“อ๊าค!!!” หวางซานแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวด
บ่าวหนุ่มเงยหน้าพรวดถลึงตาใส่หลี่เอ้อร์อย่างเคียดแค้น
พลางถ่มน้ำลายและกล่าววาจาสาปแช่งออกมา “เพ้ย
ได้..หลี่เอ้อร์ เจ้าไม่ตายดีแน่ !”
โดยปกติท่ามกลางทาสกลุ่มนี้ หวางซานมักทำตัวเป็นหัวโจกคอยชี้นำพวกเขา พอต้องมาเจ็บปวดเพราะถูกฝ่ามือพิฆาตของหลี่เอ้อร์เข้า
จึงทำให้เขาเคียดแค้นใส่อีกฝ่ายทันตา
“ข้าบอกให้หยุดมือรึ? ตบต่อไป ตบไปจนกว่าเขาจะยอมรับผิด
ข้าเห็นเขายังดูโอหังปากดีอยู่เลยนี่ !” เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเย็น
หลี่เอ้อร์เห็นหวางซานเพลี่ยงพล้ำถึงขั้นนี้แล้ว ก็ยังอวดดีไม่เลิก แถมกล่าวคำอาฆาตใส่ตน จึงตอกกลับด้วยการเงื้อฝ่ามือขึ้นสุดแล้วสะบัดใส่ใบหน้าหวางซานเสียงดังฉาด
หวางซานแผดร้องเสียงลั่น ขณะเบี่ยงกายสุดฤทธิ์
เพื่อดิ้นรนหลบให้พ้นฝ่ามือ ทว่าแขนทั้งสองข้างของตน ถูกจับกดรวบไปข้างหลังด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล
ไหนเลยจะสามารขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ดั่งใจนึกเล่า?
เริ่มแรก เขายังคงแผดเสียงร้องลั่นแสบแก้วหูไปพลาง ตะโกนก่นด่าไปพลาง ขณะก่นด่า
เสียงผรุสวาทนั้นก็ค่อยๆแผ่วลงทุกทีจนกระทั่งกลายเป็นเสียงอู้อี้เบาๆ และจางหายไปในที่สุด เหลือไว้เพียงเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
ทาสทุกคนมื่อเห็นดังนี้แล้ว พากันตัวแข็งทื่อไม่เว้นแม้แต่คนเดียว
ความกล้าที่มีในตัวพลันหดหาย มือไม้เย็นเยียบราวแผ่นน้ำแข็ง
เหลียนฟางโจวยังคงยืนดูอยู่นิ่งๆด้วยสีหน้ารื่นรมย์คล้ายได้เห็นท้องฟ้าอันแจ่มใสมีปุยเมฆลอยละล่อง
ลมพัดมาเอื่อยๆฉะนั้น หญิงสาวไม่ขยับเปลือกตาสักครา
ซ้ำยังไม่มีทีท่าจะร้องสั่งให้หยุดมือเลยสักนิด
ฝ่ายหลี่เอ้อร์ที่ลงมือต่อเนื่องไปชั่วพักใหญ่ ได้หยุดชะงักลงเล็กน้อย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่งแล้วสะบัดฝ่ามือเสียงดังฉาดต่อไป
เสียงแผดร้องด้วยความทรมานของหวางซานแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางที่ฟังดูไม่เจ็บปวดอีกแล้ว
อันที่จริงเขาไม่มีแรงจะแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดต่างหาก
พอถึงตอนนี้ แก้มทั้งสองข้างของบ่าวหนุ่มผู้หยิ่งยะโส
ก็บวมเปล่งและแดงก่ำจนดูไม่เป็นแก้มอีกต่อไป
ส่วนบริเวณมุมปากมีเลือดไหลซึมออกมาเรื่อยๆสักพักใหญ่แล้ว ซ้ำฟันบางซี่ยังร่วงหลุดออกมา
ทั่วทั้งใบหน้าของบ่าวหนุ่มปวดแสบปวดร้อนแสนสาหัส หูทั้งสองได้ยินแต่เสียงดังหึ่งๆอึงอื้อ
“ข้าผิดไปแล้ว ! ข้าผิดไปแล้ว ! ข้าผิดไปแล้ว !” ในที่สุดหวางซานก็คิดได้ และเปล่งเสียงเอ่ยขึ้นในที่สุด
อนิจจา...หลี่เอ้อร์ยังคงตบลงมาไม่หยุด
และเป็นเพราะปากเขาได้รับบาดเจ็บ เสียงที่เปล่งออกมาจึงเป็นเสียงอู้อี้ที่ฟังไม่เป็นคำ
จึงทำให้เหลียนฟางโจวและทุกคนได้ยินไม่ชัดว่าเขากำลังพูดว่าอะไร
“ข้าผิดไปแล้ว !” หวางซานหมดทางเลือก จำต้องสะกดกลั้นความเจ็บปวดทรมาน
เปล่งเสียงร้องให้ดังฟังชัด เหลียนฟางโจวถึงได้ร้องบอกหลี่เอ้อร์ให้หยุดมือ
ยามนี้หวางซานก้มหน้างุด ที่มุมปากมีเลือดไหลซึม
ทั่วทั้งใบหน้าบวมเปล่งแดงก่ำคล้ายหัวหมูเปื้อนเลือด
ศีรษะห้อยตกคุกเข่าอยู่ตรงนั้น สีหน้าท่าทางคล้ายถูกสูบวิญญาณไปจนสิ้น ไหนเลยจะยังแผลงฤทธิ์อย่างคราแรกได้อีก?
เหลียนฟางโจวแค่นเสียงเอ่ย “เจ้าเอาแต่บอกว่าข้าโหดเหี้ยมอำมหิต บอกว่าข้าลงโทษเจ้าโดยไร้เหตุผล
ประจานข้าให้พวกบ่าวไพร่ฟัง ข้าลงโทษเจ้าโดยไร้เหตุผลหรือ ! ฮึ่ม..ทาสที่จงใจเอาเปรียบเจ้านาย
ไม่ใช่เพียงแค่โดนดุด่าลงโทษ ยังต้องฆ่าทิ้งเสียด้วยซ้ำ จะเลี้ยงเอาไว้ทำไมกัน !”
เหลียนฟางโจวชี้นิ้วไปยังคนที่อยู่ไม่ไกล ดวงตามองหวางเอ้อร์ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น พลางเอ่ยขึ้น “เจ้าบอกทุกคนในที่นี้สิ ว่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบเป็นอย่างไร ! และเรียกทุกคนเข้ามาฟังให้หมดด้วย ว่าข้า...เหลียนฟางโจวหมิ่นเกียรติทาสผู้หนึ่งโดยไร้เหตุผลหรือไม่
!”
“ขอรับ” หวางซานรีบขานรับด้วยความเคารพยำเกรง แล้วรีบเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนออกมาอย่างละเอียด
ไหนเลยจะกล้าเล่าไม่ครบ หรือ บิดเบือนถ้อยคำเล่า
วิธีการที่รุนแรงปานฟ้าผ่า รวดเร็วปานพายุ มาพร้อมกับความโหดเหี้ยมเอาจริง ซึ่งเหลียนฟางโจวใช้
กำราบทาสอย่างพวกเขาเสียอยู่หมัด
พอทุกคนฟังถ้อยแถลงของหวางเอ้อร์จบ ก็อดทอดมองหวางซานด้วยสายตาดูแคลนมิได้
คนเป็นทาส มาเล่นเล่ห์กลโกงกับผู้เป็นนายอย่างโจ่งแจ้งเยี่ยงนี้ ผลตอบแทนการกระทำ ร้อยทั้งร้อยย่อมไม่แคล้วโดนลงโทษ
การที่เหลียนฟางโจวสั่งให้คนตบหน้าเขา ตวาดสั่งให้เขาคุกเข่า
หาได้มีความผิดแต่ประการใดเลย
นี่คือความจริงอันปฏิเสธไม่ได้ ไม่ต้องให้หวางเอ้อร์มาเล่าเป็นพยานเสียด้วยซ้ำ หวางซานเองก็โต้แย้งความจริงข้อนี้ไม่ได้
ถึงอย่างไร ยามนี้ในใจเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
บ่าวหนุ่มเชื่อฝังหัวไปแล้วว่าเหลียนฟางโจวขุดหลุมพรางล่อให้เขาติดกับ
ถ้าหากก่อนหน้านั้น นางไม่พูดจาดีเยี่ยงนั้น ตัวเขาคงจะไม่มีชะตากรรมเป็นเช่นนี้แน่
นางนั่นแหละที่มิได้ปรารถนาดีตั้งแต่แรก !
ทว่าเขาไม่ได้นึกย้อนเลย เขาไม่เคยพูดถึงเลย
ไม่ลองถามคนที่สอนงานเขาดูเล่า ว่าเรื่องนี้มีอะไรไม่ถูกต้อง? หากเขามีใจสัตย์ซื่อและเรียนรู้งานอย่างจริงจัง
ไยเขาจะจงใจเล่นเล่ห์เพื่อความสบายนิดๆหน่อยๆเยี่ยงนั้น
? ชัดเจนว่าตัวเขาไม่จริงใจ และมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ตั้งแต่แรก!
เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเย็น “ดูเหมือนว่าพวกเจ้าแต่ละคนหาได้สำเหนียกในถ้อยคำที่ข้าเคยประกาศไว้
! ข้าจะพูดให้ฟังอีกครา ตราบใดที่เจ้าทำงานดี ข้าจะไม่มีทางเอาเปรียบข่มเหงพวกเจ้าเด็ดขาด !
การกินการอยู่ในสองวันมานี้ มีสิ่งใดที่ข้าบกพร่องกับพวกเจ้าหรือ? ตราบใดที่พวกเจ้าทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ผลประโยชน์เป็นอันมากย่อมรอตอบแทนพวกเจ้าอยู่ข้างหน้า
! ทว่าหากใครบังอาจคิดไม่ซื่อ ข้าก็ไม่เลี้ยงเอาไว้เด็ดขาด !”
เหลียนฟางโจวหันไปเอ่ยกับฉินเฟิง “หัวหน้าฉิน รถพร้อมแล้วใช่ไหม เจ้ากับอาเจี่ยนเดินทางเข้าเมือง
เอาตัวหวางซาน และเจ้าคนนั้นอีกคนไปส่งคืน ! หากมีคนหน่วยก้านดีก็ซื้อกลับมาอีกสองคน
หากไม่มีก็ช่างมันเถิด !”
ขณะพูด หญิงสาวชี้นิ้วไปทางหวางซื่อ
ผู้ซึ่งเธอสั่งให้เขาเข้ามาจับหวางซานคุกเข่า เขาผู้นั้นเพียงรับคำ แต่มิยอมขยับตัวตามคำสั่ง
หวางซื่อหน้าซีดเผือด สองขาอ่อนยวบคุกเข่าลง รีบละล่ำละลักขอร้อง “คุณหนู ข้า..ข้าทำสิ่งใดผิดหรือ ข้ามิได้ทำอันใดเลยด้วยซ้ำ !”
เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าไม่เห็นข้า..เจ้านายคนนี้อยู่ในสายตา เจ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งข้า
ใช้เจ้าต่อจะมีประโยชน์อะไร ? ไม่ต้องพูดมาก
ไปได้แล้ว !”
จิตใจทาสทุกคนหดเกร็ง หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย
เพียงเพราะเรื่องนี้หรือ? ไหนเลยหวางซื่อจะเต็มใจยอมรับ ทั้งยังพยายามแก้ตัวอีกต่างหาก ฉินเฟิงตระหนักดีว่าเหลียนฟางโจวต้องการจะเชือดไก่ให้ลิงดู
จึงร้องตวาดขึ้น “เลิกพูดพล่ามได้แล้ว ขึ้นรถ !และไปได้แล้ว !
คำสั่งของคุณหนูเจ้าไม่เชื่อฟัง คุณหนูยังจะเก็บเจ้าไว้ทำอะไรเล่า ?
จากนี้ไปทุกคนจะได้เรียนรู้ไว้
ว่าควรมีพฤติกรรมเช่นใด ?”
หวางซื่อไม่กล้าพูดอีก ทาสหนุ่มคอตกลุกขึ้นยืน
พลางแค่นเสียงใส่หวางซานไปด้วย ครั้นแล้วจึงเดินตามหลังฉินเฟิงและอาเจี่ยนไป
“ไม่มีอันใดแล้ว ทุกคนกลับไปทำงานเสีย
!” เหลียนฟางโจวเอ่ยเสียงเรียบ
ไหนเลยยามนี้ทุกคนจะกล้าไม่เชื่อฟังนางแม้เพียงครึ่งคำเล่า ? พอได้ยินคำกล่าว
ก็พร้อมใจกันขานรับเสียงดัง ไม่กล้าหยุดงานที่ทำคั่งค้างไว้ก่อนหน้า
วันนี้ ทาสในมือทั้งหมดชัดเจนว่าเชื่อฟังและทำงานอย่างซื่อสัตย์ขึ้นมาอีกมากโข
ในช่วงบ่าย ฉินเฟิงและอาเจี่ยนกลับมา พร้อมทาสที่ซื้อกลับมาอีกสองคน ทาสทั้งสองยังถูกตั้งชื่อว่าหวางซานและหวางซื่อ
พวกเขามาสานต่องานแทนคนที่ขาดไป
ที่เหลียนฟางโจวไม่รู้ก็คือ เมื่อฉินเฟิงและอาเจี่ยนคืนหวางซานและหวางซื่อกลับไปให้ไช่หวู่หลางแล้ว
นายหญิงจ้าวหรูได้ส่งคนมาซื้อพวกเขากลับไป และตั้งชื่อใหม่ให้ว่า เจ้าซาน จ้าวซื่อ
พริบตาเดียว ก็ถึงวันที่ 20 เดือน 12 งานในไร่เสร็จสิ้นลงในที่สุด พื้นที่ 150 หมู่พร้อมใช้เพาะต้นกล้าแล้ว แค่รอให้ถึงต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ก็พร้อมกลายเป็นแปลงอนุบาลต้นกล้า
แปลงผักเล็กๆข้างหมู่ตึกและโกดัง ก็ถูกไถพรวน รอพร้อมให้หว่านเมล็ดผักแล้ว
โดยปกติผักที่ปลูกในสวนผักบ้านเหลียนฟางโจว ไม่เพียงพอเลี้ยงคนทั้งหมด ทุกวันนี้เธอจำต้องควักเงินไปหาซื้อเอาจากเพื่อนบ้าน
โชคดีที่ผักที่ปลูกจากแปลงผักของชาวบ้านในหมู่บ้าน ราคาถูกมากๆ
แต่คงใช้ทางแก้ปัญหาแบบนี้ไม่ได้นาน
เหลียนฟางโจวจึงเตรียมแปลงปลูกผักเนื้อที่ 5 หมู่ขึ้นที่ไร่ที่ลานหิน และใกล้ๆตีนเขาเสี่ยวฮวากั่วซาน
ตลอดสองวันนี้ ฉินเฟิงนำทาสทุกคนเข้าไปหว่านเมล็ดผักลงในแปลงเพาะดังกล่าว
ตั้งแต่วันนั้น ที่เหลียนฟางโจวใช้มาตรการรุนแรงปานฟ้าผ่า รวดเร็วปานพายุจัดการกับหวางซาน และขายหวางซื่อออกไปพร้อมกัน ทาสทุกคนล้วนแต่ต้องคอยดูสีหน้าเธอ เข้าหาเธอด้วยท่าทีเคารพนบนอบ ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นเธออีกเลย
เหนืออื่นใด คงไม่มีใครอยากตกลงไปในแม่น้ำในช่วงฤดูหนาวอันแสนทารุณเช่นนี้แน่
ยิ่งไปกว่านั้น อยู่กับเหลียนฟางโจวพวกเขาไม่อัตคัตขัดสนเลยจริงๆ มีเครื่องนอนเป็นผ้าเนื้อหนา และเสื้อผ้าเนื้อหนาสวมใส่
อาหารทุกมื้อไม่ใช่มีเพียงข้าวหรือบะหมี่ ทุกๆสองวันยังมีมื้ออาหารที่อุดมไปด้วยเนื้อด้วย ทำให้พวกเขาไม่กล้าย้อนนึกถึงชีวิตก่อนหน้าที่ผ่านมาอีกเลย
----------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ และการติดตามค่ะ ^_^
ขอบคุณค่ะ
ตอบลบจ้าวหรูต้องการอะไรถึงมาซื้อคนต่อ มีพิรุธมาก บ้านนั้นไม่ใช่ว่าใหญ่โต ข้าทาสบริวารเยอะหรอกเหรอ จะมาซื้อเพิ่มทำไมกัน รออ่านตอนต่อไปค่ะ มาอัพไวๆ นะคะ
ตอบลบขอบคุณค่ะไรท์
ตอบลบนายหญิงจ้าวหรูต้องคอยก่อกวนแน่ๆ
ตอบลบจ้าวหรูต้องซื้อคนไปเพื่อสอบถามสถานการณ์บ้านของฟางโจวแน่เลย
ตอบลบขอบคุณค่ะ ติดตามตลอดค่ะ
ตอบลบจ้าวหรูนี่ศัตรูหมายเลขหนึ่งของฟางโจวเลย
ตอบลบขอบคุณค่ะ ตั้งท่าเกลียดนางร้ายนายหญิงจ้าวแล้วนางดูเป็นคนไม่ซื่อเลยนะรอติดตามต่อไปค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบฟางโจวเยี่ยมไปเลย! ขอบคุณผู้แปลค่ะแปลดีขึ้นทุกตอนเลยเก่งมากค่ะ
ตอบลบนนายหญิงจ้าวหรู ต้องเป็นตัวปัญหาถัดไปแน่
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบเรื่องสุดแซ่บ
ตอบลบจ้าวหรูท่าทางจะศัตรูตัวเบ้งเลย
ตอบลบขอบคุณค่ะ
จ้าวหรูเอาไปถามแน่ๆ
ตอบลบ