วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2561

จับแม่ทัพไปไถนา -บทที่ 204 กำราบบ่าวเจ้าเล่ห์ (3)


“อ๊าค!!!” หวางซานแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวด  บ่าวหนุ่มเงยหน้าพรวดถลึงตาใส่หลี่เอ้อร์อย่างเคียดแค้น  พลางถ่มน้ำลายและกล่าววาจาสาปแช่งออกมา “เพ้ย ได้..หลี่เอ้อร์  เจ้าไม่ตายดีแน่ !”
โดยปกติท่ามกลางทาสกลุ่มนี้  หวางซานมักทำตัวเป็นหัวโจกคอยชี้นำพวกเขา  พอต้องมาเจ็บปวดเพราะถูกฝ่ามือพิฆาตของหลี่เอ้อร์เข้า  จึงทำให้เขาเคียดแค้นใส่อีกฝ่ายทันตา
 “ข้าบอกให้หยุดมือรึ?  ตบต่อไป ตบไปจนกว่าเขาจะยอมรับผิด ข้าเห็นเขายังดูโอหังปากดีอยู่เลยนี่ !” เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเย็น
หลี่เอ้อร์เห็นหวางซานเพลี่ยงพล้ำถึงขั้นนี้แล้ว  ก็ยังอวดดีไม่เลิก แถมกล่าวคำอาฆาตใส่ตน จึงตอกกลับด้วยการเงื้อฝ่ามือขึ้นสุดแล้วสะบัดใส่ใบหน้าหวางซานเสียงดังฉาด

หวางซานแผดร้องเสียงลั่น  ขณะเบี่ยงกายสุดฤทธิ์ เพื่อดิ้นรนหลบให้พ้นฝ่ามือ ทว่าแขนทั้งสองข้างของตน ถูกจับกดรวบไปข้างหลังด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ไหนเลยจะสามารขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ดั่งใจนึกเล่า?
เริ่มแรก เขายังคงแผดเสียงร้องลั่นแสบแก้วหูไปพลาง ตะโกนก่นด่าไปพลาง  ขณะก่นด่า  เสียงผรุสวาทนั้นก็ค่อยๆแผ่วลงทุกทีจนกระทั่งกลายเป็นเสียงอู้อี้เบาๆ  และจางหายไปในที่สุด  เหลือไว้เพียงเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
ทาสทุกคนมื่อเห็นดังนี้แล้ว  พากันตัวแข็งทื่อไม่เว้นแม้แต่คนเดียว  ความกล้าที่มีในตัวพลันหดหาย  มือไม้เย็นเยียบราวแผ่นน้ำแข็ง
เหลียนฟางโจวยังคงยืนดูอยู่นิ่งๆด้วยสีหน้ารื่นรมย์คล้ายได้เห็นท้องฟ้าอันแจ่มใสมีปุยเมฆลอยละล่อง ลมพัดมาเอื่อยๆฉะนั้น  หญิงสาวไม่ขยับเปลือกตาสักครา  ซ้ำยังไม่มีทีท่าจะร้องสั่งให้หยุดมือเลยสักนิด
ฝ่ายหลี่เอ้อร์ที่ลงมือต่อเนื่องไปชั่วพักใหญ่  ได้หยุดชะงักลงเล็กน้อย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่งแล้วสะบัดฝ่ามือเสียงดังฉาดต่อไป
เสียงแผดร้องด้วยความทรมานของหวางซานแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางที่ฟังดูไม่เจ็บปวดอีกแล้ว  อันที่จริงเขาไม่มีแรงจะแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดต่างหาก
พอถึงตอนนี้  แก้มทั้งสองข้างของบ่าวหนุ่มผู้หยิ่งยะโส ก็บวมเปล่งและแดงก่ำจนดูไม่เป็นแก้มอีกต่อไป  ส่วนบริเวณมุมปากมีเลือดไหลซึมออกมาเรื่อยๆสักพักใหญ่แล้ว ซ้ำฟันบางซี่ยังร่วงหลุดออกมา  ทั่วทั้งใบหน้าของบ่าวหนุ่มปวดแสบปวดร้อนแสนสาหัส  หูทั้งสองได้ยินแต่เสียงดังหึ่งๆอึงอื้อ
 “ข้าผิดไปแล้ว ! ข้าผิดไปแล้ว ! ข้าผิดไปแล้ว ! ในที่สุดหวางซานก็คิดได้  และเปล่งเสียงเอ่ยขึ้นในที่สุด
อนิจจา...หลี่เอ้อร์ยังคงตบลงมาไม่หยุด  และเป็นเพราะปากเขาได้รับบาดเจ็บ เสียงที่เปล่งออกมาจึงเป็นเสียงอู้อี้ที่ฟังไม่เป็นคำ  จึงทำให้เหลียนฟางโจวและทุกคนได้ยินไม่ชัดว่าเขากำลังพูดว่าอะไร
“ข้าผิดไปแล้ว !” หวางซานหมดทางเลือก จำต้องสะกดกลั้นความเจ็บปวดทรมาน เปล่งเสียงร้องให้ดังฟังชัด   เหลียนฟางโจวถึงได้ร้องบอกหลี่เอ้อร์ให้หยุดมือ
ยามนี้หวางซานก้มหน้างุด  ที่มุมปากมีเลือดไหลซึม  ทั่วทั้งใบหน้าบวมเปล่งแดงก่ำคล้ายหัวหมูเปื้อนเลือด  ศีรษะห้อยตกคุกเข่าอยู่ตรงนั้น  สีหน้าท่าทางคล้ายถูกสูบวิญญาณไปจนสิ้น  ไหนเลยจะยังแผลงฤทธิ์อย่างคราแรกได้อีก?
เหลียนฟางโจวแค่นเสียงเอ่ย “เจ้าเอาแต่บอกว่าข้าโหดเหี้ยมอำมหิต บอกว่าข้าลงโทษเจ้าโดยไร้เหตุผล  ประจานข้าให้พวกบ่าวไพร่ฟัง  ข้าลงโทษเจ้าโดยไร้เหตุผลหรือ !  ฮึ่ม..ทาสที่จงใจเอาเปรียบเจ้านาย  ไม่ใช่เพียงแค่โดนดุด่าลงโทษ  ยังต้องฆ่าทิ้งเสียด้วยซ้ำ  จะเลี้ยงเอาไว้ทำไมกัน !”
เหลียนฟางโจวชี้นิ้วไปยังคนที่อยู่ไม่ไกล  ดวงตามองหวางเอ้อร์ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น พลางเอ่ยขึ้น “เจ้าบอกทุกคนในที่นี้สิ   ว่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบเป็นอย่างไร !  และเรียกทุกคนเข้ามาฟังให้หมดด้วย  ว่าข้า...เหลียนฟางโจวหมิ่นเกียรติทาสผู้หนึ่งโดยไร้เหตุผลหรือไม่ !”
“ขอรับ” หวางซานรีบขานรับด้วยความเคารพยำเกรง แล้วรีบเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนออกมาอย่างละเอียด ไหนเลยจะกล้าเล่าไม่ครบ หรือ บิดเบือนถ้อยคำเล่า
วิธีการที่รุนแรงปานฟ้าผ่า รวดเร็วปานพายุ มาพร้อมกับความโหดเหี้ยมเอาจริง ซึ่งเหลียนฟางโจวใช้ กำราบทาสอย่างพวกเขาเสียอยู่หมัด
พอทุกคนฟังถ้อยแถลงของหวางเอ้อร์จบ  ก็อดทอดมองหวางซานด้วยสายตาดูแคลนมิได้
คนเป็นทาส  มาเล่นเล่ห์กลโกงกับผู้เป็นนายอย่างโจ่งแจ้งเยี่ยงนี้  ผลตอบแทนการกระทำ ร้อยทั้งร้อยย่อมไม่แคล้วโดนลงโทษ  การที่เหลียนฟางโจวสั่งให้คนตบหน้าเขา ตวาดสั่งให้เขาคุกเข่า หาได้มีความผิดแต่ประการใดเลย
นี่คือความจริงอันปฏิเสธไม่ได้  ไม่ต้องให้หวางเอ้อร์มาเล่าเป็นพยานเสียด้วยซ้ำ  หวางซานเองก็โต้แย้งความจริงข้อนี้ไม่ได้
ถึงอย่างไร  ยามนี้ในใจเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง   บ่าวหนุ่มเชื่อฝังหัวไปแล้วว่าเหลียนฟางโจวขุดหลุมพรางล่อให้เขาติดกับ
ถ้าหากก่อนหน้านั้น นางไม่พูดจาดีเยี่ยงนั้น   ตัวเขาคงจะไม่มีชะตากรรมเป็นเช่นนี้แน่
นางนั่นแหละที่มิได้ปรารถนาดีตั้งแต่แรก !
ทว่าเขาไม่ได้นึกย้อนเลย  เขาไม่เคยพูดถึงเลย  ไม่ลองถามคนที่สอนงานเขาดูเล่า  ว่าเรื่องนี้มีอะไรไม่ถูกต้อง?  หากเขามีใจสัตย์ซื่อและเรียนรู้งานอย่างจริงจัง  ไยเขาจะจงใจเล่นเล่ห์เพื่อความสบายนิดๆหน่อยๆเยี่ยงนั้น ?  ชัดเจนว่าตัวเขาไม่จริงใจ  และมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ตั้งแต่แรก!
เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเย็น “ดูเหมือนว่าพวกเจ้าแต่ละคนหาได้สำเหนียกในถ้อยคำที่ข้าเคยประกาศไว้ ! ข้าจะพูดให้ฟังอีกครา  ตราบใดที่เจ้าทำงานดี  ข้าจะไม่มีทางเอาเปรียบข่มเหงพวกเจ้าเด็ดขาด ! การกินการอยู่ในสองวันมานี้  มีสิ่งใดที่ข้าบกพร่องกับพวกเจ้าหรือ? ตราบใดที่พวกเจ้าทำงานด้วยความซื่อสัตย์  ผลประโยชน์เป็นอันมากย่อมรอตอบแทนพวกเจ้าอยู่ข้างหน้า !  ทว่าหากใครบังอาจคิดไม่ซื่อ  ข้าก็ไม่เลี้ยงเอาไว้เด็ดขาด !”
เหลียนฟางโจวหันไปเอ่ยกับฉินเฟิง “หัวหน้าฉิน รถพร้อมแล้วใช่ไหม เจ้ากับอาเจี่ยนเดินทางเข้าเมือง เอาตัวหวางซาน และเจ้าคนนั้นอีกคนไปส่งคืน !  หากมีคนหน่วยก้านดีก็ซื้อกลับมาอีกสองคน หากไม่มีก็ช่างมันเถิด !”
ขณะพูด  หญิงสาวชี้นิ้วไปทางหวางซื่อ ผู้ซึ่งเธอสั่งให้เขาเข้ามาจับหวางซานคุกเข่า เขาผู้นั้นเพียงรับคำ แต่มิยอมขยับตัวตามคำสั่ง
หวางซื่อหน้าซีดเผือด สองขาอ่อนยวบคุกเข่าลง  รีบละล่ำละลักขอร้อง  “คุณหนู ข้า..ข้าทำสิ่งใดผิดหรือ  ข้ามิได้ทำอันใดเลยด้วยซ้ำ !”
เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าไม่เห็นข้า..เจ้านายคนนี้อยู่ในสายตา เจ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งข้า ใช้เจ้าต่อจะมีประโยชน์อะไร ? ไม่ต้องพูดมาก ไปได้แล้ว !”
จิตใจทาสทุกคนหดเกร็ง  หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย
เพียงเพราะเรื่องนี้หรือ?  ไหนเลยหวางซื่อจะเต็มใจยอมรับ  ทั้งยังพยายามแก้ตัวอีกต่างหาก  ฉินเฟิงตระหนักดีว่าเหลียนฟางโจวต้องการจะเชือดไก่ให้ลิงดู  จึงร้องตวาดขึ้น  “เลิกพูดพล่ามได้แล้ว  ขึ้นรถ !และไปได้แล้ว ! คำสั่งของคุณหนูเจ้าไม่เชื่อฟัง คุณหนูยังจะเก็บเจ้าไว้ทำอะไรเล่า ?  จากนี้ไปทุกคนจะได้เรียนรู้ไว้  ว่าควรมีพฤติกรรมเช่นใด ?”
หวางซื่อไม่กล้าพูดอีก  ทาสหนุ่มคอตกลุกขึ้นยืน  พลางแค่นเสียงใส่หวางซานไปด้วย  ครั้นแล้วจึงเดินตามหลังฉินเฟิงและอาเจี่ยนไป
 “ไม่มีอันใดแล้ว ทุกคนกลับไปทำงานเสีย !” เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเรียบ
ไหนเลยยามนี้ทุกคนจะกล้าไม่เชื่อฟังนางแม้เพียงครึ่งคำเล่า ?  พอได้ยินคำกล่าว ก็พร้อมใจกันขานรับเสียงดัง  ไม่กล้าหยุดงานที่ทำคั่งค้างไว้ก่อนหน้า
วันนี้  ทาสในมือทั้งหมดชัดเจนว่าเชื่อฟังและทำงานอย่างซื่อสัตย์ขึ้นมาอีกมากโข
ในช่วงบ่าย ฉินเฟิงและอาเจี่ยนกลับมา พร้อมทาสที่ซื้อกลับมาอีกสองคน  ทาสทั้งสองยังถูกตั้งชื่อว่าหวางซานและหวางซื่อ พวกเขามาสานต่องานแทนคนที่ขาดไป
ที่เหลียนฟางโจวไม่รู้ก็คือ  เมื่อฉินเฟิงและอาเจี่ยนคืนหวางซานและหวางซื่อกลับไปให้ไช่หวู่หลางแล้ว นายหญิงจ้าวหรูได้ส่งคนมาซื้อพวกเขากลับไป  และตั้งชื่อใหม่ให้ว่า เจ้าซาน จ้าวซื่อ
พริบตาเดียว ก็ถึงวันที่ 20 เดือน 12  งานในไร่เสร็จสิ้นลงในที่สุด  พื้นที่ 150 หมู่พร้อมใช้เพาะต้นกล้าแล้ว  แค่รอให้ถึงต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ก็พร้อมกลายเป็นแปลงอนุบาลต้นกล้า
แปลงผักเล็กๆข้างหมู่ตึกและโกดัง ก็ถูกไถพรวน  รอพร้อมให้หว่านเมล็ดผักแล้ว
โดยปกติผักที่ปลูกในสวนผักบ้านเหลียนฟางโจว ไม่เพียงพอเลี้ยงคนทั้งหมด  ทุกวันนี้เธอจำต้องควักเงินไปหาซื้อเอาจากเพื่อนบ้าน โชคดีที่ผักที่ปลูกจากแปลงผักของชาวบ้านในหมู่บ้าน ราคาถูกมากๆ
แต่คงใช้ทางแก้ปัญหาแบบนี้ไม่ได้นาน  เหลียนฟางโจวจึงเตรียมแปลงปลูกผักเนื้อที่ 5 หมู่ขึ้นที่ไร่ที่ลานหิน และใกล้ๆตีนเขาเสี่ยวฮวากั่วซาน  ตลอดสองวันนี้ ฉินเฟิงนำทาสทุกคนเข้าไปหว่านเมล็ดผักลงในแปลงเพาะดังกล่าว
ตั้งแต่วันนั้น ที่เหลียนฟางโจวใช้มาตรการรุนแรงปานฟ้าผ่า รวดเร็วปานพายุจัดการกับหวางซาน  และขายหวางซื่อออกไปพร้อมกัน  ทาสทุกคนล้วนแต่ต้องคอยดูสีหน้าเธอ  เข้าหาเธอด้วยท่าทีเคารพนบนอบ  ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นเธออีกเลย
เหนืออื่นใด   คงไม่มีใครอยากตกลงไปในแม่น้ำในช่วงฤดูหนาวอันแสนทารุณเช่นนี้แน่
ยิ่งไปกว่านั้น   อยู่กับเหลียนฟางโจวพวกเขาไม่อัตคัตขัดสนเลยจริงๆ  มีเครื่องนอนเป็นผ้าเนื้อหนา และเสื้อผ้าเนื้อหนาสวมใส่  อาหารทุกมื้อไม่ใช่มีเพียงข้าวหรือบะหมี่ ทุกๆสองวันยังมีมื้ออาหารที่อุดมไปด้วยเนื้อด้วย  ทำให้พวกเขาไม่กล้าย้อนนึกถึงชีวิตก่อนหน้าที่ผ่านมาอีกเลย
----------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ และการติดตามค่ะ ^_^

15 ความคิดเห็น:

  1. จ้าวหรูต้องการอะไรถึงมาซื้อคนต่อ มีพิรุธมาก บ้านนั้นไม่ใช่ว่าใหญ่โต ข้าทาสบริวารเยอะหรอกเหรอ จะมาซื้อเพิ่มทำไมกัน รออ่านตอนต่อไปค่ะ มาอัพไวๆ นะคะ

    ตอบลบ
  2. นายหญิงจ้าวหรูต้องคอยก่อกวนแน่ๆ

    ตอบลบ
  3. จ้าวหรูต้องซื้อคนไปเพื่อสอบถามสถานการณ์บ้านของฟางโจวแน่เลย

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณค่ะ ติดตามตลอดค่ะ

    ตอบลบ
  5. จ้าวหรูนี่ศัตรูหมายเลขหนึ่งของฟางโจวเลย

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณค่ะ ตั้งท่าเกลียดนางร้ายนายหญิงจ้าวแล้วนางดูเป็นคนไม่ซื่อเลยนะรอติดตามต่อไปค่ะ

    ตอบลบ
  7. ฟางโจวเยี่ยมไปเลย! ขอบคุณผู้แปลค่ะแปลดีขึ้นทุกตอนเลยเก่งมากค่ะ

    ตอบลบ
  8. นนายหญิงจ้าวหรู ต้องเป็นตัวปัญหาถัดไปแน่

    ตอบลบ
  9. จ้าวหรูท่าทางจะศัตรูตัวเบ้งเลย

    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  10. จ้าวหรูเอาไปถามแน่ๆ

    ตอบลบ