีจิตใจดั่งอสรพิษได้ถึงเพียงนั้น!

   นางหลงผิดจริงๆ!

   พ่อบ้านเฉียนไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับแม่นางฉิน จึงไม่จําเป็นต้องพูดถึง

   เหลียนฟางโจวยิ้ม และคนทั้งกลุ่มก็เดินกลับ

   เธอยิ้มให้เซวียอี้ชิงและพูดว่า "วันนี้ข้ารบกวนพี่ใหญ่เซวียแล้ว  ประเดี๋ยวข้าจะให้คนไปส่งพี่เซวียกลับ!" 

   เดิมที เซวียอวี้ชิงมาเพื่อเป็นพยานเท่านั้น เมื่อเรื่องคลี่คลาย เขาย่อมไม่จำเป็นต้องอยู่ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม "ข้าเองก็ไม่มีอะไรทำ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน!" 

   เขามองไปที่เหลียนฟางโจวอีกครั้ง "ครรภ์ของเจ้าดีมาก ไม่ต้องกังวล เด็กมีสุขภาพแข็งแรงดี!" 

   เหลียนฟางโจวรู้สึกอบอุ่นในใจ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ข้าขอยืมคํามงคลของท่านก็แล้วกัน!" 

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ9 เมษายน 2567 เวลา 12:01

    ตื่นเต้นมาก นึกว่าน้องน้อยหลงกลคนเลวซะแล้ว

    ตอบลบ
  2. นึกโมโหตั้งนานยังคิดอยู่ว่าพี่สาวฉลาดขนาดนั้นน้องสาวโง่และไร้เดียงสาได้ยังไงหงุดหงิดโมโหตั้งนานที่ไหนได้เป็นหลุมพรางนี่เอง

    ตอบลบ